ตอนที่37 กลับหอพักหญิงแล้วสิ
“ถ้าพวกคุณเชื่อฟังผมแล้วทำตามผม พวกคุณรีบวิ่งตามหลังผมมา”
เบลซมองและพูดกับคนที่อยู่ภายในสำนักงานสวัสดิการ ในตอนนี้หนูกลายพันธ์ที่เหลือรอบไม่ได้มีมากมายเพราะคนที่ทำงานในออฟฟิศไม่ได้มีเยอะมากนักจึงไม่ได้ดึงดูดพวกมันมากและไม่เป็นอันตรายกับเขาเท่าไหร่
“เอายังไงดีครับเคิร์ท!”
ผู้ชายสวมใส่แว่นตาถามชายหนุ่มหล่อด้านข้าง เขาที่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมแต่งตัวดูสง่างามและทันสมัย
เคิร์ทมองไปที่ทิศทางกลุ่มเบลซกระพริบตาไม่กี่ครั้งหลังจากที่ได้ตัดสินใจ
“ตามพวกเขาไป! การอยู่ที่นี้โดยไม่มีใครช่วยเราก็เหมือนกับเรานั่งรอความตายเท่านั้น”
เคิร์ทเป็นคนที่เด็ดขาดมากหลังจากการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เค้ารีบเปิดประตู สำนักงานสวัสดิการ ก้าวออกมาจากประตูและมองออกไป
“สุดยอด!”
ด้านนอกประตูเคิร์ทเห็นเบลซกับง้าวกรีดนภาที่ท่วมเพลิงอัสนีในมือเพียงแค่เขาหายใจเข้าสองครั้งสะบัดง้าวนึดหน่อยหัวของสัตว์ประหลาดพวกนั้น 2 ตัวก็หลุดออกจากบ่าแล้ว
คนที่เหลือยังตามอยู่ด้านหลังเคิร์ทและรีบวิ่งออกประตูตามเบลซทันที
“แข็งแกร่งมาก! มีคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ในมหาลัยเราด้วยหรือนี้? แถมยังไม่ใช่แค่คนสองคนอีก เดี๋ยวนะนั้นมันเอมิเลีย?”
เคิร์ทเห็นเบลซและพรรคพวกจัดการกับหนูกลายพันธ์ได้อย่างราบรื่น ก็เต็มไปด้วยความตกใจ
เคิร์ทเป็นประธานของสหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยเขาได้พบกับทุกคนที่มีอิทธิพลใน มหาวิทยาลัยทุกคน แต่เขาไม่เคยเห็นกลุ่มของเบลซมาก่อน
“มหัศจรรย์มาก!”
คนที่วิ่งออกมาจากสำนักงานสวัสดิการมองพวกเบลซ ที่สามารถฆ่าหนูกลายพันธ์ได้อย่างง่ายดายพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกลุ่มที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้โอกาสในการอยู่รอดจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
เบลซวิ่งเข้าไปในสํานักงานทั่วไปและปล่อยให้ พรรคพวกจัดการฆ่าหนูกลายพันธ์ด้านหน้าสำนักงานในขณะที่เขาเข้ามาในสำนักงานทั่วไป
เมื่อเข้ามาในสำนักงานทั่วไป ชายร่างผอมแต่ใบหน้าและร่างกายถูกกัดไปหลายที่ได้ นอนกองกับพื้น
“เจอมันแล้ว!”
เบลซเต็มไปด้วยความสุขที่เจอคนขับรถบัส โรงเรียนที่ชื่อเสี่ยวหลิว เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วเริ่มค้นตัว
หลังจากที่ค้นตัว เบลซใส่ถุงมือยางและค้นศพในที่สุดก็ดึงชุดลูกกุญแจ 3 ดอก
เมื่อลูกกุญแจอยู่ในมือเบลซแล้วเอมิเลียรีบคว้ามันมาก่อนที่จะไขล็อคเกอร์แล้วหยิบกุญแจรถบัสออกมาส่งให้เบลซ แล้วพวกเขาก็รีบวิ่งออกไปด้านนอกทันที
ในเวลานี้เบลซ เรย์ลิน เอมิเลีย และ เหมียนเหมียนได้ฆ่าหนูกลายพันธ์ทั้งหมดชิ้นส่วนกระจายทั่วทุกที่พร้อมทั้งเครื่องในตัวที่สภาพที่ดูดีสุดคือตัวที่หัวขาด
กลุ่มเคิร์ทที่ซุกอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ ดูทั้งหมดนี้
เบลซมองที่เคิร์ทพูดเสียงลึกว่า
“ผมจะมุ่งหน้าไปยังหอพักหญิง คุณมีแผนการอะไรต่อไปรึไม่
หอพักหญิงห่างจากสำนักงานนี้อยู่ห่างเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่มีหนูกลายพันธ์เพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ตอนที่เบลซและพวกมุ่งหน้ามาหากุญแจเมื่อซักครู่
เบลซรู้ตัวเองดีเขาคนเดียวคงไม่สามารถ ปกป้องคนจำนวนมากให้รอดจากสัตว์อสูรจำนวนขนาดนั้นได้ ที่แน่ๆถ้าวิ่งไปที่หอพักของหญิง
เคิร์ทมองไปทางเบลซแล้วกล่าวว่า “กระผมชื่อ เคิร์ท ริสเบิร์กเป็นประธานสหภาพนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเมเปิล คุณชื่ออะไรบอกหน่อยได้ไหม?”
เบลซกล่าวว่า “ผมชื่อ เบลซ แร็คน่าร์!”
เคิร์ทสันนิษฐาน
“ชื่อของเขาเหมือนอัจฉริยะที่ชอบวิชาการต่อสู้คนนึง” แล้วเคิร์ทก็ถามต่อ “ทำไมคุณต้องการที่จะมุ่งหน้าไปยังหอพักหญิง เพื่อนของคุณอยู่ที่นั้นใช่ไหม”
เบลซมองเคิร์ทแล้วกล่าวว่า
“ถูกต้อง! มีสัตว์อสูรจำนวนมากบนทางที่จะไปหอพักหญิงและมีส่วนหนึ่งกระจายตัวอยู่รอบๆ ถนนตั้งแต่ตอนผมวิ่งฝ่าออกมาที่นี้ พวกคุณมั่นใจที่จะวิ่งตามผมไปด้วยไหม แต่ผมไม่อาจรับรองความปลอดภัยให้คุณได้นะครับ”
สมาชิกในกลุ่มเคิร์ทโดยทั่วไปไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ถ้าวิ่งไปยังหอพักของหญิงประมาณครึ่งหนึ่งจะตายโดยการล่าของหนูกลายพันธ์
เคิร์ทกล่าวอย่างรวดเร็วว่า
“ผมรู้ว่าพวกผมต้องติดอยู่ที่นี่และรอความช่วยเหลือจากคุณเบลซ ผมเชื่อว่าคุณกำลังจะออกจากมหาลัยแห่งนี้ ก่อนที่คุณจะออกจากมหาลัยนี้ผมหวังว่าคุณจะสามารถมารับและพาเราไปกับคุณ ตราบใดที่คุณสามารถที่จะช่วยผมได้ ในอนาคตผมจะตอบแทนความช่วยเหลือของคุณอย่างสุดความสามารถ”
เบลซพยักหน้า
“ถ้ารถมีพื้นที่เหลือพอผมจะกลับมารับคุณ”
“สุดท้ายผมจะบอกข้อมูลคุณอย่างนึงถ้าฆ่าพวกมันและดูดซับคริสตัลมากพอคุณสามารถที่จะยกระดับและได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น หลังจากเลื่อนระดับ คุณสามารถเสริมสร้างพัฒนาตัวเองได้ หากคุณมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรคุณสามารถ ที่จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและมีวิวัฒนาการ ผมให้ข้อมูลที่ผมรู้ได้แค่นี้แหละที่เหลือก็อยู่ที่คุณว่า จะมีความกล้าพอไหม? ผมไปก่อนนะ”
หลังจากจบประโยคเบลซและพวกก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“เคิร์ทคุณเชื่อคำพูดของเขาไหม?”
หลังจากที่เบลซจากไปผู้ชายที่สวมแว่นตาถาม เคิร์ท
เคิร์ทจ้องมองมาที่มือที่ถือไม้พองแล้วกล่าวอย่างช้าๆว่า
“ควรที่จะเชื่อ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่แข็งแกร่งเช่นนี้” หลังจากที่เห็นความสามารถของเบลซและพรรคพวกโดยเฉพาะเอมิเลียที่เขาค่อนข้างจะคุ้นเคย เค้าเชื่อข้อมูลของเบลซว่าความสามารถคนเรา สามารถพัฒนาขึ้นได้ถ้ามีความกล้าและความพยายาม
เมื่อฟังคำพูดปลุกใจของเคิร์ทขวัญกำลังใจของคนทั้งห้าเริ่มพองโต แต่เมื่อคิดถึงการต่อสู้ระยะประชิดกับพวกหนูยักษ์ทุกคนกลายเป็นเงียบกริบ เป็นการต่อสู้อันตรายเกินไปตราบใดที่พลาดพลั้งพวกเขาพวกเขาจะตาย ชีวิตจริงต่างจากเกมออนไลน์ นี้เป็นเกมที่ทุกคนมีเพียง 1 ชีวิตถ้าตายแล้วไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพ
“กลับเข้าไปด้านใน”
เคิร์ทลังเลเป็นเวลานานในที่สุดก็ค่อยๆพูดกับอีกสี่คนแล้วเดินเข้าไปในสำนักงานสวัสดิการ แม้ว่าจะรู้วิธีการที่จะได้รับความแข็งแกร่ง แต่ให้เอาชีวิตของเขาไปเสี่ยงเคิร์ทไม่ได้เตรียมใจที่จะทำแบบนั้น
ส่วนที่เหลืออีก 4 คน ลังเลกับคำพูดของเบลซ ซักพักจากนั้นก็เดินเข้าไปในสำนักงานสวัสดิการ ถ้าให้มองในมุมคนที่เคยสุขสบายไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายนักในการดำรงชีวิต ความตั้งใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อความแข็งแกร่ง พวกเขาเลือกนั่งรอความช่วยเหลือแบบสบายๆใน สำนักงานสวัสดิการที่มีทั้งน้ำ อาหารและข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่งดีกว่าออกไปเสี่ยงชีวิตกับพวกนั้นด้านนอก
เมื่อออกจากสำนักงานสวัสดิการได้ซักพักเบลซเริ่มเร่งความเร็วอย่างเต็มพุ่งไปที่ทิศทางของหอพักหญิง
กลุ่มของหนูกลายพันธ์ที่เดินไปรอบๆทางด้านข้างเริ่มหันมาให้ความสนใจกลุ่มของเบลซอีกครั้ง
เบลซและพรรคพวกเริ่มลงโทษหนูกลายพันธ์ที่ขวางทางพวกเขา แม้แต่หนูกลายพันธ์ธาตุน้ำและธาตุลมสองตัวก็ไม่รอดจากการลอบโจมตีฉับพลันของเรย์ลิน และง้าวเพลิงอัสนีของเบลซ
ความคล่องตัวของเขาสูงสามารถที่จะลอบโจมตีเป้าหมายพร้อมทั้งหลบการโจมตีที่มาจากข้างๆและระหว่างทางได้ด้วย ทำให้ต่อสู้กับกลุ่มหนูกลายพันธ์ที่มีได้ไม่มีปัญหาอีกทั้ง อาวุธของเค้า(เบลซ)มีพลังการทำลายล้างมากและยังใช้พลังงานน้อยลงแต่มีประสิทธิภาพสูง(โจมตีประสานธาตุ) และการซัพพอร์ทจะระยะไกล(ไฟร์บอลกับลำแสงขนมปุยฝ้าย)จึงทำให้สามารถต่อสู้อย่างต่อเนื่องได้นานกว่าเดิมเป็นเท่าตัวหากเทียบจากเดิมก่อนหน้านี้
ด้วยความช่วยเหลือของทีมหัวหนูกลายพันธ์ หนูขนเพลิงและหนูยักษ์วารีรวม 9 หัวตกพื้น แล้วเขาก็ผ่านหนูกลายพันธ์โดยรอบและกลับมาที่หอพักหญิง
แน่นอนว่ารอบๆไม่มีหนูลายพันธ์เพราะการป้องกันของเพื่อนๆที่เขาแบ่งให้เฝ้าที่นี่
ช่วงนี้อาจจะงงๆนะว่าทำไมเหมือนเขียนไม่จบตอนคือแอดเขียนตอนยาว5000-7000คำแล้วแบ่งเอานะตามพล็อต
The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 37 กลับหอพักหญิงแล้วสิ
Posted by ? Views, Released on October 12, 2021
, The Great Geneticist in Apocalypse
The Great Geneticist in Apocalypse
เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ
แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น
“พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”
Recommended Series
Comment
Facebook Comment