The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1207 – มารดาต้าเหล่ย

   สุดท้ายเจ้าก็กลับมา 

  ซือหยูหัวเราะแห้งๆ อย่างหมดท่า เขาไม่คิดว่าเทพปีศาจจะยังคงอยู่หลังจากได้จิตวิญญาณเทพไปแล้ว เทพปีศาจติดตามซือหยูมาโดยตลอดและได้ช่วยเขาในเวลาสำคัญ

  เทพปีศาจกล่าว

   พูดอะไรของเจ้า?หมายความว่ายังไงที่ข้ากลับมา? ข้าก็แค่หลงทางและบังเอิญมาเจอเจ้า 

  ซือหยูหัวเราะในใจเขารู้สึกขอบคุณ ซือหยูเรียกหอกพลังปีศาจออกมา

   เอาไปสิพลังปีศาจกับเจ้าเป็นของคู่กันไม่ใช่รึ? 

  เทพปีศาจรับหอกพลางเงยหน้าพูด

   อย่าเข้าใจผิดล่ะข้าแค่ไม่ชอบเทพดำนั่นเท่านั้น พอไล่มันไปแล้ว ข้าจะไปจากเจ้า 

  เมื่อพูดจบเทพปีศาจกับเทพไม้ก็ลงมือพร้อมกัน

  ตลอดเวลาเกินสี่เดือนที่ผ่านมาเทพปีศาจได้หลอมจิตวิญญาณเทพเข้ากับพลังที่ซือหยูให้ ดูจากพลังในขณะนี้ เทพปีศาจยังคงห่างไกลกว่าระดับของเทพ แต่ถ้ามีหอกของซือหยู เทพปีศาจจะปล่อยพลังที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับเทพไม้ได้!

  เทพรากษสเลิกคิ้วเทพรากษสตะโกนเมื่อจ้องมองเทพปีศาจ

   เจ้ามันเป็นเทพแบบใดกัน? 

  สัตว์ประหลาดตรงหน้ามิได้มีพลังของเทพแต่มันกลับทำให้เทพรากษสหวาดกลัวอย่างแปลกประหลาด

   ข้าคือจักรพรรดิเทพที่สังหารมาทั้งฟ้าดิน! 

  เทพปีศาจหัวเราะและพุ่งเข้าใส่ด้วยหอกยาวที่คาบเอาไว้

  เทพไม้กัดฟันสีเงินของนางต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเทพปีศาจ  เมื่อรวมพลังกันจากพ่ายแพ้ก็กลายเป็นสูสี

  แม้จะยังเสียเปรียบและบาดเจ็บกว่าเดิมเมื่อเผชิญหน้ากับเทพรากษสแต่ทั้งคู่ก็ยื้อเวลาได้พอสมควร

  ทั้งสองกระวนกระวายเทพเซียนคันฉ่องฉวยโอกาสนี้เข้าถึงตัวซือหยูพร้อมกับตะโกน

   ไปลงนรกซะ! 

  ซือหยูสัมผัสได้ว่ามีเทพหลายคนกำลังมาหากเทพเหล่านั้นมาถึง เทพเซียนคันฉ่องจะไม่มีโอกาสลงมืออีกแล้ว!

  ซือหยูหายไปยังส่วนลึกสุดของเขาห้าธาตุอย่างไม่ลังเลเขาไปถึงที่หน้าม่านพลังเซียน

  พลังมหาศาลของเขาห้าธาตุนั้นแบ่งแยกจากสัมผัสของเทพมันสามารถป้องกันพลังจากเทพได้

  เทพเซียนคันฉ่องตามเขาเข้าไปในภูเขาติดๆ ด้วยความไม่พอใจ พลังเขาห้าธาตุข้างในไม่มีผลกับเทพอย่างนางเลย นางเพียงแค่ต้องพาตัวเองไปให้ถึงซือหยู

  เมื่อเห็นม่านพลังตรงหน้าเทพเซียนคันฉ่องเปล่งเสียงออกมา

   ม่านพลังแข็งแกร่งนักแข็งแกร่งพอ ๆ กับของโลกสุสานเทพ 

  นางตกตะลึงเล็กน้อยกับเรื่องที่ซือหยูสามารถเข้ามายังอีกฟากของเขาห้าธาตุไปยังส่วนที่ลึกกว่าเดิม

   ฮื่มมันถึงทางตันแล้ว! 

  เทพเซียนคันฉ่องตามล่าซือหยูในเขาห้าธาตุต่อไปในพื้นที่ที่ถูกแช่แข็งโดยการเวลา

  เทพเซียนคันฉ่องมาถึงส่วนลึกสุดที่มืดสนิทในไม่กี่ลมหายใจ

  ณจุดลึกสุดนั้นมีประตูมิติเทวะที่หยุดทำงาน ที่มุมด้านหนึ่งของประตูมิตินั้นมีโครงกระดูกหยกนั่งสมาธิอยู่

   โครงกระดูกเทพอสูรมังกรวารีรึ? 

  เทพเซียนคันฉ่องแปลกใจมังกรวารีเผ่าอสูรมิได้อยู่ที่พันธมิตรบูรพา

  และดูจากกลิ่นอายพลังในโครงกระดูกเทพอสูรตนนี้นับว่าแข็งแกร่งขณะที่ยังมีชีวิต

  ในขณะเดียวกันนางก็ได้พบซือหยูอยู่กับโครงกระดูกมังกรวารีเขายืนหน้าโครงกระดูกด้วยความนับถือ

   ขอให้คนตายช่วยขณะที่ตัวเองกำลังจะตายเรอะ?น่าขัน… 

  เทพเซียนคันฉ่องกล่าวแต่นางก็จะได้ว่าซือหยูได้คารวะสุสานเทพทุกคนระหว่างงานชุมนุมเทพ

  จากนั้นเจตจำนงเทพมากมายก็ได้กระโดดออกจากหลุมศพมาช่วยปกป้องซือหยูอีกทั้งยังกำจัดเจตจำนงของเทพตำราจนสิ้นซาก

  ไม่นะ!เทพเซียนคันฉ่องชักสีหน้าเมื่อรู้ความตั้งใจของซือหยู

  แต่ซือหยูก็คารวะจนเสร็จเขามองโครงกระดูกตรงหน้า พลังสายโลหิตของกังต้าเหล่ยมาถึงร่างกายของซือหยู แม้จะเป็นการลอกเลียนพลัง มันก็สามารถหลอกเจตจำนงของเทพได้

   หวังว่าข้าจะคิดถูก… 

  ซือหยูคิดในใจ

  เทพเซียนคันฉ่องมาถึงแล้วนางไม่ให้ซือหยูได้มีโอกาสเตรียมตัวก่อนจะใช้ฝ่ามือที่มีพลังเทพซัดใส่แผ่นหลังของซือหยู

  แรงปะทะจะทำลายทั้งร่างกายและดวงวิญญาณของเขา!

  ตู้ม!

  ฝ่ามือนางมิได้ถึงตัวซือหยูมันถูกกระดูกขาวที่ตายไปนานคว้าเอาไว้

  แม้จะมีพลังเทพในมือเทพเซียนคันฉ่องก็มิอาจเป็นอิสระจากมือกระดูกขาวได้

  ดูที่เบ้าตาโครงกระดูกมังกรวารีมีเพลิงมรกตกำลังลุกโชนสว่างไสว เห็นถึงเจตจำนงเทพที่กำลังจะสลายหายไป มันบังคับโครงกระดูกให้จับมือของเทพเซียนคันฉ่องเอาไว้   ปล่อยข้านะ! 

  เทพเซียนคันฉ่องตะโกนพลังเทพทั้งหมดของนางไหลไปที่แขนราวกับจะพยายามกำจัดโครงกระดูกและเจตจำนงเทพแม้จะไร้ผล

  แต่นางก็ต้องหวาดกลัวกว่าเดิมเมื่อมือกระดูกขาวกำมือนางแน่นขึ้น!

   เป็นไปได้ยังไง? 

  เทพเซียนคันฉ่องเศร้าหมองไม่มีทางที่โครงกระดูกจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ต่อให้มีเจตจำนงเทพ โครงกระดูกเทพก็ได้ตายไปแล้ว

  เช่นเดียวกับฑากิณีโครงกระดูกนั้นเป็นบรรพบุรุษในอดีตของเหล่าเทพที่มีเจตจำนงเทพอยู่ แน่นอนว่าย่อมไม่แข็งแกร่งเท่าตอนที่พวกเขายังมีชีวิต!

  แต่จากที่เทพเซียนคันฉ่องสัมผัสได้โครงกระดูกที่จับมือนางเอาไว้ตอนนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าฑากิณีเลย!   ถ้าเช่นนั้นแล้วมังกรวารีขณะที่มีชีวิตจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน?

   ละ…ลูก… 

  โครงกระดูกมังกรวารีขาวบริสุทธิ์ลุกขึ้นช้าๆ ดวงตามรกตจ้องมองซือหยูอย่างล้ำลึก เจตจำนงแสดงถึงความรักและความโศกเศร้าจับใจ

  นี่คือความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่มีให้บุตรของตนที่ไม่ได้พบมาเป็นเวลานาน

  ซือหยูรู้สึกผิดโครงกระดูกขาวร่างนี้คือมารดาของกังต้าเหล่ยตามที่เขาคาด จึงไม่แปลกใจที่เขาปลุกเจตจำนงของนางขึ้นมาได้ผ่านการลอกเลียนพลังสายโลหิตของกังต้าเหล่ย

  ในอดีตผู้เฒ่าจิวพบทารกหัวมังกรวารีและมีร่างกายมนุษย์ ผู้เฒ่าจิวจึงได้ชุบเลี้ยงเด็กคนนั้นขึ้นมา

  ซึ่งในประตูมิติที่ผู้เฒ่าจิวได้พบนั้นมันได้เชื่อมเส้นทางกับภายในภูเขาห้าธาตุ  ก่อนหน้านี้ซือหยูคิดว่าโครงกระดูกคือคนในตระกูลของกังต้าเหล่ย และน่าจะเป็นมารดา

  ในอดีตเทพอสูรมังกรวารีควรจะหนีไปกับกังต้าเหล่ยได้ แต่สุดท้ายนางก็ส่งตัวกังต้าเหล่ยออกไปและอยู่ต่อเพื่อจัดการกับอะไรบางอย่าง

  นางน่าจะต่อสู้กับมังกรวารีอีกตนที่ตายอยู่ใต้ภูเขานั่นคือมังกีวารีตัวสีเขียวเข้ม

  คนประเภทใดกันที่จะสละตัวเองได้เพื่อทารกแรกเกิด?

  นอกจากความรักอันไม่เห็นแก่ตัวของมารดาก็คงจะไม่มีสิ่งอื่นใดใช่หรือไม่?

   ขออภัยแต่ข้าไม่ใช่ลูกท่าน 

  ซือหยูใช้ความคิดเขาเปิดหอคอยเรียกกังต้าเหล่ยออกมา

  ยังเหลือเวลาอีกหกลมหายใจก่อนที่เวลาจะหยุดเดินณ ที่แห่งนี้ ซึ่งมากพอที่แม่ลูกจะได้พบกัน  กังต้าเหล่ยปรากฏตัวด้วยสีหน้าสับสน

   น้องชายเจ้าเรียกข้าออกมาทำ… 

  เขาหยุดและจ้องมองโครงกระดูกมังกรวารีตรงหน้าเขาพูดโดยไม่รู้ตัว

   พลังนี้คุ้นเคยแต่ทำไมข้าถึงจำไม่ได้ว่ามันมาจากที่ใด? 

  กังต้าเหล่ยเกาหัวด้วยความสับสน

  โครงกระดูกมังกรวารีหันไปมองกังต้าเหล่ยโครงกระดูกมังกรวารีสัมผัสได้ถึงความเชื่อมต่อทางสายเลือด โครงกระดูกสั่นเบา ๆ กระดูกมือขาวยื่นลูบหัวกังต้าเหล่ย

  กังต้าเหล่ยมองแต่ก็ไม่ได้หลบสัญชาตญาณบอกเขาว่าโครงกระดูกตรงหน้ามิได้มีความประสงค์ร้ายต่อเขา

  เมื่อฝ่ามือสัมผัสศีรษะกังต้าเหล่ยตัวสั่น น้ำในตาเจิ่งนอง

   แปลกเหลือเกินใยถึงรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้…เดี๋ยวสิ ทำไมข้าถึงร้องไห้กัน? ข้าไม่คิดว่าข้าจะต้องไห้!    กังต้าเหล่ยแปลกใจ

  นี่คือการตอบสนองทางกายแม้กังต้าเหล่ยจะไม่เข้าใจ ร่างกายของเขาก็ตอบสนองออกมา

   ลูก… 

  เจตจำนงมังกรวารีในโครงกระดูกพูดเสียงสั่น

  กังต้าเหล่ยตัวสั่นในทันทีที่คิดได้เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

   ท่านเป็นมารดาข้าหรือ? 

  เขานึกได้แล้วว่าพลังที่คุ้นเคยจากนางมาจากที่ใดเพราะมันคือพลังที่ติดตัวเขามาทันทีที่เขาเกิด

   ลูกเอ๋ย… 

  ดัชนีมังกรวารีแตะหน้าผากกังต้าเหล่ยส่งผ่านสายพลังสีทองสืบทอดให้

  ซือหยูอิจฉากังต้าเหล่ยผู้มีมารดาเป็นเทพเจตจำนงเทพกำลังจะส่งมอบทุกสิ่งที่นางมีให้กับเขา  เป็นความจริงที่ว่าคนเราไม่ควรเปรียบเทียบกับใครสินค้าย่อมไม่ควรนำไปเทียบกับสินค้าชิ้นอื่น มิเช่นนั้นก็คงจะถูกทิ้งขว้างไป!

  เทพเซียนคันฉ่องได้โอกาสนางตัดแขนตัวเองทิ้งขณะที่มังกรวารีกำลังส่งมอบพลังสืบทอดแก่บุตรชาย นางเรียกพลังออกมาสังหารซือหยู

  แต่อย่างไรก็ตามโครงกระดูกมังกรวารีเพียงแค่หันมามองเทพเซียนคันฉ่องเท่านั้น

  ฉั่วะ!

  ภาพที่ได้เห็นทำให้ซือหยูแทบลืมหายใจดวงวิญญาณเทพเซียนคันฉ่องทำไม่ได้แม้แต่หนีก่อนที่จะสลายไปต่อหน้าต่อตา!!

  โครงกระดูกมังกรวารีนี่มันอะไรกัน?เหตุใดถึงได้น่ากลัวเช่นนี้? แค่เจตจำนงที่ทิ้งเอาไว้ก็สามารถกำจัดเทพได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากฟื้นคืนชีพนางกลับมา นางจะไม่ทำลายล้างทั้งพันธมิตรบูรพาหรือ?

  ในระหว่างที่ซือหยูกำลังทึ่งอยู่นั้นเองโครงกระดูกมังกรวารีก็ได้ถ่ายทอดพลังสำเร็จ

  เจตจำนงของนางอ่อนแอยิ่งกว่าเดิมมันกำลังจะสลายหายไป

  ในระหว่างที่นางถ่ายทอดพลังกังต้าเหล่ยหลับตาช้า ๆ น้ำตาไหลเป็นทาง เขากระซิบ

   ท่านแม่… 

  เมื่อจบการถ่ายทอดเขาได้เข้าสู่การหลับใหล

  โครงกระดูกมังกรวารีหันมองซือหยูนางยกมือขึ้น พลังห้าธาตุที่สามารถสังหารเซียนได้สลายไป

   ขอบคุณ…ที่พา…ลูกมา…ให้ข้า… 

  โครงกระดูกมังกรวารีกล่าว

  ซือหยูตอบ

   ข้าฉวยโอกาสใช้ความรู้สึกท่านให้สังหารศัตรูข้าข้ามิอาจรับคำขอบคุณท่านได้ 

  โครงกระดูกพูด   ไม่เป็น…ไม่เป็นไร…ความหวังเดียวก่อนข้าตายคือการได้พบลูกข้าอีกครั้ง…เพื่อถ่ายทอดวิถีเทพให้กับเขาและเพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้น…แต่เจตจำนงเทพของข้ากำลังจะสลายไป ข้ารอจนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาอีกไม่ได้… 

  ซือหยูคิด

  ‘กังต้าเหล่ยเติบโตในโลกเฉินหลงหลังจากถือกำเนิดเขากลับมาที่นี่เองได้ยังไง?’

  แต่เขาก็กลับมาหลังจากความตายกลับมาหาโครงกระดูกผู้เป็นมารดา

  น่าเสียดายนักที่โครงกระดูกก่อนซือหยูคืนชีพของเขาไร้ซึ่งพลังสายโลหิตดังนั้นเจตจำนงเทพของโครงกระดูกมังกรวารีจึงไม่ตื่นขึ้นมา

   ดังนั้น…ขอบคุณเจ้ามาก…ที่พาเขามาหาข้า… 

  โครงกระดูกมังกรวารีหยุดพูดไป

   ส่วนเครื่องหมายแทนคำขอบคุณ…ภูเขาห้าธาตุลูกนี้…จักกลายเป็นของเจ้า… 

  ผนึกลอยมาจากระหว่างคิ้วของโครงกระดูกและหายเข้าไปยังหน้าผากของซือหยู

  ซือหยูกับภูเขาห้าธาตุได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

  เซียนขาวดำเคยศึกษาเรื่องเขาห้าธาตุมาหลายปีแต่ก็ไม่เคยชำระล้างเป็นของตัวเองได้เหตุผลอยู่กับผนึกเจ้าของ

  ผนึกคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คนได้เป็นเจ้าของภูเขาห้าธาตุ

   ขอบคุณท่านผู้อาวุโส! 

  ซือหยูดีใจมาก

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset