The Rise of Otaku – ตอนที่ 12

บทที่ 12 นกอมตะเฒ่า

ในที่สุดข้อกำหนดทั้งหมดสำหรับการเรียกนกอมตะเฒ่าก็ถูกจัดการแล้ว เห็นได้ชัดว่าภารกิจในครั้งนี้ไม่ใช้เรื่องง่ายอย่างครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะการรวบรวมการ์ดสิบใบจากพวกสัตว์เล็กๆเหล่านั้น มันอาจกล่าวได้ว่าการ์ดแต่ละใบที่เขารวบรวมมานั้นมันเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาของเขา

แม้แต่โจวหยูเองก็แปลกใจที่เขาสามารถเอาชีวิตรอดจากการทุบตีที่โหดเหี้ยมนี้มาได้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีตเขาสามารถบอกได้เลยว่าเขาจะไม่มีทางยอมทำมันอย่างแน่นอน

ราชามังกรเฒ่าก็มีความสุขเช่นกัน ตั้งแต่การอัญเชิญชาวประมงนกอ้ายงั่วมาในครั้งก่อน มันไม่คิดว่าจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่หมู่บ้านนี้จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น

ยังคงเป็นสถานที่เก่าๆและฉากเก่าๆ บนเวทีปลาหยินหยางเริ่มหมุนอีกครั้ง หลังจากแสงไฟดับลงก็ปรากฏนกกระเรียนมงกุฎแดง สวมใส่เสื้อแบบลัทธิเต๋าปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา

ด้วยคุณสมบัติระดับพระเจ้า มันจึงทำให้นกอมตะเฒ่านั้นมีการแสดงออกที่สง่างามเป็นอย่างมากขณะโบกสะบัดปีก “ที่นี่ไม่เลวเลย! โปรดสร้างวิหารเต๋าสำหรับข้าให้เร็วที่สุด และข้าจะชำระล้างที่นี่ต่อจากนี้”

ความต้องการของสร้างวิหารเต๋าก็คือ : ต้นไม้ทอง x 20 ชิ้น , ต้นไม่ยางสน x 20 ชิ้น  หินปกติ x 60 ก้อน… และยังมีสิ่งของอื่นๆอีกเช่นกัน เมื่อโจวหยูได้ลองนับดูแล้วก็พบว่าสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างวิหารเต๋านั้นมันมีราคาแพงกว่าบ้านที่เขาสร้างขึ้นสำหรับชาวประมงนกอ้ายงั่วเสียอีก นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถสร้างได้เพียงแค่ใช้ไม้เท่านั้น

โชคดีที่เขาได้รวบรวมวัสดุไม้เอาไว้มากพอและยังมีพวกก้อนหินแปลกๆในห้องเก็บของ ซึ่งทั้งหมดมาจากเจ้าตู้กาชาปอง

เขาได้ขอให้ช่างไม้บีเวอร์ทำการสร้างวิหารเต๋านี้ในห้องเก็บของ เพราะถ้าเกิดเหอหยวนหยวนที่มาเยี่ยมเขาเป็นครั้งคราวเกิดเห็นมันขึ้นมาจะเกิดเรื่องยุ้งตามมา

แม้ว่าเธอจะไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้ แต่เธอก็ยังสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกวัสดุรอบๆได้! ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะป้องกันไม่ให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น

ห้องเก็บของที่ระบบมอบให้เขาเองก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้เขาได้นำพวกวัสดุจากของโลกแห่งความเป็นจริงมาใส่เอาไว้มากมาย แต่มันก็ดูเหมือนว่าห้องเก็บของนี้จะสามารถเก็บมันได้ไม่มีที่สิ้นสุด

ในที่สุดมันก็ใช้เวลาถึงสองวันในการสร้างวิหารเต๋าให้เสร็จสมบูรณ์

มันเป็นอาคารที่งดงามอย่างแท้จริง

ตัววิหารได้ถูกออกแบบมาให้เป็นสามโซนด้วยกัน โดยที่จะมีอาคารหลักและอาหารย่อยอีกสองแห่ง เมื่อมองผ่านประตูหลักของตัววิหารเข้าไป โจวหยูก็สามารถมองเห็นภายในที่สวยงามเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่ตัวอาคารหลักเท่านั้นที่ได้รับการตกแต่งที่สวยงาม แม้แต่อาคารย่อยทั้งสองเองก็ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราเช่นกัน ด้วยการเพิ่มการทาสีคานแกะสลักและแผงหน้าต่างไม้อย่างพิถีพิถันเข้าไป รวมไปถึงมันถูกฝังอยู่ด้านบนของแท่นหินสูงหนึ่งเมตรที่ทำจากหินธรรมดาราวกับว่ามันถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน

นอกจากนี้ยังมีบันไดเล็กๆขดรอบๆ โดยรวมแล้วองประกรอบทั้งหมดดูเหมือนว่าจะทำให้วิหารนี้สวยงามมากยิ่งขึ้น

โจวหยูไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนว่ามันจะต้องหนักอย่างแน่นอนเมื่อดูครั้งแรก ยังไงก็ตามเมื่อเขาเข้าไปยกมันจริงๆ มันกับรู้สึกเบาเป็นอย่างมาก แต่ในขณะที่เขาได้เลือกที่วางมันได้แล้วและกำลังจะก้มตัวลงไปวางนั้น น้ำหนักของวิหารเต๋าก็ได้เพิ่มมากขึ้นทันที!

‘พระเจ้า! โชคดีที่มันไม่ได้โดนเท้าของฉัน’

เมื่อโจวหยูได้วางวิหารนี้เสร็จแล้ว มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าลานหน้าบ้านของเขาเป็นเหมือนกับนิกายพุทธยังไงไม่รู้ ถ้ามีการจุดธูปในกระถางธูปขาตั้งขนาดใหญ่อีกละก็ มันจะเป็นอะไรที่ใช้เลย

เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมาเขาก็ได้ปัดมันตกลงทันที ก่อนที่เขาจะเดินวนดูรอบๆและก็พบว่าวิหารที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างไม้บีเวอร์นั้นเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะมองจากมุมไหนมันก็สวยงาม

แต่ถ้าถามว่าเขายินดีสร้างมันขึ้นมาอีกครั้งไหม? เขาจะรีบตอบไปทันทีว่าไม่! เพียงแค่วิหารหลังนี้หลังเดียวมันก็ได้ทำให้เขาเสียเหรียญโมที่เขาเก็บเอาไว้ตลอดทั้งเดือนไปเกือบหมดแล้ว

หลังจากนั้นไม่นานเหอหยวนหยวนและโจวชูวหยูทั้งสองก็ได้มาเยี่ยมเขาอีกครั้ง เมื่อพวกเธอเข้ามายังลานบ้านพวกเธอก็ไม่สามารถละสายตาจากวิหารเต๋าได้หลังจากที่เห็นมัน พวกเธอถึงกับใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายรูปมันอย่างตื่นเต้น ในขณะเดียวกันก็ได้ชื่นชมความสวยงามของมันอยู่ตลอดเวลา

“มันสวยมากพี่ชายหยู! พี่นี้มีฝีมือมากจริงๆ!”

“ พี่หยู! ฉันได้บอกไปแล้วว่าพี่ควรจะเลิกเขียนนิยายได้แล้ว เพียงแค่พี่ขายพวกดอกไม้และงานฝีมือของพี่พวกนี้ พี่ก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหมูบ้าน!”

โจวชูวหยูไม่รู้ว่าโจวหยูเป็นคนยังไง ทุกครั้งที่เธอมาเธอมักจะต้องการให้โจวหยูเปิดร้านค้าออนไลน์กับเธออยู่เสมอ เธอบอกว่าเธอจะช่วยโจวหยูในการจัดการร้านค้าทั้งหมดเอง ที่เขาต้องทำก็แค่ผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี่เท่านั้น

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่โจวหยูนั้นไม่สนใจข้อเสนอทางธุรกิจของเธอแต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีความสามารถในสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังชอบที่จะเขียนเรื่องราวบางอย่างลงบนเว็บไซต์มากกว่า

มันทำให้โจวชูวหยูรู้สึกผิดหวังตลอดมา

แต่เมื่อเธอมองไปที่วิหารเต๋าตรงหน้าอีกครั้ง เธอสามารถประเมินได้จากสายตาแม่ค้าว่ามันเป็นงานฝีมือที่สุดยอดมาก และมันจะต้องขายได้หลายพันหยวนอย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงร้านค้าออนไลน์ โจวชูวหยูได้เปิดร้านขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเธอยังอยู่ในโรงเรียนมัธยม เธอมักจะขายจำพวกผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่หมู่บ้าน ถึงเธอจะเริ่มทำมานานแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่สามารถสร้างเงินจำนวนมากได้จากมัน เธอทำได้เพียงแค่ได้เงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอกับค้นพบโอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

อนิจจาสิ่งที่เธอได้รับในเวลานี้ก็ยังคงเป็นการสั่นหัวปฏิเสธอีกครั้งของโจวหยู เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงปฏิเสธข้อเสนอของเธออีกครั้ง โจวชูวหยูก็ไม่สามารถทำอะไรอีกต่อไป เธอจึงทำเพียงถ่ายรูปอีกสองสามภาพด้วยความผิดหวัง

‘นี่มันช่างโหดเหี้ยม! ถ้าฉันมีผลิตภัณฑ์พวกนี้ ไม่เพียงแต่ฉันจะสามารถสร้างรายได้จากมันได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถเพิ่มชื่อเสียงของร้านค้าออนไลน์ของฉันได้อีกด้วย ‘

ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการปฏิเสธจากโจวหยูมาอีกครั้ง แต่เธอก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หลังจากทั้งหมดนี้เธอเคยถูกอีกฝ่ายปฏิเสธมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงมีภูมิคุ้มกันกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับพวกต้นไม้และดอกไม้พวกนี้ แต่เธอสามารถถ่ายรูปพวกมันได้ และเธอจะไปถามผู้เชียวชาญโดยตรงว่าต้นไม้เหล่านี้มีราคาเท่าไหร่

โจวหยูไม่รู้เลยว่าในตอนนี้โจวชูวหยูกำลังวางแผนอะไรอยู่ เพราะในตอนนี้มันกำลังเกิดปัญหาที่ทำให้เขารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมากเกี่ยวกับดอกไม้ไอดอล

ตั้งแต่ความสำเร็จของการสร้างวิหารเต๋าสำเร็จ จนไปถึงการย้ายเข้ามาอยู่ของนกอมตะเฒ่า คำสาปของดอกไม้ไอดอลก็ได้ถูกลบออกไปจนได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้โจวหยูต้องการที่จะร้องไห้คือก่อนหน้าที่คำสาปของดอกไม้ไอดอลจะถูกลบไปนั้น เจ้านักอมตะเฒ่าได้ขอเงินเขาก่อนที่จะถอนคำสาป เห็นได้ชัดว่าไอ้นกเฒ่าตัวนี้อาศัยอยู่ในวิหารที่สร้างขึ้นโดยใช้เงินของเขา และตัวเองยังไม่รู้สึกละอายเมื่อมาขอเงินเขาอีกครั้ง!

อย่างไรก็ตามไอดอลตัวน้อยผู้ซึ่งนอนหลับมานานพอแล้ว ยังไงเขาก็ต้องกำจัดคำสาปนี้ออกไปให้ได้ ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ไอดอลตัวน้อยจะยืดตัวช้าๆและหาวออกมายาวๆขณะที่ขยี้ตา ในที่สุดเมื่อเขาลืมตาและมองเห็นโจวหยูเป็นคนแรก เขาก็ได้แสดงรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบบินไปหาโจวหยูและพูดว่า “ พ่อ!”

‘แม่*! ฉันไปมีลูกตอนไหนวะ?! (1) ‘

ในขณะนี้โจวหยูไม่รู้ว่าเขาควรแสดงใบหน้าแบบไหนในการเผชิญหน้ากับชีวิตเล็กๆที่น่ารักนี้ดี! ที่จริงแล้วถ้าเขาต้องการเลือก เขาจะเลือกลูกสาวไม่ใช่ลูกชายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่ลูกชายที่หน้าตาดูน่ารักเหมือนผู้หญิงแบบนี้ …

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้วในตอนนี้ เขาทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมของเขาอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่เขาตรวจสอบสถานะของไอดอลตัวน้อย:

นีเนียน– อยู่ในช่วงระยะเติบโต,
คุณสมบัติ: ??,
ทักษะ: ???,
อารมณ์: มีความสุข

‘ดูเหมือนเขาจะต้องเป็นพี่เลี้ยงซักระยะหนึ่ง’

……

นีเนียนน้อยได้ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เจ้าตัวน้อยยังได้ไปพบกับชาวบ้านคนอื่นๆในโลกของ ACG เช่นราชามังกรเฒ่ามาแล้ว

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวน้อยดูเหมือนจะสนใจผู้หญิงสองคนมากกว่า มันได้นอนคว่ำอยู่บนศีรษะของโจวหยู ขณะที่มองโจวชูวหยูที่กำลังถ่ายรูปดอกไม้อย่างสนใจ ก่อนที่มันจะถามว่า“ พ่อ! พ่อ! พ่อ! คนไหนเป็นแม่ผม?”

“พัฟ! อาการไอ…” โจวหยูเกือบสำลักน้ำลายของตัวเองจริงๆ โชคดีที่ผู้หญิงทั้งคนสองนี้ไม่ได้ยิน ไม่อย่างนั้นเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเขาจะได้รับการลงโทษแบบไหนจากผู้หญิงสองคนนี้

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก เขาได้วางแผนที่จะสอนมารยาทให้เจ้าลูกชายจำเป็นนี้โดยเร็วที่สุด

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของโจวหยูนั้นบิดเบี้ยวราวกับว่าเขาท้องผูกมา เหอหยวนหยวนก็เข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายไม่พอใจกับเรื่องที่เพื่อนของเธอพูดก่อนหน้านี้ ดังนั้นเธอจึงพยายามชื่นชมว่าโจวหยูนั้นมีทักษะฝีมือที่สูงเป็นอย่างมาก และเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนในอนาคต….

หลังจากพักอยู่ในลานหน้าบ้านของโจวหยูสักพัก ในที่สุดพวกเธอทั้งสองก็รู้สึกพอใจกับภาพถ่ายที่พวกเธอมี และจากนั้นพวกเธอก็ได้จากไปอย่างมีความสุข พร้อมกับที่พวกเธอได้วางแผนที่จะอัปโหลดรูปภาพที่เธอถ่ายนี้ไปยังอินเทอร์เน็ต

สำหรับความคิดเห็นของพวกเขาทั้งสามคนเองก็เป็นอะไรที่แตกต่างกันเช่นกัน โดยที่สำหรับเหอหยวนหยวนแล้วเธอมองเพียงว่าต้นไม้ ดอกไม้ รวมไปถึงวิหารเต๋านั้นสวยเป็นอย่างมาก แต่สำหรับโจวชูวหยูเธอกับเห็นเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามในตอนนี้สิ่งที่โจวหยูต้องการมากที่สุดคือ การเปลี่ยนเพศหรือยกเลิกลูกชายจำเป็นคนนี้

… หมายเหตุ …
ในประเทศจีนการสวมหมวกสีเขียวในตำนานหรือความเป็นพ่อที่ไม่คาดคิดมักหมายถึงว่าแฟนสาวตั้งท้องกับคนอื่น

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง The Rise of Otaku เรื่องย่อย โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset