The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1280 – ปฏิวัติก่อนกำหนด

  องค์หญิงหกมองฝ่ายตรงข้าม

   คิดว่าพวกเจ้าคือคู่มือของข้างั้นรึ? 

  องค์หญิงหกผู้สมาชิกแห่งตระกูลราชวงศ์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองย่อมมีสิทธิ์กล่าวเช่นนี้

   หึหึหากเป็นวันที่เจ้ามีพลังสูงสุด พวกมันห้าคนย่อมไม่ใช่ศัตรูของเจ้า แต่เจ้าตอนนี้น่ะไม่ใช่… 

  เทพตำราจดจำได้ดีว่าองค์หญิงหกบาดเจ็บหนักเป็นที่รู้กันว่านางบาดเจ็บในตอนที่ต่อสู้กับข้ารับใช้ทั้งสามของมเหสีหยุนเซี่ย

  นี่ยังเป็นเหตุให้เจ้าเมืองทั้งห้าเลือกข้างใหม่

  องค์หญิงหกบาดเจ็บหนักไม่มีหวังที่จะทำการยึดอำนาจได้ ดีกว่าที่จะกลับไปหามเหสีหยุนเซี่ยและสังหารองค์หญิงหกในระหว่างทาง   ฆ่านางตั้งแต่ที่ยังบาดเจ็บนี่แหละ! 

  เทพตำราสั่งการอย่างไร้อารมณ์

   โอกาสที่นางจะบาดเจ็บหนักเช่นนี้มีอยู่ครั้งเดียวเท่านั้น! 

  ตู้ม!

  เทพห้าคนปล่อยจิตสังหารออกมาเต็มที่

  หากองค์หญิงหกไม่บาดเจ็บพวกเขาทั้งห้าคงจะไม่กล้า แต่ในตอนนี้…

  ฉั่วะฉั่วะ…

  เสียงดังขึ้นในฉับพลัน

  เทพห้าคนที่ปิดล้อมตกตะลึง

  เทพตำราผงะ

   เจ้า… 

  องค์หญิงหกบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่รึ?นางถือแหล่งพลังเทพสองแหล่งในมือซ้ายและขวา เจ้าเมืองสองคนถูกสังหารทันที!

  มุมปากองค์หญิงหกแสยะอย่างชั่วร้ายนางกลืนแหล่งพลังเทพและฉีกยิ้ม   แผนของซือหยูใช้ได้ดีข้าต้องบาดเจ็บเท่านั้น พวกเจ้าจึงจะเผยธาตุแท้ออกมา! 

   ซือหยู!หมายความว่า เจ้าแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเรอะ? ซือหยูบอกเจ้าเรอะ? 

  เทพตำราเบิกตากว้างใบหน้าเขาหม่นหมองอย่างรวดเร็ว

   ใช่แล้ว!ซือหยูบอกข้า เขาคิดว่าคนชั่วช้าอย่างเจ้าจะไม่มีทางเต็มใจเสี่ยงก่อกบฏกับข้า และจะเลือกฝั่งที่ได้เปรียบกว่า เจ้าจะต้องฉวบโอกาสตอนที่ข้าไม่อยู่เข้าร่วมฝ่ายมเหสีหยุนเซี่ย! และซือหยูก็เดาถูกอีกด้วยว่าเจ้าชักจูงจิตใจคนได้ ดังนั้นตอนที่ข้าไม่อยู่ เจ้าจะต้องเริ่มหาพรรคพวกจากคนที่เป็นของข้า! 

   ซือหยูพูดถูกทั้งหมด! 

  องค์หญิงหกได้รับหยกจากซือหยูนางระแวงในทีแรก แต่นางก็รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญมาก นางจึงลองทำตามเขา

  นางแสร้งบาดเจ็บในขณะเดียวกันก็เรียกเจ้าเมืองมาคุ้มกันนาง  นางยังบอกว่านางเปลี่ยนใจและจะก่อกบฏในวันนี้

  ดังนั้นพวกมันจึงตอบรับตามสถานการณ์เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาในที่สุด!

  ซือหยูคาดเดาได้ถูกจริงๆ!

  หากคิดให้ถี่ถ้วนแล้วถ้านางก่อกบฏโดยที่ไม่รู้เรื่องนี้ นางจะถูกเทพตำราและเทพทั้งห้าทำร้ายก่อน นางอาจจะถูกสังหารเลยก็ได้!

  ต่อให้นางโชคดีมเหสีหยุนเซี่ยที่ได้ข่าวก่อนหน้าจะต้องเตรียมกับดักที่จะฆ่านางในเมืองหลวง เมื่อรัชทายาททุกคนบุกเข้าไป มันก็ไม่ต่างจากไปหาที่ตาย!

  โชคดีที่ซือหยูคาดเดาอนาคตได้และให้หยกกับนางมาก่อนบอกนางว่าต้องกำจัดอันตรายที่ซ่อนเร้นให้หมด!

  เทพตำราชักสีหน้าเขาหันกลับเพื่อหนีในทันที

  องค์หยิงหกแสยะยิ้มนางไม่สนใจเทพตำรา แต่จัดการกับคนทรยศทั้งสามที่เหลือตรงหน้าก่อน

   ฝ่าบาทขะ ข้าตามืดบอดไปชั่วขณะ ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว ข้าจะติดตามท่านเพื่อโค่นบัลลังก์มเหสีหยุนเซี่ย โปรดให้ข้าได้แก้ไขความผิดพลาดด้วยเถอะ! 

  ฉั่วะ…

  องค์หญิงหกสังหาร

   ไม่ต้อง!ทรยศข้าก็ต้องเจอกับการแก้แค้น! 

  องค์หญิงหกสังหารอย่างไม่ลังเลราวกับยักษ์มาร

  โลหิตกระจัดกระจายเจ้าเมืองที่เหลือสองคนนอนจมกองเลือด

  ส่วนเทพตำรานางไม่ได้ไล่ตามเขาไปแต่รอคอยเงียบ ๆ

  ไม่นานคลื่นพลังอสูรก็พัดเข้ามา

  คลื่นแสงเทพอยู่ภายในพลังนั้นมีกลุ่มอสูรที่แข็งแกร่งสี่สิบคน!   มีเจ็ดคนที่ปล่อยปราณราชวงศ์ออกมา!

  กลุ่มนี้นำโดยองค์ชายหนึ่งที่มีรัชทายาทรายล้อมรวมถึงองค์ชายเจ็ด

  ด้านหลังคือเหล่าเจ้าเมืองที่ภักดีและเตรียมพร้อมติดตามการก่อกบฏ

  องค์ชายหนึ่งมีตำราในมือเขาโยนให้องค์หญิงหก

   อสูรขนนกพูดถูกเจ้านี่สลับฝั่งเข้าหามเหสีหยุนเซี่ย และตำราเล่มนี้ก็ไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของมัน! ตัวตนแท้จริงของมันซ่อนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมาก! 

  องค์หญิงหกมองตำราในมือพลางกระซิบ

   เขาคาดเดาแม้กระทั่งเรื่องนี้!น่าขันนัก! 

  องค์ชายเจ็ดสงสัย

   ท่านพี่ใยไม่บอกพวกเราเรื่องการก่อกบฏล่วงหน้าเล่า? ท่านพี่บอกพวกเราว่าภายในสิบวันไม่ใช่รึ? หากลงมือตอนนี้ คนของข้าก็เตรียมการไม่ทัน! 

  องค์หญิงสองจ้ององค์หญิงหกและองค์ชายหนึ่งด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

   เจ้าสองคนคิดเองเออเองไม่คิดแม้จะแนะนำพวกเรา ฮื่ม! 

  องค์หญิงหกบอกเรื่องข้อความของซือหยูกับองค์ชายหนึ่งเท่านั้นนางไม่ได้บอกใครอื่นเลย

  เรื่องนี้ยังเป็นไปตามที่ซือหยูชี้แนะเพราะเขาไม่รู้ว่ารัชทายาทที่เหลือจะเชื่อใจได้หรือไม่!

  ในการยึดอำนาจให้สำเร็จยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น

  ในบรรดารัชทายาทมีเพียงองค์ชายหนึ่งที่เชื่อใจได้

  ดังนั้นเมื่อยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งองค์ชายหนึ่งจึงบอกรัชทายาททุกคนอย่างทันที เขาเรียกเจ้าเมืองที่ภักดีมาและรีบเดินทางมายังเมืองขององค์หญิงหก

  ก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่เหล่ารัชทายาทไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินทางมาเพื่อก่อกบฏ พวกเขาคิดว่าเป็นการมาเพื่อช่วยชีวิตองค์หญิงหกเท่านั้น

  องค์ชายหนึ่งกล่าว

   ข้าไม่บอกเจ้าและนี่ก็เป็นการตัดสินใจของข้า เจ้ามีปัญหาอะไร? 

  เหล่ารัชทายาทกล้าแสดงความไม่พอใจต่อองค์หญิงหกแต่ไม่ใช่กับองค์ชายหนึ่ง

   อสูรขนนกคาดเดาอนาคตได้แม่นยำถูกต้องทุกประการไม่ผิดแน่ การก่อกบฏของเราถูกมเหสีหยุนเซี่ยรู้มานานแล้ว! 

  องค์ชายหนึ่งพูดเสียงดัง

   มีเพียงการลงมือล่วงหน้าเท่านั้นที่จะทำให้เรายังคงมีโอกาสทำสำเร็จ! 

   ยักษ์ทะเลขมคือโอกาสและสัญญาณที่อสูรขนนกสร้างไว้ให้กับเราเมื่อยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งเมื่อใด นั่นก็เป็นเวลาลงมือ! 

  ยักษ์ทะเลขมตรงไปยังเมืองหลวงมันจะดึงกำลังส่วนใหญ่ของศาลอสูรในโลกอสูรไป โอกาสหายากเช่นนี้จะมีได้อีกหรือ?   มันไม่มีอีกแล้ว!

  แม้ยักษ์ทะเลขมที่ขึ้นฝั่งจะสร้างความเสียหายอันมิอาจจินตนาการกับโลกอสูรมันก็ดีกว่าที่พวกเขาจะกลายเป็นอาหารในปากยักษ์ไม่ใช่รึ?

   มเหสีหยุนเซี่ยจองจำท่านพ่อชิงอำนาจ ริดรอนอำนาจรัชทายาท และทำลายความเป็นไปของโลกอสูร นางต้องตาย! 

   วันนี้ข้าขอเป็นตัวแทนแห่งตระกูลราชวงศ์ในการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับมเหสีหยุนเซี่ย! 

  องค์ชายหนึ่งสะบัดแขนและตะโกน

   ฆ่ามเหสีเพื่อช่วยท่านพ่อของเรา! 

  เขาขกมือขึ้นตะโกนเสียงดัง

  เหล่ารัชทายาทมองหน้ากันและบินตามไป

   ฆ่ามเหสีช่วยท่านพ่อ! 

  เทพที่ภักดีกล่าวบ้าง   ฆ่ามเหสีช่วยท่านจักรพรรดิอสูร! 

  เสียงตะโกนของเหล่าเทพทำให้พื้นสะเทือน

  วันนี้จะเป็นวันที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์โลกอสูร

  รัชทายาททั้งเก้าแห่งโลกอสูร…กระทำการยึดอำนาจ!

  ฟึ่บ…

  เหล่ารัชทายาทและเทพสี่สิบคนมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองหลวง

  ท้องนภาเต็มไปด้วยแสงเทพและพลังอสูรอันไร้ที่สิ้นสุดมันเป็นภาพหายากที่ไม่มีใครเคยได้เห็น

  ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใดจะมีผู้คนรวมตัว เหล่าดวงวิญญาณโค้งคำนับให้

  เทพมากกว่าสี่สิบคนรวมพลังเตรียมศรคมกริบพุ่งตรงไปยังเมืองหลวงตรงไปยังมเหสีหยุนเซี่ยที่ก่อปัญหาแก่โลกอสูร!

  ความวุ่นวายที่ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งยังไม่ทันจางหายข่าวเรื่องทัพกบฏนำโดยรัชทายาทถาโถมดั่งคลื่นโหมกระหน่ำเช่นกัน!

  เมื่อทัพกบฏมาถึงเมืองหลวงการเตรียมการรบของมเหสีหยุนเซี่ยยังไม่ทันเสร็จสิ้นดี และถูกทำลายโดยทัพที่ถาโถมเข้ามาอย่างไร้ตำเตือน

  มีเทพสามคนป้องกันเมืองหลวงด้วยกำลังมหาศาลของทัพเทพสี่สิบคน ทั้งสามดับมอดราวกับแมงเม่า

  ทัพกบฏแยกเป็นสองทิศหนึ่งส่วนนำโดยองค์หญิงหกซึ่งมุ่งหน้าไปที่แท่นบูชาเพื่อปกป้องทางหนี

  ส่วนอีกทางนำโดยองค์ชายหนึ่งตรงไปยังวังหลวง!

  เมืองหลวงพากันแตกตื่นไปทั้งเมือง!

  รัชทายาททุกคนก่อกบฏมันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน!

  ไม่ต้องมีการส่งข่าวอีกแล้วอสูรทั้งหมดในเมืองหลวงต่างสัมผัสได้ถึงพลังของเทพมากมายในฟ้าดิน

  ซือหยูที่บ่มเพาะพลังอย่างเงียบเชียบมาสิบวันเบิกตาโพลงใบหน้าเขาตึงเครียด

   ในที่สุดก็เริ่มแล้ว! 

   ทุกคนจงฟัง!ทำทุกอย่างตามที่ข้าบอกเดี๋ยวนี้! 

  ซือหยูตะโกนว่าที่เทพมากกว่าเจ็ดสิบคนในบริเวณเรือนพุ่งออกไปราวกับวายุพิรุณ พวกเขาไปคนละทิศทางเพื่อทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

  เหลือซือหยูเพียงลำพังเขาก้าวออกจากเรือน

  ที่ประตูมีหญิงสาวงดงามสวมผ้าคลุมหน้าสีขาวนางดูผอมบาง

  นางผอมบางจนเกินไปมันแทบจะผิดปกติ

   เจ้าเป็นใคร? 

  ซือหยูมองนางด้วยสายตาคมกริบ

  เขาอยู่ในเรือนแต่เขากลับสัมผัสนางที่อยู่ข้างนอกไม่ได้เลย!

  แต่ที่ซือหยูทึ่งกว่าก็คือแม้แต่เหล่าว่าที่เทพที่คุ้มกันนอกเรือนก็ไม่มีใครมารายงานเรื่องนางต่อเขา

  ซึ่งว่าที่เทพเหล่านั้นภักดีต่อซือหยูเต็มหัวใจไม่มีทางที่จะหักหลังเขาได้!

  หากนางมาอยู่ตรงนี้ได้ตรงก็ต้องทำอะไรบางอย่างกับคนคุ้มกันเหล่านั้น!

   ข้านามว่าปี้หวังชิงอาจารย์ข้าคือเทพอสูรเนตรม่วง 

  เสียงนางอ่อนแอราวกับคนป่วยแต่น้ำเสียงนั้นสุขุม

   เป็นเจ้าเองรึ? 

  ศิษย์ของเทพอสูรเนตรม่วงอยู่ในเรือนเขาแต่เขาไม่รู้เลย และนางยังเป็นสตรี

   ตามข้ามา! 

  ซือหยูไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้

  นางโค้งเบาๆ   เราจะไปที่แท่นบูชารึ?ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งแล้ว รัชทายาทใช้โอกาสนี้ก่อกบฏ หากพวกนั้นฉลาด พวกมันจะต้องยึดทางออกแดนอสูรเพื่อใช้หนี ถ้าหากอยากจะออกจากโลกอสูร นี่คือโอกาสที่ดีที่สุด 

  นางเตือนเขาว่านี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่ซือหยูจะลงมือ

  ซือหยูหันไปมองนาง

   เจ้าคิดว่าเจ้าฉลาดงั้นรึ? 

  นางไม่เหมือนกับเทพอสูรเนตรม่วงดูเหมือนนางจะชอบแสดงปัญญาและความเฉียบแหลมออกมา!

  นางทำให้เหล่าว่าที่เทพด้านนอกไม่รู้สึกถึงตัวตนเพื่อแสดงพลังเฉพาะของนาง และตอนนี้นางยังเตือนซือหยูถึงก้าวถัดไปที่เขาต้องทำ

  เทียบกับเทพอสูรเนตรม่วงที่ถ่อมตัวแล้วศิษย์ของเขาแตกต่างกันคนละขั้ว ราวกับว่าไม่ได้เป็นอสูรเหมือนกัน   มิได้ข้าไม่กล้า แต่เป็นสายตาของข้าที่มองได้ทุกสิ่ง 

  นางพูดอย่างใจเย็นดวงตาภายใต้ผ้าคลุมขาวเปล่งแสงสีม่วง

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset