The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1147 – การต่อสู้ระหว่างซือหยูกับอสูร

  ราวกับว่าเพลิงเทวะที่ไม่มีทางหยุดยั้งนี้จะฆ่าพวกเขาจหมดในอีกไม่นาน

  ในตอนนั้นเองคนรอบข้างสัมผัสได้ถึงพลังอันเข้มข้นของห้าธาตุ มันพุ่งออกมาจากรอยแยกมิติขนาดยักษ์บนท้องนภา

  ภูเขาหลากสีตกลงมาจากรอยแยกมิติมันพุ่งมาที่นี่อย่างรวดเร็ว

  ก่อนที่ภูเขาจะมาถึงพลังห้าธาตุได้พัดพาเพลิงเทวะที่กำลังจะปะทะเทพกิเลนและคนที่เหลือให้ลอยหายไปราวกับวายุกระหน่ำ

  ราชาเขตกลางหันไปมองด้วยความเหยียดหยาม

   ไม่คิดเลยว่าจะยังมีคนกล้าหยุดข้าในตอนนี้อีก! 

  เมื่อพวกเขามองภูเขาใกล้ๆ ก็พบหนึ่งคนที่สวมชุดขาวและอีกคนที่สวมชุดดำ ทั้งสองใช้พลังเซียนทั้งหมดที่มีแบกภูเขาห้าธาตุเหนือศีรษะ

  ฟึ่บ!

  ต่อมาทั้งสองก็หยุดหน้าเทพกิเลนพวกนางเริ่มใช้ค่ายกลใต้ภูเขาเพื่อวางภูเขาลง

  พวกนางใช้ค่ายกลโดยการใช้พลังเซียนที่มีในร่างกายตัวเองล้วนๆ

  ค่ายกลที่ถูกใช้งานเริ่มเข้าปกป้องเทพกิเลนและคนที่เหลือโดยการดูดซับพลังห้าธาตุจากภูเขา

   เซียนขาวดำหรือ? 

  ม่อเทียนฉวนแปลกใจแดนบูรพาที่มักจะอยู่อย่างสงบมาโดยตลอดเลือกที่จะก้าวเข้ามาในสงครามระหว่างพวกนางกับราชาเขตกลงได้อย่างไร? พวกนางไม่รู้สถาการณ์ในตอนนี้หรือ? ต่อให้พวกนางเลือกจะช่วยพวกเขา พวกนางก็หยุดราชาเขตกลางได้ไม่นานนัก

  เซียนขาวดำไม่หันไปแต่ก็พูดทั้งที่จ้องมองราชาเขตกลางอย่างมุ่งมั่น   ราชาแห่งจิวโจวเจ้าบังอาจสมคบคิดกับเผ่าอสูรได้อย่างไร? 

  หลังจากรวบรวมคนตระกูลบูรพาแล้วพวกนางตัดสินใจเข้าช่วยซือหยู พวกนางหารือกันไม่นานและตัดสินใจกลับไปยังตระกูลบูรพาก่อนเพื่อที่จะย้ายภูเขาห้าธาตุออกมา เมื่อพวกนางาถึงเขตกลาง พวกนางก็พบว่าเทพกิเลนกับซือหยูตกอยู่ในอันตราย

   อะไรกัน!เจ้าไม่ควรมาที่นี่! 

  เทพกิเลนถอนหายใจอย่างหมองหม่น

  แผนอย่างดีของเขาที่เตรียมมาร้อยปีล้มเหลวไม่เป็นท่าและการมาของเซียนขาวดำจะเพิ่มความสูญเสียยิ่งขึ้นไปอีก

  สถานการณ์ขณะนี้สิ้นหวังนัก…

   พวกเราตายไปแล้วหนหนึ่งความตายมิใช่สิ่งที่พวกข้ากลัวอีกแล้ว! เราจะลากคอราชาเขตกลางไปลงนรกแม้ว่าพวกข้าจะต้องตายไปกับมัน! 

  เซียนทั้งสองกล่าวและปล่อยพลังห้าธาตุในค่ายกลต่อไป

  พลังห้าธาตุแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แดนบูรพาทั้งซีกสามารถสัมผัสแรงกดดันจากที่นี่ได้

  ราชาเขตกลางที่อยู่ใกล้สามารถสัมผัสพลังห้าธาตุได้อย่างชัดเจน

  หลังจากประสานสายตาเซียนขาวดำตะโกนและยกภูเขาห้าธาตุขว้างใส่ราชาเขตกลาง

  มันเหมือนกับพวกนางขว้างมันออกไปเฉยๆ แต่แท้จริงแล้วพวกนางใช้พลังเซียนทั้งหมดออกมาจนหมด พวกนางล้มลงกับพื้นและเกือบจะสลบเพราะพลังเซียนทั้งหมดได้หมดไปแล้ว

  การจู่โจมของพวกนางไม่ใช่พลังที่เล็กน้อยเลย

   ศึกษามันมาหลายปีเราได้แค่โยนภูเขาห้าธาตุออกมาเป็นอาวุธ หวังว่ามันจะได้ผล! 

  ครืน….  แสงตระการตาหลากสีสันพุ่งออกมาจากใต้ภูเขาที่ลอยออกไปราชาเขตกลางถูกแสงปกคลุม

  ราชาเขตกลางพยายามหลบการโจตีแต่เขาก็ช้าลงเพราะพลังมหาศาลของห้าธาตุ สุดท้ายภูเขาห้าธาตุก็ปะทะกับศีรษะของเขาตรง ๆ

  พลังอันน่ากลัวของห้าธาตุเข้าปะทะไปพร้อมกับภูเขา

  เซียนขาวดำตาลุกวาวไปพร้อมกับเทพกิเลนหรือว่าการโจมตีจะได้ผล?

  นี่คือภูเขาที่เคยใช้สังหารเทพมาก่อนถ้าหากมันได้ผล มันจะต้องทรงพลังจนน่ากลัว

  แต่ทุกคนก็ต้องใจหายเมื่อเห็นภาพต่อมา

  ราชาเขตกลางยกภูเขาห้าธาตุด้วยมือเดียว!

  เขายิ้มเหยียดหยาม

   ถ้าเจ้าเป็นเซียนขั้นสองข้าคงจะต้องระแวงพวกเจ้าอยู่บ้าง น่าเวทนานัก! พลังเซียนขั้นหนึ่งสองคนมีไม่ถึงหนึ่งในสิบของเซียนขั้นสอง! 

  หลังจากวางเขาห้าธาตุลงเขาแสยะยิ้ม

   ถึงเวลาจบการต่อสู้อันไร้ความหมายแล้วข้าจะฆ่าใครก่อนดีล่ะ? 

  เขาพูดและเหลือบมองเหล่าเซียนที่กำลังบาดเจ็บ

  จักรพรรดิผีที่ไม่อยากจะเสียศักดิ์ศรีตะโกนอย่างเย็นชา

   ฆ่าพวกข้าซะและข้าจะไม่มีวันขอความเมตตาจากเจ้า! 

  เพราะจักรพรรดิผีรู้ว่าราชาเขตกลางจะไม่มีวันเมตตาแม้พวกเขาจะขอความเมตตา

  ราชาเขตกลางมองจักรพรรดิผีและพูดอย่างเย็นชา

   หากเจ้าอยากตายข้าก็จะทำให้เจ้าตายก่อน! 

  พรึ่บ!   เพลิงเทวะพุ่งออกมา

  แต่เป้าหมายของเพลิงเทวะหาใช่จักรพรรดิผีแต่เป็น…ซือหยู!

   เจ้าเด็กบัดซบข้าต้องฆ่าเจ้าก่อน ข้าจะได้สบายใจได้! 

  ราชาเขตกลางยิ้มอย่างดุร้าย

  จักรพรรดิผีชักสีหน้าทันทีเขาก้าวไปขว้างซือหยูอย่างไม่ลังเลเพื่อที่จะหยุดเพลิงเทวะให้ซือหยู

  พรึ่บ!

  ร่างจักรพรรดิผีลุกไหม้เป็นเถ้าถ่านดวงวิญญาณที่ล้อมรอบด้วยพลังผีหนีออกจากเพลิงเทวะ

  ถึงอย่างนั้นดวงวิญญาณของจักรพรรดิผีก็ยังอยู่ขวางหน้าซือหยูและพยายามปกป้องเขาในจังหวะสุดท้าย

  ราชาเขตกลางแสยะยิ้มเหยียดหยาม

   น่าประทับใจจริงๆ! แต่คนทรยศอย่างเจ้าสมควรตายอย่างไร้หลุมฝัง!    เขาขว้างหอกยักษ์จากเพลิงเทวะออกมา

   ไม่นะ! 

   ระวัง! 

  ม่อเทียนฉวนเจี๋ยนอู๋เชิง และเซียนขาวดำเบิกตากว้าง

  หอกเพลิงเทวะนี้จะต้องฆ่าจักรพรรดิผีอย่างแน่นอน!

  จักรพรรดิผียิ้มอย่างไม่เกรงกลัว

   ราชาเขตกลาง!เจ้าจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย! 

  เมื่อได้ยินเสียงคำรามอย่างไร้ความกลัวราชาเขตกลางขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจสาเหตุที่จักรพรรดิผีทุ่มเทในการช่วยเหลือจิวโจว ที่นี่ไม่ใช่ดินแดนของเหล่าภูติผี จำเป็นหรือที่จะต้องสละชีวิต?

   ไอ้โรคจิตเอ้ย! 

  ราชาเขตกลางละสายตาเขาเชื่อว่าจะไม่มีใครหยุดเขาให้เผาจักรพรรดิผีและซือหยูให้เป็นเถ้าถ่านได้ในตอนนี้  แต่ทันใดนั้นเองราชาเขตกลางก็รู้สึกได้ว่าเขาหัวใจหยุดเต้นเขาสัมผัสบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างชัดเจน!

  เขาไม่ได้สัมผัสความไม่สบายใจนี้ตั้งแต่ที่ขึ้นมาเป็นเซียนแล้ว!

  พันปีก่อนตอนที่เขาเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสูงสุด เขาได้ไปผจญภัยในโลกอันว่างเปล่า ที่นั่น มีสัตว์ป่าที่มีพลังเซียนขั้นแรกพบเขาและเริ่มตามล่าเขา นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เขาสัมผัสความรู้สึกนี้

  สัตว์ป่าตัวนั้นไล่ล่าเขาตลอดสามวันสามคืน!

  ตลอดสามวันนั้นเขาพยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะเอาตัวรอดในทุกลมหายใจ เพราะเขาถูกไล่ตามอย่างไม่ลดละ

  ความกลัวตายในครั้งนั้นหลอกหลอนเขามาหลายร้อยปี!

  หลังจากผ่านเรื่องนั้นมาหลายปีความทรงจำอันน่ากลัวนั้นก็เลือนหายจากเขาไปบ้าง  ต่อมาเมื่อเขาได้เห็นเซียนเขาก็กลับไปยังที่นั่นและฆ่าสัตว์ป่าตัวนั้น จากนั้นความไม่สบายใจที่สะสมมานานก็หายไปในที่สุด

  เขาไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้มาอีกพันปีหลังจากนั้น

  แต่ความรู้สึกเดิมที่เขาเกือบลืมไปแล้วได้เข้ามาสู่จิตใจของเขาอย่างไร้สัญญาณเตือน

  เขารู้สึกว่าสัตว์ป่าที่เขาเคยฆ่าได้กลับมาอีกครั้งราวกับว่าตอนนี้มันกำลังอ้าปากอยู่ข้างหลังเขาด้วยความหิวโหย

  ราชาเขตกลางตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัวหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เขาหันไปมองด้วยความกลัว

  ด้านหลังเขาหาใช่สัตว์ป่าแต่เป็นชายที่จ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น

  ต่อหน้าสายตาดำสนิทของชายผู้นี้ราชาเขตกลางรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ป่าจ้องมอง เขาหัวใจหยุดเต้นไปอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดทั้งที่มือและเท้าสั่น   ซือ…หยู! 

  ซือหยูพูดอย่างใจเย็น

   เวลาดีนัก!มันเกิดขึ้นในวันที่เก้าพอดิบพอดี! 

  วิบัติผู้คนเกิดขึ้นแล้ว

  ต่อหน้าเพลิงเทวะที่กำลังถาโถมซือหยูก้าวออกมาจากใจเย็น

  จากนั้นสุริยาดำสนิทเก้าดวงก็ปรากฏที่อกซือหยูราวกับชุดเกราะเพลิงเทวะที่ถาโถมมิอาจทำลายการป้องกันของดวงตะวันทั้งเก้าได้

  ซือหยูสามารถดูดซับสายโลหิตสุดท้ายของเทพบ่มเพาะได้ทันเวลาพอดีตอนนี้เขากลายเป็นเซียนขั้นสูงสุดแล้ว

  ด้วยพลังระดับนี้เขาสามารถใช้ภาพเขียนทัณฑ์ภูติได้ มันทำให้เขาใช้ดวงสุริยาที่เหลือได้อย่างง่ายดาย

  วิบัติสายฟ้าขนวิหคของซือหยูกับเพลิงเทวะของราชาเขตกลางมีพลังพอๆ กัน  ราชาเขตกลางต้องหายใจเข้าลึกเพื่อทำใจให้สงบลงเขาปล่อยเพลิงเทวะออกมาล้อมรอบซือหยูทั้งตัว

  แต่เพลิงเทวะก็ทำอันตรายซือหยูไม่ได้เลยเขาก้าวออกมาจากกลุ่มก้อนเพลิงเทวะและพูดต่อหน้าราชาเขตกลาง

   เจ้ามีพลังอื่นอีกหรือไม่? 

   ตายไปสักทีเถอะ! 

  ราชาเขตกลางปล่อยหมัดใส่ซือหยูมันเต็มไปด้วยพลังเทพอสูร

  หมัดอสูรใหญ่เท่าภูเขาลูกเล็กเข้าบดขยี้มนุษย์ร่างเล็กด้วยพลังมหาศาลมิติถึงกับเกิดรอยแยกหลายรอย

  ปั้ง!

  พื้นสั่นเล็กน้อยเมื่อหมัดปะทะกับซือหยู

  ม่อเทียนฉวนกับคนที่เหลือเบิกตากว้างเพื่อมองดูซือหยูอย่างตาไม่กระพริบ

  เมื่อฝุ่นควันสลายพวกเขาโล่งใจกับสิ่งที่ได้เห็น  ภายใต้หมัดอสูรซือหยูยืนตรงตระหง่าน ดัชนีเดียวในมือขวาของเขาแตะกลางหมัดอสูรพอดี

  ดัชนีของซือหยูที่ไม่ต่างจากดัชนีมนุษย์ธรรมดาได้มีสีทองอันหาได้ยากเกล็ดสีทองเผยให้เห็นเล็กน้อย

  ซือหยูตะโกน

   แหลกไปซะ! 

  ตู้ม!

  ดัชนีที่มีพลังอันน่ากลัวของเขาทำให้เซียนทุกคนที่นี่หวาดผวามันสร้างลำแสงทะลวงผ่านหมัดอสูร ผ่านแขน และผ่านไหลบ่ของราชาเขตกลาง ลอยมาที่ข้างหัว

  ปั้ง!

  ลำแสงพุ่งผ่านไปคนได้ยินเสียงระเบิดตลอดทาง หมัดและแขนของราชาเขตกลางแหลกละเอียดเพราะแรงระเบิด

  เกิดบาดแผลแหวะหวะที่หัวด้านขวาของราชาเขตกลางเห็นกะโหลกจากบาดแผลนี้ได้เลย

  ซือหยูทำให้ราชาเขตกลางบาดเจ็บได้โดยใช้แค่ดัชนีเดียวหรือ?

  แม้แต่ม่อเทียนฉวนก็มิอาจทำให้ราชาเขตกลางเป็นแบบนี้ได้ง่ายๆ!

   ข้าไม่คิดว่านี่คือพลังของเซียนขั้นสูงสุดเลย! 

  จักรพรรดิผีตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นลำแสงสีทองที่หายไปจากท้องฟ้า

  ม่อเทียนฉวนพูดอย่างเคร่งเครียด

   ไม่ใช่พลังระดับนั้น!ข้าสัมผัสกลิ่นอายเทพมังกรในลำแสงได้! 

  ในเก้าวันที่ผ่านมาสายในมังกรทั้งสิบผสานเข้าร่างซือหยู เขาได้กายาเก้ามังกรมาครอง

  ราชาเขตกลางตกตะลึงเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะเสียเปรียบในการเผชิญหน้าตรง ๆ กับซือหยู!

   มันยังไม่จบหรอก!    ราชาเขตกลางตะโกนพร้อมกระทืบเท้าขนาดยักษ์ของเขา

  เวลานี้ราชาเขตกลางยังมีความรู้สึกว่าซือหยูคือมดปลวกที่เขาสามารถเหยียบย่ำจนตายได้ตลอดเวลา

  เขาจะยอมรับการที่ตนต้องเทียบเท่ากับมดปลวกได้อย่างไร?

   แหลกไปซะ! 

  ซือหยูพูดคำเดิมอีกครั้งเขาวาดหมัดซัดใส่เท้าอสูร หมัดของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง

  ลำแสงสีทองอีกสายพุ่งออกมาจากหมัดมันทะลวงเท้าและขาขวาของราชาเขตกลางไป จากนั้นลำแสงก็ทะลุไปถึงคอของราชาเขตกลาง!

  ��

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset