The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 925 – ภูติผีตัวประหลาด

DND.
ดวงตาซือหยูเยือกเย็นเขาสะบัดแขน เส้นไหมที่มองไม่เห็นได้สะบั้นหนามกระดูกจนแตก
มั่วหยางกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาน
“อ๊ากก!มือข้า! เจ้าตัดมันได้ยังไง? สมบัติวิญญาณชั้นสูงยังตัดมันไม่ได้เลย!”
แต่ซือหยูก็ไม่สนใจซือหยูร่อนลงดั่งแมลง เส้นไหมตัดหนามกระดูกไปทีละคืบ มั่วหยางกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานไม่หยุดหย่อน เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เขารีบดึงหนามกระดูกกลับและมุดลงไปในใต้ผาโดยไม่หันกลับในด้านความเร็ว มั่วหยางที่ขณะนี้มีพลังจ้าวเทวระดับสามย่อมเร็วกว่าซือหยู เขาจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอยในไม่กี่ลมหายใจ
แต่มันก็เพียงชั่วคราวเท่านั้นไม่นานจากนั้นก็มีแสงเพลิงแดงพุ่งเข้าไปตามติดๆ ปีกเพลิงสยายออกมา!
ความเร็วของซือหยูเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด!เขาตามมั่วหยางที่กำลังหนีทัน!
มั่วยางเกือบจะถึงตีนผาแล้วมีแอ่งน้ำไร้ก้นบึ้งเย็นยะเยือกอยู่เบื้องล่าง มั่วหยางดำดิ่งตรงลงไปราวกับว่ามันจะช่วยชีวิตเขาได้!
ซือหยูเหลือบมองแอ่งน้ำและรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาทันทีเขาคิดว่าในนี้จะต้องมีบางอย่างซ่อนอยู่!
ดังนั้นเขาจึงรอไม่ได้อีกแล้ว!หลังจากหายใจเข้าลึก ซือหยูขยับมือทั้งสองข้าง แสงจันทราในมือขวาขยายออก มันปกคลุมมุมหนึ่งของโลกเอาไว้!
เมื่อมั่วหยางแหงนหน้ามองความตกตะลึงและความกลัวก็สั่นคลอนหัวใจ! ในเส้นขอบนภาไร้จุดจบนั้นถูกแสงจันทร์กระจ่างห้อมล้อมเอาไว้!
จันทร์กระจ่างกำเนิดเกิดบนท้องนภาในขณะนี้และมันก็กำลังตกลงมาใส่เขา! แต่ที่มั่วหยางตกใจที่สุดก็คือในตอนที่เขารู้ว่ามันคืออะไร!
“วิชาพิเศษจากราชาเขตกลางฝ่ามือเทพดับสวรรค์กระบวนท่าแรก ฝ่ามือจันทรา! เป็นไปไม่ได้! เจ้าเป็นศิษย์ตำหนักโลหิต เจ้าใช้ฝ่ามือเทพดับสวรรค์ได้ยังไง?”
มั่วหยางหวาดกลัวมาก
ในแสงจันทร์ไร้ขอบเขตเสียงหนึ่งตอบ
“ข้าจะบอกตอนที่เจ้าลงไปในนรกนั่น!”
ตู้ม!
แสงจันทร์กระจ่างเข้าใกล้มั่วหยางที่กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตาใต้แสงจันทร์ชิ้นส่วนของร่างกายตกลงสู่แอ่งน้ำเย็นยะเยือกทันที
ฝ่ามือเทพดับสวรรค์ท่าแรกประสบความสำเร็จอย่างงดงามมันสังหารจ้าวเทวะระดับสามได้อย่างไม่ยากเย็น! แต่จากนั้นหูของซือหยูก็กระดิกเล็กน้อย นั่นก็เพราะในเสียงก้อนเนื้อจมแอ่งน้ำมีเสียงหนึ่งที่แปลกประหลาด
เขาจ้องมองมั่วหยางที่เพิ่งจะกลายเป็นชิ้นๆซือหยูเห็นว่าเลือดเนื้อของมั่วหยางกำลังรวมตัวกันอีกครั้ง!
คืนชีพรึ?เป็นไปไม่ได้! ซือหยูมองทุกอย่างด้วยเนตรวิญญาณและก็พบอย่างที่คาด มั่วหยางที่แหลกเป็นชิ้นๆนั้นคือร่างที่เขาลอกคราบ! มันขาดชิ้นส่วนบางชิ้นไป! แต่ฐานพลังของเขากลับไปถึงจ้าวเทวะระดับห้าแล้ว!
“บัดซบ!เจ้าทำลายร่างอสูรศักดิ์สิทธิ์แท้ของข้า! ข้าจะทำให้เจ้าสิ้นหวัง จะอยู่หรือตายก็ไม่ได้ทั้งนั้น!”
มั่วหยางมองซือหยูด้วยตาแดงก่ำความชิงชังแสดงออกอย่างชัดเจน
ร่างกายนี้เป็นเปลือกนอกที่ทิ้งเอาไว้ระหว่างการลอกคราบตอนที่เขาเป็นจ้าวเทวะระดับห้าแรกเริ่มเดิมที หลังจากที่มั่วหยางลอกคราบ เขาจะต้องจับจ้าวเทวะหลายคนมาและใช้แก่นโลหิตของจ้าวเทวะเหล่านั้นฟื้นฟูร่างเด็ก จากนั้นเขาก็จะได้เป็นจ้าวเทวะระดับหก
ดังนั้นถ้าหากซือหยูรีบมาก่อนที่เขาลอกคราบ ซือหยูจะต้องตายอย่างแน่นอน! แต่ตอนนี้ซือหยูฉวยโอกาสที่มั่วหยางกำลังอ่อนแอและทำลายร่างใหม่ของเขา!
หรือพูดอีกอย่างก็คือการบ่มเพาะวิชาอสูรศักดิ์สิทธิ์ของมั่วหยางจบลงแล้ว ร่างกายที่เขามีอยู่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก! มั่วหยางจึงโกรธแค้นผู้ที่มาช่วงชิงอนาคตของเขาไป!
เขาถูกบังคับให้กลับมาอยู่ในร่างกายก่อนหน้า!แต่ด้วยร่างนี้ เขาไม่ต้องกลัวหูหวังกุยอีกต่อไปแล้ว มั่วหยางกำลังจะแก้แค้น!
“ลงนรกไปซะ!”
มั่วหยางกลายเป็นจ้าวเทวะระดับห้าแล้วดังนั้นพลังของเขาจึงเพิ่มขึ้น!
ซือหยูเห็นร่างของมั่วหยางไม่ชัดด้วยซ้ำก่อนที่มั่วหยางจะห่างจากเขาสิบศอกแต่ซือหยูไม่ตื่นตระหนก เขาสะบัดแขน หอคอยหลากสีเล็กๆปรากฏที่มือ
เขาอัดพลังห้าธาตุเข้าไปหอคอยปล่อยชั้นคลื่นห้าสีออกมา หอคอยเล็กได้กลายเป็นชั้นป้องกันซือหยู
มั่วหยางกระแทกกระเด็นออกจากม่านพลังคลื่นป้องกันที่หน้าซือหยูนิ่งไม่ไหวติง มั่วหยางที่กระเด็นไปนั้นเหนื่อยล้าอย่างมาก
เขาตะโกนด้วยความแค้น
“เจ้ามันเป็นใครกันแน่?!”
เขากำลังคิด….ปีกเพลิงประหลาด…เส้นไหมคมกริบลึกลับ…ม่านพลังคุ้มกันแปลกๆ…หุ่นเชิดจ้าวเทวะระดับห้า…นี่น่ะรึภูติธรรมดาๆ?จ้าวเทวะชั้นต้นแทบทุกคนยังอ่อนแอกว่ามาก!
“เจ้าไม่ต้องรู้หรอก…”
ซือหยูตอบอย่างไม่แยแส
จากนั้นฝ่ามือหนักแน่นก็ตบเข้าที่ร่างมั่วหยาง! เขาคิดจะโต้ตอบ แต่ร่างกายหลังลอกคราบนั้นมิอาจคล่องแคล่วพอ เขาถูกฝ่ามือตบที่หน้าอกเข้าอย่างจัง
อกของเขาถูกทะลวงหน้าไปถึงหลังทั้งร่างระเบิดออก! และหัวของมั่วหยางก็ระเบิดหายไป!
ซือหยูโบกมือปล่อยพลังโอบล้อมหัวของมั่วหยางเอาไว้หัวของคนผู้นี้มีค่าสามล้านคะแนนเต็ม!
หลังจากเก็บหัวใส่ในแหวนมิติซือหยูต้องจับวิญญาณมั่วหยางและทำลายในทันทีถึงจะเรียกว่ากำจัดมั่วหยางจนสมบูรณ์แล้ว!
ถึงอย่างนั้นมั่วหยางก็เจ้าเล่ห์มาก ในตอนที่ร่างกายเป็นเสี่ยงๆ เขาปล่อยวิญญาณออกมาจากร่างก่อนที่จะมุดลงไปในแอ่งน้ำ
หูหวังกุยอยากจะดำตามไปทันทีแต่ก็ถูกซือหยูหยุด
“ช้าก่อน!อย่าลงไป!”
ซือหยูตะโกนเตือนเพราะว่าส่วนลึกในแอ่งน้ำทำให้เขารู้สึกไม่ดีซือหยูหรี่ตาและใช้เนตรวิญญาณมองลึกลงไป
ซือหยูเจอวิญญาณมั่วหยางอย่างรวดเร็วแอ่งน้ำนี้ลึกจนน่าตกใจ มั่วหยางต้องใช้เวลาสักครู่กว่าจะถึงก้นแอ่ง มั่วหยางเอนกายกับผาก้นแอ่งน้ำที่เป็นประตูศิลา
พลังภูติผีมหาศาลปะทุออกมาจากอีกด้านของประตูศิลา
“นายท่านนี่มั่วหยางเอง”
วิญญาณมั่วหยางคุกเข่าที่หน้าประตูศิลา
เสียงแก่เฒ่าดังมาจากด้านใน
“แล้วเอ้อหลิงล่ะ?มันอยู่ไหน?”
“ตอนที่พวกข้ากำลังเตรียมหาศิษย์ตำหนักโลหิตคนใหม่มาก็ถูกพวกมันหลอกเอ้อหลิงตายแล้ว ร่างกายทั้งสองของข้าก็ถูกทำลายไปด้วย…”
มั่วหยางพูดด้วยความแค้น
เสียงจากประตูดังอีกครั้ง
“ถ้าเช่นนั้นวิญญาณที่เจ้ากำลังสะสม…มันก็หายไปด้วยสินะ?”
“มิใช่ข้าปกป้องมันด้วยชีวิต ทั้งหมดอยู่นี่แล้ว…”
มั่วหยางกล่าวเขาอ้าปากคายวิญญาณเล็กๆออกมา
ประตูศิลาเกิดรอยแตกเล็กๆพลังภูติผีท่วมออกมา มันดูน่ากลัวมาก
จากนั้นมือภูติผีที่มีแต่กระดูกได้ทะลวงผ่านช่องแคบมาจากประตูมันชิงวิญญาณเหล่านั้นไปด้านใน ไม่นานเสียงกรีดร้องของเหล่าดวงวิญญาณก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงเคี้ยว เสียงกรีดร้องดังต่อไปไม่ขาดสาย!
ราวกับว่าวิญญาณเหล่านั้นกำลังถูกเคี้ยวกินด้วยอะไรบางอย่าง!ต่อมาเสียงกรีดร้องของเหล่าดวงวิญญาณก็หายไปและแทนที่ด้วยเสียงครางเบาๆ
มั่วหยางก้มหน้าลง
“นายท่านไอ้คนที่ตามล่าข้าอยู่ข้างบนแอ่งน้ำนี่! โปรดล้างแค้นให้ข้าทีเถอะ!”
เสียงแหบพร่าด้านในประตูศิลาตอบ
“ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าแต่เจ้าโง่เง่าจนทำให้มันมาถึงที่นี่ เจ้าต้องถูกลงโทษที่เปิดเผยการมีอยู่ของข้า!”
อะไรนะ!มั่วหยางหน้าซีด แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร กระดูกมือก็ยืนออกมาด้วยความเร็วปานสายฟ้า มือนั้นคว้าวิญญาณมั่วหยางลากไปด้านใน.ไอรีนโนเวล.
ไม่นานเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูก็ดังมาจากร่องประตู มันหยุดลงพร้อมกับเกิดเสียงเคี้ยว! ซือหยูที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างจากด้านบนชาไปทั้งตัว
“โอ้ไม่นะ!ข้าต้องหนี!”
ซือหยูแผ่ปีกเพลิงโดยไม่ต้องคิดและทะยานฟ้าไปกับหูหวังกุยทันใดนั้นน้ำในแอ่งก็เริ่มเกิดระลอก
ระลอกกลายเป็นคลื่นคลั่งกรงเล็บภูติผีที่แห้งเหี่ยวยื่นออกมาจากแอ่งน้ำ! กรงเล็บนั้นรวดเร็วอย่างมาก มันพุ่งตรงไปที่ซือหยู!
เมื่อเห็นว่ามันทำคว้าข้อเท้าของเขาลากลงไปยังแอ่งน้ำซือหยูพลันคิด จากนั้นหูหวังกุยจึงบินเข้ามาขวางหน้าซือหยู!
พรึ่บ!
หูหวังกุยโดนจับลากลงไปด้วยความเร็วสูงซือหยูเบิกตากว้าง เขาเรียกเส้นไหมออกมาซัดใส่กรงเล็บ
แกร๊ก!
กรงเล็บหักทันทีจากนั้นซือหยูก็หนีจากกรงเล็บไปพร้อมกับหูหวังกุย!
ที่ก้นแอ่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดดังมาจากหลังประตูศิลา
“นั่นใครกัน?ร่างซากทองคำของข้าโดนตัดได้ยังไง?”
เอี๊ยด!
ประตูศิลาเปิดออกมนุษย์ที่ถูกรายล้อมด้วยพลังภูติผีพุ่งออกมาเหนือแอ่งน้ำในพริบตา เมื่อพลังภูติผีสลายไปก็ได้เห็นโครงกระดูกที่คล้ายมนุษย์
ร่างนี้เบ้าตาว่างเปล่าในเบ้าตานั้นมีเพลิงสีม่วงลุกโชนอยู่ ซือหยูจำได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าเขาคือเจ้าตำหนักจางที่ร่างถูกวิญญาณภูติผีอสูรเนรมิตรในเขาวิญญาณจรัสเข้าสิง!
ซือหยูคาดเดาเรื่องราวมันคงจะหนีมาจากเขาวิญญาณจรัสมาซ่อนตัวที่นี่! และดูจากฐานพลัง มันกำลังจะกลับไปเป็นอสูรเนรมิตรแล้ว!
มันมองตรงมาทางซือหยูแต่ก็ไม่พบอะไรซือหยูหนีไปไกลแล้ว
“นั่นใครกัน?ทำไมข้าคุ้นพลังนี้นัก?”
“ข้าจะมัวแต่ถูกพวกมนุษย์จ้าวเทวะจิวโจวไล่สังหารไม่ได้!ข้าต้องฆ่ามัน!”
มันเรียกสร้อยหยกออกมาส่งข้อความ
“ส่งคำสั่งข้าไปตรวจสอบคนในตำหนักโลหิตที่รับภารกิจสังหารมั่วหยางถ้าเจอรู้ว่าเป็นใคร ฆ่ามันให้หมด!”
หลังจากได้ข้อความสร้อยหยกมอดไหม้เหลือเพียงความว่างเปล่า มิอาจบอกได้ว่าเจ้าตำหนักจางส่งข้อความไปหาใคร ตอนนี้ซือหยูอยู่ห่างออกไปหลายแสนลี้ เขาไม่ได้บินสูง เขาพยายามบินให้ใกล้พื้น
เขามีเครื่องรางฝังอยู่ในร่างกายหากใครเห็นเขาตอนนี้ก็ต้องคิดว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่ไร้พลัง
เขาเดินทางต่อไปอีกหลายวันจนแน่ใจว่ามาไกลพอจากนั้นเขาจึงถอดสร้อยสุเมรุใจหายออกและถอนหายใจยาว…ใครกันที่อยู่ใต้แอ่งน้ำนั่น? ทำไมถึงต้องซ่อนตัวตรงนั้น? แล้วเสียงนั่นอีก…ข้าเคยได้ยินเสียงมันมาก่อน!
ซือหยูสีหน้าหม่นหมองเขามาเพื่อไล่ล่ามั่วหยางโดยเฉพาะ แต่การล่าของเขากลับได้พบกับภูติผีที่น่ากลัว!
โชคดีที่ซือหยูหนีมาทันเวลามิเช่นนั้นเขาคงจะตายไปแล้ว!
จากนั้นซือหยูได้หาพื้นที่ลปอดภัยและนั่งลงเขาเข้าสู่มิติวิญญาณ สิ่งรอบข้างดำสนิท
“เทพปีศาจเจ้าเอาวิญญาณนั่นไปไหนแล้ว?”
ซือหยูจะต้องให้เอ้อหลิงมาอธิบายให้ชัด!
“ฮ่าๆๆมันกลายเป็นของว่างแสนอร่อยไปแล้วน่ะสิ! เจ้าหนู เจ้าลองสักคำไหมเล่า?”
เทพปีศาจไม่ปรากฏตัวออกมาแต่ก็ตอบซือหยูด้วยเสียง
ซือหยูขมวดคิ้ว
“นี่มันมิติวิญญาณของข้า!”
จากนั้นทั้งมิติวิญญาณสั่นสะเทือน เทพวิญญาณที่ซ่อนในที่ลับถูกยิงพุ่งออกมาอย่างแรง เมื่อได้เห็นซือหยูก็กระโดดโหยงด้วยความตกใจ นั่นก็เพราะว่าเทพปีศาจไม่ใช่หยดโลหิตอีกแล้ว มันกลายเป็นสุนัขที่สูงเท่ามนุษย์ครึ่งท่อน!

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset