Super God Gene – ตอนที่ 2504

เหล่าอัศวินไอซ์บลูกัดฟันขณะที่มองดูหานเซิ่นผ่านกล้องวงจรปิดของพวกเขา

 

หานเซิ่นเป็นเหมือนกับหัวขโมยที่บุกเข้ามาในบ้านและอัดลูกชายของเจ้าของบ้านก่อนที่จะขโมยทรัพย์สินของพวกเขาไป และหลังจากที่ก่อคดีแล้ว แทนที่จะรีบหนีไป เขากลับมาในสวนหลังบ้านเพื่อดื่มน้ำชา นั่นจะไม่ทำให้พวกเขาโกรธได้ยังไง

 

ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือการปกป้องชีวิตของไป๋อู๋ฉาง พวกเขาทำได้แต่มองดูหานเซิ่นเดินอย่างสบายใจบนดวงดาวของพวกเขา

 

“นี่เขาพยายามจะทำอะไร?” ราชาอัศวินไอซ์บลูมองไปที่หานเซิ่นบนหน้าจอ เขาไม่สามารถบอกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเซิ่นได้

 

เมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ของหานเซิ่น พวกเขาทุกคนต่างก็คิดว่าหานเซิ่นควรจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุด เพราะไม่ว่าหานเซิ่นจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้ ถ้ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงมาถึง เขาก็จะตกอยู่ในอันตราย

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้รีบหนีไป การกระทำที่แปลกประหลาดของเขาทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกไม่มั่นใจ

 

เขาส่งวิดีโอของหานเซิ่นกลับไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงก็สับสนกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเซิ่น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมหานเซิ่นถึงเลือกอยู่ต่อบนดาวดวงนั้น มันเหมือนกับว่าหานเซิ่นกำลังรอให้พวกเขาไปจับตัว

 

“แผนการลับ มันต้องมีแผนการลับบางอย่าง…” ลุงหกพูด

 

พวกเขาเชื่อว่าหานเซิ่นมีแผนการบางอย่าง แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ พวกเขาพยายามคาดเดาถึงสิ่งที่หานเซิ่นพยายามจะทำ แต่มันมีความเป็นไปได้มากเกินไป

 

“ให้ลุงสี่และคนอื่นๆรีบไปที่ระบบจักรวาลเคออส มันไม่สำคัญว่าหานเซิ่นมีแผนการอะไร” ราชาไป๋พูดอย่างเยือกเย็น

 

บุตรชายคนโปรดของเขาถูกจับตัวไปโดยหานเซิ่น แต่เขาดูจะไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เขาปฏิบัติเหมือนปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ท่านพ่อ ได้โปรดให้ข้าพาคนไปที่ระบบจักรวาลเคออส พวกเราจำเป็นต้องจับตัวหานเซิ่นและช่วยไป๋อู๋ฉาง” องค์รัชทายาทก้มหัวและขอร้อง

 

เขาและไป๋อู๋ฉางมีแม่คนเดียวกัน ดังนั้นเขาใกล้ชิดกับไป๋อู๋ฉางมากกว่าราชวงศ์คนอื่นๆ แต่เขาไม่ได้ขออาสาไปช่วยไป๋อู๋ฉางเพราะความเกี่ยวข้องทางสายเลือด

 

เขารู้ว่าราชาไป๋รักไป๋อู๋ฉางมากที่สุด และไป๋อู๋ฉางก็ไม่ได้ต้องการขึ้นครองบัลลังก์ ด้วยการทำแบบนั้นเขาก็จะสามารถสร้างความประทับใจกับราชาไป๋ว่าเขารักน้องชายของตัวเองอย่างมาก และยังไงซะมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ไป

 

ราชาไป๋ยังคงตอบอย่างเยือกเย็น “การตกลงระหว่างพวกเรากับมีก้า ถึงจุดสำคัญแล้ว เจ้าจำเป็นต้องจัดการเรื่องนั้นต่อ อย่าได้กังวล ลุงสี่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้และคุณหญิงมิร์เรอร์เองก็กำลังเดินทางไปเช่นกัน”

 

หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อขณะที่เดินไปบนดวงดาว ดาวดวงนี้ไม่ได้เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย นอกจากฐานทัพแล้ว สภาพแวดล้อมบนดาวดวงนี้ถือว่าแย่มากๆ มันมีซีโน่เจเนอิคไม่มากนักที่จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้

 

ที่แห่งนี้คล้ายคลึงกับพื้นผิวของดวงจันทร์ มันเต็มไปด้วยหลุมที่เกิดจากอุกกาบาต หลายหลุมมีขนาดใหญ่มหึมาพอๆกับสนามฟุตบอล

 

ดาวเคราะห์น้อยใกล้ๆกับดวงดาวถูกดึงลงไปโดยแรงโน้มถ่วงของดวงดาว นั่นเป็นเหตุผลที่มันมักจะมีอุกกาบาตตกลงมาใส่ผิวของดวงดาวอยู่เสมอๆ

 

แต่ตอนนี้เมื่อหน่วยอัศวินไอซ์บลูเข้ายึดครองดวงดาว อุกกาบาตที่ตกลงมาก็จะถูกทำลายก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายอะไรได้ หลุมรอบๆตัวหานเซิ่นจึงเกิดขึ้นมาก่อนที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูจะเข้ายึดครองที่นี่

 

เป่าเอ๋อนำทางหานเซิ่นไปอย่างลับๆ ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็มาถึงหนึ่งในหลุมที่มีขนาดเล็ก หานเซิ่นมองลงไปในหลุมและเห็นว่ามันมีก้อนหินที่แตกอยู่ใจกลางหลุม

 

ก้อนหินที่แตกนั้นเรืองแสงเล็กน้อยคล้ายคลึงกับโลหะ มันไม่ได้มีสีม่วงอย่างที่หานเซิ่นคาดหวังเอาไว้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

แต่ถ้าเป่าเอ๋อบอกว่ามีสมบัติอยู่ที่นี่ มันก็ต้องมีบางสิ่งที่มีค่าอยู่จริงๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาหน่อย

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูและอัศวินคนอื่นมองดูภาพวิดีโออย่างสับสน ขณะที่เห็นหานเซิ่นเดินไปอยู่ข้างก้อนหินก้อนหนึ่ง พวกเขาไม่แน่ใจว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่

 

ขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ หานเซิ่นก็ขยับก้อนหินหลายก้อนออกไป บนกล้องวงจรปิดพวกเขาเห็นว่ามันมีเห็ดสีม่วงมากมายอยู่ใต้ก้อนหิน

 

ทุกคนรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนั้น ดวงดาวนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ พืชเองก็ไม่เว้น แม้แต่ซีโน่เจเนอิคก็ยังยากที่จะอยู่บนดวงดาวแบบนี้ได้

 

แต่ตอนนี้พวกเขากำลังมองไปที่เห็ดสีม่วงขนาดเท่ากำปั้นหลายดอก มันเป็นภาพที่หาได้ยาก เมื่อหานเซิ่นได้เห็นเห็ดเหล่านั้น เขาก็ดูดีใจมากๆ

 

ในขณะที่เหล่าอัศวินมองดูภาพวิดีที่เห็นเห็ดสีม่วงเท่านั้น หานเซิ่นที่อยู่ที่นั่นสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของพวกมัน เขาสามารถบอกได้ว่าเห็ดสีม่วงพวกนี้มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเทียบได้กับซีโน่เจเนอิคระดับราชัน

 

“พืชซีโน่เจเนอิค?” หานเซิ่นมองไปที่เห็ดสีม่วง เขานับพวกมันได้ราวๆ 70 ดอกด้วยกัน บางดอกมีขนาดใหญ่ ขณะที่บางดอกมีขนาดเล็ก แต่พวกมันมีพลังชีวิตระดับราชันเหมือนกันหมด

 

“เห็ดพวกนี้ พวกมันไม่ได้เป็นหมายเลขที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงหรอกใช่ไหม? ไม่สิ เมื่อดูจากหมายเลขพวกนั้น พวกมันควรจะเป็นโค้ดของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง เห็ดพวกนี้ไม่มีทางเป็นสิ่งมีชีวิตที่โค้ดพวกนั้นบ่งชี้ไปได้ เห็ดพวกนี้ควรจะเป็นสิ่งที่ติดเชื้อโดยหมายเลขพวกนี้ แบบนั้นแล้วนี่คืออะไรกัน?” หานเซิ่นสังเกตเห็นว่านอกจากเห็ดสีม่วงแล้ว มันไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่รอบๆ

 

“พวกมันอยู่ที่นี่เสมอ… พวกมันอยู่ที่ไหนกัน?” หานเซิ่นพยายามนึกถึงเนื้อหาในไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ แต่ไดอารี่นั้นไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันแน่

 

เป่าเอ๋อมองไปที่เห็ดและพูด “พ่อ หนูกินมันได้ไหม?”

 

“หนูกินมันได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นยื่นมือออกไปและพยายามหยิบเห็ดดอกหนึ่งขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะสัมผัสกับเห็ด มันก็ขยับ หมวกของเห็ดที่เหมือนกับร่มขยายใหญ่ขึ้นก่อนที่จะหดเล็กลงเพื่อปล่อยหมอกควันสีม่วงออกมา

 

หานเซิ่นรีบป้องกันเป่าเอ๋อและตัวเองด้วยแสงแห่งเทพของกายหยก เขาสร้างกำแพงน้ำแข็งที่ปกป้องเขาจากหมอกควันสีม่วงที่ถูกปลดปล่อยออกมา

 

หมอกควันสีม่วงสัมผัสกับกำแพงน้ำแข็งและเริ่มกัดกร่อนมัน มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วถึงขนาดที่กำแพงน้ำแข็งละลายในทันทีที่สัมผัสกับหมอกควันสีม่วงนั้น

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว “เป็นพลังพิษที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้”

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูและลุงหกของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มองดูวิดีโออยู่รู้สึกแปลกใจ พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเห็ดในวิดีโอคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นควันพิษของเห็ดนั่น พวกเขาก็รู้ในทันทีว่ามันต้องเป็นพืชซีโน่เจเนอิคระดับราชัน เห็ดนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงจะไม่สามารถกัดกร่อนน้ำแข็งของหานเซิ่นได้

 

“เป่าเอ๋อ หนูต้องการจะกินเห็ดพวกนี้จริงๆอย่างนั้นหรอ? หนูต้องล้อเล่นแน่ๆ” หานเซิ่นมองไปที่เห็ดม่วงพิษขณะที่พูดขึ้นมา

 

“หนูไม่ได้พูดถึงเห็ด หนูกำลังพูดถึงนั่น” เป่าเอ๋อชี้ไปที่บางสิ่งที่อยู่ข้างๆเห็ดสีม่วง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset