เหล่าอัศวินไอซ์บลูกัดฟันขณะที่มองดูหานเซิ่นผ่านกล้องวงจรปิดของพวกเขา
หานเซิ่นเป็นเหมือนกับหัวขโมยที่บุกเข้ามาในบ้านและอัดลูกชายของเจ้าของบ้านก่อนที่จะขโมยทรัพย์สินของพวกเขาไป และหลังจากที่ก่อคดีแล้ว แทนที่จะรีบหนีไป เขากลับมาในสวนหลังบ้านเพื่อดื่มน้ำชา นั่นจะไม่ทำให้พวกเขาโกรธได้ยังไง
ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือการปกป้องชีวิตของไป๋อู๋ฉาง พวกเขาทำได้แต่มองดูหานเซิ่นเดินอย่างสบายใจบนดวงดาวของพวกเขา
“นี่เขาพยายามจะทำอะไร?” ราชาอัศวินไอซ์บลูมองไปที่หานเซิ่นบนหน้าจอ เขาไม่สามารถบอกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเซิ่นได้
เมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ของหานเซิ่น พวกเขาทุกคนต่างก็คิดว่าหานเซิ่นควรจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุด เพราะไม่ว่าหานเซิ่นจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้ ถ้ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงมาถึง เขาก็จะตกอยู่ในอันตราย
แต่หานเซิ่นไม่ได้รีบหนีไป การกระทำที่แปลกประหลาดของเขาทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกไม่มั่นใจ
เขาส่งวิดีโอของหานเซิ่นกลับไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงก็สับสนกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเซิ่น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมหานเซิ่นถึงเลือกอยู่ต่อบนดาวดวงนั้น มันเหมือนกับว่าหานเซิ่นกำลังรอให้พวกเขาไปจับตัว
“แผนการลับ มันต้องมีแผนการลับบางอย่าง…” ลุงหกพูด
พวกเขาเชื่อว่าหานเซิ่นมีแผนการบางอย่าง แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ พวกเขาพยายามคาดเดาถึงสิ่งที่หานเซิ่นพยายามจะทำ แต่มันมีความเป็นไปได้มากเกินไป
“ให้ลุงสี่และคนอื่นๆรีบไปที่ระบบจักรวาลเคออส มันไม่สำคัญว่าหานเซิ่นมีแผนการอะไร” ราชาไป๋พูดอย่างเยือกเย็น
บุตรชายคนโปรดของเขาถูกจับตัวไปโดยหานเซิ่น แต่เขาดูจะไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เขาปฏิบัติเหมือนปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ท่านพ่อ ได้โปรดให้ข้าพาคนไปที่ระบบจักรวาลเคออส พวกเราจำเป็นต้องจับตัวหานเซิ่นและช่วยไป๋อู๋ฉาง” องค์รัชทายาทก้มหัวและขอร้อง
เขาและไป๋อู๋ฉางมีแม่คนเดียวกัน ดังนั้นเขาใกล้ชิดกับไป๋อู๋ฉางมากกว่าราชวงศ์คนอื่นๆ แต่เขาไม่ได้ขออาสาไปช่วยไป๋อู๋ฉางเพราะความเกี่ยวข้องทางสายเลือด
เขารู้ว่าราชาไป๋รักไป๋อู๋ฉางมากที่สุด และไป๋อู๋ฉางก็ไม่ได้ต้องการขึ้นครองบัลลังก์ ด้วยการทำแบบนั้นเขาก็จะสามารถสร้างความประทับใจกับราชาไป๋ว่าเขารักน้องชายของตัวเองอย่างมาก และยังไงซะมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ไป
ราชาไป๋ยังคงตอบอย่างเยือกเย็น “การตกลงระหว่างพวกเรากับมีก้า ถึงจุดสำคัญแล้ว เจ้าจำเป็นต้องจัดการเรื่องนั้นต่อ อย่าได้กังวล ลุงสี่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้และคุณหญิงมิร์เรอร์เองก็กำลังเดินทางไปเช่นกัน”
…
หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อขณะที่เดินไปบนดวงดาว ดาวดวงนี้ไม่ได้เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย นอกจากฐานทัพแล้ว สภาพแวดล้อมบนดาวดวงนี้ถือว่าแย่มากๆ มันมีซีโน่เจเนอิคไม่มากนักที่จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้
ที่แห่งนี้คล้ายคลึงกับพื้นผิวของดวงจันทร์ มันเต็มไปด้วยหลุมที่เกิดจากอุกกาบาต หลายหลุมมีขนาดใหญ่มหึมาพอๆกับสนามฟุตบอล
ดาวเคราะห์น้อยใกล้ๆกับดวงดาวถูกดึงลงไปโดยแรงโน้มถ่วงของดวงดาว นั่นเป็นเหตุผลที่มันมักจะมีอุกกาบาตตกลงมาใส่ผิวของดวงดาวอยู่เสมอๆ
แต่ตอนนี้เมื่อหน่วยอัศวินไอซ์บลูเข้ายึดครองดวงดาว อุกกาบาตที่ตกลงมาก็จะถูกทำลายก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายอะไรได้ หลุมรอบๆตัวหานเซิ่นจึงเกิดขึ้นมาก่อนที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูจะเข้ายึดครองที่นี่
เป่าเอ๋อนำทางหานเซิ่นไปอย่างลับๆ ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็มาถึงหนึ่งในหลุมที่มีขนาดเล็ก หานเซิ่นมองลงไปในหลุมและเห็นว่ามันมีก้อนหินที่แตกอยู่ใจกลางหลุม
ก้อนหินที่แตกนั้นเรืองแสงเล็กน้อยคล้ายคลึงกับโลหะ มันไม่ได้มีสีม่วงอย่างที่หานเซิ่นคาดหวังเอาไว้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่ถ้าเป่าเอ๋อบอกว่ามีสมบัติอยู่ที่นี่ มันก็ต้องมีบางสิ่งที่มีค่าอยู่จริงๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาหน่อย
ราชาอัศวินไอซ์บลูและอัศวินคนอื่นมองดูภาพวิดีโออย่างสับสน ขณะที่เห็นหานเซิ่นเดินไปอยู่ข้างก้อนหินก้อนหนึ่ง พวกเขาไม่แน่ใจว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่
ขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ หานเซิ่นก็ขยับก้อนหินหลายก้อนออกไป บนกล้องวงจรปิดพวกเขาเห็นว่ามันมีเห็ดสีม่วงมากมายอยู่ใต้ก้อนหิน
ทุกคนรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนั้น ดวงดาวนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ พืชเองก็ไม่เว้น แม้แต่ซีโน่เจเนอิคก็ยังยากที่จะอยู่บนดวงดาวแบบนี้ได้
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังมองไปที่เห็ดสีม่วงขนาดเท่ากำปั้นหลายดอก มันเป็นภาพที่หาได้ยาก เมื่อหานเซิ่นได้เห็นเห็ดเหล่านั้น เขาก็ดูดีใจมากๆ
ในขณะที่เหล่าอัศวินมองดูภาพวิดีที่เห็นเห็ดสีม่วงเท่านั้น หานเซิ่นที่อยู่ที่นั่นสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของพวกมัน เขาสามารถบอกได้ว่าเห็ดสีม่วงพวกนี้มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเทียบได้กับซีโน่เจเนอิคระดับราชัน
“พืชซีโน่เจเนอิค?” หานเซิ่นมองไปที่เห็ดสีม่วง เขานับพวกมันได้ราวๆ 70 ดอกด้วยกัน บางดอกมีขนาดใหญ่ ขณะที่บางดอกมีขนาดเล็ก แต่พวกมันมีพลังชีวิตระดับราชันเหมือนกันหมด
“เห็ดพวกนี้ พวกมันไม่ได้เป็นหมายเลขที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงหรอกใช่ไหม? ไม่สิ เมื่อดูจากหมายเลขพวกนั้น พวกมันควรจะเป็นโค้ดของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง เห็ดพวกนี้ไม่มีทางเป็นสิ่งมีชีวิตที่โค้ดพวกนั้นบ่งชี้ไปได้ เห็ดพวกนี้ควรจะเป็นสิ่งที่ติดเชื้อโดยหมายเลขพวกนี้ แบบนั้นแล้วนี่คืออะไรกัน?” หานเซิ่นสังเกตเห็นว่านอกจากเห็ดสีม่วงแล้ว มันไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่รอบๆ
“พวกมันอยู่ที่นี่เสมอ… พวกมันอยู่ที่ไหนกัน?” หานเซิ่นพยายามนึกถึงเนื้อหาในไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ แต่ไดอารี่นั้นไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันแน่
เป่าเอ๋อมองไปที่เห็ดและพูด “พ่อ หนูกินมันได้ไหม?”
“หนูกินมันได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นยื่นมือออกไปและพยายามหยิบเห็ดดอกหนึ่งขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะสัมผัสกับเห็ด มันก็ขยับ หมวกของเห็ดที่เหมือนกับร่มขยายใหญ่ขึ้นก่อนที่จะหดเล็กลงเพื่อปล่อยหมอกควันสีม่วงออกมา
หานเซิ่นรีบป้องกันเป่าเอ๋อและตัวเองด้วยแสงแห่งเทพของกายหยก เขาสร้างกำแพงน้ำแข็งที่ปกป้องเขาจากหมอกควันสีม่วงที่ถูกปลดปล่อยออกมา
หมอกควันสีม่วงสัมผัสกับกำแพงน้ำแข็งและเริ่มกัดกร่อนมัน มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วถึงขนาดที่กำแพงน้ำแข็งละลายในทันทีที่สัมผัสกับหมอกควันสีม่วงนั้น
หานเซิ่นขมวดคิ้ว “เป็นพลังพิษที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้”
ราชาอัศวินไอซ์บลูและลุงหกของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มองดูวิดีโออยู่รู้สึกแปลกใจ พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเห็ดในวิดีโอคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นควันพิษของเห็ดนั่น พวกเขาก็รู้ในทันทีว่ามันต้องเป็นพืชซีโน่เจเนอิคระดับราชัน เห็ดนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงจะไม่สามารถกัดกร่อนน้ำแข็งของหานเซิ่นได้
“เป่าเอ๋อ หนูต้องการจะกินเห็ดพวกนี้จริงๆอย่างนั้นหรอ? หนูต้องล้อเล่นแน่ๆ” หานเซิ่นมองไปที่เห็ดม่วงพิษขณะที่พูดขึ้นมา
“หนูไม่ได้พูดถึงเห็ด หนูกำลังพูดถึงนั่น” เป่าเอ๋อชี้ไปที่บางสิ่งที่อยู่ข้างๆเห็ดสีม่วง