ฮอไรซอนทอลอีวิลเงียบไป เขาเอื้อมไปจับเสาโลหะที่กำลังเจาะทะลวงอกของเขา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มดึงมันออกมาจากร่างกายอย่างช้าๆ เนื่องจากสิ่งที่ฮอไรซอนทอลอีวิลกำลังทำ เสาโลหะเริ่มจะเรืองแสงออกมา มันสั่นไหวในมือของเขาราวกับว่ามันพยายามจะเจาะทะลวงร่างกายของเขาต่อไป แต่ตอนนี้ฮอไรซอนทอลอีวิลจับเสาเอาไว้แน่น ไม่ว่าเสาโลหะจะพยายามมากแค่ไหน ฮอไรซอนทอลอีวิลก็ยังคงสามารถดึงมันออกมาได้ด้วยมือของเขา
ตูม!
ในตอนที่เสาโลหะออกมาจากอกของฮอไรซอนทอลอีวิล ในที่สุดหานเซิ่นก็เห็นว่าจริงๆแล้วเสาโลหะนั่นคือหอกขนาดยักษ์ หอกนั้นดิ้นไปมาราวกับงูในมือของฮอไรซอนทอลอีวิล ดูเหมือนกับว่ามันกำลังพยายามจะหนีไปจากกำมือของเขา แต่มือของฮอไรซอนทอลอีวิลจับมันเอาไว้แน่นและไม่ปล่อยให้หมัดหลุดมือไปได้
ฮอไรซอนทอลอีวิลลุกขึ้นมาจากภูเขา และทำให้หานเซิ่นคิดในใจว่า
‘ถ้านายมีพลังพอที่จะปล่อยตัวเองเป็นอิสระ แบบนั้นทำไมนายถึงยอมถูกกักขังอยู่ที่นี่มานานหลายปี และปล่อยให้เบรกสกายเหล่านั้นถูกบังคับให้พยายามจะช่วยนายอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย’
เมื่อฮอไรซอนทอลอีวิลดึงหอกออกมาได้แล้ว บาดแผลที่อกของเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานมันก็ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆบนอกของเขา
หลังจากที่ฮอไรซอนทอลอีวิลเป็นอิสระ ภูเขาก็เริ่มจะสั่นสะเทือน แม้แต่มหาสมุทรรอบตัวพวกเขาที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาเองก็เริ่มจะแปรปรวน มันเหมือนกับว่าโลกนี้กำลังจะล่มสลาย
ฮอไรซอนทอลอีวิลยืนอยู่บนทะเล เขาถือหอกอยู่ในมือและคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงของเขาทำให้ดินแดนแห่งนี้สั่นไหวยิ่งกว่าเดิม หานเซิ่นกำลังบินอยู่ แต่ความดังของเสียงทำให้เขาร่วงลงมาจากท้องฟ้า
“หยุดตะโกน!” หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในของเขากำลังจะถูกทำลายโดยเสียงตะโกนของฮอไรซอนทอลอีวิล อวัยวะภายในทั้งสิบเอ็ดของเขาเหมือนกำลังจะถูกฉีกขาด เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับพลังเสียง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล
เสียงของหานเซิ่นนั้นเหมือนกับมดตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับการคำรามที่ดังลั่นราวกับฟ้าร้อง ไม่ว่าเขาจะตะโกนมากสักแค่ไหน เขาก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง
ในจังหวะที่หานเซิ่นคิดว่าเขาจะต้องตายเพราะเสียงตะโกนนั่น ในที่สุดฮอไรซอนทอลอีวิลก็หยุดไป
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขากระอักเลือดสีคล้ำออกมา เขาเงยหน้ากลับขึ้นมาและเห็นฮอไรซอนทอลอีวิลกำลังมองมาที่เขา เขาคิดว่ายักษ์ตนนั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฮอไรซอนทอลอีวิลเพียงแค่ยกหอกขึ้นและเล็งมันไปที่อกของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็แทงหอกทะลุเข้าไปสู่หัวใจของตัวเอง
ใบมีดของหอกเจาะทะลวงผ่านหัวใจของฮอไรซอนทอลอีวิลอีกครั้ง แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนั้น หลังจากที่เขาดึงหอกกลับออกมา เขาก็ใช้มือล้วงเข้าไปในบาดแผลและดึงเอาบางสิ่งออกมา
“รับมันไป ตั้งแต่นี้ไปพระเจ้าทุกคนจะเป็นศัตรูกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะชอบมันหรือไม่ นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า และมันเป็นชะตากรรมที่เจ้าไม่อาจจะหนีไปได้” ฮอไรซอนทอลอีวิลแบมือและบางสิ่งที่ดูเหมือนกับอุกกาบาตก็ลอยออกไปหาหานเซิ่น
ในตอนที่หานเซิ่นเห็นความเร็วและความรุนแรงของสิ่งที่บินเข้ามา เขาก็สะดุ้ง เขารีบเคลื่อนที่เข้าไปเพื่อรับมันเอาไว้
แต่ในตอนที่มันลงมาอยู่ในมือของเขา มันก็สัมผัสกับผิวของเขาอย่างนุ่มนวลราวกับเป็นขนนก
หานเซิ่นเชื่อว่าฮอไรซอนทอลอีวิลเป็นคนที่ควบคุมการบินของสิ่งนั้น ดังนั้นเขาไม่ได้ประหลาดใจอะไร แต่ในตอนที่เขาแบมือออกและมองดูสิ่งที่ได้รับมา หานเซิ่นก็แทบจะหยุดหายใจ เขาจ้องมองไปที่มือตัวเองอย่างตกตะลึง
สิ่งที่หานเซิ่นกำลังถืออยู่คือคริสตัลสีดำลูกหนึ่ง เขาคุ้นเคยกับรูปร่าง ขนาดและน้ำหนักของมันดี บางทีมันอาจจะไม่มีใครที่จะคุ้นเคยกับมันมากไปกว่าเขา
คริสตัลสีดำนี้เหมือนกันกับคริสตัลสีดำที่หานเซิ่นได้รับมาจากด้วงทมิฬเมื่อนานมาแล้ว ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ดูดซับคริสตัลสีดำนั้นเข้าไปและได้รับชุดเกราะคริสตัลสีดำมา เขาก็คงจะคิดว่าพวกมันเป็นสิ่งเดียวกัน
“นี่มันอะไรกัน? สิ่งที่ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดถึงคือคริสตัลสีดำ คริสตัลสีดำอันนี้เหมือนกับอันที่เราพบในก็อตแซงชัวรี่อย่างนั้นหรอ? นี่หมายความว่ามันบรรจุชุดเกราะคริสตัลสีดำอยู่ภายในเช่นเดียวกันใช่ไหม?” จิตใจของหานเซิ่นตกอยู่ในความโกลาหล
“ตอนนี้เจ้าควรไปได้แล้ว หลังจากชีวิตนี้มันจะไม่มีฮอไรซอนทอลอีวิลอีก เผ่าเบรกสกายจะไม่มีอยู่อีกต่อไป”
ดวงตาของฮอไรซอนทอลอีวิลดูเหมือนกำลังลุกเป็นไฟ เขาหันไปมองดวงอาทิตย์นาฬิกาที่อยู่บนท้องฟ้า หานเซิ่นไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น ฮอไรซอนทอลอีวิลกระโดดขึ้นไปพร้อมกับฉีกมิติของอวกาศรอบๆ ขณะตรงเข้าไปหาดวงอาทิตย์
ตอนนี้ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนประหลาดนี้
เหล่าเบรกสกายขุดภูเขาตลอดชีวิตโดยหวังจะช่วยฮอไรซอนทอลอีวิล แต่ฮอไรซอนทอลอีวิลปล่อยให้ตัวเองถูกตรึงอยู่กับภูเขาก็เพราะพวกมัน เขาปล่อยให้ตัวเองถูกทรมาน เขามีพลังที่จะหนีไป แต่พวกยักษ์ที่อยู่ที่นี่จะต้องตาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฮอไรซอนทอลอีวิลถึงยอมถูกขังอยู่ที่นี่
ในตอนที่หานเซิ่นบินออกจากภูเขาและกลับมาสู่บริเวณที่รายล้อมไปด้วยปราสาท เขาก็พบว่าพวกมันไม่ได้ถูกค้ำจุนโดยน้ำทะเลอีกต่อไป พวกมันทั้งหมดค่อยๆถูกดึงลึกลงไปใต้ทะเล เนื้อหนังของเหล่ายักษ์ถูกลอกและเหลือไว้เพียงแค่โครงกระดูก
“เป็นคำสาปที่โหดร้ายอะไรขนาดนี้ ฮอไรซอนทอลอีวิลยอมถูกขังอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่พวกมันจะได้มีชีวิตต่อไป และถ้าเขาหนีไป พวกมันก็จะเหน่าเปื่อยจนเหลือแต่กระดูก ฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ต้องการจะเห็นเผ่าของเขาสูญพันธุ์ แต่ใครจะรู้ว่าเขาถูกทรมานอยู่บนภูเขานั่นมานานแค่ไหนแล้ว นี่คงจะต้องเป็นการทรมานที่โหดร้ายที่สุดที่เคยมีมา”
หานเซิ่นถอนหายใจ เขาไม่อยากเห็นกระดูกของพวกยักษ์อีกต่อไป เขารีบบินไปทางลูกบาศก์สี่แกะโดยเร็วที่สุด
ตูม!
ก่อนที่หานเซิ่นจะไปถึงลูกบาศก์สี่แกะ เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา แสงสว่างที่เจิดจ้าเข้าปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขา ภายใต้แสงสว่างไสวนั้น เขามองไม่เห็นแม้แต่เห็นนิ้วมือตัวเอง คลื่นกระแทกนั้นสั่นสะเทือนทั้งมิติ
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อมองขึ้นไป ดวงอาทิตย์นาฬิกากำลังแตกร้าว และฮอไรซอนทอลอีวิลก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้าขณะที่ถือหอกเอาไว้
คลื่นของเปลวไฟซัดเข้าใส่นาฬิกาที่แตกร้าวราวกับสึนามิ หานเซิ่นรู้ในทันทีว่าพลังที่เขากำลังได้เห็นนั้นเหนือกว่าที่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจะปลดปล่อยออกมาได้ หานเซิ่นไม่กล้าจะอยู่ต่อ เขารีบตรงเข้าไปหาลูกบาศก์สี่แกะในทันที
“หลังจากเฝ้าเรดดัสท์มาเป็นพันล้านปี หนึ่งหอกทลายท้องฟ้าเพื่อสังหารผีสางและพระเจ้า”
ฮอไรซอนทอลอีวิลตะโกน เสียงของเขาดังก้องไปทั่วดินแดน
หานเซิ่นไม่กล้าจะมัวชักช้า ถึงแม้เขาจะมีคำถามมากมายที่อยากจะถามฮอไรซอนทอลอีวิล แต่เขาก็ไม่มีโอกาสจะทำแบบนั้นแล้วในตอนนี้
หานเซิ่นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเหยียบไปบนหัวแกะทองแดง หลังจากนั้นเขาก็ถูกเทเลพอร์ตออกไปจากดินแดนลึกลับนั่นพร้อมกับลูกบาศก์สี่แกะ
หานเซิ่นอยากรู้ว่าที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับฮอไรซอนทอลอีวิล แต่เขาไม่สามารถกลับไปดูได้ เขาถือคริสตัลสีดำอยู่ในมือ ขณะที่หัวใจของเขารู้สึกแย่และเศร้าโศก
“คริสตัลสีดำนี้… มันเหมือนกับคริสตัลสีดำที่เราพบจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นลูบคริสตัลสีดำ ความรู้สึกมันเหมือนกันมากจริงๆ… มันไม่มีทางเป็นของปลอมไปได้