การประกาศนั้นทำให้เฉินซีหยูกับพวกของเขาสตั้น
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ใดๆ นั่นแปลว่าผู้หญิงคนนี้นั้นมีรัศมีการฟื้นฟูอยู่กับตัว
ในตอนนั้น เฉินซีหยูและทีมของเขาได้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อเฟิงหลิงทันที
แม้ว่าการฟื้นฟูพลังชีวิตหนึ่งหน่วยต่อวิมันจะดูน้อยนิด แต่ด้วยสมาชิกกิลด์ที่มีมากมายนับร้อยคนที่อยู่ในกลุ่มการต่อสู้นี้ ถ้าบริเวณนั้นมันปกคลุมไปด้วยรัศมีที่กว้างพอ พวกเขาก็จะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้นับร้อยหน่วยต่อวินาทีและมันมากถึงหมื่นหน่วยต่อนาที
ในปัจจุบัน รัศมีการฟื้นฟูนั้นมีอยู่ในเกม แต่มันจะมีเวลาจำกัด สเกลการต่อสู้ขนาดใหญ่นั้นจะต้องใช้เวลาก่อนที่จะตัดสินผู้ชนะได้ การฟื้นฟูพลังชีวิตที่ไม่จำกัดนี้จึงสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ มากกว่านั้น จากการวิเคราะห์ เสียงร้องเพลงของหญิงสาวคนนั้นสามารถเพิ่มระยะได้
เธอจะต้องเป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพในการต่อสู้แบบกลุ่ม!
ความคิดนี้ได้เกิดขึ้นในหัวของเฉินซีหยูและทีมของเขา
จ้องไปที่เฟิงหลิงที่แบกเนื้อแดดเดียวมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ซูหลีพูดขึ้นทันที “น้องสาว เจ้าอยากได้เนื้อแดดเดียวอีกไหม?”
“แน่นอน!” เฟิงหลิงตอบแบบไม่ลังเล
“ตามพวกเรามาสิ ตราบใดที่เจ้าอยู่กับพวกเรา เจ้าจะมีเนื้อไม่จำกัดเลย พวกเรามีแผงตากปลาที่ชายฝั่งหลิวลี่อีกด้วย พวกเรามีเนื้ออบด้วยนะ” ซูหลีชักชวน
“ได้เลย!” เฟิงหลิงคนไม่ถึงวินาทีก่อนที่จะตอบตกลงในทันที
สมาชิกของกิลด์เกรทดราก้อนนั้นพูดไม่ออก
หลังจากที่ได้รู้ถึงความสามารถของเธอ เฉินซีหยูก็ตั้งใจจะโน้มน้าวเธอให้ขึ้นเรือรบของเกรทดราก้อน แต่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ เมื่อมองไปที่เฟิงหลิงผู้ไร้เดียงสา เฉินซีหยูก็รู้สึกผิดในทันที
มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะล่อลวงเธอ!
“อย่างไรก็ตาม ข้าต้องบอกคนในเผ่าของข้าก่อน เจ้าจะมาด้วยไหม?” เฟิงหลิงพูดในขณะที่เคี้ยวเนื้อแดดเดียวไปด้วย
“ตกลง ไปกันเถอะ”
เดิมทีเฉินซีหยูนั้นมาที่นี่เพื่อเก็บสมุนไพรซันเซ็ต แม้ว่าเขาจะได้พบกับหญิงสาวที่ไร้เดียงสานี้อย่างไม่คาดคิด แต่เขาก็ไม่ได้ลืมเป้าหมายของการมาที่นี่ สมาชิกของกิลด์เกรทดราก้อนจึงตามเฟิงหลิงเข้าไปที่พื้นที่ด้านในของเกาะซันเซ็ต
“เฟิงหลิง ที่นี่มีสมุนไพรซันเซ็ตเยอะไหม?” เฉินซีหยูถามด้วยความสงสัยขณะที่เดินไปในป่าที่เงียบงันและได้สังเกตเห็นสมุนไพรซันเซ็ตสีม่วงตลอดทาง
“ใช่ สมุนไพรซันเซ็ตนั้นเป็นพืชพื้นเมืองที่พบได้ทั่วไปบนเกาะนี้ นอกจากจะใช้กินแล้ว พวกเราจะนำมันมาป่นทำผงซันเซ็ตที่สามารถรักษาบาดแผลได้”
“ผงซันเซ็ต? เจ้ามีมันไหม?” เฉินซีหยูถาม
เฟิงหลิงหยิบถุงแป้งออกมาจากกระเป๋าสานของเธอที่คาดเอวของเธออยู่ เธอยื่นมันให้กับเฉินซีหยู
“นี่คือผงซันเซ็ต”
[ผงซันเซ็ต (การฟื้นฟูระดับสอง)]:
ข้อมูลไอเทม: ผงการรักษาที่ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าซิงกิ้งวู้ด ประกอบด้วยพลังงานวิญญาณของเผ่าซิงกิ้งวู้ด หลังจากกินเข้าไป พลังชีวิตของท่านจะฟื้นฟูหกหน่วยต่อวินาทีเป็นเวลาสามสิบนาที
หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของผงซันเซ็ต ในกิลด์แชทก็เอะอะ
“บอส พวกเราเจอผู้เชี่ยวชาญด้านโพชั่นแล้ว! พวกเราจะรวยแล้ว กิลด์เกรทดราก้อนของเราจะรุ่งโรจน์ในอีกไม่นาน!”
“บอส พวกเราลักพาตัวไปทั้งหมู่บ้านเลย สมุนไพรซันเซ็ตมีอยู่ทุกที่และมันก็แทบจะไม่มีต้นทุนใดๆเลย พวกเราสามารถเปิดร้านที่เนเธอร์เวิลด์ขายโพชั่นได้เลย และเหรียญวิญญาณก็จะลอบมาหาเรา”
เมื่อเขาได้ฟังคำแนะนำของสมาชิกกิลด์ หัวใจของเฉินซีหยูก็เต้นแรงขึ้น
ตอนแรก เขาวางแผนที่จะเก็บสมุนไพรซันเซ็ตจำนวนมากและเก็บสะสมเอาไว้ก่อนที่จะเอาไปขายทีละมากๆในตอนที่ทีมงานเปิดคลาสตัวละครสายอาชีพ เขาไม่คาดคิดว่าเผ่านี้จะสามารถสร้างโพชั่นในเกาะนี้ได้ มันสามารถพาให้พวกเขาร่ำรวยและมีอำนาจได้!
ด้วยความตื่นเต้น เฉินซีหยูและคนอื่นๆก็ตามเฟิงหลิงไปที่จุดหมาย
หมู่บ้านของเผ่าซิงกิ้งวู้ดถูกห้อมล้อมไปด้วยสมุนไพรซันเซ็ตสีม่วงที่เป็นเหมือนทะเล ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านอยู่ตรงกลาง ขณะที่บ้านของชาวบ้านถูกสร้างขึ้นตามกิ่งก้านของต้นไม้โบราณนี้ ดูเหมือนกับผลไม้ที่เติบโตอยู่บนต้นไม้ วิถีชีวิตของพวกเขานั้นเหมือนอยู่ในฝัน
ทันใดนั้นก็มีลมพัดมาอย่างแรง ทะเลสีม่วงปลิวสไวตามลม กลีบดอกไม้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า โลกทั้งใบกลายเป็นสีม่วงเหมือนกับเมืองแห่งความฝัน
“มันสวยงามมาก” ซูหลียื่นมือออกไปจับใบหญ้า รู้สึกเหมือนเธอได้กลับไปตอนที่ยังเป็นเด็ก
ตอนนั้นเฟิงหลิงได้ขยับริมฝีปากสีแดงของเธอและเป่าลมออกมาเบาๆ แสงสีเขียวลอยไปข้างหน้า แหวกพืชพรรณสีม่วงออกไปข้างๆและเส้นทางก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าของพวกเขา
“ไปกันเถอะ ข้าจะตามพวกเจ้าไปหลังจากที่ได้บอกลาเผ่าของข้า” เฟิงหลิงพูดด้วยความตื่นเต้น
เมื่อได้เห็นว่าเฟิงหลิงนั้นร่าเริง ซูหลีก็รู้สึกผิดเมื่อคิดว่าเธอจะต้องล่อลวงเด็กสาวที่ไร้เดียงสาไปสู่โลกภายนอก
เธอทำให้คิดถึงเผ่าวิญญาณไม้ ผู้ที่ไร้เดียงสาเช่นเดียวกันเฟิงหลิง แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นแบบทุกวันนี้ ซูหลีทำได้แค่ตัวสั่น
เธอบ่น “ฉันกำลังทำบาป”
เมื่อพวกเขาไปถึงต้นไม้โบราณ เฉินซีหยูก็หันกลับไปมองสมาชิกกิลด์ก่อนที่จะประกาศในแชทกิลด์
“พี่น้อง พวกเรามีคนมากเกินไป แค่ซูหลีและต้าหมางสองคนที่จะไปกับข้า ที่เหลือรอที่นี่”
เมื่อได้รับคำสั่ง ทั้งสามคนรวมทั้งเฉินซีหยูก็เดินขึ้นไปตามบันได
[เข้าสู่พื้นที่ฟื้นฟูของต้นไม้โบราณเงียบสงบ ฟื้นฟู 50 หน่วยต่อวินาที]
ประกาศเกมทำให้เฉินซีหยูและพรรคพวกมองไปที่ต้นไม้โบราณนี้ ลมที่อ่อนละมุนพัดผ่านอยู่รอบต้นไม้
[ต้นไม้โบราณเงียบสงบ (ราชาแห่งภูตระดับสูง)]:
คำอธิบายรายละเอียด: จิตวิญญาณคุ้มกันแห่งเกาะซันเซ็ตที่ได้บ่มพลังมานานนับแสนปี แต่พลังของเขาติดอยู่ที่ระดับราชาแห่งภูตระดับสูง เขาจึงปลดปล่อยพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขาเพื่อที่จะก้าวข้าวระดับ หวังที่จะมีชีวิตต่อไปด้วยความการตาย เมื่อต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาได้พบกับฤดูใบไม้ผลิ มันจะเป็นเวลาของพลังแห่งจักรพรรดิแห่งภูต
“โอ้โห ต้นไม้นี้แข็งแกร่งเทียบเท่าราชาแห่งทะเลเลย!” ดวงตาของซูหลีแทบปลิ้นออกมา
หวังต้าหมางที่ยืนอยู่ข้างๆ ยื่นมือที่สั่นเทาออกไปสัมผัสกับต้นไม้ด้วยสัญชาตญาณ
“นั่นเจ้าจะทำอะไร!” เฉินซีหยูตะโกนใส่เขา
“ข้า…ข้าอยากเอามันไปทำเป็นผง” หวังต้าหมางยิ้มแหยๆหลังจากที่ได้สติคืนมา
“มันแค่ได้รับความเสียหายแต่ไม่ได้ตาย ถ้านายสามารถชุบชีวิตมันขึ้นมาได้ล่ะ? อีกอย่างที่นี่เป็นพื้นที่ของเผ่าซิงกิ้งวู้ด อย่าทำอะไรไม่คิด” เฉินซีหยูบ่นใบช่องแชท
มองไปที่วัตถุดิบวิญญาณระดับราชาที่อยู่ด้านหน้าของพวกเขา หวังต้าหมางและซูหลีถอนหายใจฟอดใหญ่ รู้สึกเสียดายที่เขาอะไรกับต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้
ระหว่างการเดินทาง ใบหน้าที่สวยงามโผล่ออกมาจากบ้านที่แขวนอยู่บนต้นไม้ ดูเหมือนการสำรวจเฉินซีหยูและพรรคพวกของเขาว่าวางแผนชั่วร้ายอะไรไว้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เห็นเนื้อแดดเดียวที่อยู่ในมือของเฟิงหลิง เสียงกลืนน้ำลายก็ดังสนั่นก้องไปทั่วบรรยากาศ ทำให้เฉินซีหยูและเพื่อนของเขามองหน้ากัน
พวกเขาจะต้องคลั่งเนื้อแดดเดียวขนาดไหน? ความต้องการที่มีต่อเนื้อนั้นดูมากเกินไป!
“พี่เฟิงหลิง นะ..ในมือท่านใช่เนื้อหรือเปล่า?” เสียงที่เขินอายดังมาจากบ้านไม้ข้างๆ
พวกเขาหันไปมองที่เด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารักที่ดูอ่อนละมุนเหมือนกับตุ๊กตา เธอกัดนิ้วของเธอด้วยความเขินอาย แสงส่องประกายบนหยดน้ำที่หยดลงมาจากใบไม้ขณะที่ดวงตาก็เธอก็ส่องประกายด้วยความอยากที่มีต่อเนื้อพวกนั้น
เมื่อได้เห็น เฟิงหลิงมองไปที่เนื้อแดดเดียวที่อยู่ในมือของเธอ เธอยื่นมันออกไปด้วยมือที่สั่น
“ตั๋วตั๋วน้อย ม..มันคือเนื้อ เธอรับมันไว้สิ”
หลังจากตั๋วตั๋วรับเนื้อแดดเดียวไป เฟิงหลิงก็หลับตาลง ดูเป็นทุกข์มาก
เฉินซีหยู หวังต้าหมาง และซูหลี ไม่รู้จะพูดอะไร
“ขอบคุณมาก พี่เฟิงหลิง!” ตั๋วตั๋วพูดออกมาขณะที่น้ำลายไหล สายตาของเธอจ้องไปที่เนื้อนั่น เธอไม่แม้แต่จะเหลือบตาไปมองที่เฟิงหลิง
หลังจากพวกเขาบอกลาตั๋วตั๋ว เฟิงหลิงก็ดูเหมือนกับสูญเสียจิตวิญญาณของเธอไประหว่างการเดินทาง ขณะที่เธอเดิน ตัวเธอก็สั่นไปด้วย
เฉินซีหยูและพรรคพวกลุกลนกับท่าทีของเฟิงหลิงที่ดูเหมือนอกหัก
เผ่านี้หมกมุ่นอยู่กับเนื้อมากขนาดไหน? มันเหมือนกับว่าพวกเขาสูญเสียมรดกมูลค่ามหาศาลเลย