Super God Gene – ตอนที่ 2618

ผู้นำปราสาทนภาพยักหน้าให้กับผู้อาวุโสสิบ “ถ้าข้าเข้าใจถูกต้อง มันก็เป็นอย่างที่เจ้ากำลังคิด ข้าไม่อยากเลยเชื่อเลยว่ามันจะอยู่ภายใต้ปราสาทนภามาโดยตลอด”

 

“นี่…มันเป็นไปได้ยังไง?” ยวิ๋นฉางคงเสียงสั่น ขณะที่จ้องไปที่กล่องหยกของหานเหยียน

 

กล่องหยกเปล่งประกายภายในแสง มันไม่ได้มีเครื่องประดับหรือการแกะสลักอยู่บนกล่อง มันเป็นกล่องธรรมดาที่ไม่มีเครื่องหมายหรือลวดลายอะไร ยอดฝีมือของปราสาทนภาจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร

 

“ผู้อาวุโสยวิ๋น เจ้าช่วยอธิบายได้ไหมว่าภายในกล่องหยกนั่นคืออะไร?” ผู้อาวุโสหกอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

 

ยวิ๋นฉางคงหันไปมองผู้นำปราสาทนภา หลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้า ยวิ๋นฉางคงก็พูดขึ้นมา “พวกเจ้าคงจะรู้เกี่ยวกับผู้นำที่สิบเอ็ดอย่างนั้นสินะ?”

 

“แน่นอนอยู่แล้ว ผู้นำสิบเอ็ดเป็นอัจฉริยะของปราสาทนภา ทุกคนรู้จักเขา เขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของปราสาทนภาที่เข้าไปในจีโนฮอลล์” ผู้อาวุโสหกกรอกตา แต่หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
“กล่องหยกนี้เกี่ยวข้องกับผู้นำสิบเอ็ดอย่างนั้นหรอ?”

 

ยวิ๋นฉางคงพยักหน้าและพูด “พวกเจ้าคงจะรู้เกี่ยวกับประกาศิตของผู้นำสิบเอ็ด ก่อนที่เขาจะเข้าไปในจีโนฮอลล์อย่างนั้นสินะ”

 

“ดาบจะถูกมอบให้กับคนที่โชคดีที่สุด!” ผู้อาวุโสหลายคนพูดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ทุกคนเบิกตากว้างและจ้องมองไปที่กล่องหยกในมือหานเหยียน

 

ยวิ๋นฉางคงพยักหน้า “วิชาดาบของผู้นำที่สิบเอ็ดนั้นดุร้าย เขาเป็นเหมือนกับเทพ เขาเป็นปรมาจารย์ดาบจากตระกูลนักดาบ พรสวรรค์ในวิชาดาบของเขาเหนือกว่าคนอื่น วิชาดาบของผู้นำสิบเอ็ดนั้นเป็นอะไรที่โดดเด่นตั้งแต่ยังหนุ่ม เขาเริ่มฝึกดาบตั้งแต่อายุสามขวบ และจิตแห่งดาบของเขาก็ไปถึงระดับเทพเจ้าก่อนอายุยี่สิบปี เขากลายเป็นผู้นำปราสาทนภาตั้งแต่ก่อนที่เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า ในตอนที่เผ่าพันธุ์ของพวกเราตกอยู่ในวิกฤต เขาทำลายคนทรยศและต่อสู้กับศัตรู เมื่อก่อนนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสระดับเทพเจ้าก็ยังต้องฟังคำของเขา พวกเรามีเสถียรภาพเป็นพันล้านปีก็เพราะเขา การพูดว่าช่วงเวลาของเขาเป็นยุคทองของปราสาทนภาก็ยังไม่เพียงพอ เขาคือคนที่ทิ้งรอยสลักเอาไว้ที่ข้างสระนภาที่อ่านได้ว่า ‘เอาท์เตอร์สกาย’ ”

 

“คนที่พิเศษทำสิ่งที่พิเศษ วิชาดาบของผู้นำสิบเอ็ดไม่ได้ถูกถ่ายทอดให้กับใครในปราสาทนภา เขาไม่ได้รับลูกศิษย์แม้แต่คนเดียว ก่อนที่เขาจะเข้าไปในจีโนฮอลล์ เขาพูดว่า‘ชะตากรรมจะค้นจักรวาลและดาบจะถูกมอบให้กับคนที่โชคดีที่สุด’ แต่ไม่มีใครรู้ว่าคนที่โชคดีที่สุดเป็นใคร จนกระทั่งถึงวันนี้มันก็ยังไม่มีใครพบวี่แววของวิชาดาบของผู้นำที่สิบเอ็ดเลย แต่ผู้คนรู้เสมอมาว่าเขาได้ทิ้งดาบเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง ผู้คนมากมายค้นหาดาบไปทั่วจักรวาล แต่ทุกคนก็ต้องกลับมามือเปล่า” ยวิ๋นฉางคงพูดขณะที่มองกล่องหยกในมือหานเหยียน

 

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่ากล่องหยกนี้มีวิชาดาบของผู้นำสิบเอ็ดอยู่?” ผู้อาวุโสหกถามด้วยความสับสน

 

ยวิ๋นฉางคงยิ้มแห้งๆออกมา “กล่องหยกนี้ทำขึ้นมาจากหยกเอาท์เตอร์เวิลด์ มันมีอยู่แค่ภายในปราสาทนภา มันเป็นอะไรที่หายาก ถึงแม้คนอื่นจะมีมันอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็เอามันมาทิ้งเอาไว้ภายในสระนภานี่ไม่ได้ นอกจากผู้นำของพวกเราแล้ว มันยังจะมีใครอีกที่ทำเรื่องนี้ได้?”

 

“ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของปราสาทนภา พวกเรามีผู้นำอยู่มากมาย เจ้ารู้ได้ยังไงว่ากล่องนี้เป็นของผู้นำที่สิบเอ็ด?” ผู้อาวุโสหกถาม

 

ยวิ๋นฉางคงชี้ไปที่ช้างขาวที่หลับอยู่ข้างสระน้ำ “เจ้าจำสัตว์ขี่ของผู้นำที่สิบเอ็ดไม่ได้หรือยังไง?”

 

“ข้าได้ยินมาว่ามันคือช้างฮิตติ้งสกาย… แต่ข้าคิดว่าช้างฮิตติ้งสกายนั้นได้หายตัวไปในตอนที่ผู้นำสิบเอ็ดเข้าไปในจีโนฮอลล์”
เมื่อเขารู้สึกตัวในสิ่งที่พูด ดวงตาของผู้อาวุโสหกก็เบิกกว้างขณะที่เขาจ้องมองไปที่กล่องในมือหานเหยียน เขาตะโกน “นี่คือวิชาดาบของผู้นำสิบเอ็ดจริงๆอย่างนั้นหรอ?”

 

“พวกเราควรจะเปิดมันดูเพื่อหาความจริง” ผู้นำปราสาทนภาพูด

 

“ให้ข้าดูมัน” ผู้อาวุโสหกพูดอย่างตื่นเต้น เขาเดินเข้าไปใกล้หานเหยียนและพยายามจะจับกล่องหยก

 

แต่ก่อนที่มือของเขาจะแตะกล่องหยกได้ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงจากด้านหลัง มันดึงเขากลับไปด้านหลัง

 

ปัง!

ผู้อาวุโสหกถูกดึงผ่านอากาศไปชนกับหินที่สลักคำว่าเอาท์เตอร์สกาย ใบหน้าของเขาเกือบจะถูกบดขยี้กับผิวที่แข็งของผนัง

 

ช้างขาวที่อยู่นอนอยู่ข้างๆสระขยับงวงเพียงแค่นิดเดียว มันยังคงนอนอยู่และไม่ได้ลืมตาขึ้นมาด้วยซ้ำ

 

เมื่อยวิ๋นฉางคงเห็นแบบนั้น เขาก็หัวเราะและพูดขึ้นมา
“ผู้อาวุโสหก เจ้าไม่ควรรีบร้อนแบบนั้น คิดเกี่ยวกับบุคลิกภาพของผู้นำสิบเอ็ดให้ดี เขาจะไม่ปล่อยให้ใครเปิดกล่องของเขาได้ตามใจชอบ”

 

ผู้อาวุโสหกค่อยๆลุกกลับขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่ช้างขาว แต่เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป

 

ถ้าช้างขาวนี้เป็นสัตว์ขี่ของผู้นำสิบเอ็ด มันก็ต้องแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าทั่วๆไป

 

“หานเหยียน เจ้าลองเปิดกล่องดู” ผู้นำปราสาทนภาพูดกับหานเหยียน

 

หานเหยียนหันมามองหานเซิ่น และหานเซิ่นก็พยักหน้าให้กับเธอ หานเหยียนรู้สึกว่าเธอค่อนข้างโชคดี นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากๆ บางทีผู้นำสิบเอ็ดอาจจะทิ้งสมบัติที่มีค่ามากๆเอาไว้ ถ้านั่นบางความจริง เธอก็อาจจะไม่ต้องลำบากลำบนมากเพื่อเพิ่มระดับขึ้น

 

กล่องหยกไม่ได้ล็อค ดังนั้นหานเหยียนจึงแค่ต้องเปิดฝาขึ้น หลังจากนั้นมันก็มีเงาบินออกมา มันเป็นรูปร่างของสุภาพบุรุษ

 

อายุของเขายากจะคาดเดา แต่รูปลักษณ์ของเขาดูค่อนข้างหนุ่ม แต่เขาให้ความรู้สึกเหมือนแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่เอาไว้

 

“ดูเหมือนพวกเจ้าจะไม่เคยคาดคิดว่าข้าจะทิ้งสิ่งนี้เอาไว้ใต้ก้นบึ้งของสระนภา แต่ไม่ต้องกังวล ยังไงซะพวกเจ้าก็เป็นลูกหลานของข้า ข้าไม่ได้คาดหวังว่าพวกเจ้าจะคาดเดาจิตใจของข้าได้ ในตอนนี้ใครก็ตามที่ปกครองปราสาทนภาอยู่จำเป็นต้องฟังคำของข้า คนที่โชคดีที่สุดหรือก็คือคนที่ช้างขาวเลือกเป็นคนที่ได้รับวิชาดาบของข้า มีเพียงแค่คนๆนั้นที่จะได้รับของที่อยู่ภายในกล่องใบนี้ ใครก็ตามที่ขัดต่อความประสงค์ของข้าจะประสบกับเคราะห์กรรม มันเป็นอะไรที่น่าตลก… ข้าเดิมพันว่าผู้คนมากมายคงจะมองหาสิ่งนี้ไปทั่วจักรวาล ข้าสงสัยจังว่าชาวนภาคนไหนกันที่เป็นผู้ที่โชคดี” หลังจากนั้นเงาก็หายไปและไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหน

 

ผู้นำปราสาทนภาและผู้อาวุโสคนอื่นมองหน้ากัน ตำนานบอกว่าผู้นำที่สิบเอ็ดเป็นคนที่ฉลาดและกล้าหาญ พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าผู้นำที่สิบเอ็ดจะมีนิสัยเหมือนกับเด็ก เขาดูจะชื่นชอบการเล่นพิเรนทร์

 

“ผู้นำที่สิบเอ็ดนี่พึ่งพาไม่ได้เลย ช้างขาวเลือกคนที่ไม่ใช่ชาวนภา นางเป็นแค่ศิษย์คนนอกคนหนึ่ง” ผู้นำปราสาทนภารู้สึกหดหู่จนไม่รู้จะพูดยังไงดี

 

จากคำพูดของผู้นำสิบเอ็ด วิชาดาบจะถูกมอบให้กับหานเหยียน วิชาที่ลับที่สุดของปราสาทนภากำลังจะตกเป็นของเธอ ถ้าพวกเขาไม่มอบมันให้กับเธอ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาทรยศต่อความประสงค์ของผู้นำสิบเอ็ด

 

และที่สำคัญที่สุดคือความจริงที่ว่าสัตว์ขี่ของผู้นำสิบเอ็ดยังคงอยู่ที่นี่ ช้างขาวจะเข้ามาแทรกแซง ถ้าพวกเขาพยายามจะเอามันไปจากหานเหยียน

 

ทั้งผู้นำปราสาทนภาและเหล่าผู้อาวุโสดูสับสน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset