Super God Gene – ตอนที่ 2856

กระบวนการทั้งหมดนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์ หานเซิ่นมองดูเนื้อหนังและกระดูกของสกายไวน์แรดิชถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทีละนิดๆ หลังจากผ่านไปสักพักสกายไวน์แรดิชคนใหม่ก็เสร็จสมบูรณ์

แต่เมื่อเทียบกับเปลือกนอกก่อนหน้านี้ สกายไวน์แรดิชที่มีสิ่งประจำตัวพระเจ้านั้นมีพลังชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมาก ความรู้สึกที่ทรงพลังนั้นเหมือนกับตอนที่หานเซิ่นได้เจอกับราชาจุนเป็นครั้งแรก ถึงแม้ราชาจุนจะมอบความรู้สึกแบบนี้ให้กับเขา แต่มันก็ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย

“ฮะ?” พระเจ้ามองสกายไวน์แรดิชที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนกับว่าเขาค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับมันเข้า

หานเซิ่นหันไปถาม “มันมีอะไรอย่างนั้นหรอ?”

“สกายไวน์แรดิชดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่าง” พระเจ้าพูดขณะที่มองไปที่ร่างกายพระเจ้าของสกายไวน์แรดิช

“ปัญหาอะไร?” หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ภายในร่างกายของเขา… สปิริตของเขาได้หายไป…” พระเจ้าพูดด้วยเสียงที่ฟังดูแปลกๆ

“สปิริต?” หานเซิ่นถาม “เจ้าพูดถึงสปิริตแบบเดียวกันกับที่หายไปจากซีโน่เจเนอิคในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์อย่างนั้นหรอ?”

พระเจ้าพยักหน้า “ใช่ มันเป็นสปิริตเดียวกัน ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเจ้าใช่ไหมว่าสปิริตนั้นเป็นส่วนที่ไม่แน่นอนในยีนของสิ่งมีชีวิต คำบรรยายนั่นไม่ได้ถูกต้องซะทีเดียว ข้าไม่รู้ว่าจะบรรยายถึงการมีอยู่ของสปิริตที่เป็นนามธรรมได้ยังไง”

“ข้าจะยกตัวอย่างให้เจ้าฟังล่ะกัน” พระเจ้าพูด
“พ่อแม่คู่หนึ่งจะเป็นตัวกำหนดพันธุกรรมของลูกที่เกิดขึ้นมา แต่ถึงพ่อและแม่จะมีลูกฝาแฝด ยีนของลูกทั้งสองคนก็จะไม่เหมือนกัน เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น ลักษณะนิสัยและร่างกายของพวกเขาก็จะพัฒนาขึ้นไม่เหมือนกัน นั่นเป็นผลลัพธ์จากสปิริตของแต่ละคน”

หานเซิ่นลังเลและพูด “ยีนของฝาแฝดแตกต่างกัน นั่นเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ?” เขายังคงไม่เข้าใจว่าสปิริตคืออะไร

พระเจ้าคิดอยู่ชั่วครู่และพูด “บางทีตัวอย่างนั่นอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เจ้าควรจะรู้ว่ายีนสืบทอดระหว่างรุ่นสู่รุ่นใช่ไหม? ตามทฤษฎียีนที่ฝาแฝดสืบทอดมาก็ควรจะเหมือนกันกับยีนดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตรุ่นก่อน แบบนั้นสิ่งมีชีวิตฝาแฝดก็ควรจะมีลักษณะนิสัยที่เหมือนกัน แต่ในความจริงแล้ว ถ้าฝาแฝดคู่หนึ่งถูกปล่อยให้เติบโตอย่างอิสระ รูปร่างและร่างกายของพวกเขาก็จะแตกต่างกันออกไป แม้แต่ลักษณะนิสัยของพวกเขาก็ด้วย นั่นเป็นเพราะสปิริตของแต่ละคน”

เมื่อได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็ดูเหมือนจะทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ นี่ไม่ใช่คำถามที่สามารถตอบผ่านคำพูดได้ มันไม่มีคำพูดที่ถูกต้องที่จะมาอธิบายมันได้

พระเจ้ารู้ดีว่าหานเซิ่นยังคงไม่ค่อยจะเข้าใจ เขาจึงชี้ไปยังสกายไวน์แรดิชที่กำเนิดขึ้นใหม่และพูดต่อ
“อย่างเช่นสกายไวน์แรดิช สกายไวน์แรดิชที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ควรจะมีสปิริตที่เหมือนเดิม นั่นหมายความว่าสกายไวน์แรดิชที่กำเนิดขึ้นใหม่จะดำรงชีวิตต่อจากสกายไวน์แรดิชคนก่อน แต่ตอนนี้สกายไวน์แรดิชที่กำเนิดขึ้นมาใหม่นั้นไม่มีสปิริตอยู่ นั่นหมายความว่าเขาเป็นแค่แบบจำลองของยีนของสกายไวน์แรดิช ร่างกายนั้นเหมือนกัน แต่ในทางหนึ่ง เขาไม่เหมือนกับสกายไวน์แรดิชคนก่อน”

“มันต่างกันยังไง?” หานเซิ่นดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจเล็กน้อย

“สำหรับเจ้าแล้ว สิ่งที่แตกต่างที่สุดก็ควรจะเป็นความจริงที่ว่าเขาจำไม่ได้ว่าเจ้าเป็นคนที่ฆ่าเขาก่อนที่จะเกิดใหม่ที่นี่” พระเจ้าพูด
“และถึงเขาจะรู้เรื่องนั้น เขาก็จะไม่สนใจ ถ้าไม่มีสปิริตของสกายไวน์แรดิชคนก่อนอยู่ เขาก็จะไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสกายไวน์แรดิชในอดีต เขาจะไม่สนใจเรื่องของสกายไวน์แรดิชคนก่อน”

ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกดีใจ
“นั่นหมายความว่าการที่เขาไม่มีสปิริตถือเป็นเรื่องดีน่ะสิ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่มีสปิริตอีกไปตลอดการอย่างนั้นหรอ?”

“พระเจ้าแบบไหนกันที่ไม่มีสปิริตอยู่? สิ่งมีชีวิตนั้นควรจะมีสปิริตอยู่เสมอ แต่สปิริตใหม่นั้นควรจะไม่เหมือนกับสปิริตเดิม ดังนั้นสปิริตของเขาจะแตกต่างไปจากสกายไวน์แรดิชคนก่อน” พระเจ้ามองไปที่สกายไวน์แรดิชขณะที่เขาพูด

ในเวลานี้แสงสีเขียวบนแท่นได้หายไปแล้ว และสกายไวน์แรดิชก็เกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขาดูเหมือนกับพระเจ้าที่กำลังยืนอยู่บนแท่นบูชา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถึงแม้สกายไวน์แรดิชจะจดจำเรื่องในอดีตไม่ได้ แต่เขาก็คงจะไม่ยกโทษให้กับสิ่งมีชีวิตที่กล้าเข้ามาในวิหารของเขา’

แต่สายตาของสกายไวน์แรดิชนั้นมองผ่านหานเซิ่นไปที่พระเจ้าอย่างน่าประหลาดใจ หานเซิ่นอ้าปากค้าง และเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

สกายไวน์แรดิชนั้นมีร่างกายที่เหมือนกับยักษ์ แต่แล้วจู่ๆเขาก็กระโดดลงไปอยู่กับพื้นในท่าคุกเข่า หน้าผากของเขาติดกับพื้นขณะที่ร่างกายของเขากำลังสั่นไหว

หานเซิ่นรู้สึกตกใจอย่างมาก ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพระเจ้าคนนี้เหนือกว่าสกายไวน์แรดิช แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าเพียงแค่ได้เห็นพระเจ้าคนนี้ มันก็จะทำให้สกายไวน์แรดิชมีท่าทางแบบนั้นแล้ว เขาดูหวาดกลัวยิ่งกว่าหนูที่เผชิญหน้ากับแมวซะอีก

อย่างน้อยถ้าหนูตัวหนึ่งเห็นแมว มันก็ยังจะวิ่งหนีได้ แต่สกายไวน์แรดิชในตอนนี้ดูเหมือนกับว่าแค่จะวิ่งหนี เขาก็ทำไม่ได้ เขาได้แต่คุกเข่าลงกับพื้นขณะที่ตัวสั่นไม่หยุด

“ไปกันเถอะ มันเกือบจะถึงเวลาแล้ว มันยังมีการประลองอีกหลายรอบที่ข้าอยากจะดู”
พระเจ้าไม่ได้สนใจสกายไวน์แรดิช เขาแค่ยืดเส้นยืดสายขณะที่เดินออกไปจากวิหาร

หานเซิ่นหันไปมองสกายไวน์แรดิชที่กำลังคุกเข่าโดนไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะออกไปจากวิหารพร้อมกับพระเจ้า

หลังจากที่ออกไปจากวิหาร หานเซิ่นก็หันกลับมามองอยู่หลายครั้ง ในตอนที่เขายังเห็นวิหารได้นั้น หานเซิ่นจะเห็นว่าสกายไวน์แรดิชยังคงหวาดกลัวและยังไม่ลุกกลับขึ้นมา

ในตอนที่เขาก้าวลงไปจากบันไดหินขั้นสุดท้าย สภาพแวดล้อมรอบๆตัวของหานเซิ่นก็เปลี่ยนไป เขากลับมาอยู่ภายในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์อีกครั้ง

“ข้าทำในสิ่งที่เจ้าต้องการให้แล้ว ในการประลองรอบต่อไป เจ้าจะต้องเป็นฝ่ายชนะ ข้าเชื่อในตัวเจ้า” พระเจ้ายิ้มให้กับหานเซิ่นขณะที่เขาพูด

“ข้าก็เชื่อในตัวของข้าเองเช่นกัน” หานเซิ่นลูบจมูก

พระเจ้ากลับไปที่สวน ส่วนหานเซิ่นอยู่ที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ต่อโดยใช้ข้ออ้างว่าเขาจะล่าซีโน่เจเนอิคเพิ่ม หลังจากที่เห็นพระเจ้าจากไปแล้ว หานเซิ่นก็มองเข้าไปในจิตและตรวจเช็คเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิช

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘นี่หมายความว่าเทพสปิริตคือสปิริตที่พระเจ้าพูดถึงอย่างนั้นหรอ? เนื่องจากเทพสปิริตถูกชิงเอาไป สกายไวน์แรดิชจึงกำเนิดขึ้นมาใหม่โดยที่ไม่มีสปิริตอยู่ และด้วยเหตุนั้นมันจะมีสปิริตใหม่เกิดขึ้นมาแทน? ถ้าแบบนั้นจริงๆแล้ววิญญาณอสูรก็คือสปิริตของสิ่งมีชีวิตระดับต่ำอย่างนั้นหรอ?’

“แต่เดี๋ยวก่อนนะ… พระเจ้าบอกว่าซีโน่เจเนอิคในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ไม่มีสปิริตอยู่ สปิริตของพวกมันหายไปไหนกัน? นี่กษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงเอาสปิริตของพวกมันออกไปอย่างนั้นหรอ? ถ้าวิญญาณอสูรคือสปิริตของพวกมันจริงๆ แบบนั้นมนุษย์ฆ่าซีโน่เจเนอิคและชิงเอาสปิริตของพวกมันมาได้ยังไงกัน? แม้แต่เทพสปิริตก็ยังถูกดึงออกมา” หานเซิ่นครุ่นคิด

หานเซิ่นรู้สึกว่าเขากำลังเข้าใกล้ความจริงบางอย่าง แต่เขายังคงมีข้อมูลน้อยเกินไป มันเหมือนกับว่าเขาเห็นเงาๆหนึ่งผ่านกระดาษ แต่เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังกระดาษได้

“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะต้องรอจนกระทั่งเรากลายเป็นขั้นทรูก็อตซะก่อน เราจำเป็นต้องเข้าไปในจีโนฮอลล์และหาคำตอบที่นั่น”
หานเซิ่นถอนหายใจและเลิกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การคิดมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขา การเพิ่มพลังของตัวเองนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้

“ว่าแต่หอกสกายไวน์แรดิชก็อตจะมีพลังมากขนาดไหนกัน”
หานเซิ่นลองเอาหอกสกายไวน์แรดิชก็อตไปเก็บเอาไว้ภายในจิตของเขา และมันก็ได้ผล หอกสกายไวน์แรดิชก็อตเป็นเหมือนกับวิญญาณอสูร หานเซิ่นเพียงแค่ต้องคิดเกี่ยวกับมันและหอกก็จะปรากฏในมือของเขา

“ถ้าอย่างนั้นอาวุธประจำตัวพระเจ้าก็ใส่เข้าไปในจิตได้ด้วยงั้นสินะ?” สีหน้าของหานเซิ่นดูซับซ้อน

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset