เด็กในชุดคลุมสีแดงแกว่งแขนขาไปมา แต่เขาไม่สามารถหนีไปได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามมากสักแค่ไหน
“ถ้าเจ้าเชื่อฟังที่ข้าบอก บางทีเจ้าจะไม่ต้องทุกข์ทรมาน ไม่อย่างนั้นล่ะก็เจ้าจะต้องมีจุดจบเหมือนเจ้าสิ่งนี้”
หานเซิ่นสะบัดมือและตัดพืชซีโน่เจเนอิคที่อยู่ข้างๆจนขาดครึ่ง
เด็กในชุดคลุมสีแดงเงียบลงไป เขากัดริมฝีปากของตัวเองและหยุดดิ้นรน แต่ดวงตาของเขาแดงกล่ำด้วยน้ำตา เขามองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเพิ่งจะถูกแกล้ง
“บอกให้พืชซีโน่เจเนอิคพวกนั้นถอยออกไป” หานเซิ่นสั่งเด็กในชุดคลุมสีแดง
เด็กในชุดคลุมสีแดงไม่ได้พูดหรือเคลื่อนไหวใดๆ หานเซิ่นยกมือขึ้นเพื่อแกล้งทำเป็นว่าเขาจะตีใส่เด็กในชุดคลุมสีแดง หลังจากนั้นเขาก็เห็นเหล่าพืชซีโน่เจเนอิคหลีกทางออกไป แม้แต่พืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าก็ถอยออกไปเช่นกัน
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘พลังในการควบคุมพืชซีโน่เจเนอิคนี่เป็นอะไรที่แปลก นี่เขาควบคุมพืชซีโน่เจเนอิคที่ระดับสูงกว่าตัวเองได้อย่างนั้นหรอ นั่นเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ’
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็หันไปหาผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและพูด “ผู้นำเผ่าช่วยไปดูได้ไหมว่าเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่ว่านั่นยังอยู่ไหม?’
ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตรีบเข้าไปในหอคอยเถาวัลย์ที่เก็บเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ ทุกคนตามเขาไปจากด้านหลัง ข้างในหอคอยเถาวัลย์นั้นเละเทะไปหมด แต่มันไม่มีเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่ว่าอยู่
ขณะที่มองตรงมาที่เด็กในชุดคลุมสีแดง ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตก็พูด
“มันหายไปแล้ว ข้าเดิมพันว่าเขาก็คือเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่พวกเราตามหา ร่างกายของเขามีออร่าของเมล็ดพันธุ์ดอกไม้นั่นอยู่”
หานเซิ่นพยักหน้าและมองไปที่เด็กในชุดคลุมสีแดง เขากำลังคิดว่าจะจัดการกับเด็กคนนี้อย่างไรดี ก่อนอื่นเขาจะต้องยืนยันก่อนว่าเด็กคนนี้สามารถควบคุมสเปชการ์เด้นได้หรือเปล่า
ถึงแม้เด็กในชุดคลุมสีแดงจะไม่ชอบในเรื่องนี้ แต่พลังของเขาก็ถูกจำกัดเอาไว้โดยหานเซิ่น เขาไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นหรือหนีไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจำเป็นต้องฟังคำสั่งของหานเซิ่น
หานเซิ่นบอกให้เด็กในชุดคลุมสีแดงพาฟลาวเวอร์ก็อตทั้งหมดมาที่นี่ และเนื่องจากพืชทั้งหมดในสเปชการ์เด้นนั้นเชื่อฟังคำสั่งของเด็กในชุดคลุมสีแดง มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรวบรวมผู้คนของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตทั้งหมดมาอยู่ในที่เดียวกัน
หานเซิ่นใช้เพลิงฟีนิกซ์เผาผลาญดอกไม้บนหัวของพวกเขาแต่ละคนเพื่อทำให้พวกเขากลับมาเป็นปกติ
เมื่อเห็นในสิ่งที่หานเซิ่นทำ และด้วยการที่เด็กในชุดคลุมสีแดงนั้นเชื่อสิ่งที่หานเซิ่นบอก เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตจึงไม่กล้าจะผิดสัญญา พวกเขาเชื่อฟังและทำอะไรก็ตามที่หานเซิ่นกับเซี่ยชิงสั่งให้ทำ พวกเขากลายเป็นเผ่าพันธุ์ใต้บังคับบัญชา
หานเซิ่นยังรวบรวมยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่เหลือรอดและสั่งให้เด็กในชุดคลุมสีแดงเปิดประตูของสเปชการ์เด้นเพื่อส่งพวกเขากลับออกไป
“ลาก่อน” ก่อนที่ไผ่เดียวดายจะจากไป เขาก็ยิ้มให้กับหานเซิ่น ดูเหมือนกับเขาจะรู้ว่าจริงๆแล้วซานมู่เป็นใคร เพียงแต่เขาไม่คิดจะเปิดโปงตัวจริงของหานเซิ่น
ในตอนที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าทั้งหมดออกไปแล้ว หานเซิ่นก็ไม่ได้กังวลจนเกินไปเกี่ยวกับการที่คนอื่นรู้ความลับของสเปชการ์เด้น
เพราะถึงแม้พวกเขาจะรู้เกี่ยวกับมัน ความรู้เหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร สเปชการ์เด้นเป็นเห็นหลินจือซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัว แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถก้าวข้ามพลังของเห็ดหลืนจือยักษ์นี้ได้ ตราบใดที่หานเซิ่นมีเด็กในชุดคลุมสีแดงคนนี้อยู่ มันก็ไม่มีใครสามารถเข้ามาในสเปชการ์เด้นได้
“จากตอนนี้เป็นต้นไป พวกเราจะมีดินแดนเป็นของตัวเอง ตอนนี้ทั้งหมดที่พวกเราจำเป็นต้องทำก็คือการจุดดวงไฟตะเกียงในจีโนฮอลล์”
เซี่ยชิงและหานเซิ่นกำลังผ่อนคลายอยู่ในสวน พวกเขากำลังทำบาร์บีคิวและดื่มเบียร์กัน
เด็กในชุดคลุมสีแดงนั่งถัดไปจากหานเซิ่น เขากำลังถือเนื้อย่างอยู่ในมือ และดูเหมือนเขาจะชื่นชอบมันมาก
“การจะจุดดวงไฟตะเกียงในจีโนฮอลล์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่พวกเราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ที่พวกเราจะเข้าไปแทนที่” หานเซิ่นพูด
“พวกเราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับมันด้วยอย่างนั้นหรอ?” เซี่ยชิงถาม
“เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและเผ่าทรีเมนมีความบาดหมางกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะใช้ชื่อของฟลาวเวอร์ก็อตเพื่อกำจัดเผ่าทรีเมนก็ได้”
หานเซิ่นส่ายหัวและพูด “การทำแบบนั้นพวกเราจะช่วยเหลือเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตจุดดวงไฟของพวกเขา มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมนุษย์และสปิริต พวกเราจะต้องจุดดวงไฟของพวกเราเอง พวกเราจะใช้ชื่อของเผ่าพันธุ์อื่นไม่ได้”
“เรื่องนั้นมันสำคัญด้วยหรือยังไง?” เซี่ยชิงถามด้วยเสียงหัวเราะ
“จากที่รู้ มันมีปัญหาอย่างหนึ่งเกี่ยวกับชื่อเผ่ามนุษย์ ผู้คนที่น่ากลัวหลายคนในจักรวาลนี้กำลังค้นหามนุษย์อยู่ ถ้าฉันใช้ชื่อนั้นเพื่อจุดดวงไฟในตะเกียง มันก็คงจะดึงดูดหายนะมาสู่สเปชการ์เด้น”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หานเซิ่นก็พูดต่อ “ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อน ฉันมีแผนการหนึ่งอยู่ พวกเราควรจะใช้เวลานี้เพื่อพาพวกพ้องของพวกเรามาที่สเปชการ์เด้น ฉันจำเป็นต้องคอยจับตาดูเด็กคนนี้เอาไว้เพื่อในกรณีที่เขาพยายามจะทำอะไรไม่ดีอีก ด้วยเหตุนั้นนายจะต้องเป็นคนรับหน้าที่พาคนอื่นมาที่นี่”
เซี่ยชิงตกลงและพูด “นั่นเป็นเรื่องง่ายๆ ข้าจะไปที่ปราสาทนภาและรับเป่าเอ๋อกับคนอื่นมา ส่วนที่เหลือข้าจะติดต่อไปหาพวกเขา”
หานเซิ่นพยักหน้า เขารู้สึกคิดถึงเป่าเอ๋อ ซีโร่ นางฟ้าและหานเหยียน ก่อนหน้านี้เขาไม่มีดินแดนของตัวเอง แต่ตอนนี้เขามีแล้ว ดังนั้นเขาจะพาทุกคนมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน
หานเซิ่นยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องหนึ่ง ยีนของสกายไวน์แรดิชนั้นทรงพลังเกินไป หลังจากที่มันถูกดูดซับไปโดยสเปชการ์เด้น มันก็ทำให้สเปชการ์เด้นวิวัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง พืชซีโน่เจเนอิคมากมายเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว มันจึงมีพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็จะต้องมีพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่วิวัฒนาการไปถึงขั้นทรานส์มิวเทชั่นหรือแม้แต่ขั้นลาร์วา ถ้าเขาไม่สามารถทำให้เด็กในชุดคลุมสีแดงคนนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมได้ มันจะเป็นปัญหาใหญ่
ถึงแม้เด็กในชุดคลุมสีแดงจะเชื่อฟังเขาในตอนนี้ แต่หานเซิ่นก็สัมผัสได้ว่าทันทีที่มีโอกาสเด็กคนนี้จะก่อกบฏ
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนเราจะต้องรอจนกระทั่งเป่าเอ๋อมาถึงที่นี่ เราต้องรอดูว่าเป่าเอ๋อจะทำอะไรกับเด็กคนนี้ได้บ้าง ถ้าแม้แต่เป่าเอ๋อก็ยังทำให้เขายอมเชื่อฟังไม่ได้ เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาตัวเขาไปขังเอาไว้”
หลังจากที่เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตสูญเสียดอกไม้บนหัวไป ระดับของพวกเขาก็ลดลงอย่างมาก ตอนนี้แม้แต่คนที่เป็นระดับราชันก็ถือเป็นอะไรที่หาได้ยาก โชคดีที่พวกเขามีความสามารถในการทำจีโนฟลูอิด และการทำแบบนั้นก็ไม่ได้ใช้พลังอะไรมาก
เนื่องจากสเปชการ์เด้นผ่านการกลายพันธุ์ พืชซีโน่เจเนอิคมากมายจึงเพิ่มระดับขึ้น ในตอนที่พวกเขาใช้สูตรเก่าในการทำจีโนฟลูอิด ผลลัพธ์ที่จีโนฟลูอิดมีต่อวิชาจีโนจึงเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม นั่นทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก
ด้วยพรสวรรค์ในการทำจีโนฟลูอิดของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต พวกเขาสามารถสร้างจีโนฟลูอิดที่อัดแน่นไปด้วยยีนซีโน่เจเนอิคจำนวนมาก หลังจากที่มนุษย์ใช้พวกมัน ยีนของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาย่อยเนื้อของซีโน่เจเนอิคอีก
“เทคโนโลยีนั้นทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้นมาก” หานเซิ่นพูด
“ถ้ารู้ว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ เราก็คงไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกวิชาจีโนเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร”
แต่ยีนระดับเทพเจ้าของหานเซิ่นครบหนึ่งร้อยแล้ว ดังนั้นในตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องดื่มจีโนฟลูอิดพวกนั้นอีก
“ว่าแต่เราควรจะเพิ่มระดับร่างต่อสู้ไหนก่อนเป็นอันแรก?” หานเซิ่นกำลังคิดเกี่ยวกับวิชาจีโนที่เขาควรจะวิวัฒนาการเป็นอันดับแรก
หานเซิ่นไม่ได้ลังเลอะไรมาก ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจจะเพิ่มระดับของเรื่องราวของยีนก่อน
เรื่องราวของยีนเป็นวิชาที่ยากที่สุด ดังนั้นหานเซิ่นจึงเลือกมันก่อน ตอนนี้เขามีสเปชการ์เด้นอยู่ ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะเก็บยีนระดับเทพเจ้าเพิ่ม เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีก