The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 248 แผนการที่ล้มเหลว

ฝนตกอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ทว่าหลินมู่อวี่และฉินอินก็ออกเดินทางทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาใช้เงินที่ได้รับจากการแสดงเมื่อคืนซื้อเสื้อคลุมใหม่สองตัวที่สามารถกันฝนได้ ซึ่งจำเป็นต่อการเดินทางของทั้งคู่

“น้องหลิน เหตุใดจึงตาแดงเยี่ยงนี้?” ตู้ยี่หมิงเอ่ยถามขณะที่จูงม้า

หลินมู่อวี่ไม่สามารถพูดอย่างตรงไปตรงมาได้ว่า เขานอนไม่หลับเนื่องจากเสี่ยวอินในอ้อมแขนพลิกตัวไปมาทั้งคืน…มีหวังนางได้ฆ่าเขาแน่ จึงตอบไปว่า “ข้าไม่ชินกับการนอนฟูก จึงนอนมิค่อยหลับ”

“โอ้ เป็นเช่นนั้นเองหรือ ข้ามีโอสถสงบจิต หากสหายหนุ่มต้องการมัน”

“มิเป็นไร ขอบคุณมาก”

หลินมู่อวี่ไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณคนมากเกินไป ดังนั้นจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เขาเดินมาด้านข้างฉินอินและช่วยนางขึ้นหลังม้า “ไปกันเถิด ออกเดินทางกันได้แล้ว”

“อืม”

ฉินอินพยักรับหน้าด้วยรอยยิ้มและใบหน้างามสีแดงระเรื่อ  แสงแดดเรืองรองยามเช้าทำให้ฉินอินงดงามราวกับเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ขณะที่มองหลินมู่อวี่อย่างงุนงง ตามดังคาด…สาวงามเช่นนี้ ช่างเป็นอาวุธร้ายแรงสำหรับชายหนุ่ม หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่ฉินอินเอ่ยถามเมื่อคืน

“อาอวี่ เจ้าชอบข้าหรือเสี่ยวซี?”

“ทั้งคู่”

“แล้วเจ้าชอบคนไหนมากกว่า?”

“ทั้งคู่…”

“ฮึ่ม! คนบ้า! เจ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีกหรือ?!” องค์หญิงผู้เลอโฉมเริ่มโกรธ “เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าคนเดียวเท่านั้นในภายภาคหน้า…โอ้ ไม่สิ เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าได้มากกว่าเล็กน้อย มิเช่นนั้นข้าจะให้เสด็จพ่อตัดเบี้ยเลี้ยงของเจ้า!”

“ไม่เป็นไร ข้ามีเงิน…”

“ฮึ่ม! ข้าจะโกรธจนวันตายเลย…”

ผู้หญิงมักขี้อิจฉา ส่วนผู้ชาย…ควรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมได้ง่ายที่สุด ทว่าความใจแคบนั้นเลวร้ายกว่าผู้หญิงมาก!

ทั้งสามขี่ม้าบนถนนอวิ้นจงอย่างเชื่องช้า หลินมู่อวี่ถือร่มและที่หลับตาโคจรหลอมกระดูกมังกรพร้อมฝึกฝนพลังยุทธ์ ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ทว่าไม่พบรัศมีที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีผู้ใดติดตามพวกเขามา ตู้ยี่หมิงด้านข้างพยายามประจบฉินอิน ส่วนมังกรนภาติดตามพวกเขาอยู่ด้านหลังห่างไปไม่ไกลในผืนป่า

“อาจารย์ตู้ ท่านกล่าวจะสอนทักษะสยบสัตว์ร้ายแก่เสี่ยวอินมิใช่หรือ?” จู่ๆ หลินมู่อวี่ก็ถามขึ้น

ตู้ยี่หมิงพลันนึกขึ้นได้ “โอ้ ข้าเกือบลืมไปเลย…เอาล่ะ ข้าจะเริ่มสอนคาถาใช้ทักษะสยบสัตว์ร้ายให้แก่แม่นางเสี่ยวอิน กล่าวตามข้า…วิญญาณสัตว์อสูรนับหมื่นล้วนมีอาจารย์ สวรรค์สรรค์สร้างการใช้งานอย่างไม่มีสิ้นสุด…”

หลินมู่อวี่หลับตาและไม่ได้เรียนรู้ กระนั้นฉินอินคงสอนเขาเมื่อนางเรียนรู้ทักษะแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้นตู้ยี่หมิงก็เริ่มสอนฉินอินถึงวิธีเชื่อมต่อจิตวิญญาณ ทว่า…ฉินอินทำไม่สำเร็จ หลังจากลองอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าของนางได้เลย ตู้ยี่หมิงพลันตีไปที่หัวม้าของเขาและพูดว่า “เจ้าม้า ส่งเสียงร้องให้ข้าสามครั้ง”

ทันใดนั้นม้าก็โงหัวขึ้นและส่งเสียงร้องสามครั้งอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าตู้ยี่หมิงมีทักษะพิเศษ

‘ฮี้…’

ฉินอินหลับตาลง แต่ก็ยังไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าได้ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนรน

หลินมู่อวี่กล่าวอย่างอ่อนโยน “อย่ากังวลไป ค่อยๆ ลอง”

ด้วยคำพูดหลินมู่อวี่ ฉินอินรู้สึกสงบลงทันใด นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “อืม…”

สิ่งนี้ทำให้ตู้ยี่หมิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยขณะที่มีท่าทางหึงหวง

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินฝนก็หยุดตกทันที

ฉินอินเปิดเสื้อคลุมที่หน้าอกออกและดึงหมวกลงปล่อยผมยาวปลิวไสวตามสายลม เธอลูบใบหน้าที่เปียกและเผลอโดน ‘กระ’ เมื่อหลินมู่อวี่บังเอิญเห็นมันติดมือฉินอินจึงรีบพูดเตือน “เสี่ยวอิน นั่น…ของเจ้า?”

“หืม?”

ฉินอินไม่รู้ว่าหลินมู่อวี่หมายถึงสิ่งใด ขณะที่มองเขาด้วยตากลมโต “อะไรหรือ?”

ตู้ยี่หมิงหันมาเห็นใบหน้าขาวราวกับหิมะของฉินอิน ความงดงามอันไร้ที่ติปรากฏขึ้นตรงหน้าจนทำให้ตกตะลึงและแข็งเป็นหิน “มีสาวงามเช่นนี้อยู่บนโลกด้วย…”

ฉินอินสังเกตเห็นทันทีว่ากระของเธอหลุดออกมา ทว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตื่นตูม พวกเขาไม่มีทางซ่อนมันจากตู้ยี่หมิงได้…

หลินมู่อวี่ผู้สงบนิ่งยิ่งกว่าจึงพูดขึ้น “ใส่มันกลับไป…”

“อืม”

ฉินอินติดกระกลับไปบนหน้าซึ่งทำให้ความงามลดลงไปกว่าครึ่ง

หลินมู่อวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ตู้ น้องสาวตัวน้อยของข้ามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทว่าโลกนี้โหดร้ายเกินไป เพื่อความปลอดภัยของนาง เราจึงต้องซ่อนมันไว้ ข้าหวังว่าท่านจะช่วยพวกเราเก็บมันไว้เป็นความลับ”

“แน่นอน…แน่นอนอยู่แล้ว…”

ตู้ยี่หมิงพยักหน้าขณะที่พูดว่า “นี่ก็เริ่มดึกแล้ว เราเดินทางต่ออีกหน่อยเถิด เพื่อดูว่ามีโรงเตี๊ยมหรือไม่?”

“อืม ได้สิ”

ไม่นานพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ตู้ยี่หมิงเดินนำเข้าไปและพูดขึ้น “ข้ารู้จักกับเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งเป็นสหายเก่านามว่า หลิวจุน เขาจะเตรียมห้องที่ดีที่สุดให้กับเรา”

“อืม ขอบคุณท่านมาก”

เมื่อเข้ามาด้านในก็พบชายหน้าตาหยาบกร้านอายุราวสามสิบปีเดินออกมา เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “พี่ตู้ ไม่ได้เจอกันนานเลย การท่องยุทธภพเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดี ดี!”

ตู้ยี่หมิงตบหัวมังกรนภาเบาๆ “น้องหลิว ข้าและสหายทั้งสองต้องการที่พักคืนนี้ รบกวนช่วยจัดหาที่พักให้เราสองห้องได้หรือไม่?”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา”

หลิวจุนหัวเราะขณะที่จ้องมองเรือนร่างฉินอินไม่วางตา

หลินมู่อวี่รู้สึกโกรธเล็กน้อย หลิวจุนผู้นี้ช่างไม่มีมารยาทและต่ำทรามยิ่งนัก ทว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของหลิวจุน ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงทำได้เพียงอดทนต่อไป!

คราวนี้พวกเขาได้ห้องที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง มีฟูกสองฟูกและนุ่มมาก อย่างน้อยหลินมู่อวี่คงได้พักผ่อนอย่างมีความสุขในคืนนี้ หากต้องนอนฟูกเดียวกับฉินอินอีกครั้ง คงเป็นการยากที่หลินมู่อวี่จะหลับตาลง

หลังจากทานอาหารเย็น พวกเขาก็เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ

แต่เพื่อความปลอดภัย หลินมู่อวี่จึงปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณ เขาไม่ต้องการนอนหลับลึกเกินไปขณะที่ตื่นตัวตลอดเวลา ฉินอินนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่ด้านข้างพร้อมใบหน้างามหันมาทางหลินมู่อวี่

หลังเที่ยงคืนหลินมู่อวี่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมถอนหายใจ

ทักษะชีพจรวิญญาณของเขาแผ่ออกไปยังรัศมีโดยรอบ พบจอมยุทธ์ขอบเขตมนุษย์ระดับสามที่ชั้นล่างสองคน พวกเขาถือว่าเป็นจอมยุทธ์มีฝีมือ ทว่าก็อ่อนแอเกินกว่าที่หลินมู่อวี่จะสนใจ

ไม่นานทักษะชีพจรวิญญาณก็มาถึงห้องของตู้ยี่หมิง ทว่ากลับพบสองคนในนั้น! ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก!

หลินมู่อวี่เพิ่มพลังปราณยุทธ์ทันทีและเพิ่มพลังให้แก่ทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อฟังบทสนทนาของตู้ยี่หมิงและหลิวจุน

“พี่ตู้ คนพวกนั้น…เจ้าพบพวกเขาได้อย่างไร? อีกทั้งเด็กสาวนั่นงดงามยิ่งนัก!”

“น้องหลิวตาดีจริงๆ รู้หรือไม่กระบนใบหน้าหลินอินนั้นเป็นของปลอม! เมื่อนางดึงมันออกจะกลายเป็นเด็กสาวที่งดงามเกินพรรณนา! แม้แต่ข้าก็หยุดตกหลุมรักนางไม่ได้!”

“เป็นจริงอย่างที่พี่ตู้ว่าหรือ?”

“แน่นอนว่าเรื่องจริง! หากไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาติดตามข้ามาเพื่อเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายละก็…เจ้าเด็กเหลือขอชื่อว่าหลินอวี่นั่นคงไม่มีทางมากับข้า ฮ่า…ใครจะไปรู้ว่าข้าแอบเปลี่ยนคาถาที่สอนพวกเขาไปเล็กน้อย หลินอินไม่มีทางเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายได้อย่างแน่นอน ไม่ว่านางจะฉลาดเพียงใด”

“พี่ตู้ เราควรเริ่มลงมือเมื่อไหร่ดี? เจ้าเด็กหลินอวี่นั่นดูเหมือนจะมีดาบสองเล่ม คงแข็งแกร่งไม่น้อย”

“อืม อย่างดีที่สุดคงไม่เกินขอบเขตปฐพีระดับที่หนึ่ง…หลังเที่ยงคืนเมื่อกำยานคงออกฤทธิ์ จากนั้น…ฮ่าๆ เราก็จะเล่นสนุกกับหลินอินและฆ่าเจ้าเด็กหลินอวี่ ก่อนจะขายหลินอินให้แก่โรงเตี๊ยมชื่อดังในเมืองหลันเยี่ยนเพื่อเป็นนางบำเรอ ฮ่า! ด้วยรูปลักษณ์ของหลินอิน เราคงขายนางได้อย่างน้อยหมื่นเหรียญทอง!”

“เอาล่ะ ข้าจะไปเตรียมกำยาน!”

“ดี!”

หลินมู่อวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและถอนหายใจ คนพวกนั้นชั่วร้ายอย่างแท้จริง! เขาพลันแตะไหล่เสี่ยวอินและเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวอิน ตื่นเถิด”

ไม่รู้ว่าฉินอินกำลังฝันถึงสิ่งใด นางพลันอ้าแขนคว้าตัวหลินมู่อวี่และพึมพำ “พี่อาอวี่…”

เสียงเรียกของฉินอินทำให้หลินมู่อวี่ใจกระตุกวูบ ก่อนที่หลินมู่อวี่จะเปิดฝ่ามือปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณเข้าสู่จิตใต้สำนึกหญิงสาวตรงหน้า ฉินอินลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “พี่อาอวี่ กำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ?”

“ข้ามิได้ทำอะไร…”

หลินมู่อวี่ส่ายหัวก่อนหยิบโอสถเทพประสานออกมาสองขวด “ตู้ยี่หมิงและหลิวจุนต้องการใช้กำยานเพื่อทำร้ายเรา นี่คือโอสถเทพประสานที่สามารถต้านทานพิษได้ เสี่ยวอิน ดื่มมันสิ”

“อืม”

ฉินอินดื่มโอสถเทพประสานอย่างเชื่อฟัง และหลินมู่อวี่เองก็ดื่มอีกขวด เขาเอนตัวลงบนฟูกและพูดว่า “แกล้งทำเป็นหลับซะ ค่อยสังหารหลังจากพวกมันลงมือก็ไม่สายเกินไป”

“อืม…”

หลังจากรอมานาน ในที่สุดก็มีเสียงดังมาจากนอกห้อง หน้าต่างกระดาษถูกเจาะพร้อมควันหอมลอยเข้ามา หลินมู่อวี่และฉินอินยังคงแกล้งหลับต่อไป

ผ่านไปสิบนาทีประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมหลิวจุนและตู้ยี่หมิงเดินเข้ามา หลิวจุนถามขึ้น “พวกเขาสลบไปหรือยัง?”

“แน่นอน กำยานวิญญาณร้อยพิษของข้ามีชื่อเสียงโด่งดัง”

หลิวจุนเดินไปด้านหน้าและเขย่าไหล่หลินมู่อวี่ “เจ้าเด็กหลิน ตื่น!”

หลินมู่อวี่ทำเป็นไม่ได้ยินราวกับหลับสนิท

“ฮ่าๆ เขาสลบจริงด้วย!”

หลิวจุนหัวเราะก่อนจะเดินเข้ามาที่ฟูกของฉินอิน “หากแม่นางผู้นี้เช็ดเครื่องสำอางออก ก็คงกลายเป็นเทพธิดาตกสวรรค์เป็นแน่ ฮ่า! ถึงเวลาให้ข้าจูบแล้ว”

ขณะเดียวกันตี้ยี่หมิงก็ชักดาบออกมา “ให้ข้าส่งหลินอวี่ไปสวรรค์ก่อนเถิด!”

ทันใดนั้น! ก็มีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาขณะที่น้ำเต้าทองแทงทะลุพื้นพันธนาการตู้ยี่หมิงอย่างรวดเร็ว! ก่อนจะชักดาบเหล็กตวัดออกไปพร้อมปราณยุทธ์ควบแน่นบนใบดาบ!

“ข…ขอบเขตนภา…”

ดวงตาตู้ยี่หมิงเบิกโพลงขณะที่ดาบยาวแทงทะลุหัวใจอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะพูดจบ

ฉินอินเบิกตากว้างพร้อมกรีดร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อหลิวจุนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันมังกรนภาก็พุ่งตะปปกรงเล็บไปที่ฉินอิน

‘วิ้ง…’

ประกายแสงโซ่เทวะกระจายออกทะลวงช่องท้องของมังกรนภาและปลิดชีพมันทันที!

‘พรึ่บ…’

หลิวจุนกระโดดออกหน้าต่างหลบหนีไป

หลินมุ่อวี่พลันกระโดดออกมาพร้อมดาบและมองไปในความมืดรอบบริเวณ ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของหลิวจุนเลย เนื่องจากเขาไม่ใช่จอมยุทธ์ หลินมู่อวี่จึงใช้ทักษะชีพจรวิญญาณค้นหาไม่ได้

“ฝากไว้ก่อนเถิด…”

หลินมู่อวี่พ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะกระโดดกลับไปที่ชั้นสอง “เสี่ยวอิน เราจะออกเดินทางกันคืนนี้ คงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว”

“อืม!”

หลินมู่อวี่ก้มลงสำรวจศพตู้ยี่หมิง ก่อนจะหยิบม้วนคัมภีร์ลับออกจากอกเสื้อซึ่งมีตัวหนังสือเขียนว่า ‘ทักษะเชื่อมจิต’

เขามอบตำรานี้ให้ฉินอิน ก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมม้า

ที่มุมหนึ่งของคอก มีม้ากำลังฉี่ใส่หัวชายผู้หนึ่ง เขานั่งยองๆ ร่างกายสั่นเทิ้มและพูดพึมพำ “พระเจ้า…นั่นเขาเป็นใครกัน น่ากลัวเหลือเกิน…พี่ตู้ เจ้าเป็นสหายที่ตายระหว่างทำตามแผนการ หลับให้สบายเถิด เราจะจดจำตู้ยี่หมิงตลอดไป!”

……………

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God | ทะลุมิติเทพศาสตรา
Status: Ongoing
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset