ซีสกายอายดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าแสงสีฟ้าของมันไม่สามารถฆ่าเหล่าอัศวินได้ แต่มันยังคงปลดปล่อยออกมาเรื่อยๆ มันอาบแสงสีฟ้าด้วยพลังที่มากยิ่งกว่าเดิม เมื่อโซ่สสารที่ออกมาจากซีสกายอายดูเหมือนจะถึงขีดสุด จู่ๆร่างกายของซีสกายอายก็ดูเข้มขึ้นมา วังวนสีฟ้าขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นรอบตัวของมันและเริ่มจะดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป
เหล่าอัศวินปลดปล่อยพลังของพวกเขาไปใส่วังวนสีฟ้าเพื่อพยายามจะหยุกการดูดของมัน แต่ความพยายามของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์ แม้แต่อัศวินระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถต้านแรงดูดของวังวนได้ ภายใต้แรงดูดที่น่ากลัวนั้นพวกเขาเริ่มถูกดึงไปข้างหน้า
ขณะที่เหล่าอัศวินกำลังถูกดูดเข้าไปหาวังวนสีฟ้า ทันใดนั้นไป๋ว่านเจียก็ตะโกนขึ้นมา “ไนท์แมร์ ตอนนี้แหละ!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของไป๋ว่านเจีย อัศวินไนท์แมร์ก็นำเอาสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา หานเซิ่นปรับลำกล้องเพื่อที่จะมองมันชัดๆและเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในมืออัศวินคนนั้นดูเหมือนกับรูปปั้นเก่าๆ
รูปปั้นนั้นดูคุ้นเคยสำหรับหานเซิ่น หลังจากผ่านไปหนึ่งวินาที เขาก็นึกออกว่ามันคืออะไร
“รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต?” หานเซิ่นตกใจ
รูปปั้นระเบิดด้วยแสงสว่าง หลังจากที่อัศวินคนนั้นนำมันออกมา แสงนั่นสร้างเงาปริศนาเพื่อเป็นโล่ให้กับอัศวินไนท์แมร์และยังเสริมพลังให้กับเขาชั่วคราว โซ่สสารสีฟ้าปรากฏออกมารอบร่างกายของอัศวินไนท์แมร์
รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตนี้ต่างไปจากรูปนี้ที่หานเซิ่นเคยเห็น รูปปั้นนี้มอบพลังโลหะให้กับผู้ใช้
อัศวินไนท์แมร์ไม่มัวลังเล เมื่อเขาได้รับพลังโลหะจากรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต เขาก็นำหอกโลหะเล่มหนึ่งออกมา หานเซิ่นเห็นว่าหอกเล่มนั้นประดับด้วยสัญลักษณ์ประหลาด ขณะที่พลังโลหะไหลเข้าไปในตัวอัศวินไนท์แมร์ สัญลักษณ์บนหอกก็สว่างไสวขึ้นมา โซ่สสารโลหะหมุนวนรอบหอกและเปลี่ยนหอกเป็นเสาโลหะลึกลับ
อัศวินไนท์แมร์คำรามและแทงเสาโลหะลึกลับเข้าใส่วังวนสีฟ้า
“รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตและสมบัติระดับเทพเจ้า? เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนี่ร่ำรวยจริงๆ!”
หานเซิ่นไม่กระพริบตา เขาจับจ้องไปที่ซีสกายอายและเสาโลหะลึกลับ เขาอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
เสาโลหะลึกลับนั่นดูเหมือนอาวุธของเทพยุคโบราณ เมื่อเสาโลหะสัมผัสกับวงวัน พลังดูดของวังวนก็ดูจะลดน้อยลงไป
เสาโลหะแทงลึกเข้าไปในวังวนมากขึ้นเรื่อยๆ และพลังสีฟ้าก็เริ่มจะเฉิดฉายอย่างแปลกประหลาด มันเหมือนกับมีพลังฝ่าลงมาใส่เสาโลหะเป็นชุด แต่การโจมตีของซีสกายอายไม่สามารถทำลายเสาโลหะได้ รอยร้าวเริ่มแพร่กระจายผ่านอวกาศรอบวังวนสีฟ้า และทุกครั้งที่เสาโลหะจมลงไปในวังวนอีกหนึ่งนิ้ว หนึ่งในโซ่สสารของซีสกายอายก็ขาด
ซีสกายอายดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่ามีบางสิ่งไม่ปกติ มันต้องการจะถอยออกไป แต่มันสายเกินไปแล้วที่จะทำแบบนั้น เสาหินโลหะยับยั้งแรงดูดของวังวนและล็อคซีโน่เจเนอิคเอาไว้กับที่ ซึ่งเสาโลหะก็แทงผ่านการป้องกันของซีสกายอายอย่างไม่ลดละ
หานเซิ่นคิดว่าซีสกายอายคงจะไม่รอด และเมื่อเวลามาถึงแล้ว เขาก็รีบเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมา ด้วยวิญญาณอสูรใหม่นี้เขาก็ตรงเข้าไปหาซีสกายอาย
หลังจากที่หานเซิ่นบินไปได้เพียงไม่นาน มันก็มีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง วังวนสีฟ้าที่หมุนเหมือนกับน้ำวนกลายเป็นน้ำแข็ง และมันก็แช่แข็งเสาโลหะเอาไว้ภายใน
จากระยะไกล มันดูเหมือนแท่งดินสอโลหะทียื่นออกมาจากลูกตาสีฟ้า มันเป็นภาพที่น่าขนลุก
“พวกเจ้าทั้งหมด! ปลดปล่อยพลังเพื่อดันเสาเข้าไปข้างใน พวกเราจำเป็นต้องใช้มันเพื่อปราบซีสกายอาย!” ไป๋ว่านเจียตะโกนออกคำสั่งใหม่
รอยัลไนท์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาทุกคนปลดปล่อยพลังไปที่ปลายของเสาโลหะเพื่อดันมันเข้าไป และด้วยแรงระเบิดของพลังใหม่นี้ พวกเขาก็ดันเสาโลหะลึกเข้าไปในลูกตาสีฟ้า
ขณะที่เสาโลหะถูกดันลึกเข้าไปเรื่อยๆ รอยร้าวก็ปรากฏขึ้นบนลูกตาสีฟ้าและเริ่มจะแพร่ขยายออกไป ซีสกายอายดูอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆและมันกำลังจะแตกสลาย
ดวงตาของไป๋ว่านเจียเป็นประกาย เมื่อเขาเห็นว่าซีสกายอายกำลังอ่อนแรง
พวกเขาต้องสังเวยสมบัติที่ล้ำค่าไปเพื่อชัยชนะในครั้งนี้ พวกเขาต้องใช้พลังของรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต เสาสกายก็อตและไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ฃถึงจะทำได้สำเร็จ เสาสกายก็อตและไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์นั้นสามารถนำมาใช้อีกครั้งได้ แต่รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อคเป็นสิ่งที่ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว
และเนื่องจากเขาใช้ไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ ทำให้พลังของร่างกายแห่งราชันของเขาถูกเผาผลาญไปจำนวนมาก เขาได้ใช้พลังของร่างกายแห่งราชันเพื่อเปิดใช้งานไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ และการใช้มันเป็นเวลานานก็เป็นอะไรที่ใช้พลังงานจำนวนมาก เขาจะต้องพักอีก 2 ปีก่อนที่จะฟื้นกำลังกลับมา
แต่ตราบใดที่เขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคของซีสกายอาย มันก็เป็นอะไรที่คุ้มค่า
ขณะที่ไป๋ว่านเจียกำลังตื่นเต้นกับความสำเร็จ แสงสีทองก็แว็บผ่านเขาไป และมีร่างกายสีทองปรากฏขึ้นด้านหลังของเสาสกายก็อต
“ขุนพลเกราะทอง! ทำไมขุนพลเกราะทองถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” สมองของไป๋ว่านเจียไม่สามารถประมวลผลถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
รอยัลไนท์ทั้งหมดตกตะลึงเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าทำไมขุนพลเกราะทองถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไง
การจะปิดชีวิตของซีสกายอายใช้พลังของพวกเขาจนหมด และตอนนี้ขุนพลเกราะทองก็ปรากฏตัวมาจากที่ไหนไม่รู้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ตูม!
ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองอะไรได้ ขุนพลเกราะทองก็ทุบใส่เสาสกายก็อตและดันมันลึกเข้าไปในซีสกายอายจนทะลุออกไปอีกด้าน
“คอร์ซีโน่จแนอิคซีสกายอายระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
เมื่อเสียงประกาศดังขึ้นในหัว หานเซิ่นก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับวิญญาณอสูร
แต่หานเซิ่นไม่หยุดมือ เขาขับขุนพลเกราะทองเข้าไปในรูขนาดใหญ่ที่เกิดจากเสาสกายก็อต ขณะที่เขาบินเข้าไป เขาก็เห็นลูกตาสีฟ้าที่มีขนาดพอๆกับกำปั้น เขาคว้ามันมาในมือขณะที่บินผ่านร่างของซีสกายอายไป
เมื่อขุนพลเกราะทองออกมาจากอีกด้านหนึ่งของซีสกายอาย ร่างของซีโน่เจเนอิคขนาดใหญ่ยักษ์ก็เริ่มจะแตกสลายกลายเป็นน้ำแข็งสีฟ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หานเซิ่นรีบคว้าเสาสกายก็อตที่พลังเริ่มจางหายไปและกลับสู่สภาพหอกดังเดิม หลังจากนั้นเขาก็รีบหนีไปจากที่นั่นด้วยความเร็วสูงสุด
ไป๋ว่านเจียและรอยัลไนท์ทั้งหมดได้แต่มองผ้าคลุมสีเลือดที่ปลิวไสวอยู่ด้านหลังขุนพลเกราะทอง ซึ่งกำลังบินหายไปจากสายตาของพวกเขา
“ขุนพลเกราะทองขโมยเสาสกายก็อตและคอร์ยีนของซีสกายอายไป”
เมื่อรู้สึกตัว ไป๋ว่านเจียก็รู้สึกโกรธจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา เขาต้องการจะไล่ตามขุนพลเกราะทองไป แต่มันสายเกินไปแล้ว ขุนพลเกราะทองกำลังจะลับสายตาของพวกเขาไป