ใบหน้าของหานเซิ่นซีดไป จู่ๆเขาก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา เขารีบถอยกลับไปหากิเลนโลหิต
หลันไห่ซินยังคงจ้องมองไปที่ขวดไซเรนโดยไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อไซเรนคนอื่นเห็นว่าขวดไซเรนเริ่มทำงานขึ้นมา พวกเขาก็คุกเข่าและเริ่มโค้งคำนับต่อมัน พวกเขาพึมพำคำที่หานเซิ่นไม่เข้าใจความหมาย หานเซิ่นเลยสันนิษฐานว่ามันเป็นภาษาของเผ่าไซเรน
ตูม!
แสงสีรุ้งของขวดไซเรนระเบิดขึ้นราวกับภูเขาไฟ มันเหมือนกับเสาแห่งแสงที่สูงขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดของปราสาทคริสตัล
หลังจากที่สายรุ้งสัมผัสกับเพดานของปราสาทคริสตัล มันก็เริ่มแพร่กระจายออกและแทรกซึมไปทั่วทั้งปราสาท ทั้งปราสาทเริ่มที่จะสว่างไสวขึ้นมาราวกับแสงของรุ่งเช้า
โซ่สสารของแท่นบูชาเองก็ได้รับผลกระทบจากสายรุ้งและเริ่มส่องสว่างด้วยเช่นกัน
ในที่สุดหลันไห่ซินก็สังเกตได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ หลันไห่ซินถอยออกมาจากแท่นบูชาเพื่อถามหานเซิ่น “ไป๋อี้ นี่คืออะไรกัน?”
“เจ้าถามข้าเนี่ยนะ? ข้าจะไปรู้เรื่องนั้นได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าเจ้าสิ่งนี้มีปัญหาบางอย่าง แต่พวกเจ้าเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำเตือนของข้า”
หานเซิ่นอยากจะออกไปจากปราสาทคริสตัล แต่ประตูหลักถูกขวางเอาไว้ด้วยแสงสีรุ้ง หานเซิ่นพยายามจะฝ่าออกไป แต่เขาถูกผลักกระเด็นกลับมาด้วยพลังของสายรุ้ง
ถึงแม้แสงสีรุ้งนั้นจะปะทุขึ้นมาทุกหนทุกแห่ง มันก็ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่หานเซิ่นไม่สามารถออกไปได้ เขาติดอยู่ข้างในร่วมกับคนอื่น
“เจ้าและแม่ของเจ้าวางแผนการนี้เพื่อหลอกพวกเรา!” หญิงแก่เผ่าไซเรนตะโกนขึ้นมาและชี้ไปที่หานเซิ่น
หานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรอีกฝ่าย มันเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนปัญญาอ่อน ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพยายามอธิบายให้เธอเข้าใจ
เหล่าไซเรนไม่สามารถออกไปจากห้องโถงได้ หญิงแก่เผ่าไซเรนชี้ไปที่หานเซิ่นและพูด “จับตัวเขาเอาไว้! ข้าไม่เชื่อว่านางจะทอดทิ้งลูกชายตัวเอง”
หานเซิ่นจ้องมองไปที่หญิงแก่เผ่าไซเรนอยู่ครู่หนึ่ง
“นี่เจ้าปัญญาอ่อนหรือยังไงกัน?”
เหล่าไซเรนเข้ามาล้อมหานเซิ่นเอาไว้ หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
หญิงแก่เผ่าไซเรนที่เป็นระดับครึ่งเทพคือสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา คนอื่นๆเป็นเพียงแค่ระดับราชันเท่านั้น กิเลนโลหิตของหานเซิ่นมีพลังระดับครึ่งเทพ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงแก่เผ่าไซเรนถึงได้คิดว่าคำสั่งนั้นเป็นความคิดที่ดี
เหล่าไซเรนดูลังเล พวกเขาล้อมหานเซิ่นเอาไว้ แต่ไม่มีใครที่พยายามจะโจมตีหานเซิ่น
“จับตัวเขา! นั่นคือหนทางเดียวที่พวกเราจะรอดไปได้”
หญิงแก่เผ่าไซเรนร้องตะโกน เธอยกไม้เท้าปะการังขึ้นเพื่อรวบรวมพลังธาตุน้ำ มันกลายเป็นมังกรน้ำที่พุ่งออกไปหากิเลนโลหิต
ไซเรนคนอื่นเคลื่อนไหวเพื่อช่วยหญิงแก่เผ่าไซเรนอีกแรง พวกเขาต้องการจะร่วมมือกันจัดการหานเซิ่น
กิเลนโลหิตนั้นอารมณ์ร้อน มันพ่นลมปราณโลหิตออกมาเพื่อทำลายมังกรน้ำของหญิงแก่เผ่าไซเรน หลังจากนั้นมันก็เปิดใช้อาณาเขตโลหิตของมันและก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อโจมตีเหล่าไซเรนที่ล้อมพวกเขาเอาไว้
หานเซิ่นดึงลิลลี่ขึ้นมาบนหลังของกิเลนโลหิต หลังจากนั้นเขาก็ลูบหัวของกิเลนโลหิตพร้อมกับพูด “ไม่มีความจำเป็นต้องโจมตีคนอื่น นางคนเดียวเท่านั้นที่เป็นปัญหา”
เหล่าไซเรนรู้สึกแปลกใจ หานเซิ่นกำลังพูดถึงหญิงแก่เผ่าไซเรน
ไซเรนหญิงแกพูดขึ้นมา “แม้แต่ตอนนี้เจ้าก็ยังพยายามจะแยกพวกเราออกจากกันอย่างนั้นหรอ? เจ้ามันเป็นคนชั่ว พวกเราตาบอดที่บอกไม่ได้ว่าเจ้าชั่วร้ายถึงขนาดนี้ เจ้าบอกพวกเรามาซะดีๆว่าเจ้าและแม่ของเจ้าวางแผนอะไรเอาไว้กันแน่ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราโหดร้ายกับเจ้า”
หลังจากนั้นหญิงแก่เผ่าไซเรนก็ใช้ไม้เท้าของเธอต่อสู้กับกิเลนโลหิต
กิเลนโลหิตคำรามออกมาและวิ่งออกไปข้างหน้าเพื่อจู่โจมหญิงแก่เผ่าไซเรน หญิงแก่เผ่าไซเรนไม่สามารถต่อกรกับความดุร้ายของกิเลนโลหิตได้ อาณาเขตที่เธอสร้างขึ้นมานั้นไม่เพียงพอจะป้องกันอาณาเขตของกิเลนโลหิต เธอตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบในทันที
“พวกเจ้ามัวรออะไรกันอยู่? จัดการพวกเขาซะ! นี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเราจะรอด” หญิงแก่เผ่าไซเรนร้องตะโกน
เหล่าไซเรนระดับราชันออกมาข้างหน้าเพื่อต่อสู้ แต่ใบหน้าของหลันไห่ซินดูลังเล
“หลันไห่ซิน เจ้าลองคิดดูดีๆ ใครกันที่เป็นคนบอกให้เจ้าเปิดใช้โบราณวัตถุ? ใครกันที่เป็นคนพาเจ้ามาที่นี่? ใครกันที่เป็นคนบอกว่าขวดๆนั้นคือโบราณวัตถุ? ใครกันที่เป็นคนเริ่มต้นการต่อสู้นี้?” หานเซิ่นตะโกนบอกหลันไห่ซิน
หานเซิ่นจับหัวของกิเลนโลหิตเอาไว้ เขาไม่คิดจะปล่อยให้กิเลนโลหิตโจมตีคนอื่นนอกจากหญิงแก่เผ่าไซเรน
หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะทำตัวเป็นคนดีโดยการไว้ชีวิตพวกเขา แต่เขามั่นใจว่าหญิงแก่เผ่าไซเรนต้องการให้เขาฆ่าไซเรนทุกคนที่อยู่ที่นี่
แผนการของเธอดูโจ่งแจ้งเกินไป หญิงแก่เผ่าไซเรนรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับหานเซิ่นและกิเลนโลหิตได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงยืนกราน หานเซิ่นไม่เชื่อว่าผู้หญิงระดับครึ่งเทพคนนี้จะรอดจากการล่มสลายของเผ่าพันธุ์มาได้ทั้งๆที่โง่ถึงขนาดนี้ นอกซะจากนั่นจะเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
ถ้าหญิงแก่เผ่าไซเรนต้องการจะฆ่าหานเซิ่นจริงๆ เธอก็ควรจะโจมตีไปที่หานเซิ่น แต่การโจมตีของเธอกลับเล็งไปที่กิเลนโลหิต ซึ่งนั้นเป็นการยั่วความกระหายเลือดของกิเลนโลหิต
ทั้งเอ็กซ์ตรีมคิงต่างก็รู้ว่ากิเลนโลหิตเป็นอสูรที่โหดร้ายและอารมณ์ร้อนมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะไม่ฆ่าคนอื่นภายในสวนกษัตริย์
ไม่ว่าจะดูยังไงพฤติกรรมของหญิงแก่เผ่าไซเรนก็ดูไม่ปกติ ถึงแม้เธอจะโน้มน้าวให้ไซเรนทุกคนร่วมมือกันต่อสู้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นและกิเลนโลหิตได้อยู่ดี อย่างดีที่สุดพวกเขาก็ทำได้แค่เสมอกัน ซึ่งนั่นไม่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีสำหรับเหล่าไซเรน
หานเซิ่นไม่อยากจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อฆ่าเหล่าไซเรน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจับหัวของกิเลนโลหิตเอาไว้
แต่กิเลนโลหิตเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้าย หานเซิ่นไม่สามารถควบคุมมันได้ กิเลนโลหิตถูกยั่วโมโหซ้ำๆโดยหญิงแก่เผ่าไซเรน และเพราะแบบนั้นกิเลนโลหิตจึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของมันได้อีกต่อไป
“อ้า!” กิเลนโลหิตโจมตีถูกหญิงแก่เผ่าไซเรน ร่างกายของเธอกระเด็นออกไปและชนเข้ากับหนึ่งในกำแพงคริสตัลของปราสาท เธอกระอักเลือดออกมา
“องค์หญิง ท่านไม่เข้าใจอย่างนั้นหรอ? ถ้าพวกเราไม่ฆ่าเขา ไซเรนทุกคนจะต้องตายอยู่ที่นี่ ไป๋อี้และแม่ของเขาต้องการทำให้เผ่าของพวกเราล่มสลาย”
ร่างของหญิงแก่เผ่าไซเรนปกคลุมไปด้วยเลือด ผมของเธอยุ่งเหยิงและมันก็ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังจะร้องไห้ออกมา
แต่กิเลนโลหิตไม่แสดงความลังเล มันคำรามออกมาและพุ่งเข้าหาหญิงแก่เผ่าไซเรน หานเซิ่นไม่สามารถหยุดมันได้
“หยุดเขาเอาไว้!” หลันไห่ซินตะโกน เหล่าไซเรนระดับราชันเคลื่อนที่เข้าไปเพื่อต่อสู้กับหานเซิ่นและกิเลนโลหิตด้วยเช่นกัน พวกเขาต้องการจะหยุดกิเลนโลหิตเอาไว้