S.P.P: บทที่ 231: แก่นแท้ลมปราณ!
การทําความเข้าใจวิชาดาบและคาถาต่างๆของตุ๊กยูยานนั้นทําให้โรแกนต้องเสียเวลาและพลังงานไปเป็นจํานวน มาก
วิชาของเขานั้นเป็นอะไรที่ยากมากในการทําความเข้าใจ แต่ในที่สุดโรแกนก็ทํามันจนสําเร็จ
พลังของตุ๊ก ยูยานได้จางหายไปแล้วแต่ดวงตาที่อ่อนล้าของเขานั้นยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
การอัญเชิญในครั้งนี้นับว่าคุ้มค่ามาก
“ ได้เวลาแล้วงั้นสินะ”
เมื่อเห็นเทรนซุและคนอื่นโรแกนก็ได้ลุกขึ้นมาและเดินไปหาพวกเขา
หลังจากที่เตรียมตัวมาอย่างช้านานในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง
7 ไปกันเถอะ!”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา
ทั้งสี่นั้นได้วิ่งออกไปจากที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
“ คุณเรย์ลี่ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ?”
ในตอนนี้โรแกนได้หยิบหอยทากสื่อสารออกมาและกล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว
* ตอนนี้ฉันอยู่ในโกรฟที่ 38,ตรงชายฝั่ง”
เสียงของเรย์ลี่ได้ดังออกมาจากหอยทากสื่อสาร
โรแกนได้พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะวางสายไปพร้อมกับเร่งฝีเท้าขึ้น
นี่คือการแข่งกับเวลา,ในตอนนี้นั้นสองทหารเรือที่แข็งแกร่งนั้นกําลังตามหาตัวเขาไปทั่วทั้งเกาะ
แม้ว่าเขานั้นจะยังไม่รู้ว่าใครที่ถูกส่งตัวมา แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี
“ หากพวกเขาต้องการที่จะเข้าควบคุมหมู่เกาะชาบอนดี้อย่างรวดเร็วละก็พวกเขาก็จะต้องส่งคนที่มีความรวดเร็วที่สุดมา,ถ้าอย่างนั้นคิซารุก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรก!”
“ และด้วยความรอบคอบและสติปัญญาของเซนโงคุนั้นเขาต้องไม่ส่งมาแค่คิซารุคนเดียวอย่างแน่นอน!”
“ เซนโงคุน่าจะส่งทหารเรือรุ่นใหม่ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับพลเรือเอกมา!”
“ ในตอนนี้ความเป็นไปได้มีแค่สองคนเท่านั้นไม่อาคาอินุก็คุซัน!”
โรแกนนั้นได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ต่างๆอย่างรวดเร็ว
เป้าหมายแรกของกองทัพเรือนั้นคือการเข้าควบคุมหมู่เกาะชาบอนดี้และระงับความวุ่นวายที่พวกโจรสลัดก่อ,และเขาก็เป็นเป้าหมายที่สองของพวกเขา
พวกเขาทั้งสี่นั้นไม่พบกับปัญหาใดๆเลยในระหว่างทางและในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่โกรฟที่ 38
โรแกนนั้นได้หยุดฝีเท้าลงและมองไปรอบๆ
“ โรแกน,ฉันอยู่นี่”
ทันใดนั้นเองเสียงของเรย์ลี่ก็ได้ดังขึ้นมา
ทั้งสี่นั้นได้หันหัวไปตามเสียงก่อนที่จะพบกับเรย์ลี่ที่ยืนอยู่บนเรือลําเล็กที่กําลังโบกมือมาที่พวกเขา,เรือของเขานั้นซ่อ นตัวอยู่ที่หลังต้นปาโกงกางขนาดใหญ่แม้แต่เงาก็มองไม่เห็นเป็นการปกปิดที่ไม่เลวเลย
“ เรือลํานี้งั้นหรอ?”
โรแกนและคนอื่นๆนั้นได้กระโดดขึ้นไปบนเรืออย่างรวดเร็ว
“ เรือลํานี้มีขนาดเล็ก,มีน้ําหนักที่เบาและรวดเร็วเพราะฉะนั้นมันจึงเหมาะกับภารกิจในครั้งนี้ของพวกเธอเป็นอย่างมาก”
เรย์ลี่ได้ตบไปที่เสากระโดงเรือและพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ ขอบคุณมากนะครับ คุณเรย์ลี่”
กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา
” แล่นเรือได้ มันยังมีอีกทางหนึ่งที่ทําให้พวกเราไปที่เรดไลน์ได้! ”
เรย์ลี่ได้พยักหน้าและกระโดดลงมาจากเรือ
“ เดี๋ยวฉันช่วยฝึกให้พวกเด็กน้อยทั้งหกนั้นให้เอง!”
ในตอนที่เจสันกําลังจะแล่นเรือนั้นเอง,เรือของพวกเขาก็ได้ปรากฏชั้นฟองสบู่ขึ้นมา
“ การเดินทางใต้ท้องทะเลนั้นมันปลอดภัยกว่าหน่ะ”
เรย์ลี่ได้ยิ้มและพยักหน้า
ในตอนนี้โรแกนได้รู้แล้วว่าเรย์ลี่นั้นไม่ใช่แค่เตรียมเรือให้พวกเขาแต่เขายังเคลือบเรือให้พกวเขาอีกด้วย เขารู้สึกขอบคุณเรย์ลี่มาก
“ พวกเราไปแล้วนะครับคุณเรย์ลี่,ดูแลตัวเองด้วยนะครับ!”
โรแกนนั้นได้โบกมือลาเรย์ลี่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ พวกเธอต้องกลับมาแบบมีชีวิตนะเข้าใจไหม!”
เรย์ลี่ได้ถอนหายใจออกมา
พวกเขาทั้งสี่นั้นต่างก็รู้ดีว่าสิ่งที่พวกเขากําลังทํานั้นอันตรายขนาดไหน
“ เจสัน, แล่นเรือ!”
โรแกนได้หันมากล่าวกับเจสัน
นั้นได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานเรือของพวกเขาก็ได้แล่นออกไปจากเกาะแห่งนี้
เรย์ลี่นั้นยืนอยู่บนชายฝั่งจนกระทั่งเรือของพวกเขาเลือนหายไป,เรย์ลี่ได้ถอนหายใจออกมาและหมุนตัวเดินจากไป
ห้านาทีหลังจากที่พวกเขาจากไป,แสงสีทองก็ได้ปรากฏขึ้นมาและหลังจากนั้นร่างของคิซารุก็ได้ปรากฏขึ้นมา
* ไม่มี,พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันแน่?”
ในแววตาของคิซารุนั้นเต็มไปด้วยความประลาดใจและความสงสัย
หลังจากมาถึงที่เกาะนี้คิซารุก็ได้ไล่ตามหาตัวของพวกโรแกนไปทุกซอกทุกมุมแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังหาตัวของพวก เขาไม่เจอ
หลังจากมองไปรอบๆอยู่พักหนึ่ง คิซารุก็ได้ส่ายหัวก่อนที่ร่างของเขาจะกระพริบหายไป
“ คุณเซนโงคุ ดูเหมือนว่ากลุ่มของโรแกนจะไม่ได้อยู่บนหมู่เกาะชาบอนดี้แล้ว”
หลังจากกลับมาถึงที่ฐานทัพประจําหมู่เกาะชาบอนดี้เขาก็ได้หยิบหอยทากสื่อสารขึ้นมาและโทรออกไปในทันที
“ งั้นหรอ ถ้างั้นนายกับซากาซุกิก็อยู่ที่นั้นไปซักพักก่อนแล้วกันเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น”
เซนโงคุนั้นได้กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
คิซารุนั้นยักไหล่เขานั้นไม่ได้กล่าวคําคัดค้านอะ ไรออกไปสําหรับเขาแล้วการอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ การกลับไปที่ศูนย์ใหญ่ซักเท่าไหร่
แถมในตอนนี้แรงกดดันที่ศูนย์ใหญ่มันก็มากกว่าที่นี่มากเพราะฉะนั้นเขาเลยรู้สึกมีความสุข
เพียงครึ่งวันหมู่เกาะชาบอนดี้ก็ได้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติโจรสลัดส่วนใหญ่นั้นถูกสังหารในทันที่น้อยมากที่จะถูกจับกุมตัวความเย่อหยิ่งที่พวกเขาเคยนั้นได้ถูกทําลายลงในพริบตาเดียว
นี่คือการกดขี่อย่างแท้จริง,พวกเขานั้นต้องการให้โลกเห็นถึงความน่าเกรงขามของพวกเขา
ในทํานองเดียวกันผู้คนเป็นจํานวนมากที่เคยรู้สึกกลัวนต่างก็รู้สึกโล่งใจผู้คนส่วนใหญ่นั้นยังคงหวังที่จะมีชีวิตที่ สงบสุข
แต่ในยุคสมัยที่วุ่นวายนี้ ผู้คนที่คิดแบบนั้นก็มักจะตกเป็นเบี้ยล่างของผู้อื่นอยู่เสมอ
เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดค่ําคืนก็ได้มา
แสงจันทร์ได้ตกกระทบลงบนผิวน้ําอย่างสวยงาม,ในบางครั้งก็จะเห็นปลาที่กระโดขึ้นมาเนื้อผิวน้ํามันช่างเป็นบรรยา กาศที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
บนเรือ
คล็อกโคไดล์นั้นกําลังนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของเขาอย่างขยันขันแข็ง
เจสันนั้นกําลังบังคับหางเสือเรือพร้อมกับพึมพําเพลงอะไรออกมาก็ไม่รู้
เทรนซุนั้นถือปืนและจ้องมองไปที่มันอย่างผ่อนคลาย
ส่วนโรแกนนั้นก็กําลังหลอมรวมกับวิชาที่เขาได้รับมา,การฝึกฝนกําลังภายในของเขานั้นมาถึงขั้นสุดยอดแล้วและในขั้นตอนต่อไปนั้นก็คือขอบเขตในตํานาน
ดังนั้นการหลอมรวมวิชาที่ได้รับมาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายสําหรับเขามาก
ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง,โรแกนก็สามารถแปรสภาพพวกมันและหลอมรวมพวกมันได้อย่างสมบรูณ์แบบ
โรแกนนั้นได้เปิดตาของเขาขึ้นมาในตอนนี้เหนือร่างของเขานั้นได้ปรากฏออร่าดาบขึ้นมา
วิธีการฝึกฝนที่ไม่เหมือนใครของตุ๊ก ยูยานนั้นสามารถทําให้เขาใช้ออร่าดาบที่เฉียบคมนี้ได้ในเวลาที่ทําการบ่มเพาะนี่คือวิธีการฝึกแกนแท้ลมปราณมันมี แค่พวกตัวตนอย่างพวกเฒ่าปีศาจเท่านั้นที่จะสามารถมีมันได้แถมออร่าดาบนี้ก็เป็นอะไรที่แข็งแกร่งมาก
“ นี่คือแก่นแท้ลมปราณ!”
เขาได้ยื่นมือของเขาที่ส่องประกายแสงสีฟ้าออกมาข้างห น้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
แก่นแท้ลมปราณนั้นเป็นพลังที่อยู่เหนือพลังทุกช นิด,มันยกระดับศักยภาพของเขาในทุกๆด้านในตอนนี้ฝีเท้าของเขานั้นเบาบางราวกับสายลมและรวดเร็วราวกับ สายฟ้า
แก่นแท้ลมปราณอันนี้คือรากฐานของวิชาดาบของตุ๊กยูยาน