เตาหลอมกลายเป็นอะไรที่กึ่งโปร่งแสงภายใต้ความร้อนของเปลวไฟ เหรียญพุ่งไปถูกด้านข้างของเตาหลอมอย่างรุนแรง และทำให้ผิวของมันเริ่มจะบุบเข้าไปข้างใน รูเล็กรูหนึ่งเกิดขึ้นบนผิวเตาหลอมและเหรียญก็หายเข้าไปในรูนั้น
มันเหมือนกับว่าเวลาหยุดนิ่งไป เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันไม่เห็นเหรียญทะลุออกมาอีกด้านหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงสันนิษฐานไปว่าเหรียญยังคงติดอยู่ที่ตัวเตาหลอม พวกเขาไม่ได้คิดว่าเหรียญจะมีพลังมากพอที่จะเจาะทะลุผิวของเตาหลอมได้
แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ตัวแข็งทื่อไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ทั้งร่างของเตาหลอมนั้นยุบเข้าไปข้างใน เตาหลอมทองแดงที่มีขนาดใหญ่ยักษ์กลายเป็นก้อนโลหะเล็กลง
และกระบวนการบี้ให้เล็กลงก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุด มันเหมือนกับกระป๋องโซดาที่ถูกบดขยี้ด้วยเท้าของใครบางคน พลังภายในเตาหลอมยังคงทำให้โครงสร้างของมันยุบเล็กลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเตาหลอมก็เล็กจนเป็นเหมือนกับจุดแสงในอวกาศ หลังจากนั้นมันก็ระเบิดเหมือนกับซูเปอร์โนวา
คลื่นกระแทกของแรงระเบิดถูกส่งออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา และดราก้อนวันกับเดียร็อบเบอร์ก็ถูกส่งกระเด็นออกไปด้วยพลังระเบิดที่น่ากลัวนั้น
เมื่อดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ทรงตัวได้แล้ว พวกเขาก็มองไปรอบๆและเห็นว่าเจ้าเตาหลอมทองแดงถูกทำลายจนไม่เหลือซาก ดาบทุกเล่มเริ่มจะแตกร้าว เนื่องจากสิ่งที่เป็นแหล่งพลังของพวกมันถูกทำลายไป พวกมันเริ่มระเบิดตามๆกันเป็นลูกโซ่ มันเหมือนกับการมองดูงานดอกไม้ไฟอวกาศครั้งใหญ่
หานเซิ่นยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์หันมามองหน้ากัน นี่ไม่ใช่แค่การแสดงพลังป้องกันที่สูงเพียงเท่านั้น ดอลลาร์เพิ่งจะทำลายสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าจนไม่เหลือซาก นั่นเป็นการโจมตีที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพชั้นสูงก็ไม่สามารถทนต่อกองทัพดาบอย่างที่ดอลลาร์ทำได้
“น่ากลัวจริงๆ!” ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์คิดเหมือนๆกัน
“ซีโน่เจเนอิคคอร์เตาหลอมระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูร”
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ มันไม่มีเสียงประกาศดังขึ้นมาว่ายีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจถึงส่วนที่น่ากลัวที่สุดของพลังเหรียญ มันทำลายแม้กระทั่งยีนซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในเตาหลอมตัวนั้น
การโจมตีนั้นเป็นพลังของเตาหลอมเอง พลังของกองทัพดาบนั้นเป็นอะไรที่ทรงพลังเกินกว่าที่ตัวเตาหลอมเองจะทนรับได้ พลังจากดาบทุกเล่มมารวมกันอยู่ที่เหรียญ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หานเซิ่นสามารถเอาชนะเตาหลอมตัวนั้นได้
ในจังหวะที่หานเซิ่นกำลังจะดูข้อมูลวิญญาณอสูรที่เพิ่งจะได้มา เขาก็สังเกตเห็นว่าบางสิ่งกำลังหนีไป เมื่อเขาสังเกตดูดีๆ เขาก็เห็นว่าเจ้าเตาหลอมทองแดงตัวน้อยกำลังบินหนีไป
หานเซิ่นหยุดใช้อาณาเขตภูเขาและรีบบินตามมันไป
โชคดีที่เตาหลอมไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่รวดเร็วอะไร ดังนั้นหานเซิ่นจึงไล่ตามมันทันในเวลาอันสั้น เขานำปืนคอร์แมลงปีศาจออกมาเพื่อจะฆ่ามัน
เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าเตาหลอมก็หยุดหนี มันหันกลับมาและเริ่มปลดปล่อยเปลวไฟออกมา
หานเซิ่นคิดว่ามันเตรียมตัวจะต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงเล็งปืนคอร์แมลงปีศาจไปที่มัน แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเจ้าเตาหลอมไม่ได้ปลดปล่อยไฟมาที่เขา แต่ไฟนั้นบิดเบี้ยวในอากาศและก่อตัวเป็นคำพูดแทน
“ท่านราชาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาลดปืนลง
เมื่อเจ้าเตาหลอมสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นไม่โจมตี มันก็รีบพ่นไฟออกมาอีกครั้ง “ข้าน้อยยินดีที่จะเป็นทาสของท่าน”
‘ว้าว! เจ้านี่ฉลาดไม่เบาเลย’ หานเซิ่นคิดด้วยความแปลกใจ ซีโน่เจเนอิคที่เขาเห็นภายในคอร์แอเรียจนถึงตอนนี้ไม่ค่อยมีสติปัญญาเท่าไรนัก แม้แต่แมลงประหลาดที่เป็นระดับเทพเจ้าก็ไม่ค่อยฉลาดเหมือนกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั่วๆไป
แต่สติปัญญาของเตาหลอมตัวนี้เทียบได้กับสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
“เจ้าจะทำอะไรให้ข้าได้?” หานเซิ่นถามเจ้าเตาหลอม
หานเซิ่นไม่คิดว่าจะพาคอร์ซีโน่เจเนอิคกลับไปในจักรวาลจีโนได้ ถึงแม้เขาจะยอบรับการสวามิภักดิ์ของมัน แต่มันก็ต้องอยู่ภายในคอร์แอเรียอยู่ดี
เจ้าเตาหลอมเข้าใจที่หานเซิ่นพูด มันก็รีบพ่นไฟสีเขียวออกมาเพิ่ม
“ข้าน้อยจะนำทางให้กับท่านราชา ข้าน้อยคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี”
หานเซิ่นหัวเราะออกมา เขาคิดว่าเจ้าเตาหลอมตัวเล็กนี้ฉลาดมากๆ
“เจ้าไม่โกรธที่ข้าฆ่าพวกพ้องของเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่เจ้าเตาหลอมขนาดเล็ก เตาหลอมขนาดใหญ่ที่เขาเพิ่งจะฆ่าไปนั้นดูเหมือนจะเป็นพ่อแม่ของเตาหลอมตัวนี้
เจ้าเตาหลอมตัวเล็กพ่นไฟออกมาเพิ่ม “พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรกัน”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อ รีบนำทางไปเร็วเข้า ถ้าเจ้าพยายามจะเล่นตุกติกอะไรล่ะก็ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”
หานเซิ่นคิดว่าเจ้าเตาหลอมตัวเล็กนี้ตลกดี เขารู้สึกชอบมัน ในตอนนี้เขาคิดจะเก็บมันเอาไว้และดูสิว่ามันจะบอกทางกับเขาดีหรือเปล่า
ถ้ามันรับใช้เขาเป็นอย่างดีจริงๆ การมีพวกพ้องที่รู้จักเกี่ยวกับคอร์แอเรียเป็นอย่างดีถือเป็นอะไรที่มีประโยชน์ มันจะช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตแดนของซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่งได้
“ท่านราชาอย่าได้กังวล ข้าน้อยจะนำทางอย่างดี ข้าน้อยจะใช้ชีวิตเพื่อท่านราชา และข้าน้อยจะตายเพื่อท่านราชา” เจ้าเตาหลอมพ่นไฟออกมา
“นำข้าไปล่าซีโน่เจเนอิค เอาซีโน่เจเนอิคที่ข้าจะฆ่าได้อย่างไม่เป็นอันตราย” หานเซิ่นออกคำสั่ง
“เชิญท่านราชาทางนี้” เตาหลอมตัวเล็กเริ่มนำทางไป
หลังจากที่หานเซิ่นจากไปแล้ว เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันก็เผยตัวออกมา ที่พวกเขาไม่ได้ออกมาเพื่อทักทายหานเซิ่นก็เพราะหานเซิ่นน่ากลัวเกินไป พวกเขาจำเป็นต้องคิดหาหนทางที่จะโน้มน้าวให้หานเซิ่นมาร่วมมือกับพวกเขาซะก่อน
หานเซิ่นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าพวกเขาไม่คิดข้อเสนอดีๆ ดอลลาร์ก็ไม่มีทางสนใจข้อเสนอของพวกเขาแน่ แถมพวกเขาทั้งคู่ยังต้องแข่งขันกันเองอีก
ซึ่งก่อนที่พวกเขาจะเสนอรางวัลจำนวนมากให้กับหานเซิ่นได้นั้น พวกเขาก็จำเป็นต้องกลับไปปรึกษากับเผ่าพันธุ์ของตัวเองซะก่อน
“ดราก้อนวัน ข้ามีข้อเสนอบางอย่าง เจ้าสนใจจะฟังมันหน่อยไหม” เดียร็อบเบอร์มองไปที่ดราก้อนวัน
“เจ้าต้องการจะร่วมมือกันอย่างนั้นสินะ?” ดราก้อนวันถามขณะที่มองกลับไปที่เดียร็อบเบอร์
“เจ้าเองก็คิดเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?” เดียร็อบเบอร์ประหลาดใจ
ดราก้อนวันยิ้ม “ดูเหมือนว่าพวกเราจะเห็นตรงกัน พวกเราควรจะหาที่ดีๆเพื่อคุยรายละเอียดกัน”
“ข้าเองก็คิดเหมือนกันเลย” เดียร็อบเบอร์ยิ้ม
เจ้าเตาหลอมตัวเล็กนำทางหานเซิ่นไปข้างหน้า เขายังคงสงสัยในความภักดีของมัน แต่เจ้าเตาหลอมตัวเล็กนั้นไม่ได้เล่นตุกติกอะไร มันพาเขาไปในสถานที่ที่เป็นที่อยู่ของกลุ่มซีโน่เจเนอิคระดับราชันขนาดเล็ก พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่หานเซิ่นสามารถฆ่าได้อย่างง่ายดาย ด้วยการมีเจ้าเตาหลอมคอยนำทาง ทำให้หานเซิ่นเก็บสะสมคอร์ยีน 20 ยีนได้ในเวลาไม่กี่วัน