เลือดทะลักออกมาจากบาดแผล!
ในเวลาเดียวกันนั้นแขนข้างหนึ่งก็ถูกโยนขึ้นไปในอากาศ!
“อ๊าก!” สีหน้าของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นซีดลงอย่างน่ากลัว ขณะที่เขาจ้องมองไปยังแขนข้างนั้น!
‘มันขาดออกมาแล้ว!’
‘แขนของเขาถูกฉีกขาด!’
‘นั่น…มันเป็นไปไม่ได้!’
เย่หลงและสมาชิกของตระกูลซือกงต่างตกใจกันมาก ไม่ต้องพูดถึงตัวของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นเลย!
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าแขนของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นจะถูกฉีกกระชากออกโดยไอ้เด็กเหลือขอคนหนึ่ง!
แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น!
ตึง!
เย่เฟิงเตะไปที่เฒ่าแยกร่างแปดชิ้นและทำให้เขาต้องล้มลงไป จากนั้นเขาก็เหยียบลงไปบนหน้าอกของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นแล้วกดร่างกายเขาเอาไว้ติดพื้น
จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาและคว้าแขนอีกข้างที่เหลือของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้น!
แควก!
เสียงเนื้อฉีกขาดที่น่ากลัวดังก้องไปทั่วทั้งลานแห่งนี้อีกครั้ง!
แขนถูกฉีกกระชากออกมาอย่างรุนแรง ราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น
“ไม่!”
เนื่องจากความเจ็บปวดที่รุนแรง เฒ่าแยกร่างแปดชิ้นตัวสั่นไปทั้งร่าง ขณะที่เหงื่อเริ่มผุดออกมาอย่างหนัก
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะโดนแบบนี้ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำกับคนอื่น ๆ
เมื่อมองตรงเข้าไปในดวงตาของเย่เฟิง เฒ่าแยกร่างแปดชิ้นก็ตัวสั่นด้วยความกลัวขณะที่เขาร้องออกมาอย่างรีบเร่ง “หยุดก่อน! ได้โปรด! คุณชนะแล้ว! เมตตาผมด้วย! ปล่อยผมไปเถอะ! ขอร้อง…”
ไม่ว่าเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นจะโหดร้ายแค่ไหน แต่เขาก็ยังเป็นแค่มนุษย์เท่านั้น!
เขาหวาดกลัวต่อเย่เฟิง!
“เมตตาแกงั้นเหรอ ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน “ถ้าเหล่าสมาชิกตระกูลของฉันขอความเมตตาจากแก แกจะปล่อยพวกเขาไปไหม ? หากเด็กสองคนนั้นร้องขอความเมตตาจากแก แกจะปล่อยพวกเขาไปหรือเปล่า ?”
“ฉันจะฆ่าแกอย่างที่แกฆ่าพวกเขา! ในเมื่อแกฉีกร่างกายเขาออกจากกัน ฉันก็จะฉีกร่างของแกออกเหมือนกัน!”
หลังจากพูดแล้ว เย่เฟิงก็กระทืบเท้าลงไปที่หน้าอกของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นอย่างแรง จากนั้นเขาเอื้อมมือออกไปและจับขาข้างซ้ายของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นเอาไว้!
แควก!
…
ในขณะนั้นคนทั่วทั้งลานต่างก็รู้สึกหดหู่อย่างมาก เพราะเสียงร้องโหยหวนของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้น
อึก!
ทุกคนในลานกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ เมื่อเห็นฉากที่บ้าคลั่งนั่น หลังของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อในทันที
มันเหมือนกับการดูสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งกำลังฉีกเนื้อแกะ!
ซือกงทัวและผู้อาวุโสคนอื่นรู้สึกว่าเปลือกตาของพวกเขากระตุกอย่างแรงด้วยความตกใจ
เย่หลงและซือกงจิงเองก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน
พวกเขาเผยสีหน้าที่หวาดกลัวอย่างมาก พลางกลืนน้ำลายอย่างแรง
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในภาคเหนือของจีน กำลังถูกทำให้อับอายขายหน้าและโดนฉีกกระชากร่างกายให้ขาดออกจากกันแบบนี้!
นี่มัน… น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แม้แต่สมาชิกของตระกูลเย่เองก็ยังคงตกใจอยู่เช่นกัน!
เมื่อจ้องมองเย่เฟิงที่บ้าคลั่งราวกับปีศาจ พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขานั้นเคยเป็นคนที่ขี้ขลาดมาก่อน
แควก!
เมื่อชิ้นส่วนร่างกายที่แปดถูกฉีกออก เฒ่าแยกร่างแปดชิ้นก็หยุดกรีดร้องในที่สุด
ร่างของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นถูกฉีกออกเป็นแปดชิ้นเหมือนชื่อของเขา!
ทั่วทั้งลานตกอยู่ในความเงียบงัน
ทุกคนต่างจ้องมองเย่เฟิงผู้ซึ่งถูกปกคลุมด้วยคราบเลือดราวกับว่าพวกเขากำลังจ้องมองผีร้าย
เมื่อซือกงทัวและผู้ติดตามของเขาเห็นเย่เฟิงที่ค่อย ๆ หันกลับมามองทางพวกเขา พวกเขาทั้งหมดก็ตัวสั่นเทาในทันที!
“พวกแกทุกคนสมควรตาย!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ซือกงทัวและคนอื่น ๆ ในตระกูลซือกงก็รู้สึกว่าขนหัวลุก
พวกผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหลังเขาสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมนและเกรี้ยวกราด!
“ดีมาก! แกนี่มันเป็นไอ้สารเลวที่โคตรจะชั่วร้ายและโหดเหี้ยม! ในเมื่อแกกล้าฉีกร่างของเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นออกเป็นชิ้น ๆ ถ้าอย่างนั้นแกก็คงอยากตายมากแล้วสินะ!”
“ฆ่ามันซะและล้างแค้นให้กับเฒ่าแยกร่างแปดชิ้น!”
“ฉันจะสับมันให้เป็นชิ้น ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของพี่ใหญ่!”
ด้วยเสียงที่โหดร้ายนั่น กลุ่มผู้อาวุโสพุ่งออกมาด้วยความเร็วเท่ากับเสียง!
…
มีชายชรา 4 คนยืนล้อมรอบเย่เฟิงภายในเสี้ยววินาที
มีเพียงชายชรากู๋ เท่านั้นที่ยืนอยู่นิ่ง ๆ ราวกับว่าเขานั้นไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับเย่เฟิง!
เมื่อมองดูชายชราทั้ง 4 ความหวาดกลัวของซือกงจิงก็ค่อย ๆ หายไป ขณะที่เธอเปิดเผยท่าทางเยาะเย้ยอย่างมาก แล้วแนะนำผู้อาวุโสทั้ง 4 ให้กับเย่หลงฟัง
“ปู่มารอสูรเก่งกาจในการทำลายกระดูกและดึงเส้นเอ็นกล้ามเนื้อออกมา!”
“ปู่มือมารเก่งในด้านการควักหัวใจของผู้คน!”
“ปู่มารเหมันต์เก่งในด้านทุบหัว!”
“และปู่มารคมมีดเก่งในการทำลายแขนขาด้วยอาวุธเคียวของเขา!”
“ผู้อาวุโสทั้ง 4 คนนี้ แต่ละคนนั้นน่ากลัวเหมือนกับเฒ่าแยกร่างแปดชิ้น!”
‘อะไรนะ!’
เย่หลงตกใจ
เมื่อมองดูผู้ผู้อาวุโสทั้ง 4 เขาไม่นึกเลยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นจะน่าหวาดกลัวเหมือนเฒ่าแยกร่างแปดชิ้น
‘เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน สนามพลังฉีของพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน!’
เย่หลงพูดด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นว่า “ดี ตระกูลซือกงนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ! แต่ละคนช่างมีพลังมากมาย! เรามารอดูกันดีกว่าว่า พวกเขาจะฆ่าไอ้สารเลวตัวน้อยนี้ได้อย่างไร!”
เย่หลงและซือกงจิงยิ้มกว้างออกมาในเวลาเดียวกัน
‘เย่เฟิงสามารถกำจัดเฒ่าแยกร่างแปดชิ้นได้ แต่เขาจะเอาชนะทั้ง 4 คนนี้ได้อย่างไร!‘
เมื่อพวกเขาคิดถึงการร่วมมือกัน เย่หลงและซือกงจิงก็รู้สึกยินดีอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขานั้นได้มองเห็นอนาคตของเย่เฟิงเรียบร้อยแล้ว
ในทางตรงข้ามกันนั้น ตระกูลเย่ทุกคนต่างดูหวาดกลัวอย่างมาก
‘แม้แต่เฒ่าแยกร่างแปดชิ้นคนเดียวก็ทรงพลังได้มากขนาดนั้น แล้วถ้าทั้ง 4 โจมตีเย่เฟิงพร้อม ๆ กัน พลังความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวมของพวกเขาจะต้องน่ากลัวมากแน่‘
ในตอนนั้นเอง เฒ่ามารอสูรก็จ้องมองเย่เฟิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวว่า “ไอ้เด็กเหลือขอฉันขอจองกระดูกของแกเอาไว้ ฉันจะค่อย ๆ ทำลายมันทีละนิด!”
หลังจากคำพูดของเขา เฒ่ามือมาร เฒ่ามารเหมันต์ และเฒ่ามารคมมีดก็พูดตามกันมาทีหลัง
“หัวใจของมันเป็นของฉัน!”
“ฉันจะเอาหัวของมัน ฉันอยากทุบหัวของมันจริง ๆ!”
“เฮ้…แขนขาของมันจะต้องเป็นของฉัน!”
ชายชราทั้ง 4 ต่างดูโหดร้ายอย่างมาก หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา เหล่าสมาชิกของตระกูลเย่ก็ตัวสั่นสะท้านเพราะความหวาดกลัว
ในสายตาของชายชราทั้ง 4 เย่เฟิงก็เป็นแค่ลูกแกะที่รอการถูกเชือดเท่านั้น
“ดี! ดีมาก!”
เย่เฟิงเกือบจะหัวเราะออกมา ในขณะที่เขาจ้องมองชายชราทั้ง 4 ด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม “กระดูก! หัวใจ! หัว! แขนขา!”
“เมื่อตอนนี้พวกแกได้เลือกวิธีที่จะตายแล้ว ฉันจะได้เริ่มสักที!”
หลังจากพูดแล้ว เย่เฟิงก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ในขณะที่เขาพูดต่ออีกว่า “มันคงเป็นการเดินทางไกลไปสู่ขุมนรก ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ!”
…
เขาช่างน่ากลัวจริง ๆ !
ใบหน้าของชายชราทั้ง 4 เปลี่ยนเป็นสีเข้ม เนื่องจากพวกเขาไม่นึกว่าไอ้เด็กเหลือขอคนนี้จะไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย ทว่าเขากลับทำตัวบ้าเลือดมากยิ่งขึ้น!
“ดี! ถ้าเป็นเช่นนั้น ไอ้เด็กเหลือขอแกก็ไปตายซะ!”
เฒ่ามารเหมันต์นั้นเป็นคนโหดร้ายมากที่สุด หลังจากตะโกนเสร็จเขาก็พุ่งเข้าใส่เย่เฟิงคนแรก!
“ไปลงนรกซะ!”
…
มารเหมันต์เอื้อมมืออันใหญ่โตของเขาไปที่ศีรษะของเย่เฟิง ในขณะที่เขาตั้งใจที่จะทุบทำลายมัน!
“หัวงั้นเหรอ ?”
เย่เฟิงเปิดเผยรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง!
…
เมื่อมารเหมันต์พุ่งเข้าหาเขา เย่เฟิงก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับปีศาจ
และเมื่อเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งเขาก็อยู่ด้านหลังของมารเหมันต์!
“ไม่นะ! ระวัง มารเหมันต์!”
ผู้อาวุโสอีก 3 คนที่เหลือร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนก ขณะที่พวกเขารีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อที่จะช่วยมารเหมันต์!
ในขณะนั้นมารเหมันต์รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของเขาเย็นเฉียบราวกับว่าเขากำลังเดินทางเข้าสู่ขุมนรก
“โธ่เว้ย!”
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงสายลมที่พัดมาจากด้านหลังศีรษะของเขา!
มารเหมันต์ใช้สัญชาตญาณของเขาหลบ!
แต่ทว่าในตอนนี้หัวของเขากลับถูกจับด้วยฝ่ามือของใครคนหนึ่ง!
จากนั้นฝ่ามือข้างนั้นก็บีบอย่างแรงจนแน่น!