S.P.P บทที่ 48: เกาะอัลลิสเตอร์!
ในแววตาที่ตกตะลึงของโรแกน ชายร่างใหญ่นั้นได้กินอาหารของสิบคนกินเข้าไป
ชายศีรษะล้านคนนี้นั้นมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเขาดูแข็งแกร่งแต่มันก็ดูน่าแกล้งมากจริงๆ
ชัดเจนว่าชายคนนี้มีร่างกายที่มีพละกำลังที่มหาศาล ขนาดถูกมัดไว้ในห้องใต้ดินเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนโดยที่ไม่ได้กินดื่มอะไรเลยแล้วไม่ตายนั้นก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชายคนนี้นั้นน่ากลัวมากขนาดไหน
แขนที่หนา,ต้นขาที่แข็งแรงและร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขาที่ราวกับหอคอยขนาดย่อมๆ เขายืนอยู่ตรงหน้าของโรแกนซึ่งมีรูปร่างผอมเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเขา
แน่นอนด้วยเหตุนี้โรแกนจึงมักจะมีความรู้สึกเกลียดชังต่อเจสันอยู่เสมอ
“ เฮ้,กัปตันเรากำลังจะไปที่ไหนกันงั้นหรอ?”
หลังจากที่ได้นำเอาอาวุธของพวกโจรสลัดขนย้ายไปที่รูทดราก้อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นเจสันก็ได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ เกาะบราเทอริลล่า!”
“ ชักใบเรือขึ้นแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางได้แล้ว”
โรแกนได้กล่าวกับเจสันและได้เริ่มแล่นเรือ
หลังจากนั้นลมก็ได้พัดมาแต่เรือนั้นก็ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด
เนื่องจากมีคนเพียงแค่สองคนที่อยู่บนเรือ มันเป็นเรื่องปกติที่การทำงานทั้งหมดจะตกเป็นของเจสัน
“ นี่นายแล่นเรือแล้วจริงๆงั้นหรอ?”
เมื่อเห็นว่าเรือหยุดนิ่งโรแกนก็ได้ถามออกมา
“ ครับ,เอ่อ..ไม่” เจสันได้แตะไปที่หัวโล้นๆโตๆของเขาแล้วพูดออกมาอย่างงุ่มง่าม
“นายต้องไปเรียนรู้เกี่ยวกับมัน!”
“ตกลง!”
“นายทำอาหารเป็นไหม?”โรแกนถามออกมาอีกครั้ง
“ไม่” เจสันได้ตอบออกมาอีกครั้ง
“นายต้องไปเรียนรู้เกี่ยวกับมัน!”
“ครับ!”
“นายทำความสะอาดเป็นไหม?”
“อันนี้ฉันทำได้!” เจสันดูตื่นเต้นมากในที่สุดเขาก็ได้พบงานที่เขาสามารถทำได้
“ถ้างั้นนายทำความสะอาดตรงนั้นได้ใช่ไหม?”
โรแกนได้มองมาที่เขา เจสันได้แตะไปที่หัวของเขาและไปทำความสะอาดโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากมองดูเจสันที่กำลังทำความสะอาดอยู่บนดาดฟ้าเรือนั้นใบหน้าของโรแกนก็ได้มีรอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นมา
“เพิ่มมาอีกคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เท่าไหร่”
อย่างน้อยงานบ้านพวกนี้ก็ไม่ใช่งานของเขาอีกต่อไป
การเคลื่อนไหวของเจสันนั้นรวดเร็วมาก และภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเรือทั้งลำก็ถูกทำความสะอาดทั้งด้านในและด้านนอก มันได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการทำความสะอาดของเขาซึ่งมันทำให้โรแกนพอใจเป็นอย่างมาก
เขานั้นชื่นชอบลูกเรือที่ซื่อสัตย์,เรียบง่ายและมีความสามารถ
ชายทั้งสองได้แบ่งงานและเปลี่ยนเวรยามกันในทุกค่ำคืน วิกฤตในท้องทะเลนี้นั้นเป็นเหมือนกับผี คุณจะไม่รู้เลยว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นในตอนไหน โดยทั่วไปแล้วเมื่อถึงเวลากลางคืนลูกเรือนั้นจะถูกจัดเวรยามกันเพื่อเฝ้าระวังเหตุการณไม่คาดฝันในตอนกลางคืน
ก่อนหน้านี้ในตอนที่โรแกนอยู่คนเดียวเขานอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในทุกๆวัน แต่จิตใจของเขานั้นก็จะถูกยกระดับขึ้นตลอดเวลาและตอนนี้เขามีเจสัน
ในวันเดียวกันนั้นเองพอตกเย็น,โรแกนก็ได้หลับตาลงและในที่สุดเขาก็ได้หลับไปอย่างสบายใจ
วันรุ่งขึ้นในตอนรุ่งสาง,โรแกนตื่นขึ้นมาแล้วเขาก็ได้เห็นเจสันซึ่งยังไม่ได้นอนและดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
“ สวัสดีเจสัน”
“ สวัสดีกัปตันคุณตื่นแล้วงั้นหรอ?”
เจสันถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“ ใช่,มันดีมากจริงๆ,นายยังดูแข็งแรงดีนี่ทั้งที่ยังไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน”
โรแกนได้ชื่นชมเขาออกมา
“ มันแน่นอนอยู่แล้ว”
เจสันยิ้มออกมา
ในเวลานี้ดวงตาของเจสันนั้นสดใสมาก แต่ถึงยังงั้นเขาก็ยังเหนื่อยล้าอยู่ดีเพราะเขาไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน
“ อีกแค่สองวันเราก็จะถึงเกาะต่อไปกันแล้ว”
เมื่อมองดูแผนที่ดวงตาของโรแกนก็ได้กระพริบและเขาก็ได้พูดพึมพำออกมา
อีกประมาณห้าเดือนกว่าที่เขาจะได้ไปพบรูจและในตอนนี้เขาพยายามที่จะลดระยะเวลาในการเดินทางให้ได้มากที่สุด
กล่าวได้ว่าเขานั้นแทบจะไม่ได้หยุดแล่นเรือบนเส้นทางสายนี้ นอกเหนือจากการฆ่าโจรสลัดที่ต้องการจะสังหารเขานั้นเขาได้หยุดแล่นเรือไม่กี่ครั้งเพื่อเติมเสบียง
และคราวนี้เขาต้องหยุดแล่นเรืออีกครั้ง
ตามแผนที่แล้วเกาะอัลลิสเตอร์เป็นเกาะที่เติมเสบียงได้เพียงแค่เกาะเดียวในการเดินทางหลังจากนี้ การที่เขามาถึงเกาะนี้นั้นหมายความว่าเขาได้ผ่านมาแล้วหนึ่งในสามของเส้นทางที่จะไปสู่บราเทอริลล่า
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาจะต้องแล่นเรืออีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน
“ เจสัน,เรียกฉันด้วยล่ะถ้าเราไปถึงเกาะนั้นแล้ว”
โรแกนได้ตะโกนออกมาและเจสันก็ได้ยกนิ้วของเขาขึ้นจากนั้นโรแกนก็ได้ไปที่ห้องนอนเพื่อหยอกล้อกับแมว
ในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้นั้นแมวนั้นดูไม่มีความสุขเลย
ในพริบตาก็ผ่านไปสองวัน ในวันนี้นั้นท้องทะเลสงบมากและไม่มีโจรสลัดเลย ดังนั้นโรแกนจึงรู้สึกเบื่อเล็กน้อยเขาต้องการฆ่าโจรสลัดเพื่อเพิ่มยอดเงินในระบบแต่น่าเสียดายที่มันไม่มี
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเจสันก็ได้ตะโกนออกมาแล้วโรแกนได้มองไปที่หัวเรือ
“ กัปตัน,ถึงที่หมายของเราแล้ว,เกาะอัลลิสเตอร์”
เจสันได้กล่าวออกมาในขณะที่เขากำลังเรียนรู้วิธีการแล่นเรือจากโรแกนอยู่
ในเวลานี้เจสันได้ยืนอยู่ด้านหน้าของหางเสือเรือมือของเขาได้แกว่งไปมา แต่เขากลับรู้สึกเอื่อยๆและเมามาก
เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าชายร่างใหญ่ผู้แข็งแกร่งที่มีตาหยีนี้จะมาอยู่ที่ในตำแหน่งของหางเสือเรือ
มันเป็นภาพที่สวยงาม ทันใดนั้นโรแกนก็รู้สึกว่ารูปแบบของโจรสลัดนั้นกำลังเปลี่ยนไป
“ดี.”
โรแกนได้เดินไปที่หัวเรือแล้วมองไปที่ด้านหน้า
เมื่อเขามองไปที่ท้องทะเลเขาก็ได้เห็นเกาะที่อยู่ไกลออกไป
เมื่อเทียบกับเกาะที่โรแกนเคยเห็นมาก่อนหน้านี้นั้นเกาะนี้ดูใหญ่กว่าถึงสองเท่า และความคึกคักและความเจริญรุ่งเรืองก็สูงกว่ามาก
เมื่อโรแกนเห็นเกาะนี้นั้นเขาก็ได้เปรียบเทียบมันกับเกาะบ้านเกิดของเขาโลคทาวน์
“เมื่อเราไปถึงที่นั่นเราจะไปเติมเสบียงและของที่ขาด จากนั้นเราก็จะพักกับบนเรือหนึ่งคืนจากนั้นเราก็จะออกเดินทางกันอีกครั้ง” โรแกนได้กล่าวกับเจสัน
“เอ่อคือ?คุณไม่ต้องการที่จะอยู่ต่ออีกซักสองสามวันงั้นหรอ?กัปตัน.” เจสันถามออกมาด้วยความสับสน
“ มันมีเร่งด่วนที่ฉันต้องทำและฉันก็ไม่สามารถเสียเวลาอย่างเปล่าปะโยชน์ได้”
โรแกนได้อธิบายออกมาเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ได้เงียบลง
รูทดราก้อนกำลังแล่นเข้ามาใกล้ท่าเรืออย่างช้าๆ จากนั้นเจสันก็ได้ทอดสมอลงและผูกมันไว้กับชายฝั่งของท่าเรืออย่างแน่นหนา
“ เรียบร้อยแล้วกัปตัน!”
จากข้างล่างเจสันได้ตะโกนไปที่โรแกน
“โอเค”
โรแกนได้พยักหน้า,แล้วเขาก็ได้กระโดดลงมาโดยที่บนไหล่ของเขานั้นมีแมวนั่งยองๆอยู่อย่างเงียบๆ
เมื่อพวกเขากระโดดลงมาที่ชายฝั่งพวกเขาก็ได้มองไปที่ใจกลางเกาะในทันที
เสียงที่ดังมาจากชาวบ้านจำนวนมาก และเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ที่ชายฝั่งเล็กๆแห่งนี้โรแกนได้เหลือบมองออกไปและเขาก็ได้เห็นเรือไม่น้อยกว่า 14 ลำ
“ มันเป็นเมืองที่คึกคักดีจริงๆ!”
เขาได้การถอนหายใจออกมา ในตอนนี้ใบหน้าของโรแกนก็ได้แสดงรอยยิ้มออกมา
“ แน่นอน,เกาะอัลลิสเตอร์เป็นหนึ่งในเกาะที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดในแถบทะเลเซาธ์บลู”
เจสันยิ้มออกมา
โรแกนได้พยักหน้าออกมา และเจสันก็ได้เดินไปที่ด้านในของเกาะ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในใจกลางของเกาะ และได้ค้นหาสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางอย่างต่อเนื่องแมวบนไหล่ของโรแกนก็ได้กระสับกระส่ายไปมา
“ มีอะไร?เจ้าแมว”
“เหมียว”
แมวได้เอากรงเล็บของมันออกมาแล้วชี้ไปที่ร้านขายขนมหวานที่ด้านข้างของถนนด้วยประกายแสงเจิดจ้าที่ออกมาจากแววตาของมัน
“ ฮ่าฮ่า,ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าใครเป็นนายกันแน่”
“ ถ้าแกไม่รังเกียจ,ฉันจะเรียกแกว่าเจ้านายตัวน้อยแล้วกัน”
โรแกนได้หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
“เหมียว!”