แสงที่ 69 1 ต่อ 40 ไม่ถือว่ารุม..
ห่างจากฐานที่มั่นจุดที่ 56 ประมาณ 100 เมตร..
ท่ามกลางป่าดงดิบรกชื้น ลักษณะภายในป่าเซลฟอสถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ จนทำให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาได้น้อย ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีพุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีเถาวัลที่ห้อยลงมา..
ฟุบ..!
เสียงฝีเท้าของมนุษย์ที่ย่างกายเดิน ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือทหารจำนวนสี่นายที่กำลังเดินย่องเคลื่อนตัวอยู่ภายในป่า ตรงบริเวณแขนของพวกเขาปรากฏให้เห็นเป็นวงแหวนเวทสีฟ้าจำนวน 2 วง และมีอยู่หนึ่งคนที่ถือครองวงแหวนสีฟ้า 4 วง..
“ชะลอฝีเท้าหน่อย ตอนนี้พวกเราน่าจะเข้ามาถึงในรัศมี 100 เมตร ของฐานที่มั่นศัตรูแล้ว..”เสียงของทหารนายหนึ่งที่กล่าวออกคำสั่งกับทหารที่ติดตามมาด้วย เขาเป็นชายวัยกลางคน อีกทั้งยังเป็นทหารคนเดียวที่ถือครองวงแหวนเวทสีฟ้า 4 วง..
โดยชุดยูนิฟอร์มที่ทหารพวกนี้สวมใส่เป็นชุดยูนิฟอร์มสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายกับชุดนิฟอร์มทหารของพวกโซเวียต ถ้าไม่ติดว่าดีเทลของชุดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มองผ่านๆก็คงจะเข้าใจผิดนึกว่าเป็นชุดยูนิฟอร์มของทหารจากทัพคีทารัส ติดตรงที่ทหารของโนโทเปียจะสวมใส่ปลอกแขนเอาไว้..
“เอาล่ะ..อีก 50 เมตรกระจายกำลังกันเข้าสอดแนม เมื่อระบุกำลังพลของศัตรูและกลยุทธ์ได้ให้กลับมาเจอกันที่นี่..”เสียงของผู้นำกลุ่มที่กล่าวออกมา แต่ทว่ากลับไร้ซึ่งเสียงตอบรับของทหารที่ติดตามอยู่ข้างหลัง..
“หืม..? อึก..!”ทหารผู้นำกลุ่มที่หันกลับไปมองข้างหลัง แต่แล้วจู่ๆดวงตาของเขากลับต้องเบิกกว้างขึ้น จากร่างของทหารสามนายที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่..
ทหารทั้งสามศพที่ตายล้วนแล้วแต่ถูกของมีคมปาดคอ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ติดตามผู้นำกลุ่มมาติดๆ แต่รู้สึกตัวอีกทีทุกๆคนกลับลงไปนอนตายกันอยู่ที่พื้นแล้ว..
การจู่โจมลอบสังหารที่เกิดขึ้น มันไร้ซึ่งเสียงฝีเท้าหรือเสียงใดๆ มันเงียบเชียบจนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เฮือก..!! อ้ากกกก..! ไอ้สวะ..โผล่หัวออกมานะ..!!!”ผู้นำกลุ่มทหารที่สติแตก มันพลันยกแขนขึ้นมาเตรียมจะยิงกระสุนแรงดันเวท ร่างที่ยืนอยู่ได้หมุนไปรอบตัวเอง พลางสาดส่ายฝ่ามือไปรอบๆ..
หมับ..!!!
ปึด..!!
“อ่อก..!!”
แต่แล้วทันใดนั้นร่างทมิฬร่างหนึ่งก็ได้ลอบเข้ามาจากทางด้านหลังของทหารผู้นำกลุ่มที่เหลือรอด ก่อนที่ร่างๆนั้นจะจัดการเอามีดปาดคอของมันในทันที..
ตุบ..!
ร่างของผู้นำกลุ่มหน่วยสอดแนมจากโนโทเปียที่ร่วงลงไปนอนสำลักเลือดอยู่ที่พื้น ดวงตาของมันกำลังเหลือกถล่น ผสานกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกจากลำคอ..
“อ่อกๆ ๆ..”
ภายในแววตาของทหารจากโนโทเปียที่กำลังนอนตะแคงสำลักเลือดอยู่กับพื้น ภาพสุดท้ายที่มันได้เห็นคือแผ่นหลังของร่างทมิฬที่กำลังเดินควงมีดมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่กองกำลังหน่วยที่สี่ของโนโทเปียอยู่ ก่อนที่สติของมันจะดับวูบลงไป..
ครึ่งชั่วโมงต่อมา..
400 เมตร ห่างจากฐานที่มั่นจุดที่ 56 ภายในป่าเซลฟอสทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ..
ฟุบๆ ๆ ๆ
เสียงฝีเท้าของทหารจากโนโทเปียจำนวน 40 ชีวิตที่กำลังคลืบคลานย่างกายอยู่ภายในผืนป่า โดยที่ทหารทั้งสี่สิบนายกำลังเดินเกาะกลุ่มกันเอาไว้ ซึ่งทหารกลุ่มนี้ก็คือกองกำลังจู่โจมหน่วยที่ 4 ของโนโทเปีย..
ซึ่งภายในกองกำลังดังกล่าวมีทหารอยู่สองนายที่กำลังขี่ม้า และเป็นเพียงสองคนที่มีม้าขี่ โดยที่คนแรกเขานั้นคือผู้บัญชาการของกองกำลังจู่โจมหน่วยที่สี่ที่ได้รับมอบหมายภารกิจมาจากผู้บัญชาการหลักที่ในตอนนี้กำลังควบคุมดูแลกองกำลังทหารหน่วยที่ 2
“อึก..ผลข้างเคียงมันรุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก ภารกิจนี้คงใช้ได้อีกแค่ครั้งเดียว..”เสียงของผู้บัญชาการกองกำลังหน่วยที่ 4 ที่กล่าวออกมา พลางเอามือกุมหน้าอก ก่อนที่เขาจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุของเหลวปริศนาออกมาดู..
“ท่านร้อยตรีเตรนัส พักก่อนดีกว่าไหมครับ..?”ทหารยศยศจ่าสิบเอกที่ควบม้ามาตีคู่พลันเอ่ยถาม เขาเป็นผบ.หมู่ที่ควบคุมดูแลกองกำลังทหารทั้งสี่สิบนาย โดยรอฟังคำสั่งจากร้อยตรีเตรนัสหรือผู้บัญชาการ
ซึ่งผู้บัญชาการหรือร้อยตรีเตรนัส เขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 25 ต้นๆ แต่ทว่ากลับสามารถไต่เต้าจนเลื่อนขึ้นมาเป็นร้อยตรีได้ตั้งแต่ที่อายุยังน้อย..
“ไม่เป็นไรครับจ่า ผมยังไหว..แค่ผลข้างเคียงของยาสถิตสัตว์มานามันรุนแรงกว่าที่ผ่านๆมาก็เท่านั้น ดูเหมือนว่าจบภารกิจนี้ผมคงต้องแวะไปหาพวกนักวิจัยแล้ว..”เตรนัสที่ตอบกลับจ่าสิบเอก
“เฮ้อ..น่าอิจฉาจังนะครับ ถ้าไม่ติดว่าร่างกายของผมไม่สามารถรองรับยาสถิตสัตว์มานาได้ ผมก็คงจะสามารถสร้างผลงานได้เยอะกว่านี้ อย่างท่านร้อยตรีที่สร้างผลงานมากมายจนสามารถเลื่อนยศขึ้นมาเป็นร้อยตรีได้ตั้งแต่ที่อายุยังเท่านี้..”จ่าสิบเอกที่กล่าวออกมาด้วยความอิจฉา การที่ร้อยตรีผู้นี้สามารถเลื่อนระดับยศได้เร็วกว่าปกติเป็นเพราะว่าเขาใช้อาวุธทดลองที่อาณาจักรคิดค้นขึ้น..
“ผมน่ะไม่สนใจเรื่องยศหรอก ที่ทำไปก็เพื่ออาณาจักรโนโทเปียของเรา..”เตรนัสที่กล่าวออกมา..
“หืม..ผมนับถือในอุดมการณ์นั่น ท่านคือทหารที่น่าชื่นช..ม..”
ฟ้าว..!!!!!
สึบ..!!!!
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ในขณะที่ทหารยศจ่าสิบเอกกำลังจะกล่าวชื่นชมเตรนัส จู่ๆทันใดนั้นก็มีมีดสั้นที่พุ่งเข้ามาปักเข้าที่ลำคอของเขาอย่างแม่นยำ
“อ่อก ๆ..”ทหารยศจ่าสิบเอกที่ยกฝ่ามือขึ้นมาจับมีดที่ปักคออยู่ ดวงตาของเขากำลังเบิกถล่น ก่อนที่จู่ๆร่างของเขาจะทรุดฮวบสิ้นใจตายคาแผ่นหลังของม้าไปต่อหน้าต่อตาของเตรนัส..
“อะ..อึก..”เตรนัสที่เบิกดวงตากว้างขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะ..
“ไอ้พวกสวะเอลเดีย..!!! ทหารทุกนายเตรียมรับมือ..!!!!”เตรนัสที่แผดเสียงตวาดออกมา พร้อมกับกระชากบังเหียนทำให้ม้าของเขายกขาหน้าขึ้นมาพยศ ส่วนเหล่าทหารกว่าสี่สิบนายก็ต่างพากันเปิดวงจรเวท พร้อมกับสาดส่องสายตามองหาศัตรู..
“เปิดวงจร..!!”
“อึก..?!”เตรนัสที่กวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อค้นหาศัตรู แต่ทว่ากลับไม่พบสิ่งใด ท่ามกลางผืนป่ารกทึบ เส้นทางข้างหน้ามีเพียงแค่ต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้ แต่กลับไร้ซึ่งวี่แววของศัตรู..
“กระจายกำลังกัน ศัตรูมีเพียงไม่กี่คน..! ฆ่าพวกมันให้หมด..!”เตรนัสที่วิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้น ทันทีที่รู้ว่าศัตรูที่ลอบโจมตีมีจำนวนเพียงน้อยนิด จึงสั่งให้ทหารกระจายกำลังกันเพื่อค้นหา..
ทหารจำนวนสิบนายที่กระจายกำลังกันเคลื่อนตัวไปข้างหน้า แต่แล้ว..
ฟุบ..!!!!
ฟ้าว..!!!
ฉึกๆ ๆ ๆ..!
ทันใดนั้นที่ต้นไม้ทางเบื้องหน้า จู่ๆก็มีเงาทมิฬที่ปรากฏตัวออกมา ก่อนจะปามีดจำนวน 4 เล่มออกมาในคราวเดียวกัน โดยที่มีดทั้งสี่เล่มได้ปักเข้าที่กลางหน้าผากของเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำให้ทหารสี่นายของโนโทเปียต้องตกตายไป..
“ยิงมัน..!!!”ทหารจากโนโทเปียที่ตะโกนออกมา เมื่อพบเข้ากับร่างของเป้าหมาย ก่อนที่เขาและทหารอีกห้านายที่เหลือจะกราดยิงกระสุนเวทมนตร์ออกไป..
ฟุบ..!
ร่างทมิฬที่วิ่งด้วยความเร็วพลันหลบหายเข้าไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง กระสุนพลังเวทที่ถูกกราดยิงไม่แม้แต่จะเฉี่ยวร่างของเป้าหมาย ก่อนที่ร่างๆนั้นจะเคลื่อนตัวจากต้นไม้อีกต้นไปสู่อีกต้น เคลื่อนตัวผ่านพุ่มไม้และทำตัวกลบกลืนไปกับสภาพแวดล้อม..
“อึก..!”
พรึ้บๆ..
“มันอยู่ตรงนั้น..!”
ท่ามกลางความกดดันของเหล่าทหาร ทุกๆคนต่างกวาดสายตามองไปรอบๆ จนกระทั่งทหารนายหนึ่งได้ยินเสียงของพุ่มไม้ทางข้างที่ขยับ จึงตะโกนบอกกับเพื่อนทหาร ทำให้ทุกๆคนกราดยิงกระสุนพลังเวทเข้าไป..
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ
ตรึ้มๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงของกระสุนพลังเวทที่ถูกยิงเข้าไปในพุ่มไม้ ก่อนที่หลังจากนั้นเหล่าทหารจะหยุดยิง
ฟุบ..!
ทหารสามนายที่อาสาเดินตรงไปยังพุ่มไม้พุ่มนั้น เพื่อตรวจสอบ..
ฟ้าว..!!!!!
ฉึกๆ ๆ ๆ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆก็มีมีดสั้นที่พุ่งสวนออกมาจากภายในพุ่มไม้ ก่อนจะปักเข้าที่กลางหน้าผากของเป้าหมายจนต้องตกตายไปตามๆกัน..
“ยิง..!!!!!!”เสียงตะโกนของทหารที่ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เหล่าทหารทุกๆนายจะกราดยิงกระสุนเวทมนตร์สาดเข้าไป..
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ตรึ้มๆ ๆ ๆ ๆ
ฟ้าวๆ ๆ ๆ
ฉึกๆ ๆ ๆ ๆ
ในขณะที่เหล่าทหารกำลังให้ความสนใจจู่โจมไปยังพุ่มไม้ทางทิศตะวันตก จู่ๆทันใดนั้นที่อีกฟากก็มีคมมีดที่พุ่งทะยานลอบเข้ามาโจมตีสังหารทหารจำนวน 4 นายให้ต้องตกตายไป..
“ทหารทุกนายอย่าแตกตื่น เกาะกลุ่มกันเอาไว้..!!!”เตรนัสที่สบถด่าออกมา ก่อนจะแผดเสียงตะโกนปลุกสติของเหล่าทหาร แต่ทว่า .
ฟ้าวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อ้ากกกกกกก..!!!”
ท่ามกลางร่างของเหล่าทหารที่ยืนอยู่ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้เตรนัสถึงกับต้องหน้าถอดสี จากภาพของคมมีดที่พุ่งทะยานออกมาจากป่า สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือเงาทมิฬที่กำลังเคลื่อนตัววิ่งวนไปรอบๆกองกำลังทหารด้วยความเร็ว
โดยที่เงาๆนั้นได้ใช้ประโยชน์จากสภาพแววล้อมที่เอื้ออำนวยแก่การลอบสังหาร ในทุกๆช่วงจังหวะที่เงาๆนั้นเคลื่อนที่อยู่หลังต้นไม้และพุ่มไม้ มันก็ได้ปลดปล่อยการโจมตีด้วยการปามีดเข้ามาสังหารทหารของโนโทเปียไปทีละสามสี่คน จนทำให้ในตอนนี้กองกำลังทหารเหลืออยู่เพียงแค่ยี่สิบนายเท่านั้น..
ฟ้าวๆ ๆ ๆ
ฉึก ๆ ๆ ๆ
“อ้ากกกกกก..!!”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเหล่าทหารโนโทเปีย ภาพที่เตรนัสยังคงเห็นคือเหล่าทหารที่ถูกฆ่าตายไปทีละคน ไม่ว่าทหารที่รอดชีวิตจะกราดยิงกระสุนพลังเวทโจมตีสวนกลับไปเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรเงาทมิฬนั้นได้..
“นะ..นี่มันบ้าอะไรกันวะ..!”เตรนัสที่สบถออกมา ทั่วทั้งใบหน้าที่กำลังตื่นตระหนกของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่แตกพลั่ก..
ตุบ..!
“เฮือก..! ปีศาจ มันจะต้องเป็นปีศาจแน่ๆ..”ทหารโนโทเปียนายหนึ่งที่เสียขวัญพลันหงายลงไปนั่งกองกับพื้น ส่วนพวกทหารอีกสิบกว่าคนที่เหลือก็ยังคงยิงกระสุนพลังเวทใส่เป้าหมายที่โผล่ออกมาเพียงชั่วพริบตาราวกับผี..
ฟ้าว..!!!
ฉึก ๆ ๆ ๆ
ตุบๆ ๆ ๆ.
คมมีดที่ถูกปาพลันพุ่งทะยานปักเข้าสู่กลางหน้าผากของเป้าหมายอีกสามคนอย่างแม่นยำ ก่อนที่ร่างทั้งสามจะร่วงลงไปนอนจบกองเลือดอยู่กับพื้น..
“อ้ากกกกกกก..!!!”ทหารจากโนโทเปียที่ร้องตะโกนแหกปากออกมา จากทหาร 40 นายตอนนี้กลับเหลืออยู่เพียงแค่ 5 นายเท่านั้น ไม่นับรวมเตรนัส..
“ไอ้ขี้ขลาด..! โผล่ออกมานะ นี่น่ะเหรอวิธีการรบที่เอลเดียใช้..!”เตรนัสที่แหงนหน้าแผดเสียงตวาดด่าออกมา..
ฟุบ..!!!!!
ทันใดนั้นหลังจากที่สิ้นเสียงของเตรนัสไปเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ จู่ๆร่างทมิฬก็ปรากฏตัวพุ่งออกมาจากป่า ก่อนจะเข้าประชิดตัวของเหล่าทหารทั้งห้านายที่รอดชีวิต พร้อมกับใช้มีดสั้นในมือปาดเข้าสู่ลำคอของหนึ่งในทหาร..
ฉับ..!
“อั่ก อ่อก..!”ร่างของทหารนายแรกที่ถูกปาดคอพลันผงะ เมื่ออีกสี่คนที่เหลือเห็นก็เตรียมจะยิงกระสุนพลังเวท แต่ทว่าร่างทมิฬที่เผยตัวก็ได้พุ่งเข้ามาประชิด ก่อนจะแทงมีดสั้นใส่คอของทหารนายที่สอง และใช้ขาเตะเข้าไปที่ขมับของทหารนายที่สามจนหมดสติไป..
ฟุบ..!
ปึด..
ผลัก..!!!
ร่างของทหารที่ถูกโจมตี คนหนึ่งถูกมีดแทงจนตาย ส่วนอีกคนถูกเตะจนหมดสติ ทำให้เหลือทหารที่รอดชีวิตอยู่เพียงแค่สองคนเท่านั้น..
ฟุบ..!
ทหารสองนายที่ปลดปล่อยกระสุนพลังเวทใส่ร่างทมิฬที่อยู่ทางเบื้องหน้า แต่ทว่าร่างๆนั้นกลับใช้ทหารที่ถูกเตะขมับจนหมดสติมาเป็นโล่กำบัง ทำให้กระสุนพลังเวทพุ่งชนเข้ากับโล่มนุษย์..
เฟี้ยว ๆ ๆ ๆ
ตุบๆ ๆ ๆ
ฟ้าว..!
ฉึก..!!!
“อั่ก..!”
ร่างทมิฬที่เอี่ยวตัวหลบกระสุนพลังเวทจำนวน 6 นัด ที่เจาะทะลุผ่านโล่มนุษย์มาได้อย่างฉิดเฉียด ก่อนที่เขาจะปามีดสั้นเล่มสุดท้ายในมือออกไปปักเข้าที่ลำคอของทหารหนึ่งในสองที่รอดชีวิต ตามด้วยทิ้งโล่มนุษย์และดีดตัวเข้าไปหาทหารคนสุดท้ายที่ยืนอยู่..
“เฮือก..”ทหารนายสุดท้ายที่รอดชีวิตพลันรีโหลดกระสุนอย่างล่กๆ เมื่อเงาทมิฬเห็นแบบนั้นก็พลันก้าวขาเดินเข้ามาด้วยท่าทีดูสบายๆ จนกระทั่งเดินเข้ามาประชิดถึงตัว..
ฟุบ..!!!
กร็อบ..!!!
ยังไม่ทันทีที่ทหารคนสุดท้ายจะได้รีโหลดกระสุนจนเสร็จ สุดท้ายแล้วร่างทมิฬที่เดินเข้ามาประชิดตัวก็ได้ใช้สองแขนจับล็อคคอของเขา ก่อนจะออกแรงบิดสุดกำลังจนคอหัก..
“ขี้ขลาดงั้นเหรอ..? นี่ฉันมีคนเดียวนะเนี่ยหนึ่งต่อสี่สิบไม่ถือว่ารุมสักหน่อย..”เสียงของเงาทมิฬที่หันไปกล่าวกับเตรนัส โดยร่างของอีกฝ่ายเมื่อได้รู้ว่าศัตรูที่บุกเข้ามามีเพียงแค่คนเดียว มันก็ทำให้เขาถึงกับต้องหน้าซีดอย่างหนัก..
[สตาร์]
กระจอก..กระจอกชิบหายเลย นี่น่ะเหรอกองกำลังของโนโทเปีย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการรบหรือกลยุทธ์ รวมไปถึงการตัดสินใจเฉพาะหน้าก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในเกณฑ์ที่โครตจะกระจอก..
ซึ่งก่อนหน้านี้ทันทีที่ผมวิ่งมาเจอเข้ากับกองกำลังของโนโทเปีย ผมก็ได้แอบซุ้มมองพวกมันอยู่อย่างเงียบๆประมาณ 5 นาที ผมได้ทำการตรวจสอบจำนวนและแอบฟังการสนทนาของพวกมัน จนได้รู้ถึงข้อมูลที่น่าสนใจ..
และหลังจากที่ผมตรวจสอบจำนวนของพวกมันจนแน่ชัดแล้ว ผมก็ได้เริ่มปฏิบัติการจู่โจม แผนการลอบโจมตีของผม เริ่มจากการเปิดฉากการโจมตีสายฟ้าแล็บ ก่อนจะสร้างความปั่นป่วนและสับสนให้พวกมัน..
ทันทีที่ผมเปิดฉากสังหารพวกมันไป ผมก็ได้ใช้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยเคลื่อนที่ไปรอบๆและคอยปาก้อนหินใส่พุ่มไม้ให้เกิดเป็นเสียง เพื่อเป็นการหลอกล่อและดึงความสนใจของพวกมัน..
หลังจากที่พวกมันได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นหลังพุ่มไม้ พวกมันก็จะเปิดฉากการโจมตี ในระหว่างนั้นผมก็จะอาศัยจังหวะเปลี่ยนตำแหน่งโยกย้ายตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งอื่นและลอบโจมตีพวกมัน..
ด้วยการที่ไอ้พวกโนโทเปียยังไม่รู้ถึงจำนวนที่แน่ชัดของฝ่ายผม จึงทำให้พวกมันคิดว่าศัตรูที่บุกจู่โจมมีมากกว่าหนึ่งคน นั่นจึงทำให้การลอบสังหารของผมเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น..
ซึ่งหลังจากที่พวกมันถูกฆ่าไปกว่าครึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้ต่อจากความสับสน นั่นก็คือความหวาดกลัว นับตั้งแต่วินาทีนั้นกองกำลังทหารของโนโทเปียก็เริ่มที่จะเสียรูปขบวนและความมั่นใจ อีกทั้งผู้นำของมันก็เอาแต่อึ้งมองดูทหารของตัวเองตายไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะออกคำสั่งหรือแก้ไขสถานการณ์..
แม้จะมีคำสั่งเกาะกลุ่ม แต่นั่นกลับเป็นการตัดสินใจที่โง่เง่า การตัดสินใจแบบนั้นมันแทบจะไม่ต่างอะไรกับการที่ชาวประมงจะหว่านแห่จับปลาทั้งฝูง ศัตรูที่มาเกาะกลุ่มเป็นกระจุก ทำให้ผมสามารถที่จะโจมตีได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก จากที่ง่ายอยู่แล้ว..
ถ้าไม่ติดว่าผมเอามีดมาแค่สามสิบเล่มป่านนี้พวกมันก็คงจะตายกันทั้งคณะไปแล้ว นี่ยังไม่นับรวมกับที่ผมต้องคอยเก็บมีดจากศพมาใช้ต่อกว่าหลายเล่ม..
แต่มันก็ไม่แน่..กองกำลังของโนโทเปียอาจจะไม่ได้กระจอกอย่างที่คิดก็ได้ แต่สิ่งที่กระจอกคือผู้นำของมันที่ไม่สามารถจะตัดสินใจหรือแก้ไขสถานการณ์ได้เลยราวกับว่าไอ้หน้าอ่อนบนหลังม้าเป็นเพียงแค่เด็กที่ไม่มีประสบการณ์
“อะไรๆ กลัวจนขยับไม่ได้แล้วหรือไง..? ไอ้เข็มนั่นน่ะ ไม่ใช่เหรอ..?”ผมที่เอ่ยปากถามกับไอ้เจ้าหน้าอ่อนบนหลังม้า โดยข้อมูลที่ผมได้ยินมารู้สึกว่าไอ้เข็มนั่นจะเป็นต้นตอของสัตว์ประหลาดที่เรนพูดถึง..
“กรอด..!!!”เตรนัสที่ขบฟันแน่น เขาพลันนำเข็มฉีดยาในมือปักเข้าที่กลางหน้าอกตำแหน่งหัวใจ ก่อนจะฉีดของเหลวสีใสเข้าไป..
ฟุบ..!
“อั่ก..!”ดวงตาของเตรนัสที่เบิกกว้างขึ้น จากหัวใจที่กระตุกวูบ ส่งผลทำให้ร่างของเขาพลันล่วงลงจากแผ่นหลังของม้า ก่อนที่ทันใดนั้นร่างที่เอามือยันพื้นอยู่จะค่อยๆขยายตัวใหญ่ขึ้น พร้อมกับรูปร่างที่แปรเปลี่ยนไป..
ปึดๆ ๆ ๆ
“กรรซ..!!”เสียงคำรามที่ดังออกมา ผิวหนังของเตรนัสพลันมีขนสีเงินที่ปรากฏออกมาเข้าปกคลุม ใบหน้าของเขาค่อยๆยืดยาวออก ผสานกับดวงตาที่แดงก่ำ ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานนัก ร่างๆทั้งร่างของเขาจะแปรเปลี่ยนกลายไปเป็นมนุษย์หมาป่าขนสีเงิน..
“อ้อ..อย่างงี้นี่เอง..”ผมที่เริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ ก่อนที่จะ..
“เปิดวงจร..!”ผมที่ทำการเปิดวงจร ก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบ X เซเบอร์ออกมาถือเอาไว้ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่ามันจะค่อยๆชันตัวลุกขึ้นยืน..
“กรรซ..!!!”ไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าที่ส่งเสียงคำราม มันพลันดีดตัวกระโจนวิ่งสี่ขาตรงเข้ามาหาผมด้วยความเร็วสูง..
ฟุบ..!!!!!
ในตอนนี้ผมกำลังยืนนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับค่อยๆก้มศรีษะลงไป ส่วนมือก็จับกระชับ X เซเบอร์เอาไว้อย่างแนบแน่น..
ฟุบ..!!!!
“กรรซ..!!!”
ไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าที่ดีดตัวกระโจนตัวลอยเข้ามาหาผม มันพลันยื่นกรงเล็บทั้งสองข้างออกมาเหมือนกับกำลังจะขย้ำเหยื่อ..
“หึ..!”ผมที่กระตุกรอยยิ้มออกมา ก่อนที่จะ..
ติ๊ก..!
หวิ่ง..!!!
ภายในชั่วพริบตาเดียว ในช่วงจังหวะก่อนที่ผมจะถูกไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าขย้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ร่างของผมที่ยืนอยู่ได้เอี่ยวเคลื่อนตัวออกมาทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดสวิตซ์เปิดการทำงานของ X เซเบอร์และตวัดฟันเสยเข้าไปยังลำคอของไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าที่ลอยอยู่กลางอากาศและกำลังจะพุ่งผ่านเลยไป จนผลลัพธ์ที่ได้..
ฉ่า..!!!!!!
ตุบ..!!!!!
ใบดาบเลเซอร์ที่ปาดเสยเข้าสู่ลำคอของไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าได้ตัดแยกศรีษะของมันให้กระเด็นหลุดขาดออกจากลำคอ ผมไม่รอช้ารีบเอื้อมมือออกไปคว้าหัวของมันเอาไว้.
ฟุบ..!
หมับ..!!!
ร่างที่ไร้ซึ่งหัวของไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าได้ลอยไปตกกระทบลงกับพื้น ก่อนจะกลิ้งตะเกียดตะกายไปมา ส่วนหัวของมันที่ผมกำลังถืออยู่ก็กระตุกสั่นไหว..
“กรรซ..! หงิ๋ง..!”เสียงสุดท้ายที่ดังออกมาจากหัวที่กุดขาด ทันทีที่มันสงบนิ่ง ผมก็ได้ยกหัวของมันขึ้นมา ก่อนจะจับพลิกเพื่อหันหน้ามาดู..
“ไม่เห็นจะต่างอะไรกับพวกหมาป่าธรรมดา แค่ใหญ่กว่านิดหน่อยก็เท่านั้น..”ผมที่กล่าวออกมา ส่วนสายตาก็พลางจ้องไปที่หน้าของไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่า โดยที่สีหน้าของมันในตอนนี้กำลังตาเหลือกลิ้นห้อย..
“ฝีมือฉันเป็นยังไงบ้างจ้อน..?”ผมที่ถามกับไอ้จ้อน ก่อนจะโยนหัวของไอ้เจ้าหมาป่าลงกับพื้น..
“เก่งครับเก่ง..~”ไอ้จ้อนที่ชมผม แต่น้ำเสียงของมันกลับฟังดูเหมือนกำลังประชด..
“เห๋..หนึ่งต่อสี่สิบเชียวนะเว้ย..”ผมที่กล่าวกับไอ้จ้อน
“เหอะ..สองกองร้อยจู๋ก็เห็นมาแล้ว จู๋คงชินแล้วล่ะ..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
“เฮ้อ..ซะงั้น..”ผมที่ถอนหายใจออกมา ในระหว่างนั้นก็เดินไปควักเอาลูกตาจากศพของพวกทหารโนโทเปีย พร้อมกับถอดเป้ที่สะพายมาและใส่ลูกตาที่ควักมาเก็บเอาไว้..
“สะ..สยองง่ะ อันนี้ไม่เข้าใจ ทำไปเพื่ออะไร..?”ไอ้จ้อนที่ถามผม..
“แค่จะเอากลับไปขิงน่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยจัง เหมือนกับว่าตัวฉันเมื่อสมัยก่อนเคยทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ ก็อย่างที่บอกไปครั้งก่อนนั่นแหละ น่าจะเป็นงานอดิเรกอะไรทำนองนั้นแหละมั้ง..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน พลางพยายามนึกถึงความทรงจำในสมัยก่อน แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก..
ก่อนที่หลังจากนั้นผมจะใช้เวลาเกือบ 10 นาทีในการควักเอาลูกตาของศพ บางศพที่เป็นผู้หญิงผมก็ได้ใช้ร่างกายนั้นในการเพิ่มพลัง X ฟอร์ส ด้วยการจับหน้าอก ถ้าไม่ติดว่าระยำได้แค่นี้ ผมคงจะเหลือศัตรูเอาไว้สักคนหรือไม่ก็อึ๊บศพไปนานแล้ว..
“ไม่มีแจ่มๆเลยแฮะ..”ไอ้จ้อนที่บ่นออกมาอย่างเซงๆ ไม่ใช่ไม่แจ่มเว้ย แต่นี่มันศพ..!
“เอาล่ะ..วางไว้ตรงนี้ เดี๋ยวขากลับค่อยแวะมาเอา..”ผมที่วางกระเป๋าเป้ไว้ตรงโคนต้นไม้ ก่อนจะเตรียมออกปฏิบัติการต่อ..
“เดี๋ยวๆ นี่แกกะจะกวาดที่เดียวหมดป่าเลยเหรอ..?”ไอ้จ้อนที่ถามผม มันคงคิดว่าผมจะมาจัดการแค่หน่วยเดียวแล้วก็กลับ..
“หึ..ก็แหงสิ เพราะว่าฉันน่ะ..มันตัวตึงเอลเดียเชียวเว้ย..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา นี่เป็นเพียงแค่การทักทายเท่านั้น ผมยังไม่ได้ใช้ความสามารถของเอมพาสที่ได้มาใหม่เลย ต่อจากนี้ต่างหากล่ะ..ของจริง..!
ไรท์:คอมเม้น..!!!