The Rise of Otaku – ตอนที่ 38

บทที่ 38 คนขายเนื้อสีขาว

ในตอนนี้เหมิงเหมิงกลัวเป็นอย่างมาก แต่เดิมมันเป็นเพียงฉากในเกมเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกับถูกนำเสนออย่างเต็มตาต่อหน้าเธอ มันเป็นเรื่องจริง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเกมนี้เป็นเกมสยองขวัญ และตอนนี้เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่ฉากของหนังสยองขวัญเรื่องนี้

“ ลูหยวน! อย่าบอกฉันว่าหมู่บ้านของเธอมีประเพณีที่น่าขนลุกใช้ไหม? เธอมีประเพณีที่เรียกว่า ‘การเปลี่ยนวิญญาณ’ ในหมู่บ้านของเธอใช้ไหม?”

เมื่อเธอมองไปที่หมู่บ้านลู่หัวที่ค่อยๆมืดลง เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวเพิ่มมากขึ้น

ฉากนองเลือดต่างๆในเกม “ตำนานของหมู่บ้านลู่หัว” ได้ถูกฉายในใจของเธออีกครั้ง เมื่อรวมกับหมู่บ้านลู่หัวที่อยู่ต่อหน้าเธออีก มันยิ่งทำให้เธอไม่สามารถขยับขาของเธอไม่ได้

‘แน่นอนว่าตำนานและพิธีกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องโกหก!’ หลังจากที่ลูหยวนได้อธิบายเพิ่มเติมให้เหมิงเหมิงฟัง มันก็ทำให้เธอรู้สึกสงบลงได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามความอยากรู้ในหมู่บ้านลู่หัวของเธอก็เริ่มสูงขึ้น

‘คนแบบไหนที่จะใช้หมู่บ้านธรรมดาเป็นฉากหลังของเกม?’

เมื่อมาถึงที่บ้านของโจวหยู มันก็มีสภาพไม่ต่างจากเมื่อวานนี้มากนัก

การ์ตูนยังไม่ได้เริ่มขึ้น พวกเด็กๆกำลังเล่นเกมวิ่งไล่จับกันอยู่ที่ลานหน้าบ้าน และประตูที่เก็บของเล่นเองก็ได้ถูกเปิดออกเช่นกัน นั้นจึงทำให้ในตอนนี้ได้มีของเล่นที่ซ้อนกันเหมือนเนิน

มีเครื่องบิน รถถัง ปืน ตุ๊กตา และโมเดลบ้าน เด็กชายและเด็กหญิงมักจะพบสิ่งที่พวกเขาชอบ

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือเรือบรรทุกเครื่องบิน ยักษ์ใหญ่นี้ถือว่าเป็นเหมือนซุปเปอร์สตาร์ในบ้านของเล่นแห่งนี้

ไม่น่าแปลกใจที่มันจะได้รับความสนใจในรายการทีวีก่อนหน้านี้ เมื่อมองอย่างใกล้ชิดสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ มันเป็นครั้งแรกที่ลูหยวนให้เพื่อนๆของเธอได้เห็นแบบจำลองทางทหารในชีวิตจริง

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปมันเป็นจำนวนมาก

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง พิธีกรจำเป็นอย่าง – โจวหยูก็ได้เดินออกมาในที่สุด นี้มันหมายถึงภาพยนตร์จะเริ่มเร็วๆนี้

ลูหยวนและเพื่อนของเธอค้นพบสถานที่จะนั่งได้ทันที และพวกเธอก็เตรียมที่จะเปิดขนมขบเคี้ยวและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับดูภาพยนตร์ในคืนนี้

แต่ดูเหมือนว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเฉพาะเหมิงเหมิง เมื่อเธอมองเห็นโจวหยูเป็นครั้งแรก มันก็ได้ปรากฏชื่อหนึ่งชื่อขึ้นมาในหัวของเธอทันที “คนขายเนื้อสีขาว! คนขายเนื้อสีขาวตัวจริง!”

ชื่อเล่นนี้มาจากตำนานของหมู่บ้านลู่หัวนั้นเอง ซึ่งโจวหยูได้เล่นในบทบาทของฆาตกรรมเลือดเย็น ผู้หมกมุ่นอยู่กับพิธีกรรมเปลี่ยนวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่บอสตัวสุดท้ายของเกม แต่ด้วยภาพลักษณะของเขาที่มักจะแต่งตัวเสื้อคลุมสีขาวในขณะที่แสดงพิธีกรรมที่เปลี่ยนวิญษณในแบบเลือดเย็น มันก็ทำให้เขาได้รับตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครอย่าง – ‘คนขายเนื้อสีขาว’ และเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้เล่น

แม้ว่ากราฟิกของเกมตำนานของหมู่บ้านลู่หัวนั้นไม่ได้มีคุณภาพสูงมากนัก แต่โจวหยูก็ได้ปรากฏตัวใน CG ครั้งหนึ่ง ดังนั้นเหมิงเหมิงจึงจำเขาได้ทันที

แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามันเป็นแค่เกม แต่ชื่อ ‘คนชายเนื้อสีขาว’ นั้นมีชื่อเสียงมากในแวดวงเกมในประเทศ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ใส่ใจกับอนิเมชั่นมากนัก เธอกลับเหลวดูโจวหยูอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะค้นหาว่าอีกฝ่ายได้ซ้อนอาวุธอะไรไว้ด้านหลังเหมือนในเกมหรือไม่?

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอทำนั้นไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด เพราะมีเพียงตัวละครในเกมเท่านั้นที่จะซ่อนอาวุธต่างๆเอาไว้ด้านหลังของเขาด้วยที่ไม่เป็นที่สังเกตได้

บางทีการจ้องมองของเธอจะโจ่งแจ้งเกินไป มันจึงทำให้โจวหยูรับรู้ได้ ดังนั้นเมื่อเขามองย้อนกลับไปยังคนที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยความสับสนอยู่นั้น

“อา!” ในขณะเดียวกันเหมิงเหมิงก็ได้ที่กรีดร้องด้วยความกลัว เธอถึงกับโน้มตัวกลับไปโดยสัญชาตญาณโดยที่เธอลืมไปว่าเก้าอี้ที่เธอนั่งนั้นไม่มีที่พิงหลังแต่อย่างใด นั้นจึงทำให้เธอล้มลงทันที

เสียงกรีดร้องของเธอดังมาก มันดังจนได้ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทุกคน

ลูหยวนและเพื่อนคนอื่นๆของเธอ รีบช่วยให้เหมิงเหมิงนั้นรีบลุกขึ้นและถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะยังไงการ์ตูนที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่หนังสยองขวัญอะไร แล้วทำไมเธอถึงกลัวแบบนั้น?

หลายคนที่กำลังจ้องมองไปยังเหมิงเหมิงด้วยความสงสัยนั้น มันก็ทำให้เธอเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา โชคดีที่ทัศนวิสัยต่ำมากในตอนกลางคืน ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่สามารถหาข้ออ่างอย่างการมีหนูวิ่งผ่านหน้าเธอไปและนั้นทำให้เธอตกใจได้

‘อ้า…มันน่าอายมาก…มันเป็นความผิดของคนขายเนื้อสีขาวนั้น! ทำไมเขาถึงหันกลับมามองฉันกันนะ? ‘

เธอได้ลุกขึ้นอย่างโกรธๆและพยายามตำหนิโจวหยูสำหรับทุกสิ่ง แต่นี้ก็ถือว่าช่วงเวลาที่น่าอายของเธอเช่นกัน ดังนั้นมันจึงทำให้เธอไม่กล้าที่จะมองโจวหยูอย่างลับๆอีกต่อไป เธอจึงได้เริ่มให้ความสนใจกับอนิเมชั่นตรงหน้ามากขึ้น

……………………………

การ์ตูนอนิเมชั่นที่เล่นในวันนี้ไม่ใช่ “พี่น้องน้ำเต้า” แต่เป็นภาพยนตร์อนิเมะคลาสสิคเรื่อง “เจ้าหนูน้อยนักสู้” มันเป็นอนิเมชั่นที่แม้แต่โจวหยูเองก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างดีเรื่องหนึ่ง

แม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะไม่ใช้เรื่องราวดั้งเดิม แต่มันเป็นอนิเมชั่นที่ใกล้จะถูกตัดสินว่าลิขสิทธิ์ของทั้งสองนั้นใกล้จะหมดอายุแล้ว ดังนั้นทางหยางกู่และทีมงานของเขาจึงสามารถปรับปรุงเนื้อเรื่องได้บางสวน แต่ถึงยังไงเขาก็ยังไม่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าได้

เพราะโจวหยูไม่รู้ว่าลิขสิทธิ์ของผลงานเหล่านั้นจะหมดอายุในโลกแห่งความเป็นจริงตอนไหน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งใจที่จะเผยแพร่การ์ตูนแอนิเมชันทั้งสองเรื่องผ่านทางออนไลน์ และไม่ได้ตั้งใจที่จะทำกำไรจากอนิเมชั่นทั้งสองนี้

นอกจากนี้บัญชีของเขาทีเปิดในเว็บไซต์สำหรับการแบ่งปันวิดีโอเองก็ถูกระงับไปแล้ว แม้ว่าเขาต้องการอัพโหลดผลงานสองชิ้นนี้ เขาก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงนำอนิเมชั่นทั้งสองเรื่องมาแสดงให้กับพวกเด็กๆ เหล่านั้นเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข ในเวลาเดียวกันเขาก็สามารถเพลิดเพลินไปกับความทรงจำในวัยเด็กของเขาได้อีกครั้ง

คุณภาพของอนิเมชั่นยังคงเป็นระดับที่สาม ยานพาหนะของตัวเอกทั้งสองตัวนั้นดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากตัวต้นฉบับเป็นอย่างมาก

เครื่องบินรบ J20 ใหม่ซึ่งมีฉายาว่า ‘ริบบิ้นสีดำ’ นั้นดูเท่ห์เมื่อมันทำการประลองยุทธ์ทุกชนิดในอากาศ รถถัง Type 99 เองก็เคลื่อนตัวเร็วเหมือนลม มันทำให้เด็กเหล่านั้นตื่นเต้นและกรีดร้องออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามการ์ตูนเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 27 ปีที่แล้ว ดังนั้นทางบริษัทผู้จึงนำพวกสัตว์ต่างๆมาเป็นตัวดำเนินเรื่องรัก จะเห็นได้ว่ามีสัตว์ทุกชนิดที่กำลังฝึกฝนเพื่อปกป้องป่าเอาไว้

ลูกชายของตัวเองฝั่งมนุษย์นั้นได้เป็นเพื่อนกับสัตว์พวกนี้ เขาทำงานกับสัตว์เพื่อต่อสู้กับโจรสลัดที่ต้องการทำลายป่าอีกครั้ง

นอกเหนือจากเครื่องบินและรถถังแล้ว พวกเขายังเพิ่มบทบาทใหม่เช่น – เรือรบทางทะเล ยานพาหนะทั้งหมดจากบก ทะเล และ อากาศ ล้วนอยู่ในอนิเมชั่นทั้งหมด มันทำให้ฉากการต่อสู้ที่สบายๆแต่เดิมกลายเป็นสนามรบที่รุนแรง

ธีมหลักของอนิเมชั่นเรื่องนี้คือมิตรภาพและการปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ฉากการต่อสู้ที่มีอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จำเป็นจะต้องให้ความรู้แก่เด็กๆเช่นกัน

จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครคาดคิดว่า “เจ้าหนูน้อยนักสู้” ซึ่งเปิดตัวในปี 1989 จะถูกดัดแปลงด้วยวิธีนี้

ลูหยวนและเพื่อนๆของเธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ ‘อึศักดิ์สิทธิ์! นี้เป็นอนิเมชั่นที่น่าประทับใจมาก!’

มีฉากให้กำลังใจที่สัตว์ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปกป้องป่า ฉากเศร้าเสียใจอย่างสัตว์จำนวนมากเสียชีวิตในสนามรบที่โหดร้าย และฉากตลกเป็นกระรอกตัวเล็กๆที่มักทำสิ่งโง่ๆทุกชนิด มันเกือบจะเหมือนกันกับภาพยนตร์เรื่องฮอลลีวูดแล้ว สิ่งเดียวที่ขาดคือมันไม่ได้อยู่ใน 3D ก็เท่านั้น

เนื่องจากพวกเธอไม่รู้ว่าโรงหนังกลางแจ้งนี้ห้ามไม่ให้คนอื่นถ่ายวิดีโอหรือไม่ มันจึงทำให้พวกเธอไม่กล้าที่จะถ่ายวิดีโอแบบโจ๋งครึ่มเกินไป ดังนั้นพวกเธอจึงได้บันทึกฉากที่น่าตื่นเต้นที่สุดบางเรื่องในภาพยนตร์โดยใช้โทรศัพท์มือถือเท่านั้น

ด้วยที่พวกเธอได้วางแผนว่าเมื่อพวกเธอกลับมาที่เมือง พวกเธอจะถามไปรอบๆและดูว่ามีคนใครบ้างที่รู้เกี่ยวกับอนิเมชั่นเหล่านี้

แม้ว่าพวกเธอจะได้ชื่อว่าเป็นชมรมอะนิเมะ แต่พวกเธอก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆที่ต้องการคอสเพลย์เท่านั้น บางทีคนที่เป็นมืออาชีพเหล่านั้นอาจมีความรู้เกี่ยวกับอนิเมชั่นเรื่องนี้มากกว่า

และคนแรกที่พวกเธอให้ความสนใจก็คือ ช่างภาพนิตยสารอนิเมะผู้ถูกถามเกี่ยวกับอนิเมชั่นนี้ โดยที่ครั้งหนึ่งเธอเคยร่วมงานกับช่างภาพอนิเมะคลับ

ในตอนแรกเขาแค่คิดว่าลูหยวนเพ้อฝันมากเกินไป มีภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ดีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่อยู่ในตลาด แต่จึงเขาจะคิดแบบนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้รับคลิปวิดีโอมา เขาก็กลายเป็นตกตะลึงทันที เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคลิปเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นในประเทศ เขาเกือบคิดว่านี้เป็นเรื่องพิเรนของอีกฝ่ายมากกว่า

“ ฉันไม่เคยเห็นคลิปเหล่านั้นเลย แต่เธอไม่สามารถถามเจ้าของคลิปนี้ได้ด้วยตรง เขาอาจรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา”

‘ถามอีกฝ่ายโดยตรง? เอ่อ…ใครจะบ้าที่จะบอกว่าพวกเขาทำมันขึ้นมายัง’

เมื่อพิจารณาจากสามัญสำนึกแล้ว อีกฝ่ายก็ถึงกับหลุดหัวเราะกับประโยคก่อนหน้านี้ของตัวเอง ก่อนที่เขาจะพยายามช่วยให้คำแนะนำบ่างอย่าง ก่อนที่ลูหยวนจะวางหูโทรศัพท์

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง The Rise of Otaku เรื่องย่อย โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset