This Star is a bit Salty – ตอนที่ 17 ก็แค่แต่งนิทาน

17 – ก็แค่แต่งนิทาน

 

รอบ ๆ ตัวของเต่าและกระต่ายเต็มไปด้วยผู้คน

 

ทำให้เต่าและกระต่ายหนีไปไหนไม่ได้

 

สิ่งนี้ทำให้ผู้คนรอบ ๆ หัวเราะและยังไม่จับกระต่าย แต่กลับมองดูด้วยความสนใจแทน

 

หลักจากนั้นซักพักคนที่ต้องการซื้อกระต่ายก็เอื้อมไปจับกระต่าย

 

ส่วนชายอีกคนก็เอื้อมมือไปจับเต่ามาไว้ในมือ

 

ชายทั้งสองยังคงขอบคุณผู้คนรอบ ๆ

 

หลังจากนั้นซักพักผู้คนก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป

 

หลังจากนั้นเรื่องราวที่น่าสนใจนี้ก็ค่อย ๆ ถูกพูดออกไปปากต่อปากกระจายไปทั่วตลาดอย่างช้า ๆ

 

โดยการที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจผู้คนเลยรู้สึกสนุกสนานที่ได้เล่าสู่กันฟัง

 

หลังจากที่ผู้คนเริ่มแยกย้ายกันไปแล้วหลี่หานก็เห็นคนรู้เดินเข้ามาหาเขาที่แผงผัก

 

ลูกค้าที่เปิดธุรกิจของตัวเองวันนี้ เติ้งชุย

 

เติ้งชุยมาที่นี่อีกแล้ว

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ข้างเติ้งชุย

 

น่าจะเป็น…

 

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้หลี่หานรู้สึกประหลาดใจและดีใจเล็กน้อย เมื่อเติ้งชุยเดินเข้ามาหลี่หานก็พูดว่า “วันนี้ครูเติ้งมาซื้ออาหารเหรอ?”

 

เติ้งชุยพยักหน้าแล้วชี้มาที่หลี่หานที่นั่งอยู่ตรงแผงขายผักแล้วพูดขึ้นกับคนที่อยู่กับเขา “นี่คือเด็กหนุ่มคนนั้น”

 

หลังจากนั้นเขาก็พูดกับหลี่หาน “นักเรียนหลี่หานฉันได้ชิมมะเขือเทศที่ซื้อกลับมาเไปเช้านี้แล้วรสชาติมันดีและอร่อยมากฉันเล่าให้ฟังพวกเขาแล้วพวกเขาเองก็อยากจะซื้อไปลองกินบ้างฉันเลยพามาที่นี่และฉันก็จะซื้อเพิ่มด้วยเองโอ้แล้วก็พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมงานของฉัน ”

 

อย่างที่คิดไว้

 

หลี่หานทักทาย “ยินดีต้องรับคุณครูทุกท่านครับเชิญเลือกของที่ต้องการได้เลยนะครับ”

 

พวกคุณครูยังไม่เลือกของในทันทีแต่กับเอาแต่จ้องหลี่หานอย่างสงสัย

 

“คุณเติ้ง เขายังเป็นหนุ่มอยู่เลย นาน ๆ ทีฉันจะมาซื้อของฉันไม่รู้เลยว่ามีเด็กหนุ่มหล่อ ๆ แบบนี้มาขายผักด้วย”

 

“นั้นสิมันหายากจริง ๆ ที่จะเห็นเด็กหนุ่มมาตัั้งแผงขายผักแบบนี้”

“……”

 

“ในอนาคตผมจะใช้เวลากับการขายผักที่นี่มากกว่านี้อีกนะครับคุณครู”

 

“เด็กหนุ่มอย่างเธอทำธุรกิจได้อยู่แล้วไม่ต้องกังวลตราบใดที่รสชาติอาหารเหล่านี้ของเธอดีอย่างที่ครูเติ้งบอกเราจะมาบ่อย ๆ ”

 

“ ครูจะได้รู้คำตอบหลังจากที่ได้ชิมอาหารของผมแล้วมันอร่อยจริง ๆ นะ”

“……”

 

หลังจากนั้นคุณครูทั้งหลายก็เลือกผักของตัวเอง

 

หลี่หานชั่งน้ำหนักและใส่ถุงให้พวกเขา

 

การค้าขายในครั้งนี้สำเร็จอีกครั้ง

 

“หืม? ครูเติ้ง ครูหวัง พวกคุณมาซื้อของที่นี่นี่เอง!” ใครบางคนที่ผ่านมาและจำพวกคุณครูได้

 

ครูเติ้งพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “ใช่แล้วผักของเด็กคนนี้ไม่ใช่แค่ดูดีแถมรสชาติยังดีอีกด้วย”

 

ครูเติ้งเป็นคนที่ดีมากนอกจากจะพาเพื่อนร่วมงานมาแล้วยังแนะนำคนที่ผ่านมาอีก

 

หลี่หานยกนิ้วโป้งให้ครูเติ้งอยู่ภายในใจ

 

“จริงเหรอครูเติ้ง? ผมเคยดูผักของหนุ่มนี่นะแต่ผมไม่กล้าซื้อมัน”

 

“ ฉันรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไรและก่อนหน้านี้ฉันก็กังวลเล็กน้อยเช่นกัน แต่หลังจากที่ฉันซื้อมาและชิมแล้วฉันก็พบว่าไม่ต้องกังวลเลยแถมรสชาติยังดีมากตอนนี้ฉัน เลยพาครูวังและคนอื่น ๆ มาซื้อ ”

 

“ถ้าครูเติ้งพูดอย่างงั้นผมจะลองซื้อซักหน่อยก็ได้”

 

“ซื้อด้วยความมั่นใจหน่อยสิ”

 

ในเวลานี้นอกจากผู้สัญจรไปมาแล้วก็ยังมีผู้สัญจรไปมาอีกสองสามคนรอบ ๆ ทางเดิน

 

และทุกคนก็กำลังมองดูที่แผงของหลี่หาน

 

ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะถูกใจมาก

 

เพราะหลังจากได้ยินเรื่องที่เติ้งชุยพูดแล้วพวกเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น

 

โดยเฉพาะผักที่ดูสวยงามและไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงถึงเรื่องของความปลอดภัยแถมรสชาติยังดี

 

แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ?

 

ก็ต้องซื้อสิ!

 

ฉันมาเพื่อซื้อของนะ

 

การค้าขายของหลี่หานดีขึ้นมาอย่างทันตาเห็นและยังมีลูกค้าเริ่มเข้าคิวเพื่อผักของเขาแล้ว

 

ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นแผงลอยของหลี่หานขายดีก็หยุดเดินแล้วสงสัย

 

และหลังจากที่ดูอยู่ซักพักเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อด้วยเหมือนกัน

 

พวกเขาทุกคนมีความคิดบางอย่าง

 

หลี่หานใช้เวลาไม่นานซักพักเขาก็ขายไปได้ครึ่งตะกร้าจากสองตะกร้าของเขา

 

เติ้งชุยและคุณครูอีกหลายคนก็ยังไม่ได้จากไปไหน

 

หลังจากที่เห็นผักของหลี่หานถูกขายออกไปจนหมด เติ้งชุยก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ผักของหลี่หานขายหมดแล้วพวกเราไปกันเถอะ”

 

ผักทั้งหมดถูกขายออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันต้องขอบคุณครูเติ้งชุยจริง ๆ เลย

 

หลี่หานหัวเราะแล้วพูด “ผมขายได้หมดไวขนาดนี้ต้องขอบคุณคุณครูเติ้งจริง ๆ เลยครั้งหน้าถ้าพวกคุณครูมาซื้อผมจะขายให้ในราคาถูก ๆ ”

 

เติ้งชุยยิ้มและพูด “เราสิต้องขอบคุณเธอหลี่หาน”

 

ครูอีกคนกล่าวว่า “ครั้งนี้สนุกดีที่ได้ออกมาเห็นเรื่องราวน่าสนใจอย่างกระต่ายกับเต่าเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้หลี่หานกับบอกว่าจะขายผักให้ในราคามราถูกลงในอนาคตช่างดีจริง ๆ เลย!”

 

เติ้งชุยพูด “ไม่จริงซักหน่อย”

 

“โอ้?” หลี่หานพูด “พวกคุณครูก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจนั้นด้วยเหรอครับ?”

 

เติ้งชุยกล่าวว่า “ใช่แล้ว เต่าอยากจะวิ่งหนีและกระต่ายก็อยากจะวิ่งหนีเหมือนกันและในที่สุดทั้งสองก็วิ่งหนีไปด้วยกัน”

 

หลี่หานยิ้มและพูด “น่าเสียดายที่ไม่มีใครหนีไปได้ สมมุติว่าถ้ากระต่ายกับเต่ามาวิ่งแข่งกันครูคิดว่าใครจะชนะเหรอครับ?”

 

“กระต่ายวิ่งแข่งกับเต่างั้นเหรอ?” พวกคุณครูมองไปที่หลี่หาน ช่างเป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจ

 

แต่คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

 

 

กระต่ายต้องชนะอยู่แล้ว!

 

คำถามนี่ไม่ต้องบอกกูรู้!

 

เติ้งชุยพูด “หลี่หานสมมุติฐานของเธอมันน่าสนใจมากนะแต่คำถามนี่ไม่ต้องถามก็ต้องรู้ไม่ใช่เหรอ? เต่าจะไปชนะกระต่ายได้ยังไง”

 

 

หลี่หานหัวเราะและพูดขึ้น “ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ แล้วถ้าเต่าชนะล่ะครับ? อย่างไรก็ตามคุณครูเติ้ง ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่าคุณเป็นครูสอนภาษาจีนตอนนี้คุณสอนนักเรียนระดับไหนเหรอครับ?”

 

หลี่หานเปลี่ยนเรื่อง เติ้งชุยชะงักเล็กน้อยและตอบกลับ “ฉันสอนเด็ก ป.1 น่ะเธอมีอะไรงั้นเหรอ?”

 

ป.1? เยี่ยมจริง ๆ

 

หลี่หานพูดขึ้น “ผมสงสัยว่าครูเติ้งได้เล่านิทานให้นักเรียนฟังบ้างไหมครับ?”

 

เติ้งชุยพยักหน้าและตอบ “แน่นอน ฉันอ่านนิทานให้นักเรียนฟังบางครั้ง อย่างไรก็ตามมันยากมากที่จะหาเรื่องใหม่ ๆ ในตอนนี้หลาย ๆ เรื่องฉันได้เล่าไปหมดแล้วแถมนักเรียนก็ไม่อยากฟังมันแล้วด้วย”

 

แบบนี้น่าจะได้อยู่นะ

 

หลี่หานพูด “ครูเติ้งผมคิดนิทานที่น่าสนใจได้เรื่องหนึ่งผมคิดว่าเด็กนักเรียนของคุณจะต้องสนใจแน่”

 

“โอ้?” เติ้งชุยตกใจเล็กน้อยและพูด “เรื่องไหนเหรอที่เธอจะให้อ่านบางทีฉันอาจจะเล่าให้เด็ก ๆ ฟังไปแล้ว”

 

หลี่หานยิ้มและพูด “มันอาจจะยังไม่ถูกเล่าก็ได้นะครับเพราะเรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อนมันพึ่งจะมีเมื่อกี้เองครับ”

 

เติ้งชุยตกใจมากกว่าเดิมและพูดขึ้น “เธอหมายความว่ามันเป็นนิทานที่เธอคิดได้งั้นเหรอ?”

 

หลี่หานพยักหน้าและพูด “คุณจะพูดอย่างงั้นก็ได้ครับ”

 

“โอ้?” เติ้งชุยรู้สึกสนใจและยิ้ม “ถ้างั้นฉันขออ่านมันก่อนได้ไหมว่ามันน่าสนใจขนาดไหน?”

 

หลี่หานพูด “ถ้างั้นคุณครูทิ้งเบอร์กับอีเมลล์ไว้ให้หน่อยได้ไหมครับ?ผมจะส่งมันให้ครูตอนผมกลับ”

 

“ได้เลย!” เติ้งชุยตอบ

……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset