the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ – ตอนที่ 244 เก็บเกี่ยวเหรียญคำขอบคุณชุดใหญ่

หัวหน้าหน่วยนายนั้นตะลึงไป “ที่ไหนเหรอ”

เริ่นเสี่ยวซู่ลดเสียงต่ำพูด “ที่ฐานปฏิบัติการหน้า อยู่ห่างจากเราเกือบสี่กิโลเมตร สวมเครื่องแบบนี้นอกจากจะกินจนอิ่มได้แล้ว ยังจะเอาอาหารกลับมาได้ด้วย”

พอหัวหน้าหน่วยผู้นั้นได้ยินเริ่นเสี่ยวซู่พูดว่าตนเองสามารถไปกินอาหารที่ฐานปฏิบัติการหน้าได้ เขาก็เกิดความลังเลพักหนึ่ง ถ้าคนที่ฐานปฏิบัติการหน้ารู้ตัวตนจริงเขาล่ะ

เขามองกลุ่มของเริ่นเสี่ยวซู่ ใจคิด แต่ตัวอย่างคนที่ทำสำเร็จแล้วก็อยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่เหรอไง ถ้ากลุ่มของเริ่นเสี่ยวซู่กินจนอิ่มได้ คนอื่นๆ ที่ใส่เครื่องแบบกองพันเทพยนต์ก็น่าจะทำได้เหมือนกัน

หัวหน้าหน่วยพูดจากใจจริงว่า “ขอบคุณมากนะสหาย!”

[ได้รับเหรียญคำขอบคุณจากหวังติ้งกั๋ว +1!]

[ภารกิจสำเร็จ รางวัล คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นพื้นฐาน]

พอเริ่นเสี่ยวซู่ได้รับแจ้งว่านอกจากภารกิจสำเร็จแล้วยังจะได้เหรียญคำขอบคุณด้วย ก็เกิดความคิดวาบขึ้นมาในหัว

หัวหน้าหน่วยผู้นั้นกำลังพาคนของตัวเองไปเอาอาหาร แต่ก็โดนเริ่นเสี่ยวซู่ขวางไว้

เริ่นเสี่ยวซู่พูดเสียงเครียด “พวกนายจะไม่ขอบคุณฉันเหรอไง”

ตอนแรกหัวหน้าหน่วยนิ่งอึ้ง แต่ก็รีบสั่งให้คนของตัวเองกล่าวขอบคุณเริ่นเสี่ยวซู่ ทหารกองกำลังพวกนี้กำลังหิวท้องกิ่ว ข้อมูลที่เริ่นเสี่ยวซู่ให้มาช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดจริงๆ คำขอบคุณส่วนใหญ่จึงมาจากใจจริง

จากใจจริงจนไม่อาจมาจากใจจริงมากกว่านี้ได้แล้ว!

เริ่นเสี่ยวซู่ได้เหรียญคำขอบคุณมาอีกสิบแปดเหรียญในชั่วพริบตา!

ว่ากันตามตรง เขามีเหรียญคำขอบคุณทั้งหมดสี่ร้อยเหรียญแล้วตอนนี้ ถ้าเขาทำให้คนอื่นๆ ที่แคมป์มาขอบคุณเขาด้วย ปลดล็อคอาวุธใหม่เพียงแค่เอื้อม!

เริ่นเสี่ยวซู่หันไปมองหลี่ชิงเจิ้ง “พวกนายกลับไปที่เต็นท์กันก่อนเลย ฉันมีเรื่องต้องไปทำ”

หลี่ชิงเจิ้งถาม “หัวหน้าหน่วยจะทำอะไรน่ะ”

เริ่นเสี่ยวซู่พูดอย่างเที่ยงธรรมว่า “พวกเราอิ่มกันแล้ว แต่คนในกองพันเหล็กที่สองเรามากมายยังหิวอยู่ พวกเราไม่อาจเห็นแก่ตัวได้ พวกเขาต้องรู้เรื่องนี้!”

หลี่ชิงเจิ้งได้ยินเริ่นเสี่ยวซู่พูดแล้วก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา เขาพลันรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจเทียบเริ่นเสี่ยวซู่ผู้สูงศักดิ์ได้เลย!

หลี่ชิงเจิ้งพูดออก “งั้นพวกเราแยกกันกระจายข่าวสาร ทุกคนได้ใจรู้เรื่องไว้ขึ้นหน่อย”

สีหน้าเริ่นเสี่ยวซู่กลับกลาย “ไม่ต้อง พวกนายเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว รีบๆ ไปพักเลย! รีบเข้านอนได้แล้ว อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยกว่านี้เลย!”

ทหารในหน่วยประทับใจจนน้ำตารื้นขึ้นมา ก่อนหน้าพวกเขาไม่เห็นเริ่นเสี่ยวซู่จะเป็นห่วงเป็นใยพวกตนขนาดนี้เลย หลี่ชิงเจิ้งคิดว่าที่ตนเองถูกลดขั้นมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยนั้นเพราะตนเองไม่รู้ความเท่าเริ่นเสี่ยวซู่เลย

หลังจากเริ่นเสี่ยวซู่โน้มน้าวให้พวกหลี่ชิงเจิ้งรีบไปพัก เขาก็วนไปตามเต็นท์หน่วยอื่น เต็นท์ที่ทางกองพลาธิการให้มาใหญ่พอจะให้ทั้งหน่วยนอนข้างใน

เริ่นเสี่ยวซู่วนแจ้งสารไปยังทหารกองกำลังส่วนตัวที่เหลืออย่างใจเย็น ตอนแรกทุกคนยังไม่เชื่อถืออยู่บ้าง แต่พอเริ่นเสี่ยวซู่แสดงหมั่นโถวที่พกมา พวกเขาก็เชื่อทันที!

หน่วยรบที่ได้รับข้อมูลมาจากเริ่นเสี่ยวซู่ต่างคิดว่าเขาช่างเป็นคนดีจริงๆ…ถึงพวกเขาจะรู้สึกแหม่งๆ อยู่บ้างที่เริ่นเสี่ยวซู่เซ้าซี้ให้เอ่ยคำขอบคุณก็เถอะ

เริ่นเสี่ยวซู่ลองนับเหรียญคำขอบคุณดู ก็พบว่าเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็มีเก้าร้อยกว่าเหรียญแล้ว ผลเก็บเกี่ยวนี้เยอะกว่าที่เคยมาก!

ช่างจริงแท้ที่ว่าเมื่อผู้คนหิวโซ อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่ออาหารนั้นจะมาจากใจจริงเป็นหนักหนา…

เริ่นเสี่ยวซู่ยกผ้าใบเต็นท์หลังถัดไปแล้วถาม “หิวกันไหม ฉันรู้ที่ดีๆ…”

ทหารนาโนแมชชีนห้านายมองเริ่นเสี่ยวซู่อย่างเงียบงัน เริ่นเสี่ยวซู่ยิ้มตอบอย่างใจเย็น “ฮ่าๆ ขอโทษที่รบกวน”

เขาประมาทเกินไปแล้ว!

ทุกเต็นท์หน้าตาเหมือนกันหมด เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเต็นท์ใครเป็นของใคร

ทหารนาโนแมชชีนพุ่งออกมาจากเต็นท์และคำรามว่า “หยุดนะ! นี่มันอะไรกัน!”

แต่พูดไปแล้ว เขาก็เห็นว่าผ้าใบเต็นท์มากมายข้างนอกเปิดออก ไม่ปรากฏคนข้างใน

ทหารนาโนแมชชีนผู้นั้นรีบไปตรวจรอบแคมป์และก็พบว่าคนหายไปครึ่งหนึ่ง!

ตอนนั้นเองก็มีทหารกองกำลังส่วนตัวกลุ่มหนึ่งเพิ่งกลับมาจากการรับประทานอาหารที่ศูนย์ปฏิบัติการหน้า ทหารบางนายถึงกับเอาไม้จิ้มฟันเขี่ยฟันอยู่ด้วย นอกจากนั้นมองแวบเดียวก็เห็นว่าพวกเขาขนของมาไม่น้อยเลย

ทว่าพอพวกเขาเห็นทหารนาโนแมชชีนเดินมาก็ล้วนแข็งค้างไป ทหารนาโนแมชชีนจากกองพันเทพยนต์ถามเสียงเย็น “หายไปไหนกันมา”

หนึ่งในนั้นตอบเสียงสั่น “พวกเราไปกินอาหารที่ฐานปฏิบัติการหน้าครับ”

คำตอบนั้นทำเอาทหารนาโนแชชีนตะลึง “แค่ไปกินอาหารน่ะนะ”

และแล้วก็มีคนกลับมาจากฐานปฏิบัติการเยอะขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็โดนลงโทษให้ยืนแถวตรงที่แคมป์

ทหารนาโนแมชชีนย่างไปรอบพวกเขาพร้อมแค่นเสียง “รู้หรือเปล่าว่าออกจากค่ายไปโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นความผิดอะไร”

เขาตบหมั่นโถวที่ทหารกองกำลังส่วนตัวอุ้มไว้อยู่จนหล่นลงกับพื้น จากนั้นก็เหยียบลงบนหมั่นโถว “นาย นาย นาย!”

ทหารนาโนแมชชีนชี้ไปยังทหารกองกำลังส่วนตัวสามนาย “กินหมั่นโถวที่พื้น!”

ทหารที่โดนสั่งแยกออกมาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร พวกเขาก้มลงหยิบหมั่นโถวที่โดนเหยียบจนแบนมายัดเข้าปากทันที

ทหารนาโนแมชชีนมองพวกเขา “ใครบอกให้พวกนายไปกินอาหารที่ศูนย์ปฏิบัติการหน้าได้”

พูดจบ เขาก็ต้องตะลึงที่เห็นว่าสายตาเกือบทุกคนหันไปมองเริ่นเสี่ยวซู่ แถมบางคนถึงกับชี้ไปที่เขาด้วยซ้ำ

ความหมายว่าทหารทุกนายที่ไปกินอาหารที่ฐานปฏิบัติการหน้าล้วนทำตามที่เริ่นเสี่ยวซู่บอกอย่างนั้นหรือ

แบบนี้ก็ง่ายแล้ว แค่ลงโทษเริ่นเสี่ยวซู่คนเดียว ก็เลี่ยงการก่อกบฎได้

ที่จริงนายทหารจากกองพันเทพยนต์ก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน ถ้ามีแค่คนหรือสองคนละเมิดกฎ พวกเขาคงถูกลงโทษอย่างร้ายแรง แต่ว่านี่มีคนทำผิดกฎมากเกินไป ถ้าลงโทษคนเยอะไปจนเกิดกบฏในค่ายทหารขึ้นมาจะทำอย่างไร ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือลงโทษคนผู้หนึ่งเป็นการเตือนทุกคน

แต่นายทหารแห่งกองพันเทพยนต์มีเรื่องไม่เข้าใจ เขามองไปที่เริ่นเสี่ยวซู่แล้วถาม “ทำไมนายบอกให้คนอื่นไปกินอาหารที่ฐานปฏิบัติการหน้า”

เริ่นเสี่ยวซู่มองแวบหนึ่ง “ไก่สับตุ๋นน้ำแดงที่ฐานปฏิบัติการหน้าอร่อยเหาะเลย”

นายทหารกองพันเทพยนต์ “…”

ตอนที่เริ่นเสี่ยวซู่พูดไป สีหน้าของนายทหารคนหนึ่งของกองพันเทพยนต์ก็เปลี่ยนไป คืนนี้เขาคิดจะใช้เริ่นเสี่ยวซู่เป็นคำเตือนต่อคนอื่นๆ!

แต่ตอนนั้นเอง เริ่นเสี่ยวซู่ก็กระซิบใส่ทหารนาโนแมชชีนคนหนึ่ง “ขอคุยเป็นการส่วนตัวสักนิดได้ไหม”

ทหารนาโนแมชชีนคนนั้นงุนงง พาเริ่นเสี่ยวซู่ไปหลบมุมแห่งหนึ่ง เริ่นเสี่ยวซู่แสดงใบแสดงตนทหารกองสืบสวนพิเศษทันที “ฉันสงสัยว่ามีสายลับของสมาคมตระกูลชิ่งอยู่ค่ายทหารเรา พวกนายต้องร่วมกับฉันหาตัวคนผู้นั้น แล้วก็ฉันไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร เรื่องนี้ห้ามให้คนอื่นรู้นอกจากเราสองคน”

ทหารนาโนแมชชีน “…”

เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่าไหนๆ หูชัวกับหลี่เสินถานวางแผนการใหญ่อะไรบางอย่างอยู่แล้ว เรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้พวกเขาคงไม่ว่าอะไรหรอก แต่ถ้าพวกจะว่าอะไรล่ะก็ เริ่นเสี่ยวซู่ก็ยังจะทำอยู่ดี ปล่อยให้พวกเขารับผิดชอบไปนั่นแหละ

ค่ำคืนที่สถานการณ์พลิกผันไปมาเช่นนี้ทำเอาทหารนาโนแมชชีนรู้สึกโดนถาโถมจนรับไม่ไหว เขาคิดว่าตนเองต้องกลับไปคิดใคร่ครวญอะไรๆ ให้ดีก่อน…

ร้อยเอกจากกองสืบสวนพิเศษบอกให้ทุกคนไปกินอาหารที่ฐานปฏิบัติการหน้าเพื่อหาสายลับจากสมาคมตระกูลชิ่ง?

แม่*ไม่เห็นจะเข้าท่าเข้าทางตรงไหนเลย!

กองสืบสวนพิเศษเป็นหน่วยงานที่กองพันเทพยนต์หวาดกลัว เพราะแม้แต่กองพันเทพยนต์เองก็ไม่กล้ากล่าวอ้างว่าพวกตนไม่มีสายลับแฝงตัวอยู่ในกองพัน

อีกทั้งการจารกรรมก็เป็นหนึ่งอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดในช่วงสงครามด้วย

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์
Status: Ongoing
ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู “ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset