“นั่นหมายความว่าไป๋ว่านเจียมั่นใจว่าจะฆ่าซีสกายอายได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
หลี่เคอเอ๋อยิ้ม “นั่นเป็นเหตุผลบอกว่า ถ้าเจ้าคิดว่านี่เป็นปัญหาที่ยุ่งยากเกินไป เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยข้า ข้าต้องการยีนของซีสกายอาย แต่มันไม่ได้มากเหมือนอย่างที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการ”
“ข้าไม่รังเกียจที่จะลองดู แถมทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็อาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะโค่นล้มมันได้” หานเซิ่นพูด แต่ในใจของเขากำลังคิดเกี่ยวกับหนทางที่เขาจะได้รับยีนของซีสกายอายมาเป็นของตัวเอง
ในตอนที่เดียร็อบเบอร์กลับมา รอยัลไนท์ก็ยังคงหาตัวซีสกายอายไม่พบ
เห็นได้ชัดว่าเดียร็อบเบอร์สังเกตเห็นเหล่ารอยัลไนท์ระหว่างทางที่มาหาหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า “ทำไมเอ็กซ์ตรีมคิงถึงมาอยู่ที่นี่?”
ดราก้อนวันอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง หลังจากนั้นเดียร็อบเบอร์ก็พูดขึ้นว่า
“ถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงเชื่อว่าพวกเขาจะฆ่ามันได้ ข้าก็เกรงว่ามันจะไม่มีอะไรให้พวกเราทำในระบบจักรวาลนี้มากนัก ดอลลาร์ ข้าได้ไปพูดคุยกับคนอื่นมาแล้ว พวกเขาตกลงจะให้เจ้าเรียนรู้บิ๊กเดสทรอยเยอร์เป็นรางวัลสำหรับการช่วยพวกเราสังหารซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า แต่ข้าคงจะมอบส่วนหนึ่งของวิชาจีโนเป็นการจ่ายล่วงหน้าไม่ได้ พวกเราหวังว่าเจ้าจะช่วยพวกเราเอาชนะซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าซะก่อน และในกรณีที่เจ้าไม่เชื่อใจพวกเรา พวกเราจะให้บุคคลที่ 3 เป็นคนถือมันเอาไว้ เจ้าคิดว่าแบบนั้นเป็นยังไง?”
“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นก็ให้เผ่าดราก้อนวันเป็นคนถือวิชาจีโนเอาไว้” หานเซิ่นพูด
“ข้าเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดราก้อนวัน ข้าคงต้องให้เจ้าช่วยพวกเราในเรื่องนี้” เดียร็อบเบอร์หันไปมองดราก้อนวันขณะที่พูด
“ได้เลย” ดราก้อนวันตอบตกลง
“ข้านำวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ติดตัวมาด้วย พวกเราควรจะเซ็นสัญญากันเลยไหม?” เดียร็อบเบอร์ถามขณะที่นำกล่องๆหนึ่งออกมา
“ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อน ให้ข้าจัดการกับซีสกายอายนี่ก่อน และข้าจะเซ็นมัน” หานเซิ่นพูด
ผู้คนรอบๆแปลกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าหานเซิ่นจะยังมีเจตนาที่จะฆ่าซีสกายอาย หลังจากที่ได้รู้ถึงการแทรกแซงของเอ็กซ์ตรีมคิง
“ดอลลาร์ เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นแข็งแกร่งมากๆ แถมพวกเขาก็มั่นใจอย่างมากในงานนี้ พวกเขาคงจะต้องเตรียมการมาเป็นอย่างดี และพวกเขาก็คงจะมีไพ่ตายหลายอย่างซ่อนอยู่ มันไม่มีความจำเป็นที่เราต้องต่อสู้กับพวกเขาเพื่อแย่งมัน” ดราก้อนวันพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้หานเซิ่นล้มเลิกความคิด
“ข้าแค่จะอยู่ต่อเพื่อลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น ข้าไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกับไป๋ว่านเจีย”
หานเซิ่นหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดต่อ “ส่วนเรื่องการเซ็นสัญญา พวกเรารอไว้หลังจากที่เรื่องนี้จบลงแล้ว พวกเจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป ทำไมพวกเจ้าไม่ไปจากที่นี่ก่อน? เมื่อข้าเสร็จธุระที่นี่แล้ว ข้าจะไปหาพวกเจ้าทั้งคู่”
ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์มองหน้ากันอย่างหวั่นใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็พาคนของตัวเองจากไป
เผ่าดราก้อนมักจะเป็นพันธมิตรกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงในโอกาสต่างๆ และถึงแม้เผ่าเดสทรอยเยอร์จะไม่ลงรอยกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาก็ไม่ต้องการจะล่วงละเมิดเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นพวกเขาเองก็คิดเหมือนกันว่าควรจะรีบไปจากที่นี่ก่อนในตอนนี้
หลังจากที่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์จากไปแล้ว หานเซิ่นก็หันมาพูดกับหลี่เคอเอ๋อ
“เจ้าเองก็ควรไปเช่นกัน ถ้าข้าได้ยีนของซีสกายอายมาแล้ว ข้าจะนำมันไปส่งให้กับเจ้า”
หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “ถึงข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับเจ้า แต่ข้ามีกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอยู่ ข้าหนีไปได้ถ้าจำเป็น เจ้าแค่เป็นห่วงเรื่องของตัวเองก็พอ”
หานเซิ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเริ่มเร่ร่อนไปรอบๆระบบจักรวาลและสังหารซีโน่เจเนอิคที่พบเห็น มันเหมือนกับว่าเขาแค่ร่อนเร่ไปอย่างไร้จุดหมาย แต่เขาระมัดระวังไม่ให้ออกไปจากเขตแดนของระบบ
ถ้าผู้รุกล้ำเข้ามาเป็นใครคนอื่น ไป๋ว่านเจียก็จะสั่งให้คนของเขาไปไล่คนนั้นออกไป เขาจะไม่ปล่อยให้ใครคนไหนมาป้วนเปี้ยนในเขตแดนของเขาแบบนี้ แต่ความสามารถของหานเซิ่นที่แสดงต่อขุนพลเกราะทองนั้นเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป มันจึงทำให้คนอื่นไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งกับเขา
ถึงแม้รอยัลไนท์ของเอ็กซ์ตรีมคิงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหานเซิ่นในคอร์แอเรียได้ แทนที่จะพยายามขับไล่หานเซิ่นไป พวกเขาจึงแค่คอยจับตาดูหานเซิ่นเอาไว้เผื่อเขาคิดจะทำอะไรขึ้นมา
หานเซิ่นไม่รู้สึกละอายแม้แต่นิดเดียวกับแผนการที่จะขโมยซีสกายอายจากเอ็กซ์ตรีมคิง
เขาคิดว่าต้องรออีกนานกว่าที่ซีสกายอายจะถูกพบ แต่หลังจากที่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วัน เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นแรงแทกที่ซัดมาจากจุดๆหนึ่งในระบบจักรวาล ไป๋ว่านเจียคงจะต้องพบตัวซีสกายอายแล้ว และเขาก็คงจะกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้กับมัน
หานเซิ่นต้องการที่มุ่งหน้าไปที่นั่น แต่รอยัลไนท์ 2 คนเข้ามาขวางทางเขาเอาไว้
“เจ้ากำลังจะไปไหน?” รอยัลไนท์คนหนึ่งพูดขณะที่มองมาที่หานเซิ่น
“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยว่ากำลังจะไปไหน?” หานเซิ่นถาม
รอยัลไนท์ไม่ได้โกรธอะไร ใบหน้าของเขายังคงเยือกเย็นขณะที่พูดออกมา
“เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้าว่าเจ้ากำลังจะไปที่ไหน แต่ถ้าเจ้าเข้าไปในสนามต่อสู้ เจ้าก็จะกลายเป็นศัตรูกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ”
ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร รอยัลไนท์อีกคนก็พูดขึ้นมา
“องค์ชายของพวกเราพูดว่าถ้าเจ้ายอมอยู่เฉยๆ และไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ เขาจะถือว่าติดหนี้บุญคุณเจ้า และพวกเราก็จะซาบซึ่งอย่างมาก”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่บอกกับองค์ชายของพวกเจ้าด้วยว่าอย่าได้ผิดสัญญาของเขา” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและจากไป
รอยัลไนท์ทั้ง 2 แปลกใจ ในตอนที่พวกเขาถูกส่งมาประจำที่นี่ เขาได้รับคำสั่งให้หยุดดอลลาร์ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พวกเขาเตรียมตัวจะต่อสู้จนตัวตาย แต่ดอลลาร์กลับเป็นคนที่ว่าง่ายอย่างน่าประหลาดใจ เขาจากไปหลังจากที่พูดคุยกันไม่กี่คำ
แต่ถึงอย่างนั้นรอยัลไนท์ทั้ง 2 ก็ยังคงไม่วางใจ พวกเขาติดตามหานเซิ่นไป พวกเขาไม่ต้องการให้หานเซิ่นหนีจากสายตาของพวกเขาไปได้
“การยอมปล่อยไปถือเป็นความคิดที่ดี เพราะยังไงซะพวกเขาก็เป็นเอ็กซ์ตรีมคิง” หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจออกมา
หานเซิ่นหัวเราะและพูด “มิสหลี่ เจ้าเล่นหมากลุกไหม?”
“หมากรุก?” หลี่เคอเอ๋อแปลกใจ
“ใช่หมากรุก” หานเซิ่นพยักหน้า “เจ้าเล่นมันไหม?”
“ข้ารู้จักวิธีการเล่นหมากรุก แต่เจ้าถามข้าทำไม?” หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าหานเซิ่นต้องการอะไร
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่วยเล่นหมากรุกกับข้าสักตา”
หานเซิ่นชี้ไปยังดวงดาวที่อยู่ไกลออกไป “บนดาวดวงนั้นเป็นยังไง?”
หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าหานเซิ่นมีแผนการบางอย่าง แต่แทนที่จะถามแผนการของเขา เธอแค่พยักหน้า
เมื่อพวกเขาทั้ง 2 ไปถึงบนดวงดาว พวกเขาก็หาสถานที่ที่เงียบสงบสำหรับการเล่นหมากรุก เมื่อรอยัลไนท์ทั้ง 2 คนที่สะกดรอยตามมาเห็นว่าดอลลาร์กำลังเล่นหมากรุกกับผู้หญิงเผ่านภาอยู่ พวกเขาก็ประหลาดใจอย่างมาก
“นี่เขากำลังทำอะไร?” รอยัลไนท์คนหนึ่งพึมพำด้วยความสับสน
รอยัลไนท์อีกคนหัวเราะและพูด “จะอะไรซะอีกล่ะ? มันไม่สำคัญว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็เป็นแค่ระดับราชันคนหนึ่ง แถมเขายังมาจากเผ่าพันธุ์ที่ไร้ชื่อ เขาไม่กล้าจะเป็นศัตรูกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงของพวกเรา เขาตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว”
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น พวกเราจะได้ไม่ต้องต่อสู้กับเขา”
ในที่สุดรอยัลไนท์ทั้ง 2 ก็เริ่มจะรู้สึกผ่อนคลาย พวกเขาเคยเห็นหานเซิ่นต่อสู้กับขุนพลเกราะทองมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากจะต่อสู้กับหานเซิ่น
หลี่เคอเอ๋อที่กำลังเล่นหมากรุกกับหานเซิ่นอยู่คิดในใจว่าพวกเขาทั้งคู่เข้าใจเจตนาของหานเซิ่นผิดไปอย่างมหัน นั่นก็เพราะว่าเธอไม่ได้กำลังเล่นหมากรุกกับหานเซิ่นตัวจริง แต่เธอกำลังเล่นอยู่กับร่างโคลนของเขา ร่างจริงของหานเซิ่นจากไปเป็นเวลานานแล้ว ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะไม่รู้สึกถึงตอนที่เขาเทเลพอร์ตจากไปก็ตาม
“เขากล้ามากจริงๆ เขากล้าจะขโมยจากเอ็กซ์ตรีมคิง ไม่เพียงแค่นั้นเขายังกำลังจะขโมยบางสิ่งที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการเป็นอย่างมาก”
ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะกำลังเล่นหมากรุกอยู่ แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก ดวงตาของเธอแว็บขึ้นมาและทิวทัศน์ในดวงตาของเธอก็เป็นภาพของไป๋ว่านเจียที่กำลังต่อสู้กับซีสกายอาย