This Star is a bit Salty – ตอนที่ 4 กลับบ้านเกิดไปเปิดร้านตั้งแผงขายของ

ออกจากเหิงเตี้ยนและกลับไปที่มหาลัย

เส้นทางไปเหิงเตี้ยนครั้งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่หลี่หานเคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน

ข้อความแจ้งเตือนของโทรศัพท์มือถือว่ามีเงินเข้าบัญชีมา 100,000 หยวน

นี่เป็นเงินจำนวนมาก

ต่อไปก็ถึงเวลากลับภูมิลำเนา จากนั้นก็เปิดร้านเพื่อทำตามอุดมคติก่อนหน้านี้และปล่อยให้ระบบเริ่มต้นได้สำเร็จ

ปลาเค็ม*ก็มีอุดมการณ์เช่นกัน

สำหรับเรื่องนักร้อง ด้วยความช่วยเหลือของซูอวี่ฉิง หลี่หานไม่ได้กังวลเรื่องนี้นัก

ในเวลานั้นก็ให้ซูอวี่ฉิงส่งเดโมของนักร้องมาและปิดมันไป

“เสี่ยวหาน นายกลับมาสักที ไปกันเถอะ พวกเรารอนายอยู่” หลิวช่านกล่าวทันทีที่เขากลับมาถึงหอพัก

หลังจากเรียนจบแล้ว ทุกคนก็ต้องแยกกันไปทำงาน คืนนี้ทุกคนเลยมารวมตัวกัน

ความเศร้าจากการพรากจากกันมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย

……

เช้าวันรุ่งขึ้น.

หลี่หานลุกขึ้น หัวของเขาเจ็บเล็กน้อยหลังจากที่เมื่อคืนเขาดื่มไปนิดหน่อย

เพื่อนร่วมห้องบอกลากันและครั้งต่อไปที่พบกันอาจจะเร็ว ๆ นี้หรืออาจจะนานกว่านั้นหรืออาจจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก

หลี่หานลากกระเป๋าเดินทางออกจากประตูมหาลัย เขาเคยเดินผ่านมันในชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้เขาเดินผ่านมันอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจและอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ในใจ

มองกลับไปที่ประตูมหาลัย หลี่หานเศร้าเล็กน้อย แต่ไม่รู้สึกคำนึงหามากนัก

ถึงจะมี แต่ก็เป็นความทรงจำทั้งดีและไม่ดี

บ้านเกิดของฉันอยู่ในจังหวัดฝูหนาน ห่างออกไป 2,000 กว่ากิโลเมตร

เดิมทีหลี่หานวางแผนที่จะขึ้นรถไฟ แต่ตอนนี้เขามีเงินแล้ว เขาจึงเปลี่ยนไปใช้รถไฟความเร็วสูงแทน

……

การเดินทาง 10 ชั่วโมงก็ไม่นานเกินไปนัก

การมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างก็เป็นความเพลิดเพลินเช่นกัน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ซูอวี่ฉิงโทรมา

ได้นักร้องแล้วเหรอ?

ประสิทธิภาพสูงมาก!

“นายคือหลี่หานใช่ไหม?”

“ใช่ คุณซู ฉันหลี่หานเอง”

“ฉันเจอนักร้องที่เหมาะกับเพลงนี้แล้ว นักร้องหญิงชื่อเฉินยู่รุ่ย และนักร้องชายชื่อเซี่ยฮุย ทั้งคู่เป็นนักร้องหน้าใหม่ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดอยู่ที่เหิงเตี้ยนแล้ว นายต้องการที่จะมาฟังการออดิชั่นของพวกเขาไหม”

“เอ่อคือ…ผมอยู่บนรถไฟความเร็วสูงแล้วน่ะ คุณสามารถส่งตัวอย่างการออดิชั่นของพวกเขามาให้ผมดูได้”

“รถไฟความเร็วสูง? นายจะไปไหนกัน?”

“กลับบ้านเกิด”

“กลับบ้านเกิดไปทำอะไร?”

“ลองกลับไปเปิดร้านตั้งแผงขายของประมาณนั้นแหละครับ”

“……”

“เฮ้ ~ คุณซู มีอะไรเหรอครับ?”

“มัน … ไม่ … ไม่มีอะไร เดินทางปลอดภัยนะ เดี๋ยวฉันจะส่งตัวอย่างออดิชั่นให้นายละกัน”

“โอเค รบกวนคุณซูด้วยนะครับ… อืม … อืม … ลาก่อน!”

ฟีแชทเป็นซอฟต์แวร์การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีในโลกนี้ ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับวีแชทของชาติก่อน

ไม่นานหลังจากวางสาย ซูอวี่ฉิง ได้ส่งตัวอย่างออดิชั่นของนักร้องทั้งสองผ่านทางฟีแชท

ไหนดูซิ

นักร้องชื่อเฉินยู่รุ่ยค่อนข้างน่ารัก แม้ว่าเธอจะสวยน้อยกว่าซูอวี่ฉิง แต่เธอก็ยังสวยมากอยู่ดี

นักร้องชายชื่อเชี่ยฮุย หน้าตาดีทีเดียว

ในวิดีโอนั กร้องทั้งสองดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อยและไม่ได้ร้องอย่างเต็มที่

หลี่หานตั้งใจฟังและรู้สึกว่าพอช้ได้ หลังจากฝึกอีกสองสามครั้งบวกกับการไม่ประหม่า ผลของมันน่าจะดีขึ้นและสามารถบรรลุเท่ากับผลงานการร้องของต้นฉบับในชีวิตก่อนหน้านี้ได้

หากเป็นเช่นนั้นก็เข้าที่แล้วล่ะ

นักร้องที่ซูอวี่ฉิงหามานั้นดีมากจริงๆ

โทรหาซูอวี่ฉิง

“ คุณซู ผมว่ามันดีมาก ไม่มีปัญหาเลย”

“งั้นฉันก็สบายใจได้แล้วสินะ เดดี๋ยวเราจะบันทึกอย่างเป็นทางการที่นี่หลังจากการบันทึกอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น ฉันจะส่งแบบสำเนาให้คุณ”

“โอเค ขอบคุณ.”

……

หมู่บ้านหยวนซี เมืองชวงหลง เขตจ่างเล่อ

ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างสวยงาม

ภูเขาสีเขียว แม่น้ำที่มีสะพานเล็กๆข้าม

เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่หานยืนอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน ไม่ว่าเขาจะมองไปที่ใดเขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันในความทรงจำมาก

โลกเปลี่ยนไป แต่หลาย ๆ อย่างยังไม่เปลี่ยนไป

ตัวอย่างเช่นหมู่บ้านที่น่าสนใจนี้

เดิมทีหลี่หานคิดว่าเมื่อเขากลับมาที่หมู่บ้าน เขาจะต้องตื่นเต้นมาก

แต่ตอนนี้เขาค่อนสงบ

เดินเข้าไปในหมู่บ้าน พบกับชาวบ้านที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยตลอดทาง

ทักทายกัน

“เสี่ยวหานกลับมาแล้ว!” นี่คือคำพูดของชาวบ้านส่วนใหญ่

ทุกคนไม่ได้ตระหนักว่าหลี่หานได้สำเร็จการศึกษาแล้ว

เวลามักจะผ่านไปเร็วเกินไป

ในหมู่บ้านมีลำห้วยยาวที่คดเคี้ยวไปมา เด็กกลุ่มหนึ่งกำลังจับปูในลำห้วย

ในฤดูร้อน อากาศห็ร้อน แต่สำหรับเด็ก มันคือสวรรค์

จับปู จับผีเสื้อ…

ยุ่งจริงๆ

บ้านของหลี่หานตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน เป็นอาคารขนาดเล็กสองชั้นธรรมดา มีสระน้ำด้านหน้าที่เลี้ยงปลาไว้

ที่ดินเล็ก ๆ สองสามแปลงติดกับสระ คุณสามารถปลูกผักบางอย่างและนำมากินได้

แตงกวา มะระ ถั่วพุ่มและพริก

พ่อของหลี่หานกำลังยุ่งอยู่ในสวน

“พ่อ ทำอะไรน่ะ?” หลี่หานตะโกน

หลี่หานบอกว่าพ่อว่าจะกลับมาในวันนี้ ดังนั้นพ่อของเขาจึงไม่แปลกใจที่เห็นหลี่หานและพูดว่า “ผมกลับมาแล้ว”

“หืม! แม่อยู่ไหน”

“ข้างใน”

“พ่อกำลังตั้งชั้นวางแตงกวานี้ใหม่เหรอ เดี๋ยวผมช่วยพ่อเอง”

“ไม่ ฉันทำมันใกล้เสร็จแล้ว”

“หา ทำไมปีนี้แตงกวาถึงออกผลดีจัง”

หลี่หานเห็นแตงกวาใหญ่และเล็กจำนวนมากบนเถาแตงกวา ไม่น่าแปลกใจที่พ่อต้องจัดชั้นวางใหม่ ชั้นวางเดิมต้องพังไปแล้วแน่ๆ

พ่อบอกว่า “ไม่ใช่แค่แตงกวาเท่านั้นที่ออกผลดี มะระ ถั่วพุ่มและพริกล้วนออกผลดีทั้งนั้น อาจเป็นเพราะฝนปีนี้ที่ตกตลอดทั้งป่ะนะ”

หลี่หานเงยหน้าขึ้นมอง จริงๆแล้ว ผักทั้งหมดต่างโตขึ้นเร็วมาก

น่าพอใจชะมัด

มันดีมากจนเขาไม่สามารถทำมันให้เสร็จได้ด้วยตัวเอง

ตอนนั้นเอง แม่ของหลี่หานได้ยินเสียงและเดินออกจากสนามและพูดว่า: “มันออกเยอะเกินไปจนกินไม่หมดด แม่เลยวางแผนที่จะให้พ่อแกเก็บแตงกวาและเอาไปขายที่ตลาดชวงหลงในเช้าวันพรุ่งนี้”

ไปตลาดขายแตงกวา?

หัวใจของหลี่หานเต้นตุบๆ คล้ายกับการตั้งแผงขายของริมถนนใช่ไหม?

ดังนั้นมันอาจถือได้ว่าเป็นการเปิดร้านใช่ไหม?

ถ้าเราขายแตงกวาเองล่ะ? ถือได้ว่าเป็นการทำตามอุดมการณ์ก่อนหน้านี้หรือไม่?

ใช่ อุดมคติอุดมการาณ์ของฉันคือกลับบ้านมาขายแตงกวา

อืม … จริงๆฉันก็มีอุดมการาณ์คือกลับบ้านมาขายมันเทศด้วยนะ

ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา

แบบนี้ระบบน่าจะเริ่มรีสตาร์ทใหม่ได้ใช่ไหม?

อย่างน้อยก็ต้องลองดู

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลี่หานก็มองไปข้างหน้าและพูดว่า “พ่อแม่ ผมจะไปขายมันพรุ่งนี้เช้าเอง”

“ลูกน่ะเหรอจะไปขายมัน?” พ่อและแม่แปลกใจเล็กน้อย

แม่กล่าว“ให่พ่อแกไปเถอะ แกจะไปขายที่ไหนกัน?”

หลี่หานกล่าวว่า: “ก็ที่เขาให้ขายไง แม่บอกผมได้ว่าปกติหนึ่งชั่งขายเท่าไหร่ ผมจะไปขายเอง ผมอยากไปน่ะ”

พ่อมองไปที่หลี่หานที่ทำตัวอยากไปจริงๆและพูดว่า “งั้นพรุ่งนี้ลูกก็ไปแล้วกัน แต่ลูกต้องตื่นแต่เช้านะ”

หลี่หาน “ไม่มีปัญหา”

แม่ของเขายังคงไม่เต็มใจเล็กน้อย เธอกังวลว่าหลี่หานจะเหนื่อยและเธอยังกังวลว่าหลี่หานจะขายมันไม่ได้

หลังจากพูดเกลี้ยกล่อมซักพัก ในที่สุดแม่ก็ยอม

พรุ่งนี้เช้าจะไปขายแตงกวา หลี่หานตื่นเต้นเล็กน้อย!

————————–

*อย่าปล่อยให้ชีวิตของเราไร้ “ความฝัน” ไร้ชีวิตชีวา เหมือน “ปลาเค็ม” ที่รอให้คนเพียงตักเข้าปากเป็นอาหารเท่านั้น

อนึ่ง ปลาเค็ม 咸鱼ในภาษาจีน มีความหมายแฝง หมายถึง คนไร้ความสามารถ, ขี้แพ้  ดังนั้น หากเราขาดความฝัน ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมาย เราก็คงต้องเป็น “ปลาเค็ม” จริงๆ

แต่ถ้าใครรู้สึกว่าตนเองเป็น “ปลาเค็ม” ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ มีชีวิตแต่เหมือนไร้จิตวิญญาณ อย่าเพิ่งยอมแพ้  ขอให้ลุกขึ้นสู้ และจงเป็นเหมือนสำนวนจีน 咸鱼翻身ปลาเค็มที่กลับมาเป็นปลาที่มีชีวิตอีกครั้ง หากเราพยายามมากพอ Cr.อ้ายจง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset