The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1316 – คำสาปที่ไม่จางหาย

ตอนที่ 1316 – คำสาปที่ไม่จางหาย

  ซือหยูไม่ได้เกลียดฑากิณีนักแต่เขาไม่ชอบนางแน่นอน

  นางเมตตาต่อศัตรูแต่กลับโหดร้ายต่อคนของตัวเอง

  มีเพียงสภาพแวดล้อมอันพิลึกพิลั่นเท่านั้นที่จะก่อกำเนิดนิสัยอันพิลึกพิลั่นนี้มาได้

  ถ้าหากนางเป็นคนทั่วไปความคิดเช่นนี้คงจะนำอันตรายมาสู่ตัวนางแล้ว แต่ส่วนที่น่ากลัวก็คือนางเป็นผู้นำแห่งพันธมิตรบูรพา

  เทพเจิ้งถอนหายใจ

   เมื่อเรากลับจากโลกเสี้ยววิญญาณพันธมิตรบูรพาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก 

   อย่างแรกคือการจัดสรรกำลังใหม่พันธมิตรบูรพาเลียนแบบพันธมิตรประจิมโดยการเปลี่ยนการปกครองแบบหละหลวมเป็นบริหารโดยรวมอำนาจไว้ยังศูนย์กลาง 

   ฑากิณีได้ตั้งพรรคเทพบูรพาโดยมีนางเป็นผู้นำพรรคมีเทพพ่อค้าและรองผู้นำพรรครับใช้นาง จากนั้นก็เรียงตามลำดับเทพลงไป มีการแต่งตั้งเทพอีกสิบคนคอยรับคำสั่งจากนาง 

  การจัดกำลังเช่นนี้แทบจะเหมือนกับพันธมิตรประจิม

  เทพเจิ้งเหลือบมองซือหยูและกล่าว

   ในช่วงนี้ฑากิณีกำลังเล็งเทพตระกูลที่ออกไปนอกพันธมิตรและไม่กลับมาในร้อยปีที่ผ่านมา เทพเหล่านั้นถูกตัดขาดออกจากพันธมิตรร้อยเทพ 

  ซือหยูพูดอย่างเย็นชา

   นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! 

  แม้เทพเหล่านั้นจะไม่กลับมาร้อยปีแต่เทพเหล่านั้นยังคงภักดีต่อพันธมิตร อำนาจของพรรคมิได้มีเยอะเกินไปหรอกรึ?

   แล้วคนในตระกูลที่ถูกตัดขาดเล่า? 

  ซือหยูถามต่ออย่างเยือกเย็น

   คนในตระกูลที่ถูกตัดการจะกลายเป็นข้ารับใช้ของตระกูลฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ก็ถูกสังหาร ไม่ก็ต้องไปรับใช้เทพคนอื่นเพื่อรับการคุ้มครองในฐานะทาส หรือไม่ก็ต้องหรือจากพันธมิตรบูรพาไปทั้งตระกูล บางตระกูลหนีไปยังโลกที่ถูกทิ้งร้างในจักรวาล 

  อย่างที่คิดเลย!ตระกูลที่ถูกทิ้งจะสูญเสียการคุ้มครองจากพันธมิตร และเมื่อไร้เทพในเผ่าพันธุ์เดียวกันปกป้อง พวกเขาก็ไม่ต่างจากอาหารอันโอชะของคนอื่นไม่ใช่หรือ?

  ถ้าหากไม่หนีตั้งตระกูลจะตกต่ำลง ไม่ก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น!

  ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเทพในตระกูลยังไม่ตาย และถ้ากลับมาและพบว่าอำนาจที่สร้างมากับมือได้หมดลงแล้ว เทพเหล่านั้นจะเลือกทำอย่างไรต่อ?

  เทพเหล่านั้นจะยังทำเพื่อพันธมิตรอยู่หรือ?น่าขันยิ่งนัก! นี่ไม่ต่างกับการเปลี่ยนฝ่ายเดียวกันให้กลายเป็นศัตรู!

  ฑากิณีกำลังทำให้พันธมิตรแตกพ่าย   แล้วตระกูลเทพกระเรียนล่ะ? 

  ซือหยูถามถึงจะไม่ต้องถามก็อาจเดาได้

  เทพเจิ้งตอบอย่างหมดหวัง

   เพราะเจ้าตกลงสู่โลกอสูรทุกคนคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว โลกเทพกระเรียนเลยตกเป็นทรัพย์สินสาธารณะของพรรคเทพบูรพา 

   ส่วนคนตระกูลเทพกระเรียนถูกนำออกไปจากพันธมิตรโชคดีที่หยางไท่กับหวังยุ่นเสวียนคุ้มครองเอาไว้ คนตระกูลเทพกระเรียนจึงไม่ได้ลงเอยอย่างตระกูลอื่น 

  หยางไท่บุตรชายแห่งเทพพ่อค้า กับหวังยุ่นเสวียน บุตรชายแห่งเทพอุปกรณ์งั้นรึ? ซือหยูติดหนี้บุญคุณทั้งสองแล้ว

   ฑากิณีทำอะไรอีกหรือไม่? 

  เทพเจิ้งพยักหน้า

   นางส่งตัวอาชญากรจากพันธมิตรประจิมออกไปพ่อลูกกงซุนถึงได้ถูกส่งกลับพันธมิตรประจิม 

  สองคนนั้นถูกส่งกลับมาเพราะฑากิณีงั้นรึ?ความผิดของพ่อลูกกงซุนไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นที่จะต้องส่งข้ามพันธมิตรไป ฑากิณีเป็นคนเลือกสองคนนั้นเอง

  ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางไม่พอใจซือหยูใยนางจะต้องเลือกคนไม่สำคัญอย่างพ่อลูกกงซุนเล่า

   อะไรอีก? 

   ทั้งพันธมิตรกำลังล้างบ้างกลุ่มอำนาจในเงามืดยังมีลูกหลานของเทพผีที่ถูกกวาดล้างไปด้วย 

  จักรพรรดิผีงั้นรึ?ซือหยูแววตาเยือกเย็น

  เขาเป็นคนขอให้จักรพรรดิผีกับสายลับที่แอบบ่มเพาะขึ้นมาตั้งหน่วยข่าวกรอง

  แต่จักรพรรดิผียังถูกจัดการ!

  หลากหลายสิ่งที่ฑากิณีทำล้วนเกี่ยวข้องกับซือหยูฑากิณีกำลังทำเพื่อต่อต้านเขา

  นอกจากจะโกรธแล้วซือหยูยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดฑากิณีถึงมองเขาเป็นศัตรู

  ทั้งคู่มีเรื่องอะไรให้บาดหมางกันหรือ?    ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าต้องกลับไปยังพันธมิตรบูรพาด้วยตัวเองสินะ? 

  เทพเจิ้งกับเทพกระบี่เคร่งเครียดขึ้นมาพร้อมกันด้วยตำแหน่งสูงส่งของซือหยู ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถือว่าเป็นนโยบายของพันธมิตรประจิม

  เขาจะไปพันธมิตรบูรพาเพื่อทำสงครามรึ?

  เพียงแค่คิดทั้งสองก็ตัวสั่นแล้ว

  เทพเจิ้งละอายใจยิ่งกว่าเดิม

   ข้าผิดเองข้าผิดที่ไม่ได้หยุดเรื่องเช่นนั้น 

   แน่ล่ะว่าเจ้าสองคนมันผิด! 

  ซือหยูจ้องเทพทั้งสอง

  เทพเจิ้งกับเทพกระบี่ตัวแข็งทื่อใบหน้าทั้งสองอึดอัดใจ ทั้งสองพูดไปเพียงเพราะอยากจะทำให้ซือหยูสบายใจขึ้น แต่ทั้งสองต้องโทษตัวเองจริง ๆ หรือ?

   พวกเจ้ารู้อยู่แล้วว่าการตัดสินใจของฑากิณีจะทำให้เกิดภัยไม่รู้จบพวกเจ้าที่เป็นเทพพันธมิตรบูรพากลับไม่หยุดนาง! ถ้าเจ้าสองคนหยุดนางไม่ได้ เจ้าก็ตั้งพันธมิตรสิบเทพขึ้นมาเสีย ถ้าหากยังไม่พอ ก็ตั้งพันธมิตรยี่สิบเทพขึ้นซะ! 

  ซือหยูตำหนิอย่างรุนแรง

  แววตาเฉียบคมของเขาไม่เคยพลาดรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเขามองได้อย่างชัดเจนว่าเทพเจิ้งกับเทพกระบี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด

   ในพันธมิตรอันหละหลวมที่ไม่มีแนวทางการปกครองจริงจังมาก่อนเพราะมีเทพมากมายอยู่เจ้ากลับปล่อยให้นังผู้หญิงโง่คนเดียวออกคำสั่งโง่ ๆ ได้ พวกเจ้ายังมีคุณสมบัติเป็นเทพพันธมิตรบูรพาอยู่หรือ? 

  เทพเจิ้งกับเทพกระบี่สีหน้าไร้อารมณ์ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของทั้งสองเลย

   เข้าคิดว่าฑากิณีจะทำอันตรายแค่ตระกูลเทพที่ไร้อำนาจจะอย่างไรพวกเจ้าก็ไม่ได้รับผลกระทบสินะ? เจ้าสองคนเลยได้นิ่งเฉย? 

  ซือหยูถอนหายใจแรง

   คิดตื้นๆ! 

   จากพันธมิตรกว้างใหญ่หละหลวมที่รวมอำนาจเป็นหนึ่งเดียวในข้ามคืนเจ้าคิดว่าปัญหาจะมีแค่การเปลี่ยนชื่อพันธมิตรบูรพาเป็นพรรคเทพบูรพารึ? 

  ซือหยูถาม

   การรวมอำนาจย่อมทำให้เทพหลายคนไม่พอใจเพราะเสียอำนาจพิเศษของตนในการปกครองโลกที่ตัวเองสร้างขึ้นแน่นอนว่าย่อมแค้นฑากิณีที่ชิงอำนาจไป! 

   เพื่อที่จะดับความโกรธแค้นเหล่านั้นก็มีอยู่ทางเดียว! 

   เจ้าคิดว่าฑากิณีจะทำอะไรก่อน? 

   หากทำต่อเทพธรรมดาไม่ได้ผลนางก็ต้องทำต่อเทพคนสำคัญ เจ้าคิดว่าจะมีใครตกเป็นเป้าบ้าง? 

  แน่นอนว่าต้องเป็นรองผู้นำพรรคอีกสองคน

  เทพเจิ้งหัวใจหยุดเต้น

   เจ้าก็แค่คาดเดาเท่านั้น 

   ถ้าอย่างนั้นจงตอบข้าทำไมฑากิณีที่ไม่เคยคิดจะจับมือกับใครถึงได้สั่งให้เจ้าสองคนมาเจรจาและออกจากพันธมิตรบูรพา? ก็เพื่อให้สะดวกในการริบอำนาจตอนที่พวกเจ้าไม่อยู่ยังไงเล่า! 

  ซือหยูกล่าว

   ถ้าข้าเดาไม่ผิดตระกูลเจ้าคงจะถูกถอนรากถอนโคนไปเกือบหมดแล้ว 

  เทพเจิ้งลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความสะพรึงกลัวในแววตา

  ตระกูลไม่ได้ติดต่อนางมานานแล้วนางคิดว่าเพราะพันธมิตรสงบสุขไร้ปัญหาใด จึงไม่มีเรื่องสำคัญให้รายงาน

  แต่เมื่อคิดดูให้ดีพันธมิตรบูรพากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงอำนาจ และกำลังทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน มันจะสงบสุขได้อย่างไร?

  นางไม่ได้ข่าวอะไรเลยมาครึ่งปีบางทีซือหยูอาจพูดถูกที่บอกว่าคนในตระกูลนางมิอาจส่งข่าวมาได้

   ฮื่ม!คิดดูเอาเถอะ! 

  ซือหยูโบกมือ

  เจิ้งหยวนชิงพยักหน้าให้ซือหยูอย่างสง่างามนางผิดหวังกับเทพในพันธมิตรบูรพามามากพอแล้ว

  ไม่ว่าฑากิณีจะทำอะไรเหล่าเทพก็หวาดกลัวในพลังของฑากิณีจนไม่กล้าต่อต้านเพราะตระกูลตัวเองไม่ได้รับผลเสีย จึงไม่ได้คิดห้ามนโยบายเหล่านั้น

  แต่เทพเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าฑากิณีกำลังทำลายพันธมิตรบูรพาไปหนึ่งก้าวแล้ว

  ซือหยูเห็นได้จากการฟังแต่เหล่าเทพกลับไม่สนใจใยดี

  เขาไม่ได้เกลียดชังเทพพันธมิตรบูรพาที่ทำอะไรไม่ได้เพราะอย่างไรเทพเหล่านั้นก็ไม่เกี่ยวกับซือหยูอยู่แล้ว

  แต่เขาผิดหวังในความสิ้นหวังของพันธมิตรบูรพา

   เจ้าพวกคนโง่ที่สึกหรอตามความสงบสุขสุดท้ายก็กลายเป็นพวกสิ้นหวังโดยไม่รู้ตัว 

  ซือหยูส่ายหน้า

   ข้าต้องกลับไปพันธมิตรบูรพาสินะ… 

  ซือหยูพึมพำพันธมิตรประจิมกำลังย้ายตำแหน่ง เขาจะต้องย้ายทั้งพันธมิตรไปยังพันธมิตรบูรพา

  ส่วนฑากิณีเป็นไปไม่ได้ที่ซือหยูจะสงบศึกกับนาง

  เขาไม่เชื่อว่าเทพตำแหน่งสูงอย่างนางจะเมตตาโอบอ้อมอารีจนอภัยได้แม้กับศัตรูถ้าเป็นเช่นนั้น นางคงจะตายไปเป็นพันครั้งแล้ว

  คำอธิบายเดียวก็คือนางมีเป้าหมายซ่อนเร้น

  ขณะที่กำลังคิดซือหยูกดหน้าอกของตัวเอง เขาตกใจ

   เกิดอะไรขึ้น? 

  อกของเขาร้อนผ่าวอย่างไม่มีเหตุเขาฉีกเสื้อมองและชักสีหน้า

  คำสาปราชาเขตกลางที่ถูกเทพไม้ผนึกถูกปลดปล่อยออกมาพลังอสูรที่มีเอกลักษณ์ปลดปล่อยออกมาด้วย!

  ฟึ่บ!

  เทพไม้สัมผัสได้ถึงความผิดปกตินางปรากฏตัวทันที

  เมื่อเห็นสภาพซือหยูนางอ้าปากค้างเช่นกัน

   เป็นไปได้ยังไง?ผนึกที่ข้าผนึกอีกครั้งกำลังแตกสลาย! 

   คำสาปถูกผนึกมาโดยตลอดทำไมถึงทำลายได้ล่ะ? 

  เทพไม้ใบหน้าตึงเครียด

   คนที่ถูกคำสาปเรียกอาจจะมาถึงแล้ว     เทพคนนั้นมีพลังเหนือกว่าข้าไปหลายขุมมิเช่นนั้นคงเปิดคำสาปจากระยะไกลไม่ได้! 

   ซือหยู… 

  เทพไม้พูดเสียงเศร้า

   ตำแหน่งเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset