แสงที่ 85 ท่านครับ..ศัตรูซุ่มยิง ส่งจ่าเซนินไป..~
ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาทหาร ไม่ว่าใครก็ต่างพากันตกตะลึงจนตาค้าง โดยเฉพาะไอรินที่จ้องหน้าของผมด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับ ก่อนที่ผมจะย่อตัวลงไปหยิบผ้าคลุมสีขาวขึ้นมาสวมใส่..
“อะ..อึก..”เหล่าทหารที่ต่างพากันกลืนน้ำลาย พลางหันหน้ามองกันและกัน ก่อนที่สุดท้ายแล้ว..
ฟุบ..!
พรึ้บ..!
ร่างของเหล่าบรรดาทหารเกือบยี่สิบนายที่พากันชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนที่ทุกๆคนจะยกฝ่ามือขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์..
“กระผมต้องขออภัยที่ก่อนหน้านี้..ปะ..ปฏิบัติตัวไม่ดีกับท่านไป..”หนึ่งในทหารที่กล่าวออกมา..
“ดิฉันเองก็ด้วย..”
“พวกเราก็ด้วย ทะ..ที่พูดไม่ดีไป อยากจะให้ท่านช่วยอภัยให้ ต่อจากนี้พวกเราจะทำตามคำสั่งของท่านอย่างไม่มีข้อสงสัย..”
เสียงเหล่าบรรดาทหารที่ต่างพากันกล่าวออกมา ทุกๆคนต่างกลับมาศรัทธาผมอย่างเต็มเปี่ยม..
“เฮ้อ..ฉันได้ยินมาจนเบื่อแล้วแบบนี้ พอพวกแกได้เห็นฝีมือของฉัน ก็รีบแสร้งทำมาเป็นขอโทษ รู้งี้ก่อนหน้านี้ฉันน่าจะปล่อยให้พวกแกเข้าไปตายกับไอ้เจ้าวีรบุรุษนั่นจริงๆ..”ผมที่ถอนหายใจกล่าวออกมาอย่างหน่ายๆ พอเหล่าบรรดาทหารได้ยินก็ถึงกับหน้าเสีย ต่างคนต่างพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิด..
“แต่ฉันจะทำเป็นมองข้ามให้อีกสักครั้งก็ได้ เพราะยังไงภารกิจก็ต้องดำเนินต่อไป..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อพวกทหารได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันเงยหน้าขึ้น ก่อนจะจ้องมองมาที่ผมด้วยความซาบซึ้งใจ ความใจกว้างที่ผมมอบให้ มันคงจะทำให้ต่อจากนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งหรือทำตัวเหิมเกริม..
“ขะ..ขอบคุณครับ/ค่ะ ท่านผู้บัญชาการ..!!!”เหล่าทหารที่ต่างพากันกล่าวออกมา
“สิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกให้รู้เอาไว้ พยัคฆ์ของแท้น่ะ มันไม่โชว์เขี้ยวโชว์เล็บให้ใครเห็นหรอกนะ หรือแม้แต่อินทรีมันก็ไม่สยายปีกโดยไร้เหตุผล
ต่อจากนี้เวลาจะตามใครก็ไตร่ตรองดูให้ดีซะก่อน ว่าอันไหนพยัคฆ์ของจริงหรือแค่หมาที่อยากจะทำตัวเป็นพยัคฆ์ มันดูไม่ยากหรอก
สำหรับทารอนถ้าพวกแกอยากที่จะเป็นพยัคฆ์ก็จงตามพยัคฆ์ แต่ถ้าอยากจะเป็นหมาก็จงเดินตามหมา..”ผมที่ประกาศคำคมออกมา ก่อนจะหันไปถามเซนินที่กำลังนั่งอึ้งอยู่..
“จริงไหมครับ..?”
“หึ..ก็ตามนั้นแหละ พูดได้น่าสนใจดีหนิ..”เซนินที่ตอบกลับ เพราะเขาเองก็เป็นพยัคฆ์ที่กำลังซ่อนเขี้ยวซ่อนเล็บอยู่..
“ครับ/ค่ะ..!!!!”เหล่าทหารที่ต่างพากันตะโกนขานรับ โดยเฉพาะทหารของทารอน ดูเหมือนว่าคำพูดของผมจะคมบาดใจพวกเขามากๆ จนบางคนถึงขั้นแอบจดไว้..
“เอาล่ะ..ต่อไป ฉันจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ทุกๆคนได้ฟัง..”ผมที่เปิดประเด็นขึ้นมา ก่อนจะเริ่มอธิบายสาเหตุว่าทำไมผมถึงรู้ว่ามีศัตรูซ่อนตัวอยู่..
ซึ่งทันทีที่สไปร์สและเซนินรวมไปถึงเหล่าทหารได้รับรู้ ทุกๆคนก็ต่างพากันทึ่งในความฉลาดและช่างสังเกตของผม..
“ถ้าแกบอกตั้งเนิ่นๆ ไอ้เจ้านั่นกับทหารอีกสองนายก็คงจะไม่ตายหรอก..”เซนินที่กล่าวออกมา เขาที่ได้รับฟังเรื่องราวก็เปิดประเด็นตำหนิผมในทันที ส่วนพวกทหารที่ได้ยินแบบนั้น ทั้งๆที่ควรจะมองผมในแง่ลบเหมือนกับตอนแรก แต่ทว่าพวกเขากลับยืนนิ่งไม่พูดอะไร..
“อธิบายไปมันก็เท่านั้นแหละครับ คนมันไม่ฟังพูดไปยังไงมันก็ไม่ฟัง อีกอย่างถ้าจะให้ต้องพูดกับไอ้เจ้านั่นผมเก็บน้ำลายเอาไว้กลืนเล่นยังมีประโยชน์กว่าเลย..”ผมที่บอกกับเซนิน ก่อนจะใช้คำพูดที่เขาพูดก่อนหน้านี้มาตอกหน้าของเขา..
“ก็อย่างที่จ่าบอกกับผมไปก่อนหน้านี้นั่นแหละ ในสถานการณ์จริงจะมีใครมาสนใจฟังคำสั่งของผมกันล่ะ..”
“อะ..อึก นะ..นี่แก..”เซนินที่ถึงกับหน้าแหย เมื่อถูกคำพูดที่ตัวเองเคยพูดตอกเข้าหน้า แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว..
“ฉันชักจะสนใจแกขึ้นมาแล้วสิ..”เซนินที่กล่าวกับผม ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาทหาร มีทหารบางคนที่เริ่มจะชักสีหน้าไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าเซนินพูดจาดูไม่ให้ความเคารพผม..
“อย่างงั้นเหรอครับ..? จริงสิ..ผมมีภารกิจที่อยากจะให้จ่าทำอยู่..”ผมที่เปิดประเด็นกับเซนิน จู่ๆสมองก็นึกแผนอะไรบางอย่างขึ้นมาได้..
“หืม..? ภารกิจของฉันงั้นเหรอ..ได้สิ จะให้ฉันทำอะไรล่ะ ท่านผู้บัญชาการ..”เซนินที่หรี่ตาลงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเลิ่กคิ้วกระตุกรอยยิ้มตอบกลับ
“ไม่ต้องรีบร้อนไป..ก่อนอื่นเลย ฉันจะให้ทุกๆคนปักหลักพักอยู่ที่ครึ่งชั่วโมง..”ผมที่ตอบกลับเซนิน ก่อนจะหันไปบอกกับเหล่าทหาร
“หะ..หืม..? ทำไมล่ะ..”สไปร์สที่เอ่ยถามขึ้น..
“พวกเราจำเป็นที่จะต้องรอ สาเหตุที่ทำไมไอ้พวกที่กำลังซุ่มยิงจากระยะไกลจู่ๆก็หยุดยิง เป็นเพราะว่าตอนนี้พวกมันกำลังเคลื่อนพลลงมาจากจุดซุ่มยิง เพื่อที่จะลอบเข้ามาโจมตีกองกำลังของพวกเราจากทางด้านหลัง..”ผมที่กล่าวออกมา พอเหล่าทหารได้ยินแบบนั้นก็เตรียมที่จะทำการเปิดวงจร ทุกๆคนต่างพากันหันไปมองรอบๆด้วยความตื่นตระหนก..
“ไม่ต้องตื่นตระหนกไป..ยังไงพวกมันที่กำลังลงมาก็คงจะเปลี่ยนใจถอยร่นกลับขึ้นไปอยู่ที่จุดซุ่มยิงตามเดิมอย่างแน่นอน..”ผมที่บอกกับเหล่าทหาร ทำให้ทุกๆคนหยุดชะงัก..
“ทำไมถึงคิดว่าพวกมันจะถอยกลับไปล่ะ..?”สไปร์สที่เอ่ยถาม..
“สาเหตุที่ทำไมพวกมันถึงตัดสินใจลงมาจากจุดซุ่มยิง ก็เพื่อที่จะลงมาช่วยสนับสนุนไอ้กองกำลังที่ผมพึ่งจะฆ่าไปเมื่อกี้ แต่ถ้าเกิดพวกมันมาเห็นว่ากองกำลังดังกล่าวถูกกำจัดไปแล้ว ยังไงพวกมันก็คงไม่โง่พอที่จะดันทุรังลงมาตายแน่ๆ..”ผมที่อธิบายเหตุผล ทำให้เหล่าทหารต่างพากันอึ้ง ก่อนที่ผมจะเริ่มบอกถึงแผนการ..
“พวกเราจะเปลี่ยนเส้นทางในการเคลื่อนพล เราจะไม่อ้อมเข้าไปในช่องแคบ เพราะไอ้กองกำลังที่ถอยร่นกลับขึ้นไป มันจะต้องกลับไปประจำตำแหน่งและเปลี่ยนมาใช้ยุทธวิธีซุ่มยิงพวกเราต่อ เพราะฉะนั้นเราจะเดินเลาะโขดหินและเคลื่อนพลเข้าสู่หุบเขาลาติสจากทางด้านหน้า..”ผมที่บอกถึงแผนการ..
“ถะ..ถึงต่อให้เปลี่ยนไปเส้นทางนั้นยังไงพวกศัตรูก็สามารถที่จะซุ่มยิงพวกเราได้อยู่ดี..”สไปร์สที่กล่าวออกมา
“ก็ถูกต้องอย่างที่ท่านพันตรีกล่าว แต่ผมมีเหตุผลอยู่ ในตอนนี้ผมสามารถระบุพิกัดของศัตรูทั้งหมดได้แล้ว พวกมันมีอยู่ด้วยกันสองกลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มที่อยู่บนหน้าผานั่นกับอีกกลุ่มที่อยู่บนภูเขาตรงนั้น
ถ้าเกิดเคลื่อนพลไปยังทิศทางที่ผมบอก เราจะปะทะกับกองกำลังซุ่มยิงเพียงแค่กลุ่มเดียว เพราะยังไงระยะการยิงของอีกกลุ่มที่ซุ่มอยู่บนหน้าผาก็คงจะยิงมาไม่ถึง แต่ถ้าเกิดคิดที่จะไปทางช่องแคบ เราก็จะถูกโจมตีโดยกองกำลังจากทั้งสองกลุ่ม ถ้าเป็นท่านจะเลือกไปทางไหนล่ะ..?”ผมที่อธิบายเหตุผลให้สไปร์สได้ฟัง แต่อันที่จริงไม่ว่าจะไปทางไหนมันก็ยิงเราไม่ได้อยู่ดี เพราะถ้ายิงได้พวกมันน่าจะยิงผมไปแล้ว..
“แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าระยะการยิงของพวกมันไกลแค่ไหน..?”
“คำนวนจากตำแหน่งล่าสุดของพวกมันมายังโขดหินที่พวกเรากำลังอยู่ ก่อนหน้านี้ถ้าระยะการยิงของพวกมันสามารถยิงมาจนถึงโขดหินได้จริงๆ ทุกๆคนก็คงจะถูกเด็ดหัวไปแล้ว แสดงว่าระยะการยิงหวังผลสูงสุดของพวกมันเต็มที่ก็อาจจะแค่ 4 เมตร นับจากโขดหินออกไป ไม่งั้นมันจะเอาเหยื่อมาวางล่อให้พวกเราออกไปในลานเหรอ..?”ผมที่โชว์การคำนวนให้สไปร์สและเหล่าทหารทุกๆนายได้ฟัง ทุกๆคำพูดมีเหตุผลมารองรับ จนไม่ว่าใครก็ต่างพากันทึ่ง..
“การคาดเดาของนายดูมีเหตุผล เอาตามนั้นก็ได้..”สไปร์สที่กล่าวออกมา..
“เมื่อกี้ท่านพูดว่าอะไรนะ..?”ผมที่ชักสีหน้าไม่พอใจเอ่ยถามกับสไปร์ส..
“อะ..อะไรของแก ฉันพูดอะไรผิด..?”
“ในระหว่างที่ผมปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บัญชาการ ชีวิตของทหารทุกๆนายล้วนแล้วแต่ฝากเอาไว้ที่ผม ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าข้อมูลที่ผมบอกมันจะต้องตรงตามนั้น ไม่มีการคาดเดาใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับที่จำเป็นจะต้องคาดเดาจริงๆ อัตราการคาดเดาจะต้องสูงถึง 90% ผมจะไม่มีวันสั่งให้ทหารต้องไปเสี่ยงตายเพราะการคาดเดา ยกเว้นแต่ทหารพวกนั้นจะขัดคำสั่งหรือโง่เข้าไปตายเอง..”ผมที่เปล่งเสียงกล่าวออกมา พอสไปร์สและทุกๆคนได้ยินก็ต่างพากันอึ้ง แววตาที่จ้องมองมันแสดงออกถึงความซาบซึ้งใจและเคารพผมซะจนไม่สามารถที่จะบรรยายได้
“เอาใหญ่ๆ ~ แต่อย่าใหญ่มาก เดี๋ยวเขารู้..”ไอ้จ้อนที่กล่าวแซว..
‘รู้หรอกน่า..’
“อย่างงั้นเองสินะ ถ้างั้นขอโทษด้วยก็แล้วกันถ้าฉันพูดอะไรที่ไม่เข้าหูออกไป กะแล้วเชียวว่าเบื้องบนตัดสินใจไม่ผิดที่ส่งแกมา..”สไปร์สที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม แม้แต่แววตาของเธอที่มองมาทางผมก็แปรเปลี่ยนไปจากเดิม..
“ถ้าอย่างงั้นแยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่ขอเน้นย้ำให้พยายามหลบอยู่หลังโขดหิน..”ผมที่บอกกับทุกๆคน..
“รับทราบ..!!!”เสียงของเหล่าบรรดาทหารที่ขานรับ ก่อนที่ทุกๆคนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน..
“อั่ก..!”ร่างของผมที่ยืนอยู่พลันยกฝ่ามือขึ้นมากุมหน้าอก ส่งผลทำให้เหล่าทหารต่างต้องพากันหันกลับมามอง
“ท่านผู้บัญชาการ..!”เหล่าทหารบางส่วนที่ทำท่าจะเดินเข้ามาดูอาการของผม แต่ผมก็ยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้ ไม่เว้นแม้กระทั่งอาเซียที่นั่งอยู่ เธอจ้องมองและทำท่าจะฝืนลุกขึ้นยืน แต่กลับต้องลงไปนั่งตามเดิม เมื่อเห็นว่าไอรินได้เดินเข้ามาถึงตัวของผมก่อน
“นายเป็นอะไร หรือว่าเมื่อกี้จะถูกยิง..?”ไอรินที่เดินเข้ามาดูอาการของผม สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความเป็นห่วง
“ปะ..เปล่า เงื่อนไขเอมพาสน่ะ..”ผมที่บอกกับไอริน เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่สไปร์สจะลุกเดินเข้ามาประคองผม..
“เธอถอยไปก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเอง..”สไปร์สที่บอกกับไอริน ก่อนจะเข้ามาพยุงผมพาเดินหลบไปยังโขดหินที่อยู่ห่างไกลออกไป
ซึ่งหลังจากที่สไปร์สพาผมมาถึงโขดหินที่เป็นจุดลับจากสายตา เธอก็ทำการประคองวางร่างของผมลง..
“เวรเอ้ย..จะเอายังไงล่ะทีนี้..”สไปร์สที่สบถออกมา โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าไอรินจะแอบสะกดรอยตามมาด้วย
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ถึงขนาดต้องมีอะไรกัน ตอนนี้ผมสามารถยื้อเงื่อนไขออกไปได้นานสุดถึง 2 วัน แต่ยังไงก็ต้องทำอะไรสักอย่าง..”ผมที่บอกกับสไปร์ส พอเธอได้ยินก็ขมวดคิ้วย่น..
“แล้วไอ้ที่ว่าทำอะไรสักอย่างมันคืออะไรล่ะ..?”สไปร์สที่เอ่ยถามผม..
“จูบ..”ผมที่ให้คำตอบกับเธอ..
“ห้ะ..? เดี๋ยวสิ..ที่พวกเราตกลงกันไว้มันไม่ใช่แบบนี้นะ..”สไปร์สที่ถึงกับร้องเสียงหลงกล่าวออกมา..
“ก็มันช่วยไม่ได้หนิครับ ท่านก็รู้ว่าเงื่อนไขเอมพาสของผมคือการถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์ทางเพศ และสิ่งที่ผมต้องการจากท่านมากที่สุด ไม่ใช่เซ็กซ์แต่เป็นจูบต่างหาก..”ผมที่บอกกับสไปร์ส เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไป ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลง..
“แต่เค้าอยากได้เซ็กซ์ง่ะ..”ไอ้จ้อนที่แย้งขึ้น..
‘หุบปาก..ฉันจะเอาจูบ ยิ่งได้สิ่งที่เธอห่วงแหน มันก็ยิ่งทำให้ฉันมีอารมณ์..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน ก่อนที่มันจะหดตัวกลับลงไป..
“ขะ..เข้าใจแล้ว..”สไปร์สที่ดูเหมือนจะลังเลอยู่นานในท้ายที่สุดก็ให้คำตอบ เธอพลันขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนเอวของผม ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา..
ฟุบ..
สไปร์สที่ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับหลับตาพริ้ม ริมฝีปากสีแดงของเธอพลันเคลื่อนเข้ามาจูบประทับที่ริมฝีปากของผม ก่อนที่พวกเราทั้งสองจะค่อยๆขยับริมฝีปากจูบผสานกันอย่างแผ่วเบาตามจังหวะ..
ในช่วงจังหวะที่ริมฝีปากของสไปร์สจูบเข้ามา ผมก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอม มันเป็นกลิ่นเฉพาะที่ผู้หญิงแต่ละคนจะมีไม่เหมือนกัน อีกทั้งมันยังทำให้หัวใจของผมเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ..
“อ้าม อืม..”ริมฝีปากของผมกับสไปร์สที่เข้าสอดผสานตามจังหวะผละเข้าผละออก ในขณะที่จูบศรีษะของผมกับเธอก็เคลื่อนตะแคงสลับซ้ายขวา ก่อนที่สุดท้ายแล้วสไปร์สจะค่อยๆผละริมฝีปากออกไป..
“…”สไปร์สที่ผละริมฝีปากออก เธอกับผมจ้องสบสายตากันอยู่ชั่วขณะ ใบหน้าของเธอในตอนนี้มันช่างเย้ายวน ก่อนที่ต่อจากนั้น..
ฟุบ..
ผมกับสไปร์สที่ประกบริมฝีปากเข้าใส่กันอีกครั้ง แต่ทว่าในครั้งนี้พวกเราทั้งสองต่างโถมริมฝีปากเข้าใส่กันอย่างร้อนแรง อีกทั้งยังสลับกันบดขยี้
โดยร่างของสไปร์สที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนเอว พลันเอื้อมมือทั้งสองข้างขึ้นมาจับที่แก้มของผม พลางเคลื่อนตัวขยับโยกเอวตามจังหวะในขณะที่บดขยี้ริมฝีปาก ก่อนจะสอดแทรกลิ้นเข้ามาพัวพัน..
แม้จะเป็นเพียงแค่การจูบ แต่ทว่ามันกลับทำให้อารมณ์ของพวกเราต้องพลุ่งพล่าน ฝ่ามือของผมในตอนนี้กำลังลูบไล้ไปที่แผ่นหลังของสไปร์ส ก่อนจะเลื่อนลงมาบีบจับที่บั้นท้ายของเธอ
ริมฝีปากของพวกเราที่สอดผสาน พร้อมกับลิ้นที่เข้าพัวพัน มันช่างร้อนแรงจนผมเกือบจะอดใจไม่ไหวและคิดที่จะกดร่างของสไปร์สให้นอนลง แต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างเอาไว้ ก่อนที่มันจะบานปลายมากไปกว่านี้
《ชาร์จพลัง X ฟอร์ส 100 หน่วย》
“หยุดแค่นี้ไหม..?”สไปร์สที่ถอนริมฝีปากออก ก่อนจะเอ่ยถามผม..
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้น พวกเรายังมีภารกิจที่ต้องทำอยู่..”ผมที่บอกกับสไปร์ส โดยที่แก้มของเธอก็กำลังขึ้นสีอยู่นิดๆ
“อย่างงั้นเองสินะ หืม..?”สไปร์สที่ตอบกลับสตาร์ แต่แล้วในช่วงจังหวะนั้นสายตาของเธอก็เหลือบมองไปเห็นไอรินที่กำลังแอบซุ่มมองอยู่หลังโขดหิน.
โดยที่ไอรินในตอนนี้กำลังเบิกดวงตากว้างโต เธอดูเหมือนจะกำลังช็อคเมื่อได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสตาร์กับสไปร์ส..
แต่แล้วทันทีไอรินเห็นว่าสไปร์สสังเกตเห็นเธอ เธอก็เตรียมที่จะวิ่งออกจากที่ตรงนี้ แต่ทว่า
“จริงสิ..ฉันว่าจะถามนายมาตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเห็นว่าจ่าสิบตรีไอรินพยายามจะเข้าหานาย แถมยังมองนายด้วยสายตาเหมือนกับว่าเธอกำลังแอบชอบนายอยู่ นายสังเกตเห็นหรือเปล่า..?”สไปร์สที่เปิดประเด็นเอ่ยถามขึ้น ทำให้ไอรินที่กำลังจะวิ่งไปต้องหยุดชะงัก ก่อนจะเอาหลังผิงเข้ากับโขดหิน พร้อมทั้งตะแคงหูฟัง..
“เห็นครับ..”ผมที่ตอบกลับไปตามตรง ดูเหมือนว่าเจ๊สไปร์สแกจะพยายามทำตัวเป็นแม่สื่อ คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าไอรินกำลังแอบฟังอยู่..
“แล้วนายไม่สนใจเธอเหรอ สวยๆแบบนั้นฉันว่าน่าจะทำให้แกเลื่อนระดับเอมพาสได้เร็วขึ้นนะ..”สไปร์สที่กล่าวออกมา..
“ดูท่านพูดเข้าสิ ทำอย่างกับผมเห็นผู้หญิงเป็นเครื่องมืออย่างงั้นแหละ ถ้าผมคิดแบบนั้นจริงๆป่านนี้ผมกลายเป็นผู้ใช้เอมพาสระดับดาวแดงแล้วล่ะมั้ง..”ผมที่กล่าวกับสไปร์ส แน่นอนว่าผมไม่ใช่พ่อพระ แต่การจะฟาดใครมันต้องมีสไตล์ ของแบบนี้มันต้องลีลาท่าเยอะเอาไว้ก่อน พอได้จริงๆมันถึงจะตื่นเต้น..
“หึ..ก็พูดไปงั้นแหละ แล้วแกไม่ชอบเธอเหรอ..?”
“ถ้าถามว่าชอบไหมก็ชอบนะครับ..แต่การที่ผมชอบเธอมันยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่าผมจะไม่มีทางไปคบกับเธอเด็ดขาด ท่านเองก็น่าจะรู้ว่าผมจริงจังกับใครไม่ได้ ถึงต่อให้ไอรินจะชอบผม แต่ถ้าเกิดผมไปคบกับเธอ เธอเองจะเป็นฝ่ายที่ต้องทุกข์ใจมากที่สุด คิดว่าเธอจะรับได้เหรอถ้าผมต้องไปมีอะไรกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เฮ้อ..ก็มันช่วยไม่ได้ล่ะนะ..เงื่อนไขเอมพาสผมมันเป็นแบบนี้หนิ..”สตาร์ที่กล่าวกับสไปร์สพลางถอนหายใจ ซึ่งพอไอรินที่ได้ยินแบบนั้น เธอก็เข้าใจทุกอย่าง ร่างของหญิงสาวที่แอบฟังอยู่ค่อยๆก้มหน้าลงไป เธอกำลังนึกไตร่ตรองอะไรบางอย่าง..
“แล้วในกรณีของฉันล่ะ..?”สไปร์สที่เอ่ยถาม พอไอรินได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้น ก่อนจะตะแคงหูฟัง..
“ท่านกับผมสบายใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ ผมคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ปัญหานะครับ อีกอย่างที่พวกเรากำลังทำอยู่มันก็คือส่วนหนึ่งของภารกิจ..”
“เฮ้อ..รู้แล้วน่าไม่ต้องย้ำหรอก แกมาย้ำตอนที่จูบฉันไปแล้ว ฉันเองก็แอบเจ็บอยู่นิดๆนะ..”สไปร์สที่ถอนหายใจกล่าวออกมา..
“แต่ถ้าท่านรับได้และต้องการความสัมพันธ์แบบคนรัก ผมเองก็ไม่รังเกียจหรอกนะครับ..”ผมที่ตอบกลับสไปร์สพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ไหนเมื่อกี้บอกว่าถ้าชอบใครแล้วจะไม่ไปคบเด็ดขาดไง..? ย้อนแย้งนะแกน่ะ..”สไปร์สที่แย้งขึ้น..
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายยอมรับได้หรือเปล่า ถ้ารับได้ผมเองก็จะดูแลเป็นอย่างดี ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรัก แต่ผมจะรักทุกๆคนเท่าๆกัน พูดแล้วผมอยากทำลูกกับท่านจัง..”ผมที่ให้คำตอบอย่างมีชั้นเชิงและทำท่าจะจับสไปร์สกด..
“หะ..ห้ะ หยุดเลย…ฉันยังท้องตอนนี้ไม่ได้นะ อยะ..อย่างน้อยๆก็ขอติดยศพันโทก่อน..”สไปร์สที่ร้องเสียงหลง เธอรีบใช้สองมือดันหน้าอกผมเอาไว้..
“ผมแค่พูดเล่นน่ะครับ..”ผมที่ตอบกลับสไปร์ส พลางฉีกรอยยิ้มกวนประสาทออกมา..
“หึ..แล้วแกคิดว่าฉันพูดจริงหรือไง ไอ้เด็กเวร..”สไปร์สที่รู้ทันอยู่แล้วพลันผลักผมจนเกือบจะหงายหลัง ก่อนที่เธอจะชันตัวลุกออกไป..
“เอาเถอะ..ก่อนจะกลับไป ฉันอยากจะเตือนแกเอาไว้ ถ้าแกไม่ได้มีใจให้กับจ่าสิบตรีไอริน แกก็บอกเธอไปตรงๆซะ และอย่าคิดที่จะได้เล่นกับความรู้สึกของเธอเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นถึงต่อให้แกจะเป็นใครมาจากที่ไหน แกน่ะ..ได้ซวยของจริงแน่..!”สไปร์สที่กล่าวเตือนผมด้วยความหวังดี สีหน้าของเธอนั้นดูจริงจังเป็นอย่างมาก..
“ครับผมจะจำเอาไว้..”
สิ้นคำตอบของสตาร์ ร่างของไอรินที่ยืนอยู่ก็เดินก้มหน้าจากไปในทันที ส่วนทางด้านของสไปร์สก็เดินออกจากที่ตรงนี้ ก่อนจะกลับไปรวมตัวกับพวกทหาร..
ไม่กี่นาทีต่อมา..
ซึ่งหลังจากที่ผมจัดการเติมพล้ง X ฟอร์ส และต่อเวลาในโหมด X จนเสร็จ ผมก็ได้ตามสไปร์สกลับมายังจุดรวมตัว..
โดยทันทีที่ผมเดินกลับมา ไอ้พวกทหารก็มองมาทางผมด้วยแววตาแปลกๆ พลางส่งเสียงซุบซิบนินทากัน..
“ก่อนหน้านี้แกก็เห็น เงื่อนไขเอมพาสของท่านผู้บัญชาการคือการจับหน่มน้มไม่ผิดแน่..!”
“เออใช่ๆ ฉันเห็นมากับตาเลยนะเว้ย..!”
“น่าอิจฉาชิบหายเลย ฉันอยากมีเงื่อนไขแบบนั้นบ้างจัง..”
“หยี๋..น่ากลัว ฉันต้องอยู่ห่างๆจากเขาแล้วสิ..”
เสียงของพวกทหารกลุ่มหนึ่งที่พากันนินทาผม พวกผู้ชายต่างอิจฉาริษยา ส่วนทหารที่เป็นผู้หญิงก็ยกแขนขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้
ทางด้านของอาเซียที่นั่งอยู่ก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับการพูดคุยของพวกทหาร เธอก้มหน้าลงมามองยังหน้าอกขนาดคัพ C ของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดฟุ้งซ่าน ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ..
ดูเหมือนว่าในตอนนี้อาเซียจะไม่ได้ร้องไห้แล้ว ผมสังเกตเห็นว่าเธอมองมาที่ผมด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความเข้มแข็งและมุ่งมั่น ก็ไม่รู้หรอกนะว่าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าคิดที่จะมาขอกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน บอกเลยว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
ถัดมาที่ทางด้านของไอริน เท่าที่ผมสังเกตเห็นดูเหมือนว่าเธอจะเลิกจ้องหน้าของผมแล้ว ในตอนนี้เธอกำลังยืนก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไร ส่วนทางด้านของเซนินก็ดูเหมือนจะปลีกตัวไปนั่งกระดกเหล้าแบบชิวๆอยู่คนเดียว
“จ่าเซนิน..ผมพร้อมแล้ว พวกเรามาคุยถึงเรื่องภารกิจที่คุยค้างกันเอาไว้เลยเถอะครับ..”ผมที่เดินเข้าไปหาเซนิน และพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
“หืม..? ว่ามาสิ อยากจะให้ฉันทำอะไรอย่างงั้นเหรอ..?”
“หึ..ผมอยากจะให้จ่าขึ้นไปจัดการกับพวกพลซุ่มยิงให้หน่อย เดี๋ยวผมจะชี้พิกัดให้..”ผมที่เปิดประเด็นกับเซนิน ซึ่งเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเป็นแสดงสีหน้าตื่นตระหนก
“ห้ะ..? เดี๋ยวสิ..จะให้ฉันไปคนเดียวเหรอ..?”
“ใช่ครับ.. ก็อย่างที่บอกไปพลซุ่มยิงของศัตรูมีกำลังพลอยู่ 10 คน แถมพวกมันยังกระจายตำแหน่งกัน สิ่งที่ผมอยากจะให้จ่าทำคือไปจัดการกับพลซุ่มยิงเพียงแค่คนเดียว เพราะถ้าฆ่าไอ้เจ้านั่นได้มันจะทำให้พวกเราเคลื่อนพลได้ง่ายขึ้น ส่วนเหตุผลที่ทำไมผมถึงส่งจ่าไปแค่คนเดียว นั่นก็เพราะถ้ายกโขยงกันไปศัตรูก็จะสังเกตเห็นได้ง่าย..”ผมที่ให้เหตุผลกับเซนิน..
“ภารกิจที่ผมมอบให้จ่ามันช่วยการันตีความสำเร็จของภารกิจ พอจ่าฆ่าไอ้พลซุ่มยิงนั่นเสร็จจ่าก็รีบถอยออกมาเลย..”
“เข้าใจแล้ว..แกนี่มันฉลาดจริงๆ ถ้างั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง..”เซนินที่กล่าวออกมา เขายอมที่จะทำภารกิจนี้..
“ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าพันโทอย่างคุณจะปลอมตัวมาอยู่ในภารกิจเล็กๆนี้..”ผมที่กล่าวออกมา พอเซนินที่ได้ยินแบบนั้นก็เบิกดวงตากว้างขึ้น..
“นะ..นี่แกรู้ได้ยังไง..? อย่าพูดไปล่ะ ฉันถูกส่งมาเพื่อทำภารกิจลับ..”เซนินที่กล่าวออกมา หึ..ตาลุงนี่ก็แค่ตามน้ำ พันโทงั้นเหรอ..เปล่าเลย สถานะของเขาสูงกว่านั้นเยอะ..
“ครับๆ ยังไงก็ฝากด้วย ส่วนพิกัดของศัตรูที่ผมจะให้จ่าไปจัดการ อยู่ที่ตรงนั้น..ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บนภูเขานั่น ถ้าเป็นไปได้ก็ระวังตัวให้ดี เพราะในระยะ 15 เมตรใกล้ๆมีพลซุ่มยิงคนอื่นๆซ่อนตัวอยู่..”ผมที่บอกกับเซนินพลางชี้ไปยังวัตถุหรือต้นไม้ที่ใช้ในการระบุพิกัด..
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างงั้นฉันจะอ้อมไป..”เซนินที่กล่าวออกมา พร้อมกับชันตัวลุกขึ้นยืน..
“ถ้าจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ในกรณีที่จ่าถูกจับได้ให้หนีลงมาที่ทางเดิม ในระหว่างนั้นผมกับกองกำลังก็คงจะเคลื่อนตัวไปสมทบแล้ว..”
“เข้าใจแล้ว..”สิ้นเสียงขานรับ เซนินที่ก็เดินออกไปในทันที แต่ทว่า..
“จ่าเซนินครับ..”ผมที่เรียกขานเซนิน พลางใช้มือเสยผมขึ้นเพื่อจัดทรง..
“ว่าไง..?”
“ภารกิจนี้สำคัญมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามถอยเด็ดขาดจนกว่าจะกำจัดพลซุ่มยิงได้ เราจะแพ้หรือชนะก็ขึ้นอยู่กับจ่าแล้ว..”ผมที่กล่าวกับเซนินด้วยแววตาที่จริงจัง..
“เข้าใจแล้วน่า..ก็แค่ฆ่าคนๆเดียว คิดว่าฉันจะทำไม่ได้หรือยังไงกัน..?”เซนินที่กล่าวออกมา โดยที่ผมก็พยักหน้าส่งรอยยิ้มให้ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะเดินจากไป
“สตาร์..ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้แกบอกว่าพลซุ่มยิงมันรวมตัวอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ..? แล้วไหงจู่ๆพวกมันถึงตัดสินใจกระจายตัวไปได้ล่ะ..?”ไอ้จ้อนที่ถามผมด้วยความสงสัย เมื่อผมได้ยินแบบนั้นก็แสยะรอยยิ้มออกมา..
“หึ..ก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ มันรวมตัวอยู่ด้วยกัน..”
“อะ..อึก เดี๋ยวนะ..นี่แกคงไม่ได้คิดจะให้จ่าเซนินไป….”
“กลยุทธ์หลอกพยัคฆ์เข้าบ่วงนายพราน ไหนขอดูหน่อยซิ..ว่าเสาหลักแห่งทารอนจะทำอะไรได้บ้าง..”ผมที่แสยะรอยยิ้มสุดแสนจะชั่วร้ายออกมา ถึงเวลาที่จะต้องใช้สมองบ้างแล้ว ถ้าจัดการทุกอย่างคนเดียวหมดคงเหนื่อยแย่..
“ชะ..เชี้ย..~ ถูกจับได้นี่โดนกระทืบม้ามแตกเลยนะ เหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกผู้บัญชาการผู้ทรงคุณธรรม…!”
ไรท์:คอมเม้น..!!~ กลับมาแล้ว..