S.P.D: บทที่ 200: พลเรือเอกเซเฟอร์
แต่สิ่งที่ทําให้กองทัพเรือกังวลยิ่งกว่าโจรสลัดนั้นก็คือเหล่ามังกรฟ้าที่ชอบมายังที่แห่งนี้
ถ้าเกิดว่าชนชั้นสูงเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บนั้นถือว่าเป็นลางร้ายของกองทัพเร
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดีที่เหล่าโจรสลัดเองนั้นก็ไม่ได้คิดที่จะสร้างปัญหาอย่างการไปทําร้ายหรือฆ่าพวกมังกรฟ้าเพราะถ้าทําอย่างงั้นพวกเขาเองก็จะลําบากเช่นกัน
โรแกนและลูกเรือของเขาได้เข้าไปในเกาะและหายไปอย่างรวดเร็ว
การตามหาใครซักคนในหมู่เกาะที่มีขนาดใหญ่นี้ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
10 นาทีต่อมา,กลุ่มของโรแกนก็ได้หยุดลงอย่างกะทันหัน
“ กัปตันดูนั่นสิ!”
เทรนซุได้กล่าวออกมา
ทุกคนต่างมองตามไปที่มือของเทรนซุและในตอนนั้นเอง ดวงตาของพวกเขาก็หดแคบลงในทันที
ห่างจากพวกเขามามากนักมีกลุ่มของทหารเรือที่กําลังเดินกันอย่างเร่งรีบ, ท่าทางของพวกเขานั้นดูจริงจังมาก
พวกเขานั้นจ้องมองไปที่ชายที่น่าจะผู้เป็นผู้นําของเหล่าทหารเรือกลุ่มนี้ในทันที เขาเป็นผู้ชายที่มีร่างกายสูงใหญ่และมีผมสีม่วง,สิ่งที่ทําให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงก็คือตําแหน่งของผู้ชายคนนี้
เขาคือพลเรือเอกของกองทัพเรือ!
“ แขนดําเซเฟอร์!”
คล็อกโคไดล์ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ชายวัยกลางคนเงียบๆที่เป็นผู้นําของกลุ่มคนหนุ่มสาวพวกนั้นคือพลเรือเอกเซเฟอร์
“ มีข่าวลือว่าเขาถูกส่งตัวมาที่นี่เพื่อรักษาความสมดุลในหมู่เกาะชาบอนดี้มาซักพักแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!”
โรแกนได้กล่าวออกมาพร้อมกับดวงตาที่หดแคบลง
โรแกนนั้นไม่มีความจําเป็นที่จะต้องไปเผชิญหน้ากับพลเรือเอกด้วยเฉพาะในตอนนี้ที่เป้าหมายของเขายังไม่สําเร็จ เข้าไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะมางัดกับพลเรือเอกจุดประสงค์ในครั้งนี้คือการมาพาตัวพรรคพวกของเขากลับ,พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้ให้ได้มากที่สุด
“ ตาแก่นี้ไม่ง่ายเลยที่จะจัดการ เขาอาจจะแข็งแกร่งพอๆ กับการ์ปเลยทีเดียวยังไงเขาก็เป็นถึงหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพเรือในเวลานี้!”
ดวงตาของเจสันนั้นได้เปล่งประกายขึ้นมาเมื่อได้ยินคําพูดของโรแกน
พวกเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับพวกเขาอย่างแน่นอน,จากการสังเกตเกาะนี้มาซักพักพวกเขานั้นยังไม่เห็นความวุ่นวายใดๆเลย
ก็นะผู้ดูแลที่นี่คือพลเรือเอกแล้วใครมันจะไปกล้าก่อเรื่องกัน
” ไปกันเถอะ!”
หลังจากมองไปที่เซเฟอร์ซักพัก,กลุ่มของโรแกนก็ได้เดินจากไป
ผู้คนนั้นพลุกพล่านอยู่เต็มท้องถนนมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขานั้นจะไม่สามารถสังเกตเห็นคนที่แอบมองมาที่เขาได้
หลังจากเดินมา 30 นาที,โรแกนก็ได้มองไปที่อาคารตรงหน้าเขาและยกยิ้มขึ้นมา
“ โกลฟที่ 13 ในหมู่เกาะชาบอนดี้ บาร์เหล้าขูดเลือดของแชคกี้”
เป้าหมายของเขาในเวลานี้ก็คือบาร์แห่งนี้และคนที่อยู่ในบาร์แห่งนี้
“ กัปตันเราจะเข้าไปข้างในนี้งั้นหรอ?”
เจสันได้ถามออกมาด้วยความสงสัย
เขานั้นไม่รู้เหตุผลว่าทําไมโรแกนถึงต้องมาที่นี่
“เข้าไปกันเถอะ!”
โรแกนนั้นไม่ได้อธิบายอะไรออกมาเขาทําเพียงแค่ก้าวเข้าไปในบาร์
เมื่อเห็นอย่างนั้นพวกเขาก็เดินตามโรแกนเข้าไปในทันที
บาร์นี้นั้นมีลูกค้าเพียงแค่ห้าหรือหกคนเท่านั้นพวกเขากําลังยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวและดื่มเหล้าในมือของพวกเขา
ในตอนที่เข้ามานั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเพลงที่กําลังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้าน
“ สิบคนงั้นหรอ? ไปหาที่นั่งกันก่อนเลย!”
ตรงหน้าของพวกเขานั้นเป็นผู้หญิงที่น่าจะมีอายุประมาณสามสิบเธอมีบุหรี่อยู่ในปากและกําลังเช็ดแว่นตาของเธอ
“ ฉันกําลังมองหาใครบางคนอยู่นะ!”
โรแกนได้พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ ยืม!” เธอได้หยุดลงแล้วมองมาที่โรแกนด้วยความประหลาดใจ “เธอดูคุ้นๆนะ!”
“ งั้นหรอ!”
โรแกนได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“ แต่ที่นี่ไม่มีคนที่เธอกําลังตามหาอยู่หรอกนะไปหาที่นั่งก่อนสิ แล้วพวกเธอดื่มอะไรกันล่ะ?”
“ ขอเหล้ารัมสามขวดแล้วกัน!”
โรแกนได้กล่าวออกมา
“ กัปตัน,คุณรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยงั้นหรอ?”
เทรนซุได้มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและถามโรแกนด้วยความสงสัย
“ เธอเคยเป็นโจรสลัดนะ!”
โรแกนได้กล่าวออกมา
” จริงงั้นหรอ!?”
ทุกคนดูจะประหลาดใจมาก,พวกเขาได้หันกลับไปมองที่เธออีกครั้ง
ในเวลานี้เธอได้เดินมาพร้อมกับเหล้ารัมสามขวดและวางมันลงบนโต๊ะของโรแกน
“ หยุดพูดเกี่ยวกับฉันได้แล้ว ฉันได้ยินนะ!”
เธอได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ ฉันอยากพบกับสามีของคุณ!”
โรแกนนั้นไม่รีรออีกต่อไปเขาได้กล่าวถามเธอในทันที
“ เธอจะอยากเจอเขาไปทําไม?”
เธอได้ถามกลับในทันที
“ ฉันต้องการให้เขาช่วยอะไรฉันหน่อย!”
โรแกนได้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่!”
เธอพูดออกมาพร้อมกับหมุนกายแล้วเดินจากกไป
โรแกนนั้นยังสงบดังเดิม,เขาได้ยกยิ้มขึ้นมาและดื่มกับพรรคพวกของเขา
หนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็ได้เดินออกมาจากร้านโดยไม่สนใจถึงเหตุผลที่พวกเขามาในตอนแรก
“ กัปตัน,พวกเราจะทําอะไรกันต่อ?”
“ หาความสุขใส่ตัว!”
โรแกนได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
การพักผ่อนหลังจากการเดินทางอันยาวนานที่เต็มไปด้วย การต่อสู้และการผจญภัยนั้นมันสามารถทําให้เหล่านักเดินเรือทุกคนมีความสุข
บนเกาะแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายในโลกใบนี้ อาจกล่าวได้ว่าการได้มาพักผ่อนที่นี่นั้นถือว่าเป็นความสุขสําหรับทุกคนและในที่แห่งนี้พวกเขานั้นสามารถพบทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้
กลุ่มโจรสลัดโซลนั้นเริ่มมองหาความสนุกและอาหารอร่อยๆหลังจากออกมาจากบาร์ของแชคกี้จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้ประสบกับปัญหาใดๆเลย
ในตอนเย็นชายวัยกลางคนที่มีผมหยักศกพร้อมกับแว่นตาบนใบหน้าก็ได้ก้าวเข้ามาในบาร์เหล้าขูดเลือดของแชคกี้
ที่ข้างหลังของเขานั้นมีมนุษย์เงือกที่เป็นปลาหมึกเดินตามมาด้วยเขานั้นกําลังถือกระดาษบางอย่างอยู่ในมือของเขา
“ กลับมาแล้วงั้นหรอ!”
แชคกี้ได้กล่าวทักทายเขาในทันที
“ วันนี้เป็นไงบ้าง”
ชายวัยกลางคนนั้นดูเหนื่อยเล็กน้อย
“ เมื่อตอนเที่ยงมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาตามหาคุณ” แชคกี้ได้กล่าวออกมา
“งั้นหรอ?” ความสงสัยนั้นฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเขา “ แล้วรู้มั้ยว่าเขาเป็นใคร?”
“ ฉันไม่ได้สนใจ ก็เลยไม่รู้นะว่าเขาเป็นใคร!” เธอได้ตอบกลับไปด้วยความเฉยเมย
ชายวัยกลางคนนั้นรู้สึกทําอะไรไม่ถูก,ในที่แห่งนี้นั้นนั้นมีคนน้อยมากที่จะรู้จักตัวตนของเขามันต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทําให้ชายหนุ่มนนั้นมาจามหาตัวเขา
ในตอนนั้นเองมนุษย์เงือกที่อยู่ข้างหลังของเขานั้นก็ได้เดินออกมาข้างหน้า เขาได้วางกระดาษที่เขาเอามาวางลงบนบาร์และพลิกมัน
แชคกี้นั้นได้เหลือบตาไปมองและเธอก็ได้เห็นว่ามันเป็นประกาศจับหลายฉบับ
“ เธอสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยหรอฮัตจัง?”
“ ฉันอยากรู้จักโจรสลัดทุกคนที่ฉันอาจจะต้องเผชิญหน้าบนท้องทะเลแห่งนี้นะ!” ฮาจิได้กล่าวตอบออกมาพร้อมกับถอนหายใจ
“ เธอจะต้องตายในทันทีแน่ถ้าเธอออกจากทะเล,ฮ่าฮ่า!” เธอได้หยอกล้อเขา
ฮาจินั้นไม่ได้สนใจคําพูดของเธอ,เขายังคงพลิกใบประกาศจับต่อไป
ทันใดนั้นเองแชคกี้ก็ได้เดินมาและกดไปแขนของเขา
“รอเดี๋ยว!”
เธอมองไปที่ประกาศจับและชี้นิ้วของเธอไปที่มัน
“ มันเป็นเขา,ชายหนุ่มคนนี้ล่ะที่มาตามหาคุณในวันนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นโจรสลัด!”
“โอ้?” ชายวัยกลางคนดูประหลาดใจมาก
ในประกาศจับนั้นมีรูปของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มจางๆประดับอยู่บนใบหน้าของเขา ใต้รูปของเขานั้นมีค่าหัวที่มากมายมหาศาลติดอยู่มันสามารถทําให้ทุกคนที่พบเห็นรู้สึกตกตะลึง
เมื่อเห็นค่าหัวที่มากมายมหาศาลนี้ ฮาจิก็ได้ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ โรแกน,กัปตันกลุ่มโจรสลัดโซล,ค่าหัว 350 ล้านเบรี!”