พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าอยากจะบ้าตาย เขาถูกหลอกโดยเป่าเอ๋อ ซึ่งทำให้เขาโกรธจัดจนแทบจะกระอักเลือดออกมา เขาอยากจะเข้าไปจับตัวเธอซะเดี๋ยวนี้ แต่หานเซิ่นเทเลพอร์ตมาอยู่ข้างเธอเรียบร้อยแล้ว
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่ได้หวาดกลัวหานเซิ่น แต่สถานการณ์ทั้งหมดนี้เป็นอะไรที่น่าอับอายเกินไป เขาพยายามจะหลอกเด็กคนหนึ่ง แต่เขาล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสูญเสียกระจกสตาร์เกจที่เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตไป
เขาเริ่มเดินไปหาพวกหานเซิ่น แต่เขารู้สึกตัวว่าไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ เขาไม่สามารถนำกระจกสตาร์เกจกลับคืนมา และหานเซิ่นก็อาจจะเย้นหยันเขาที่พยายามทำแบบนั้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ มันจะไม่จบแค่นี้!” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าคำรามกับตัวเองขณะที่จ้องไปที่สองพ่อลูก หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตจากไป
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินเป่าเอ๋อตะโกนเรียก เขาก็รู้สึกตกใจ สถานที่อย่างต้นไม้ดาราไม่ควรจะมีใครมาป้วนเปี้ยน ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงรีบเทเลพอร์ตไปหาเป่าเอ๋อ แต่เขาไม่ได้เห็นชายที่เธอพูดถึง และเขาก็สังเกตเห็นว่าเธอถือกระจกทองแดงอยู่
“พ่อ! ดูกระจกและอัญมณีนี่สิ ลุงใจดีมอบพวกมันให้กับหนู” เป่าเอ๋อยื่นกระจกสตาร์เกจและอัญมณีให้หานเซิ่นดู
“ลุงใจดี?” หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่สิ่งของทั้งสองชิ้น
“หนูเล่นอยู่บนต้นไม้ดาราก่อนหน้านี้…” เป่าเอ๋อรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมด
หลังจากที่ได้ยินเป่าเอ๋อพูด หานเซิ่นก็เกือบจะหัวเราะลั่น ชายคนที่เธอพบจะต้องเป็นพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า ตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าจะเล็งมาที่เอ็กซ์ควิสิทหรือหลี่เคอเอ๋อ แต่จริงๆแล้วเขากลับไปเลือกเป่าเอ๋อแทน
‘พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเอ๋ย นายโชคร้ายที่เลือกเป่าเอ๋อ ไม่เพียงแค่นายจะทำให้เธอทำการอธิษฐานไม่ได้ นายยังสูญเสียสมบัติขั้นทรูก็อตให้กับเธออีก’ หานเซิ่นส่ายหัวและรับกระจกสตาร์เกจจากมือของเป่าเอ๋อ
พระเจ้าเหล่านั้นอาจจะหลอกผู้คนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถพูดโกหกได้ ถ้าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าบอกว่ากระจกสตาร์เกจนี้เป็นสมบัติขั้นทรูก็อต มันก็ควรจะเป็นเรื่องจริง
หานเซิ่นนึกถึงโล่เมดูซ่าส์เกซที่เป็นอาวุธขั้นทรูก็อตเหมือนกัน กระจกนี้จะทำให้เขามองเห็นอนาคตและอดีต หานเซิ่นดีใจที่ได้รับอะไรแบบนี้มา
ชุดเกราะคริสตัลสีดำไม่ได้ปิดผนึกพลังในร่างกายของเขาอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าคงจะจากไปแล้ว ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อพยายามใช้กระจกสตาร์เกจ เขาอยากรู้ว่ามันจะดีเหมือนอย่างที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูดไว้หรือเปล่า
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเปิดใช้พลังของกระจกสตาร์เกจได้อย่างสมบูรณ์ แต่ศาสตร์ตงเสวียนก็ทำให้กระจกสตาร์เกจมีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะพลังของเขาอ่อนแอเกินไปหรือว่าเป็นเพราะตัวกระจกมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ แต่ยังไงก็ตาม ภาพอนาคตที่กระจกสตาร์เกจแสดงเป็นเพียงแค่ภาพเหตุการณ์สั้นๆ
หลังจากที่หานเซิ่นใช้กระจกสตาร์เกจเพื่อดูอนาคต เขาก็เห็นแค่ภาพๆหนึ่งแว็บขึ้นบนผิวของกระจก ภาพที่แว็บขึ้นมาแสดงภาพของหานเซิ่นกำลังนอนหลับอยู่แค่นั้น
และหลังจากที่หานเซิ่นใช้งานมัน เขาก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นพลังกว่าจะใช้งานมันได้อีกครั้ง
หานเซิ่นลองใช้มันอยู่หลายครั้ง แต่ภาพในอนาคตที่แสดงเป็นอะไรที่เสียเวลาและสิ้นเปลืองพลังงาน พวกมันเป็นแค่ภาพที่แว็บขึ้นมา ซึ่งหานเซิ่นไม่สามารถได้ข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์จากมัน
และพลังในการมองย้อนไปในอดีตก็เป็นอะไรที่ห่วยเช่นกัน การจะเปิดใช้งานความสามารถของกระจกสตาร์เกจเป็นอะไรที่กินพลังงานมากๆ และยิ่งอดีตที่เขาต้องการจะเห็นย้อนเวลากลับไปนานเท่าไหร่ พลังที่ต้องใช้มันก็จะมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ เขาสามารถมองย้อนไปในอดีตได้มากที่สุดแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น และกระจกก็แสดงภาพแค่บริเวณหนึ่งเมตรในจุดที่เขาอยู่เท่านั้น นั่นคือผลลัพธ์ที่หานเซิ่นได้จากการทดสอบ
เห็นได้ชัดว่ากระจกสตาร์เกจมีระดับสูงเกินไปสำหรับเขาเช่นเดียวกับโล่เมดูซ่าส์เกซ พลังของหานเซิ่นในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะเปิดใช้พลังที่แท้จริงของพวกมัน
แต่ชุดเกราะของกระจกสตาร์เกจเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ หานเซิ่นลองใช้มันขณะที่สวมใส่เซ็ตอะพอลโล และเขาก็พบว่าชุดเกราะทั้งสองส่งเสริมกันและกัน พลังป้องกันของชุดเกราะนั้นเทียบได้กับสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาแล้วในตอนนี้
แต่ทว่ามันมีเวลาจำกัด หลังจากที่เขาเปิดใช้ความสามารถนี้ ชุดเกราะของหานเซิ่นก็คงอยู่ในสภาพที่เหมือนกับกระจกได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ก่อนที่ชุดเกราะของเขาจะกลับสู่สภาพปกติ
หานเซิ่นสรุปไปว่าที่ความสามารถทุกอย่างของกระจกสตาร์เกจนั้นสั้นคงจะเกี่ยวข้องกับพลังของเขาเอง ในตอนนี้เขายังไม่สามารถใช้สมบัติขั้นทรูก็อตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป่าเอ๋อไม่ได้สนใจอะไรในกระจกสตาร์เกจ เธอเล่นกับมันเพียงแค่นิดหน่อยก่อนที่จะโยนมันไปให้หานเซิ่น หานเซิ่นยินดีรับมันเอาไว้ มันจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว
“มันมีหนทางที่จะกำจัดพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าที่น่ารำคาญไหมนะ?” หานเซิ่นเริ่มจะรำคาญกับคนๆนั้น แต่เขายังไม่สามารถคิดหาวิธีที่จะรับมือกับพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าได้
หานเซิ่นคาดคิดว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าจะกลับมาแก้แค้นพวกเขา แต่หลังผ่านไปหลายวัน ชุดเกราะคริสตัลสีดำก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาอะไร นั่นหมายความว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายังไม่ได้กลับมาที่นี่
นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ แต่นั่นเป็นเพราะหานเซิ่นขาดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาสามารถไปที่ไหนในจักรวาลได้อย่างอิสระก็จริง แต่ร่างกายของพวกเขามีขีดจำกัดหลายอย่าง พวกเขาไม่สามารถอยู่ในสถานที่หนึ่งเป็นเวลานานเกินไปได้ ดังนั้นพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าจึงไม่สามารถอยู่ภายในเอาท์เตอร์สกายได้นานนัก
แต่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายังคงคิดหาหนทางที่จะกลับมาแก้แค้นหานเซิ่นและลูกสาว ในตอนแรกเขาไปที่ต้นไม้ดาราเพื่อค้นหาจีโนโพรโทพลาสซึม แต่ความโกรธต่อพ่อลูกทั้งสองทำให้ลืมเรื่องของจีโนโพรโทพลาสซึมไปจนหมด
หานเซิ่นยืนอยู่ข้างๆต้นไม้ดารา ขณะที่ถือคริสตัลสีดำอยู่ในมือ เขามองไปที่มันอย่างครุ่นคิด
ชุดเกราะคริสตัลสีดำปลดการปิดผนึกแล้ว ดังนั้นหานเซิ่นจึงเอาคริสตัลสีดำออกมา เมื่อมันมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง หานเซิ่นก็พยายามจะป้อนคริสตัลสีดำให้กับซีโน่เจเนอิคอีกตัว
แต่ทว่าซีโน่เจเนอิคที่เขาทดสอบด้วยไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร มันเหมือนกับว่าคริสตัลสีดำกลายเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์แล้ว
และหลังจากที่หานเซิ่นพยายามจะใส่พลังของตัวเองเข้าไปข้างในคริสตัลสีดำ เขาก็รู้สึกตัวว่าศาสตร์ตงเสวียนไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในตอนที่เขาใช้เรื่องราวของยีน คริสตัลสีดำก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
คริสตัลสีดำในมือของหานเซิ่นเปลี่ยนรูปร่างเป็นอิมมอร์ทัลดราก้อนน้อยๆ นอกจากขนาดที่เล็กและสีดำสนิทแล้ว มันก็ดูเหมือนกับอิมมอร์ทัลดราก้อนทุกอย่าง
หานเซิ่นส่งพลังของวิชาเรื่องราวของยีนเข้าไปในคริสตัลสีดำ และคริสตัลก็ลอยออกจากมือของเขา มันขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ากับอิมมอร์ทัลดราก้อนตัวจริง และมันก็จ้องมองมาที่หานเซิ่นเหมือนกับตอนแรก
แต่ทันใดนั้นร่างกายของอิมมอร์ทัลดราก้อนก็ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาปกคลุมบริเวณรอบๆ ต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงมีร่องรอยที่เกิดจากถูกแมลงกัด ความเสียหายนั้นถูกรักษาโดยแสงศักดิ์สิทธิ์ของอิมมอร์ทัลดราก้อน