ตอนที่ 429: ซ่อนสายเลือด
กุสตาฟและแองจี้ก็ได้ยินชื่อของตนเองที่ถูกเปล่งออกมาโดย AI ที่ติดตั้งภายในอาคาร “ไปที่โรงละครเพื่อปฏิบัติการเสริมความแข็งแกร่งของคุณ”
“หืม?” แองจี้อุทานด้วยความประหลาดใจบนใบหน้าของเธอ แต่เธอก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน กุสตาฟไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และยืนขึ้นก่อนจะเดินไปทางทิศใต้ของห้องรอคิว ซึ่งเป็นตําแหน่งที่ประตูห้องโรงละครตั้งอยู่
เขากับแองจี้เดินเข้าไปด้วยกันและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองขนาดใหญ่ มีโครงสร้างหุ่นยนต์เคลื่อนย้ายสารเคมีจํานวนมากไปรอบๆ และช่วยนักวิทยาศาสตร์ในชุดขาวในการทํางานข้างหน้ามีที่กักกันขนาดใหญ่สูงส่ง 2 แห่ง พวกมันมีรูปร่างเป็นทรงกลมและโปร่งใสและมีของเหลวสีทองเรืองแสงอยู่ภายใน
ผนังห้องแล็บติดแผ่นสีเงินสะท้อนแสง ซึ่งไม่เพียงแต่ทําให้สถานที่ดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่บางอย่าง เช่น การอนุรักษ์และการป้องกันไม่ใช่แค่นั้น ห้องแห่งนี้ยังมีภาพฉายโฮโลแกรมขนาดใหญ่แขวนอยู่ด้านบน และคริสตัลสีน้ําเงินขนาดใหญ่ประจําการอยู่ที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ที่ฝังไว้กับกําแพง
นักเรียนชั้นเรียนพิเศษ 2 คนสามารถมองเห็นได้จากข้างหน้า เห็นได้ชัดว่า 2 คนนี้เพิ่งเสร็จสิ้น การเสริมความแข็งแกร่งของสายเลือด กุสตาฟต้องการเปิดใช้งาน ดวงตาเทพเจ้าเพื่อสังเกตว่ามีอะไรแตกต่างไปจากเมื่อก่อนหรือไม่ แต่เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าโครงสร้างภายในเริ่มต้นของพวกมันเป็นอย่างไร เพราะเขาแทบจะไม่สนใจผู้คนเลย
“นี่เธอ 2 คน” ชายวัยกลางคนที่มีดวงตาคู่หนึ่งบนใบหน้าของเขาเรียกทั้งสองคน เขายืนอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดทดลองเช่นกัน
กุสตาฟสงสัยว่า 2 คนนั้นเป็นนักเรียนชั้นปีสุดท้ายที่อยู่ในแผนกวิทยาศาสตร์ของค่าย MBO หรือไม่ กุสตาฟและแองจี้เดินผ่านด้านข้างของนักเรียน 2 คน ขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ซึ่งทั้งคู่ก็ทักทายเขา
“ยินดีต้อนรับ กุสตาฟ คริมสัน, แองจี้ วิล- วิลลา-โดร… เธอออกเสียงอีกให้ฟังหน่อยสิ” ชายวัยกลางคนมีหน้าตาแปลก ๆ ขณะที่เขาพยายามออกเสียงชื่อเธอไม่สําเร็จๆ
“มันคือวิลันโดรมาเดีย” แองจี้แก้ไขให้
“อ๋อ ไม่เป็นไร… ฉันชื่อดร. ลีวาย 2 คนนี้ชื่อไซเมียนและซิริน่า” เขาแนะนําตัวเองโดยไม่ต้องกังวลใจอะไรมากแล้วพูดต่อ
“ตอนนี้ฉันอยากให้คุณทั้งคู่ถอดเครื่องแบบและกางเกงในออกก่อนจะใส่มัน” ดร.ลีวายพูดกับทั้งคู่ ขณะที่ไซเมียนและซิริน่ายื่นผ้าขาวให้ทั้งคู่ห้อง
“อืม เราควรจะเปลี่ยนตรงไหนดี?” แองจี้ถามหลังจากมองไปรอบๆ ไม่เห็นที่ใดเปลี่ยวเหมือน
“คุณทั้งคู่ไปที่นั่นก็ได้” ดร.ลีวายชี้ไปยังที่เก็บกักโปร่งใสทรงกลมขนาดใหญ่
“ไปเปลี่ยนที่หลังที่กักกัน… นั่นเป็นสถานที่คุ้มครองที่เพียงพอสําหรับคุณทั้งคู่” เขากล่าวเสริม แองจี้และกุสตาฟแสดงสีหน้าสับสน เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภาชนะทรงกลมคล้ายแก้วใสและมีของเหลวสีทองอ่อนอยู่ภายใน
“มันโปร่งใส…” กุสตาฟเตือน ‘หรืออาจจะไม่?’ ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่การแสดงออกของคนสวมชุดกาวน์
“นั่นคือของเหลวที่เป็นกลาง… ส่วนภาชนะที่บรรจุแก้วนั้นโปร่งใส แต่มันก็ไม่ใช่ของใสอย่างที่เห็นหรอก คุณสามารถเปลี่ยนด้านหลังได๋” ไซเมียน นักเรียนวิทยาศาสตร์ชายอธิบาย
แองจี้และกุสตาฟมีสีหน้าที่เข้าใจตรงกัน
“คุณไปก่อน” กุสตาฟพูดกับแองจี้และตัดสินใจรออยู่ข้างหลัง
แองจี้กําลังจะพูดคําเดียวกัน แต่เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ใส่ใจของกุสตาฟ ขณะที่เขาวางตัวให้สมดุลกับโต๊ะตัวหนึ่งที่ไขว้ขาทั้งสองข้าง
แองจี้หันกลับมาและมุ่งหน้าไปยังปลายสุดของห้องแล็บ “เฮ้ ทําอะไรน่ะเด็กน้อย อย่ามัวแต่จ้องสารเคมีของฉัน! เธอจะทําลายการทดลองของฉัน”
แองจี้ได้ยินเสียงดังของดร. ลีวายจากข้างบน ขณะที่เธอเคลื่อนไปยังห้องกักกันขนาดใหญ่ เธอคงนึกภาพออกว่ากุสตาฟจะตอบสนองอย่างเฉยเมยต่อค่าอุทานนั้นได้อย่างไร รอยยิ้มเล็ก ๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ไม่กี่นาทีต่อมา กุสตาฟและแองจี้ยืนอยู่บนแผงสี่เหลี่ยมด้านหลังตู้บรรจุทรงกลมขนาดใหญ่ที่สวมเสื้อผ้ารัดรูปสีขาวและมีหน้ากากทรงกลมสีดําปิดปากและจมูก
“คุณทั้งคู่พร้อมหรือยัง” ดร.ลีวายเปล่งเสียงออกมาจากข้างหน้า ทั้งสองตอบยืนยันและได้ยินเสียงของพวกเขาทั่วทั้งห้องแล็บ
“เริ่มกระบวนการแทรกแซง” ดร.ลีวายพูดกับซิริน่าที่พยักหน้าและกดปุ่มบนคอมพิวเตอร์โฮโลแกรมที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา
คริสตัลสีน้ําเงินทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของห้องแล็บสว่างขึ้น และส่วนขยายคล้ายหนวดแปลก ๆ บางหนวดก็พุ่งไปข้างหน้าและติดกับร่างกายของพวกเขาก่อนที่จะยกขึ้น กุสตาฟสังเกตเห็นว่าส่วนขยายที่เหมือนหนวดดึงพวกเขาเข้าหาที่กักกัน เขาถูกเคลื่อนย้ายไปทางซ้ายและแองจี้ไปทางขวา
วิ้วววว! ริ้วววว!
ทั้งคู่ถูกจุ่มลงในของเหลวสีทอง ในขณะที่ส่วนขยายคล้ายหนวดเหล่านี้พุ่งออกจากส่วนต่างๆของส่วนกักกันของเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ และติดอยู่กับส่วนของร่างกายที่แยกจากกัน
กุสตาฟมองไม่เห็นสิ่งใดในทะเลของเหลวสีทองสดใสนี้ ภายนอกดูเหมือนโปร่งใส แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เขายังรู้สึกว่าการรับรู้ของเขาถูกจํากัดที่นี่
-“ก๋าลังเริ่มการตรวจสายเลือด”
พวกเขายังคงได้ยินเสียงของ AI ขณะที่ร่างกายของพวกเขายังคงอยู่ในของเหลวสีทอง ในการฉายภาพด้านบน มีการแสดงโครงสร้างภายใน 2 โครงสร้าง เห็นได้ชัดว่าพวกมันคือร่างของกุสตาฟและแองจี้
(“ฉันจะต้องซ่อนสายเลือดอื่นๆ ในร่างกายนายตอนนี้… เทคโนโลยีนี้สามารถมองทะลุและพยายามคํานวณข้อมูลเกี่ยวกับสายเลือดของนายได๋”) จู่ๆ ระบบก็พูดดังขึ้นในใจของเขา
‘โอเค ท่าเถอะ’ กุสตาฟตอบ ในการฉายภาพ ข้อมูลทางสายเลือดของแองจี้ถูกคํานวณและแสดงรายละเอียดแล้ว แต่ของกุสตาฟยังอยู่ในกระบวนการเริ่มต้น
“สายเลือดที่มีความสามารถในการรวบรวมพลังแห่งธรรมชาติ… เธอไม่เพียงแต่ได้รับพรจากความเร็วเท่านั้น” ดร. ลีวายพยักหน้า ขณะที่กล่าวถึงคุณสมบัติของสายเลือดของแองจี้ทีละอย่าง “เหตุใดจึงใช้เวลานานในการเปิดเผยข้อมูลสายเลือดของเขา” ซิริน่านักเรียนหญิงอาวุโสถาม
ด้วยท่าทางสับสน ขณะแตะแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โฮโลแกรมซ้ําแล้วซ้ําเล่า
