S.P.P บทที่ 116: ทำลาย!
โรแกนที่ยืนอยู่บนหัวเรือไม่ได้มีความคิดมากมายอะไรเหมือนกับเซฟและโรแกนก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น
ที่จริงแล้วเขาคิดว่าเขาเป็นเพียงแค่“ ผู้ลี้ภัย” ซึ่งถูกไล่ล่าโดยกองทัพเรือและหลบหนีไปกับครอบครัวของเขาในทุกๆที่
นอกจากนี้ผู้ลี้ภัยนั้นยังถูกบังคับโดยพวกรัฐบาลโลกอีกด้วย
ดูจากที่กองทัพเรือนั้นไม่ได้ไล่ตามเขา,โรแกนก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนดี
โรแกนนั้นแค่อยากจะมีชีวิตอยู่อย่างเงียบๆในโลกนี้,เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกสบายดีเขาจะไปไล่จับจ้าวทะเล,ไปเฆี่ยนพวกมังกรฟ้าเหมือนกับที่พวกมันทำกับคนอื่น,และแน่นอนถ้าเกิดว่าเขาต้องการกินปลาเขาก็จะไปที่ออลบลู,มันเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและสวยงามดีใช่ไหมล่ะ?
เขาจะเอายังไงเกี่ยวกับกองทัพเรือ?,จะหนีหรือต่อสู้กับพวกเขาดีนะ?,โรแกนนั้นสับสนมากในตอนนี้
ในอดีตที่ผ่านมานั้น,โรแกนยอมรับว่าเขาได้สร้างความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงต่อกองทัพเรือไปมากแต่นั้นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาประมาท,แต่มันก็ถือว่าเป็นความตั้งใจของเขาด้วยที่ต้องการให้พวกเขาประมาท
อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่ากองทัพเรือนั้นไม่ต้องการที่จะปล่อยเขาไปเฉยๆ
ในตอนนี้เขาได้เปิดการใช้งานเนตรวงแหวนของเขา
โรแกนนั้นไม่ได้โง่ตรงกันข้าม,เขาฉลาดกว่าโรเจอร์ในบางเรื่องด้วยซ้ำ
เขานั้นเห็นนกตัวหนึ่งที่กำลังติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด
ในตอนนั้นเองเขาได้ไหลเวียนพลังชี่ของเขาเข้าไปในตันเถียนแล้วส่งผ่านไปที่จุดลมปราณทั้ง 365 จุด,เพียงไม่กี่นาทีมันก็ได้ไหลเวียนมาถึงฝ่ามือของเขา
“ปลดปล่อย”
แสงสีทองได้เปล่งประกายไปทั่วทั้งท้องฟ้า,ในตอนนั้นเองมังกรทองก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากฝ่ามือของเขา
“ก๊าซซซซ!!”
มังกรทองนั้นได้สั่นไหวไปมาพร้อมกับความเร็วของมันที่เพิ่มขึ้นจนดูราวกับสายฟ้า,และในพริบตามันก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของนกของเล่นนั้น,ทั้งสองนั้นได้ปะทะกันอย่างรวดเร็วนกที่เปราะบางนั้นก็ได้ถูกบดขยี้ลงในทันที
“นั่นคืออะไร?”
เจสันได้มองไปที่เศษซากบางอย่างที่กำลังตกลงมาจากบนท้องฟ้า,เขาสงสัยมากว่ามันคืออะไร?
“ กองทัพเรือนั้นคงจะพลังบางอย่างในการติดตามเรามา,ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถไล่จับพวกเราได้!”
โรแกนได้พึมพำออกมา
เจ้านายตัวน้อยนั้นเห็นภาพนั้นอย่างชัดเจน,ดวงตาของเธอนั้นดูจริงจังมากในตอนนี้,เธอได้เดินไปที่โรแกนและได้ไปสะกิดเขาไม่ยอมหยุด
“ เธอกำลังบอกว่าให้เราออกไปจากที่นี้งั้นหรอ?”
โรแกนนั้นเข้าใจและบอกให้เจสันแล่นเรือต่อในทันที
“ ไม่ต้องกังวล,เราจะไปกันแล้ว!”
“มันน่าประหลาดใจจริงๆ!,ที่กองทัพเรือกำลังไล่ตามฉันหนักขนาดนี้!”
อิทธิพลของกองทัพเรือในแกรนด์ไลน์นั้นมันน้อยกว่าในทะเลทั้งสี่มากเพราะกำลังส่วนใหญ่ก็จะประจำการอยู่ในทะลทั้งสี่เพื่อคอยขัดขว้างพวกโจรสลัดที่คิดจะเข้ามาในแกรนด์ไลน์
ดังนั้นโรแกนจึงไม่ได้กังวลอะไรมากนัก,ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมาที่นี่ด้วยการผ่านคามเบลท์มา,แม้ว่ากองทัพเรือจะต้องการไล่ตามพวกเขามามันก็คงจะใช้เวลาอีกนานกว่าพวกเขาจะไล่ตามมาทัน
สามวันต่อมา,โรแกนนั้นก็ได้ปารกฏความสงสัยบางอย่างขึ้นมาในแววตาของเขา
ในช่วงสามวันมานี้,เขาไม่เห็นพวกกองทัพเรือมาไล่ตามพวกเขาเลย
“ หรือว่านกของเล่นนั้นมันจะไม่ได้เป็นของกองทัพเรือกัน?”
ในแววตาของโรแกนนั้นได้ปรากฏความสงสัยขึ้นมา
ถ้าคิดอย่างรอบคอบแล้วนั้นการเฝ้าระวังและการติดตามผู้คนแบบนี้นั้นมันเหมือนกับพวกกองทัพเรือไม่มีผิด
ในขณะที่โรแกนกำลังสงสัยเกี่ยวกับแหล่งที่มาของนกของเล่นอยู่นั้น,ในเวลาเดียวกันนั้นเองเรือไม้ลำเล็กๆลำหนึ่งก็ได้แล่นเข้ามาที่ขอบของคามเบลท์ตรงเซาธ์บลู
ชายที่สวมสูทสีดำนั้นได้มองไปที่คามเบลท์,ในตอนนี้เขากำลังขมวดคิ้วและดูเหมือนว่าเขาจะกำลังตกใจกับอะไรบางอย่าง
เขาได้หยิบหอยทากสื่อสารขึ้นมา
“ตอนนี้สัญญาณการติดตามได้หายไปแล้ว,เป้าหมายได้ข้ามเข้าไปที่แกรนด์ไลน์โดยผ่านคามเบลท์ไป,ซึ่งกำลังจะไปถึงอลาบัสต้าในไม่ช้าส่วนที่เหลือขอมอบให้นายจัดการแล้วกัน!”
“ โอเค!”
“ ฉันจะไปแล้ว,อย่าลืมสิ่งที่นายสัญญาไว้กับฉันล่ะ”
“ ไม่ต้องกังวล,มันจะไม่เกิดขึ้น”
เสียงที่ดังออกมาจากหอยทากสื่อสารนั้นเต็มไปด้วยความน่าเชื่อถือ
ชายในชุดสูทสีดำได้พยักหน้าและทำการวางสายลง,และมองไปที่คามเบลท์อีกครั้ง,เขาสงสัยมากว่าโรแกนข้ามคามเบลท์ไปได้ยังไง
“ เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะควบคุมนกยักษ์นั้นได้,ช่างเป็นชายหนุ่มที่วิเศษจริงๆ!”
หลังจากนั้นเขาได้กดหมวกสีดำของเขาลง,เขาได้นั่งลงบนเรือไม้แล้วหันหลังกลับไปที่เส้นทางที่เขาแล่นผ่านมา
เขาได้ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว,ในการที่จะทำในสิ่งที่อีกฝ่ายร้องขอและคนอื่นๆที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการที่จะไปยั่วยุชายที่ดูลึกลับอย่างโรแกน
ความสามารถนกของเล่นของเขานั้น,มันสามารถถ่ายทอดทุกสิ่งที่มันเห็นเข้าในจิตใจของเขาได้ สรุปง่ายๆก็คือเข้าเห็นการกระทำทั้งหมดของโรแกนและลูกเรือ
ถ้าพระเจ้ามีอยู่จริง,ก็ได้โปรดช่วยเขาด้วย!
โรแกนนั้นสามารถควบคุมนกยักษ์ให้พาเขาข้ามผ่านท้องทะเลที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้โดยไม่มีความเกรงกลัวใดๆ
เขาเป็นคนที่เชื่อในเรื่องโชคลางและทุกอย่างมันก็เหมือนกับการได้รับพรจากพระเจ้า
บุคคลแบบนั้นเขาไม่สามารถไปยั่วยุเขาได้,เขาไม่กล้าพอที่ทำอะไรแบบนั้น
เรือไม้ได้แล่นออกห่างจากคามเบลท์แล้วค่อยๆหายไปในท้องทะเล
ค่ำคืนได้มาถึง,ลมทะเลนั้นได้พัดมาอย่างแผ่วเบา
โรแกนและลูกเรือของเขานั้นได้มารวมตัวกันบนดาดฟ้าเรือ,พวกเขานั้นได้จุดเทียนและเตรียมอาหารอันหอมกลุ่น,มันเป็นเหมือนดินเนอร์ใต้แสงเทียน
“ ในไม่กี่วันที่ผ่านมา,ในที่สุดฉันก็ได้พบว่าเรากำลังอยู่ที่ไหน”
เจสันนั้นดูตื่นเต้นมาก
“ ตอนนี้เราอยู่ใกล้กับเกาะที่มีชื่อว่าอลาบัสต้า!”
“อลาบัสต้า?”
ดวงตาของโรแกนนั้นก็ได้เปล่งประกายขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น,เช่นเดียวกับรูจเธอนั้นกำลังฟังเจสันอย่างตั้งใจ
“ถ้าพูดถึงอลาบัสต้า,มันนั้นเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากในบริเวณนี้แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลโลกอีกด้วย,เกาะดังกล่าวนั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงาม,มีต้นไม้นกและดอกไม้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมาก!”
“ ถ้าเอสจะเกิดที่นั่น,อนาคตของเขานั่นจะต้องสมบรูณ์แบบมากแน่ๆ!”
เจสันได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วในขณะที่เขากำลังจ้องไปที่อาหารบนโต๊ะ
“ ถ้างั้นเราจะไปที่นั่น!” โรแกนได้ยิ้มออกมา
“ ดี,ฉันเห็นด้วยกับคุณเป็นอย่างมากในอลาบัสต้านั้นกงอทัพเรือนั้นมีอำนาจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น,เพราะนอกเหนือจากรัฐบาลโลกแล้วถ้าพวกเขาเข้ามาละก็จะโดนพวกรัฐบาลโลกตำหนิเอาได้!” เจสันได้พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ คำพูดพวกนี้ต้องไม่ได้มาจากความคิดของนายเองแน่ๆ”
โรแกนได้ยิ้มออกมา
“ พอดีฉันเห็นมันในหนังสือบนเรือสินค้าที่เราไปเจอมาเมื่อวานนี้น่ะแล้วฉันก็จำมันมา!” เจสันได้กล่าวออกมา
เจสันได้ยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอวน,ใครๆก็สามารถรู้รายละเอียดดังกล่าวได้,แต่เพื่อที่จะสรุปมันนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเจสัน
“ มาพักกันเถอะ,เราจะแล่นเรือต่อในวันพรุ่งนี้!”
“ รูจคุณช่วยให้เอสอยู่ในตัวคุณนานขึ้นไปอีกหน่อยได้ไหม?”
รูจได้ยิ้มออกมา,เธอดูมีความสุขมาก
ในเวลาเดียวกันกับที่พวกเขาทุกคนกำลังรับประทานอาหารค่ำใต้แสงเทียนแสนโรแมนติกอยู่นั้น,ก็ได้มีเรือโจรสลัดลำหนึ่งก็มุ่งหน้าเข้ามาห่างจากพวกเขาไม่ถึงสามกิโลเมตร
“ กัปตัน,มีเรือไม้ขนาดกลางอยู่ข้างหน้าพวกเรา!”
“ ทำลายมันฉันไม่ต้องการให้มีอุปสรรคใดๆบนเส้นทางของฉัน!”
เสียงของเขานั้นเย็นชามาก