The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1057 – เงาอสูร

   เจ้าหมานั่นเป็นใครกันแน่? 

  ปิงหวูชิงโพล่งความสับสนในใจ

   ทั้งเจ้าอุบายมากกลยุทธ์ มันยังโหดร้ายมีเป้าหมายกำจัดทุกคน! มันเป็นแค่จ้าวสวนวิชาจริงหรือ? 

  ฮั่นเฟยไม่ค่อยเข้าใจนักนางพูดโดยไม่คิดอะไร

   จะต้องมีเหตุผลเบื้องหลังทุกสิ่งที่มันทำกับเราต้องพยายามขนาดนี้เพื่อฆ่าพวกเราทุกคนหรือ? หรือเป็นแค่การฆ่าอย่างไร้ความหมาย? 

  หมาดำย่อมต้องมีแรงจูงใจอื่นแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าแรงจูงใจนั้นคืออะไร

   ข้ารู้ 

  ตงฟางเถียนเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มนางเปิดสารจิวโจวในมือขาวราวหิมะ

  ทุกคนตาลุกวาวหากเป็นตระกูลบูรพาพวกเขาอาจจะรู้เรื่องประวัติศาสตร์จิวโจวในอดีตก็ได้

  แต่แดนมณีนี้เป็นสถานที่ที่พิเศษมากมันคือสถานที่ที่ผู้เคยมาในอดีตจะถูกห้ามบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมัน หากทำเมื่อใด พวกเขาจะถูกแดนมณีลิขิตการทำลายล้าง เหล่าเซียนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

   ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดอะไรอยู่แต่ความรู้เรื่องแดนมณีของพวกเจ้ามาจากไหนกัน? 

  ตงฟางเถียนเฟิงปัดผมที่ยาวลงมาบังหน้าอก

  ทุกคนคิดออกทันที

  ข้อมูลที่พวกเขาได้มานั้นมาจากผู้ดูแลสำนักทันทีที่แดนมณีมาถึง การตรวจจับของแดนมณีจะถูกปิดกั้น ในตอนนั้น เหล่าคนที่รู้ข้อมูลจะมีโอกาสบอกข้อมูลเล็กน้อยให้กับศิษย์ของตน แต่เวลานั้นแสนสั้น ข้อมูลที่พวกเขาได้ถือว่ามีจำกัด

  แต่ตระกูลบูรพานั้นมีแหล่งข่าวจากทั่วทั้งโลกและสารจิวโจวเองก็สามารถรับสารจากคนได้หลายพันล้านคน ยากที่จะจินตนาการได้ว่าในระยะเวลาสั้น ๆ ตงฟางเถียนเฟิงได้ข้อมูลมามากแค่ไหน มันจะต้องเป็นข้อมูลที่น่าตกใจแน่นอน!

  ในด้านความเข้าใจแดนมณีนางมีข้อมูลไม่ด้อยกว่ายอดฝีมือทุกคนรวมกัน

  เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจตงฟางเถียนเฟิงได้เปิดสารจิวโจว ข้อความมากมายปรากฏขึ้นมา

   จ้าวสวนวิชาสัตว์ประหลาดรูปลักษณ์สุนัขทมิฬ ปรากฏตัวครั้งแรกในแดนมณีครั้งที่สิบและไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย 

   ตั้งแต่ที่มันปรากฏตัวแดนมณีได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากแดนมณีที่มีสำหรับยอดฝีมือ มันได้กลายเป็นแดนสังหารอันโหดเหี้ยม 

   ทีแรกการมาของวิบัติทั้งห้าจะต้องตามด้วยพลังวิญญาณหนาแน่นมหาศาลและทรัพยากรบ่มเพาะเพื่อปลุกใจเหล่ายอดฝีมือให้พัฒนาตัวเองได้มากยิ่งขึ้น 

   ขณะเดียวกันหากพวกเขาเหล่านั้นตายจากวิบัติ พวกเขาจะถูกส่งตัวออกจากแดนมณี ซึ่งจะไม่มีอันตรายต่อชีวิตเลย 

   เมื่อหมาดำที่ไม่รู้ที่มาปรากฏตัววิบัติทั้งห้าได้เปลี่ยนแปลงแบบตรงกันข้าม วิบัติยังคงอยู่โดยไร้ซึ่งพลังหนาแน่นและทรัพยากร ความตายหมายถึงการตายของจริง เหล่ายอดฝีมือจะไม่ถูกส่งกลับไปยังจิวโจว 

   นับแต่นั้นมาแดนมณีก็ได้กลายเป็นทุ่งสังหารแทนที่จะเป็นแดนสมบัติ แต่ถึงอย่างนั้น แดนมณีก็ยังมีสิ่งที่จิวโจวขาดหาย จึงมียอดฝีมือหลายพันล้านคนที่ยังพยายามเข้าสู่แดนมณีอย่างกล้าหาญ 

  พวกเขาอ่านข้อความด้วยความตกใจความจริงก็คือแดนมณีคือดินแดนแห่งสมบัติจริงในยุคแรก! แต่หลังจากหมาดำปรากฏตัว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

  ตงฟางเถียนเฟิงใบหน้าตึงเครียดขึ้น   ตามจริงแล้วข้อมูลเหล่านี้มาถึงตระกูลเมื่อหลายพันปีก่อน! คนร้ายคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังผู้เฒ่าระดับสูงในตระกูลบูรพา มันคือวิญญาณทมิฬ! 

   ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นใครปรากฏตัวเมื่อไหร่ หรือมันมีพลังพิเศษอะไรที่เปลี่ยนแปลงแดนมณีได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแดนมณี! 

  ตงฟางเถียนเฟิงหยุดพักนางพูดต่อ

   ตามบันทึกแรกสุดของแดนมณียอดฝีมือจำนวนมากได้รับสมบัติจากแดนมณีมหาศาล พวกเขาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับจิวโจว! 

   แม้หลังจากที่เซียนมณีหมดลมหายใจมนุษย์ในจิวโจวก็ก้าวเข้าสู่อนาคตอันสดใสได้เมื่อถึงเวลา 

   แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปตั้งแต่แดนมณีครั้งที่สิบ!มีเพียงยอดฝีมือหนึ่งในสิบเท่านั้นที่รอดออกมาได้! แม้คนที่เหลือรอดจะได้สมบัติตามที่ข่าวลือบอกกล่าว แต่คนอีกเก้าส่วนก็ต้องตายไปอย่างน่าเศร้า ถูกฝังอยู่ในแดนมณีไปตลอดกาล! 

   รวมแล้วทรัพยากรที่จิวโจวได้จากแดนมณีนั้นลดลงไปเก้าส่วน! พวกมันตายไปพร้อมกับยอดฝีมือที่ตายไป! กำลังคนในแต่ละร้อยปีลดลงอย่างมหาศาล! 

   สิ่งนี้ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของจิวโจวในทุกยุคสมัยจนถึงวันนี้ จิวโจวได้อ่อนแอและแร้นแค้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพันปีก่อน แดนมณีได้เปลี่ยนจากขุมทรัพย์เป็นทุ่งสังหาร ถ้าหากไร้ซึ่งแดนมณี จิวโจวจะต้องเจริญรุ่งเรืองกว่านี้! 

  เรื่องราวเหล่านี้น่าตกใจเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดมันคือความลับที่โลกไม่เคยรับรู้

  แล้วเจ้าหมาดำพิลึกพิลั่นนั่นคือตัวตนแบบใดกันแน่?มันคิดอะไรอยู่ถึงได้สร้างการทำลายล้างและการเสื่อมถอยของจิวโจว?

   ข้ามีสองคำถาม    ปิงหวูชิงพูดด้วยเสียงลึกล้ำ

   ข้อแรกเจ้ายืนยันได้อย่างไรว่าจิวโจวไม่ได้เจริญรุ่งเรืองอย่างเก้าพันปีก่อน? 

  ตงฟางเถียนเฟิงหัวเราะในใจ

   เจ้ารู้เรื่องเมื่อเก้าพันปีก่อนหรือไม่?อสูรเนรมิตรมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน สำนักขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดล้วนมีอสูรเนรมิตรดูแล! 

   แต่ดูเขตกลางวันนี้สิ!สำนักขนาดเล็กและสำนักขนาดกลาง พวกเขาเหล่านั้นมีอสูรเนรมิตรคอยปกป้องหรือไม่? เจ้ารู้จักคนหนุ่มสาวยุคนี้กี่คนที่เป็นอสูรเนรมิตร? 

   ตั้งแต่ที่แดนมณีเปลี่ยนแปลงจิวโจวได้เสื่อมถอยลงทั้งกำลังคนและทรัพยากร 

   อสูรเนรมิตรยุคก่อนย่อมตกตายไม่ช้าก็เร็วถึงอย่างนั้นคนยุคใหม่กลับแตกดับไปกลุ่มใหญ่ เหลือแค่ไม่กี่คนที่รอดชีวิตจนเป็นอสูรเนรมิตรได้ 

  ทุกคนเก็บคำพูดนางไปเก็บถ้าเทียบตำหนักโลหิต ตำหนักเมฆาม่วง และดินแดนอื่น พวกเขาตระหนักได้ทันที พวกเขาขาดแคลนอสูรเนรมิตร!

  สำนักใหญ่อย่างตำหนักโลหิตมีเพียงม่อเทียนฉวนที่เป็นอสูรเนรมิตรรองจากเหล่าเซียนนอกจากนางก็ไม่มีแม้แต่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่ง ผู้ที่มีพลังสูงสุดรองจากม่อเทียนฉวนคือจ้าวเทวะ เป็นเช่นนี้มาสามร้อยปีแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอสูรเนรมิตรเกิดขึ้นมาใหม่แม้แต่คนเดียว เวลาจะยิ่งยาวนานขึ้นไปเรื่อยน ๆ

  เช่นเดียวกับตำหนักเมฆาม่วง!แม้ว่าจะดีกว่าดินแดนใหญ่อื่นเล็กน้อย อสูรเนรมิตรก็ขาดแคลนอย่างมาก ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!

  นี่คือคำถามที่รบกวนจิตใจซือหยูมานานเช่นกันสถานการณ์ของตำหนักโลหิตนับว่าย่ำแย่ พวกเขามีอสูรเนรมิตรเพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งจนน่าหมั่นไส้ แต่ก็ไม่มีอสูรเนรมิตรหน้าใหม่กำเนิดขึ้นมาในเวลาของยุคนี้เลย

  เหตุผลนั้นชัดเจนนั่นเป็นเพราะจำนวนยอดฝีมือที่สูญสิ้นไปในแต่ละยุคสมัย! เป็นไปได้ยากที่จะมีอสูรเนรมิตรกำเนิดขึ้นมาเมื่อมียอดฝีมือเหลือรอดชีวิตเพียงหนึ่งในสิบ

   คำถามที่สองหากรู้อยู่แล้วว่าแดนมณีคือพิษที่บ่อนทำลายจิวโจวทุกร้อยปี แล้วทำไมพวกเราถึงยังไม่หยุด? จิวโจวจะได้มีกำลังคนเหลืออยู่บ้าง 

  ตงฟางเถียนเฟิงหัวเราะเบาๆ

   เพราะว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์ยังไงล่ะ 

  ปิงหวูชิงอยากจะถามไปมากกว่านี้แต่ซือหยูถอนหายใจ

   ถ้ามีโอกาสที่ดินแดนพรสวรรค์จะได้กำราบศัตรูแต่ช้านานอย่างดินแดนมีดสวรรคต์แต่โอกาสนั้นมาพร้อมกับความเสี่ยงและดินแดนมีดสวรรค์เองก็รู้ว่ามีโอกาสนี้ เจ้าคิดว่าดินแดนพรสวรรค์จะทำอย่างไร?  ไอรีนโนเวล

  ปิงหวูชิงใจเต้นแรงถ้าดินแดนพรสวรรค์ไม่คว้าโอกาสไว้ ดินแดนมีดสวรรค์ก็จะเป็นฝ่ายเข้าไปเสี่ยง และเมื่อดินแดนมีดสวรรค์รอดออกมา ดินแดนพรสวรรค์จะคานอำนาจไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นดินแดนพรสวรรค์จึงต้องเข้ามาเสี่ยงด้วย

  เช่นเดียวกับดินแดนมีดสวรรค์พวกเขาคิดแบบเดียวกัน ถ้าหากพวกเขาไม่คว้าโอกาส เมื่อดินแดนพรสวรรค์ได้บางอย่างจากแดนมณี พวกเขาจะลงเอยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อน

  และต้องอย่าลืมว่ายังมีดินแดนมากอำนาจในจิวโจวอื่นนอกจากดินแดนพรสวรรค์และดินแดนมีดสวรรค์อยู่อีกจิวโจวมีมากกว่าสี่สิบดินแดน!

  ไม่มีใครคิดจะยอมละทิ้งโอกาสอันน่าตกตะลึงนี้ดังนั้นทุกขุมกำลังจึงต้องเข้าร่วมการต่อสู้แม้จะรู้ว่าต้องเสี่ยงอันตราย นี่จึงเป็นเหตุให้ผู้คิดร้ายทำตามแผนมาได้แม้จะผ่านเวลามานับหมื่นปี

   วิถีแห่งผู้ฝึกตนในจิวโจวจะเลวร้ายไปเรื่อยๆ ในแต่ละยุคสมัย สมบัติมากมายในอดีตได้สูญหายไป! นวัตกรรมในวิชาบ่มเพาะก็ยิ่งยากขึ้น 

   เช่นเดียวกับการศึกษาค้นคว้าโอสถใหม่ๆ ที่หายไป ทุกอย่างเสื่อมถอยลงและกำลังจะล่มสลาย! อีกไม่ถึงพันปี จะมีหลายสำนักที่ถูกลบหายไปจากโลกพร้อมกับสมบัติมีค่าของพวกเขา อารยธรรมต่าง ๆ จะถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์ 

   โลกของผู้บ่มเพาะพลังจะยิ่งคับแคบสุดท้าย โลกใบนี้จะอ่อนแอจนรับมือกับการรุกรานของพวกภูติผีไม่ได้ 

  คนจิวโจวไม่มีวันลืมสงครามระหว่างมนุษย์และภูติผีเมื่อร้อยปีก่อนตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจมันคือสงครามที่เกือบจะลบทุกคนให้หายไปจากทวีป!

   หรือก็คือจิวโจวกำลังจะสูญพันธุ์ ทั้งหมดก็เพราะแดนมณี! 

   นี่คืออนาคตที่ตระกูลบูรพาทำนายเอาไว้จากการดูรูปแบบของทวีปมาชั่วกัลป์!และมันก็เป็นการคาดเดาที่เข้าข้างตัวเองว่าโลกจะไปต่อได้ แท้จริงคือพวกเรามีเวลาอีกไม่ถึงพันปี อาจจะแค่อีกร้อยปี หรือในยุคสมัยนี้ ผู้มีพรสวรรค์ในจิวโจวจะถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น 

  ทุกคนพูดไม่ออกอยู่นานภูเขาลูกใหญ่ได้ทับกดดันจิตใจ

  ถ้าตงฟางเถียนเฟิงไม่บอกพวกเขาพวกเขาก็คงจะไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในยุคสมัยแบบใดอยู่

   ผ่านมาหลายแสนปีแล้วทำไมยังไม่มีใครหยุดมันเล่า? 

  ปิงหวูชิงส่ายหน้านางยังคงสงสัยในคำพูดของตงฟางเถียนเฟิง

   ถูกแล้ว!ทำไมจะไม่มีใครทำเล่า? 

  ตงฟางเถียนเฟิงถามกลับ

   ร้อยปีก่อนมีคนที่คิดจะพลิกผันเรื่องนี้ เขาตระหนักได้ว่าทวีปกำลังจะเจอกับวิกฤติครั้งใหญ่และอันตรายไร้สิ้นสุดของแดนมณี เขาทะเยอทะยานมาก ถ้าเขามีโอกาสได้ครองบัลลังก์แห่งจิวโจว เขาจะรวบรวมพลังทุกอย่างขับไล่แดนมณีออกไป! ถึงอย่างนั้น ในตอนที่เขากำลังจะรวบรวมจิวโจวได้เป็นปึกแผ่น ภูติผีก็บุกรุกเข้ามา เขาตายในสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเผ่าพันธุ์ 

   ทุกอย่างที่เขาทุ่มเทได้สูญเปล่าความทะเยอทะยานที่จะขับไล่แดนมณีได้หายไปราวกับหมอกควัน 

  ซือหยูใจสั่น

  ร้อยปีก่อนบุคคลที่ไร้เทียมทานและเกือบจะได้ครองบัลลังก์จิวโจวผู้นั้นคือเฉินอี้เจิง เขาคือราชาในตำนานแห่งยุคสมัย จักรพรรดิแห่งความโศกเศร้า เขาเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งทุกคนในจิวโจวแต่แตกดับไปในเวลาก่อนที่เขาจะได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิจิวโจว

  ซือหยูคือคนเดียวที่รู้ความลับนี้เฉินอี้เจิงมิได้ถูกภูติผีสังหาร แต่เป็นการถึงฆาตจากทรราชย์ ราชาเขตกลาง

   ร้อยปีหลังจากเขาถึงแก่กรรมก็ไร้คนที่น่าสะพรึงกลัวที่จะรวบรวมทั้งจิวโจวให้เป็นปึกแผ่นอย่างเขาได้อีก 

   กลุ่มขั้วอำนาจมากมายมิอาจต่อต้านสิ่งยั่วยวนใจจากแดนมณีและลงทุนเอาศิษย์ของตัวเองไปตายเพื่อให้ได้บางอย่างกลับมา 

  ตงฟางเถียนเฟิงกำมือแน่นแววตาของนางชิงชัง

  แม้เพิ่งจะได้ฟังทุกคนก็รู้สึกได้ถึงวิกฤติที่กำลังเผชิญหน้า

  เมื่อเหล่าภูติผีได้รุกรานเข้ามาเมื่อร้อยปีก่อนเฉินอี้เจิงยังคงอยู่เป็นแกนกำลังหลักในการต่อสู้ ร้อยปีให้หลัง จิวโจวยังมิได้พัฒนาไม่ว่าจะทิศทางไหน แต่การเสื่อมถอยยังคงดำเนินไปไม่หยุดหย่อน! ถ้าหากมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ใครกันเล่าที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิภูติผี?

  จิวโจวต้องการผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดผู้ที่มีคำพูดยิ่งใหญ่พอที่จะสยบทุกฝ่ายและมีกำลังใจที่กล้าแกร่งพอจะรวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้านแดนมณี  ช่างน่าเสียดายน่าเสียดายยิ่งนักที่คนเช่นนั้นตกตายไปเมื่อร้อยปีก่อน เขาหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์…ตลอดกาล

   ไม่มีคนก่อนหน้าเฉินอี้เจิงอยู่เลยรึ? 

  ซือหยูถามประวัติศาสตร์นั้นยาวไกล เว้นเสียแต่ตระกูลบูรพาก็ไม่มีกลุ่มใดที่จะบันทึกประวัติศาสตร์ได้ครบถ้วน

  คำตอบของนางเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิด

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset