Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 22 ขอบคุณ

ตอนนี้วิกเตอร์กำลังอารมณ์เสียอย่างยิ่ง ถ้าฮาร์ปซิคอร์ดไม่สามารถปรับแก้ให้ตรงตามความต้องการได้ ผลงานเปียโนคอนแชร์โตชิ้นใหม่ของเขาก็แทบไม่แตะระดับที่จะนำไปเล่นในหอประชุมบทสวดได้เลย การจะทำให้ขุนนาง นักดนตรี และนักวิจารณ์ที่มาฟังบทเพลงของเขาพอใจหรือชื่นชมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีหลังจากนั้น เขาอาจจะถูกวูล์ฟชำแหละใน ‘วิพากษ์ดนตรี’ หรือในอนาคต เขาอาจไม่มีโอกาสได้รับเชิญจากสมาคมนักดนตรีหรือแกรนด์ดยุกให้ไปเล่นที่หอประชุมบทสวดอีกเป็นครั้งที่สอง

วิกเตอร์เคยเห็นนักดนตรีที่ตกอยู่ในสภาพนั้นมาแล้วนักต่อนัก เพราะทุกๆ ปีจะมีนักดนตรีผู้เก่งกาจโดดเด่นมากมายที่ขึ้นแสดงในหอประชุมบทสวดเป็นครั้งแรกแล้วเล่นได้ไม่สมบูรณ์แบบตามที่คิดฝันไว้ พวกเขาไม่สามารถก้าวขึ้นจากนักดนตรี ‘ยอดเยี่ยม’ เป็น ‘มีชื่อเสียง’ ได้เป็นเวลานาน ทั้งยังต้องทุกข์ทรมานกับความล้มเหลวหลังจากนั้น ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นนักดนตรีธรรมดาๆ ในที่สุด ส่วนคนที่ไม่โชคดีพอจะต่อสู้กับความสิ้นหวังได้จนปลิดชีพตนเองเพราะความล้มเหลวในการขึ้นแสดงที่หอประชุมบทสวดนั้นมีอยู่ทุกๆ สองหรือสามปี จิตวิญญาณนักดนตรีบางครั้งก็อ่อนไหว เปราะบาง และอ่อนแออย่างเหลือเชื่อ

ด้วยเหตุนี้ หลังจากได้ยินลูเซียนเสนอความเห็นขึ้นมาอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วถูกซาเวียร์ต่อว่าอย่างรุนแรง วิกเตอร์จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปั่นป่วนไม่สบายใจ แต่เขาก็เข้าใจว่าลูเซียนอยากจะช่วยเขาด้วยความหวังดี เขาจึงข่มอารมณ์แล้วตอบด้วยเสียงทุ้มนุ่ม “ลูเซียน ขอบใจสำหรับความเห็นนะ แต่ถ้าการนำฮาร์ปซิคอร์ดมาผสมรวมกับคลาวิคอร์ดสามารถแก้ปัญหาทั้งหมด เช่นนั้นปัญหาก็คงแก้ไขสำเร็จไปแล้ว”

ไรห์นมองลูเซียนด้วยใบหน้ายิ้มๆ ราวกับกำลังใจจดใจจ่อกับคำตอบของเขา ในขณะที่ล็อตต์ เฮโรโดตัส และเฟลิเซียเหลือบมองลูเซียนด้วยความรังเกียจ การพูดแทรกผู้ใหญ่ที่กำลังหารือเพื่อแก้ไขปัญหา ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้การศึกษา ทั้งเขายังพูดจาไร้สาระ พวกเขาจึงลอบก่นด่าในใจ ‘ไม่ผิดเลยจริงๆ อวดดีหยาบคายไร้การศึกษาสมกับมาจากสลัม’

แม้ในระยะเวลาสั้นๆ ลูเซียนจะไม่ได้เข้าใจหนังสือทั้งสองเล่มที่ชื่อ ‘การผลิตและจูนเสียงเปียโน’ และ ‘องค์ประกอบกลไกเปียโน’ ทั้งยังได้อ่านเพียงสิบหน้าแรก แต่อาจเพราะเขาจับประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความแตกต่างหลักๆ ระหว่างสองเปียโนโบราณกับเปียโนสมัยใหม่ได้ พอนำมาเทียบกับโครงสร้างกลไกที่เห็นจากฮาร์ปซิคอร์ดที่เปิดฝาไว้ เขาจึงพอจะรู้ว่าควรตอบอย่างไร “บางทีถ้าใช้เครื่องมือบางอย่างช่วยขยายระยะห่างระหว่างคีย์บอร์ดกับสายที่ขึงติดไว้ แล้วแทนที่ด้วยค้อนเพื่อใช้เคาะสาย ระดับเสียงก็อาจจะดังขึ้นได้นะขอรับ”

ลูเซียนอธิบายอย่างคลุมเครือ วางตัวเป็นชายยากจนที่บังเอิญได้ยินเกี่ยวกับข้อบกพร่องของเปียโนโบราณทั้งสองจากคนในสมาคมนักดนตรีและได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศในเมืองอัลโต้ที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงในทุกๆ วัน จงใจไม่ใช้คำอธิบายเฉพาะเจาะจงอย่างคำว่า ‘ความสูงคลื่นเสียง’ จากการสั่นสะเทือน

“ขยาย? ขยายอย่างไรกัน” สายตาซาเวียร์ยิ่งดุดัน คิ้วสีขาวขมวดเข้าหากันแน่น ตลอดสามร้อยปีในการพยายามพัฒนาเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครคิดเช่นนี้ แต่หลังจากมีผู้ล้มเหลวมากมาย จึงไม่มีใครลองทำอีก

ท่ามกลางสายตามึนงงของวิกเตอร์ ไรห์น และคนอื่นๆ ลูเซียนหยิบฟลุ้ตออกมาจากชั้นวางเครื่องดนตรี เดินไปยังโต๊ะใกล้ๆ กัน หยิบขวดหมึกมาใช้เป็นจุดค้ำจุน แล้วแสดงกฎของคานงัดให้ทุกคนดู “ข้าเคยเห็นชาวนาใช้ท่อนไม้กับหินก้อนเล็กเพื่องัดหินก้อนใหญ่ขึ้น แล้วจากนั้นข้าก็พบว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมากมายในชีวิต แบบนี้จะไม่ช่วยขยายระยะห่างทั้งขึ้นทั้งลงหรือขอรับ”

“วิธีนี้มัน…” แทนที่ซาเวียร์จะโต้ตอบ เขากลับคิดตาม “แต่ว่าความเร็วในการเคาะสายจะช้าลง…” ในฐานะผู้ผลิตฮาร์ปซิคอร์ด เขาจึงพบว่าการปรับแก้เช่นนี้จะนำไปสู่ปัญหาอื่นได้อย่างรวดเร็ว

ตอนแรกสถานการณ์นี้เพียงชวนสับสนและน่าสนุก แต่เมื่อเห็นลูเซียนแสดงตัวอย่างให้ดู ไรห์นก็เริ่มมีท่าทางเคร่งขรึมจริงจังขึ้น จากนั้นเขาก็ก้าวออกมาข้างหน้าก้าวหนึ่งและยิ้มกว้าง “เยี่ยมไปเลย ลูเซียน เจ้าได้ค้นพบกฎของคานงัดจากประสบการณ์ชีวิต เจ้านี่ช่างสังเกตและสรุปได้เก่งจริงๆ”

ภายนอก ลูเซียนดูท่าทางมึนงงและดูจะไม่เข้าใจว่าไรห์นกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่เขาประหลาดใจจริงๆ นี่ไรห์นรู้จักและเรียกมันว่ากฎของคานงัดเหมือนกันหรือ

แต่ดูเหมือนว่าวิกเตอร์ เฟลิเซีย ล็อตต์ และคนอื่นๆ รวมถึงซาเวียร์จะไม่รู้จักมันเลยสักนิด แต่ถึงพวกเขาจะเคยสังเกตเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน พวกเขาก็ไม่สามารถสรุปและบอกชื่อได้

‘ในโลกก่อนมีคนสรุปกฎของคานงัดไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะวิถีชีวิตพื้นฐานในอัลโต้ทำให้ไม่ได้รับองค์ความรู้นี้เข้ามา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ที่นี่จะมีคนค้นพบกฎของการงัด หลายๆ อาณาจักรในทวีปอาจรู้จักกฎนี้แล้วก็ได้ แต่อาจเพราะประชาชนเคารพบูชาพลังศักดิ์สิทธิ์และพรในสายเลือด องค์ความรู้นี้เลยเผยแพร่ไปช้ามาก’ ลูเซียนคาดการณ์ในใจว่าข้อสรุปเกี่ยวกับปรากฏการณ์ในชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามของศาสนจักร อย่างไรเสีย โบสถ์ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงในโลกนี้ก็มีความมั่นใจมากกว่าในโลกที่เขาจากมา แม้แต่การพัฒนาเกี่ยวกับดนตรีก็ยังไม่ถูกกดทับ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าออกมาแสดงกฎนี้ให้ทุกคนดูหรอก

ไรห์นเห็นสีหน้าแปลกๆ ของทุกคนจึงอธิบายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “นี่คือปรากฏการณ์แห่งชีวิต ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้ตอนเดินทางอยู่ในอาณาจักรโฮล์ม นักวิชาการที่นั่นได้ค้นพบเรื่องนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้ว มันเรียกว่ากฎของคานงัด ว่าแต่ ลูเซียน เจ้าสังเกตเห็นไหมว่า ยิ่งคานยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยกสิ่งที่อยู่สุดปลายอีกฝั่งได้ง่ายขึ้นเท่านั้น”

“ขอรับ ข้าทราบ” ลูเซียนตอบเสียงแผ่ว แต่เขากลับมีสีหน้าสับสนมึนงง “แต่จริงหรือขอรับ เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ เช่นนั้นเรานำคานพวกนี้มาใช้หลายๆ อันได้ไหมขอรับ”

ลูเซียนตั้งใจจะพูดเพียงเท่านี้ คานงัดสามชั้นไม่ใช่ทฤษฎีที่คนยากไร้จะรู้จัก ส่วนสิ่งที่เขาพูดจะไปจุดประกายพวกเขาหรือไม่ และสร้างแรงบันดาลได้มากแค่ไหน เขาไม่อาจควบคุมได้

ดวงตาสีเงินของไรห์นพลันเปล่งประกาย “การเชื่อมงั้นรึ สร้างคานงัดหลายชั้นสินะ ควรลองทำเช่นนั้นดู” แล้วเขาก็เดินไปที่ฮาร์ปซิคอร์ด กระซิบคุยกับซาเวียร์ ก่อนจะไปหาปากกาขนนกและกระดาษมาวาดสิ่งที่เขาอยากจะสื่อ

ขณะเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าเงียบๆ ลูเซียนอาจดูแปลกใจเหมือนกับล็อตต์และเฟลิเซีย แต่ความจริงแล้วเขากำลังสังเกตพฤติกรรมของไรห์นอย่างใจเย็น พลางพูดกับตัวเองว่า ‘เขาแปลกจริงๆ ฉันมั่นใจว่าเขาต้องเป็นมากกว่านักไวโอลินหรือกวีขับลำนำแน่ๆ’

วิกเตอร์เฝ้ามองไรห์นกับซาเวียร์ถกเถียงกันวุ่นวายด้วยความกังวลและคาดหวัง แต่ไม่นานเขาก็เข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยตนเอง เพื่อออกความเห็นในฐานะนักดนตรีมืออาชีพ

ทิ้งให้ลูเซียน ล็อตต์ เฟลิเซีย และคนอื่นๆ ยืนอยู่ที่ปากประตู

ล็อตต์เริ่มสนใจในตัวลูเซียนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้กับสถานการณ์นี้ ก่อนจะพูดกับเขาในที่สุด “ความจริงแล้วข้าก็เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน เพียงแต่ข้าไม่เคยขบคิดถึงมันอย่างลึกซึ้ง ลูเซียน เจ้านี่มีความสามารถที่หายากจริงๆ เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน”

แม้ว่าเฟลิเซียเองก็สงสัยและสนใจในตัวลูเซียน แต่นางกลับชี้ไปทางไรห์นกับวิกเตอร์ที่กำลังวุ่นวายอยู่ในห้องดนตรี “เงียบหน่อย หากเจ้าอยากคุยก็ลงไปชั้นล่าง” จากนั้นนางก็หันศีรษะกลับไปมองชายทั้งสามที่ถกเถียงกันให้วุ่นจนชักไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังดูอะไรอยู่

ล็อตต์ยังไม่คุ้นเคยกับลูเซียน และเขาก็สนใจการพัฒนาฮาร์ปซิคอร์ดมากกว่า จึงพยักหน้า หยุดพูด เดินเข้าไปในห้อง และเฝ้ามองจากระยะไม่ใกล้ไม่ไกล

ส่วนเฮโรโดตัส คอลิน เรเน่ และคนอื่นๆ ต่างไม่ชอบใจกับการที่ลูเซียนได้รับความสนใจและรู้สึกทั้งขุ่นเคืองทั้งรังเกียจ จึงไม่พูดคุยกับลูเซียน แต่ก็เฝ้ามองวิกเตอร์กับชายอีกสองคนต่อไป ในใจแอบหวังว่าการปรับแก้ยกเครื่องในครั้งนี้จะล้มเหลว ลูเซียนจะได้ถูกตำหนิ

ลูเซียนเองก็อยากรู้มากๆ ว่าการยกเครื่องฮาร์ปซิคอร์ดจะสำเร็จไหม เพราะมันยังเกี่ยวโยงถึงเรื่องที่ว่าเขาจะยืมพจนานุกรมได้สำเร็จหรือไม่ เขาจึงไม่เร่งรีบ และตั้งใจอ่านหนังสือทั้งสองเล่ม คานงัดสามชั้นอาจเป็นข้อแตกต่างสำคัญเพียงอย่างเดียวระหว่างเปียโนสมัยใหม่กับเปียโนโบราณ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

ท่วงทำนองทุ้มหนักก้องกังวานดังขึ้นจากห้องดนตรี จากนั้นก็ลดระดับลงจนกลายเป็นเสียงแผ่วเบาอ่อนโยน เหมือนกับเสียงกระซิบยามราตรี

“เยี่ยมยอด เยี่ยมยอดจริงๆ” ใบหน้าวิกเตอร์แทบจะเป็นสีแดงและเปล่งประกายได้ บ่งบอกว่าเขากำลังอารมณ์ดีอย่างยิ่ง แม้ว่าจะยังมีปัญหามากมายในการประกอบฮาร์ปซิคอร์ดขึ้นใหม่ แต่ก้าวสำคัญก็สำเร็จลุล่วงไปแล้ว “ขอบคุณ ท่านไรห์น ขอบคุณขอรับ ท่านซาเวียร์”

ไรห์นยิ้มตอบอย่างอบอุ่น “เป็นเกียรติของข้าต่างหากขอรับที่ได้ร่วมสร้างเครื่องดนตรีแสนยอดเยี่ยมชิ้นนี้”

ลูเซียนที่ยืนหลบมุมอยู่เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าไรห์นเป็นคนที่ผิดแปลกเหนือธรรมดา เขาไม่เพียงสร้างคานสามชั้นได้ แต่ยังผสมผสานจนเป็นระบบคานงัดที่ซับซ้อนชวนตกตะลึง ซึ่งทำให้ฮาร์ปซิคอร์ดหลังนี้บรรเลงได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ‘ดีที่เขาไม่ได้คิดค้นกลไกอื่นๆ ด้วย ไม่งั้นฉันคงคิดว่าเขาเคยเห็นเปียโนสมัยใหม่มาแล้วแน่ๆ’

วิกเตอร์เข้าไปสวมกอดไรห์นและซาเวียร์ ก่อนจะเดินมายืนตรงหน้าลูเซียนด้วยแขนที่อ้ากว้างก่อนจะรวบตัวลูเซียนไปกอด “ขอบคุณเจ้าด้วย ลูเซียน หากไม่มีเจ้า พวกข้าคงคิดถึงเรื่องนี้ได้ยากนัก ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ส่งผู้นำทางแสนสำคัญมาในเวลาที่สำคัญที่สุดเช่นนี้”

“หามิได้ขอรับ ท่านวิกเตอร์ ข้าเพียงเสนอความคิดไปโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ข้าไม่คิดว่ามันจะใช้ได้จริงๆ” ลูเซียนไม่คุ้นเคยกับการกอดผู้ชาย จึงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

วิกเตอร์ปล่อยตัวลูเซียนแล้วหัวเราะร่า ก่อนจะกล่าวอย่างจริงใจ “อย่างไรก็ต้องขอบคุณเจ้า ลูเซียน เจ้าต้องการอะไรหรือไม่ ข้าจะดีใจอย่างยิ่งหากทำตามคำขอของเจ้าได้”

ประโยคนั้นทำให้ล็อตต์ เฟลิเซีย และเฮโรโดตัสหันขวับไปมองลูเซียนด้วยความอิจฉาเล็กๆ การได้รับคำขอบคุณเช่นนั้นจากวิกเตอร์ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสุดๆ

แอนนี่ คอลิน และคนอื่นๆ ที่ตามมายังห้องดนตรีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากวิกเตอร์ยิ่งอิจฉาริษยากว่าเดิม ความหมายของประโยคนั้นชัดเจนยิ่ง มันบ่งบอกว่าวิกเตอร์เต็มใจรับลูเซียนเป็นศิษย์ที่แท้จริงและสอนดนตรีให้ ซึ่งนับเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาแต่ละคน

แต่ลูเซียนกลับมัวแต่คิดถึงอย่างอื่นและเผลอโพล่งออกมาว่า

“ข้าขอยืม ‘พจนานุกรมภาษากลาง’ ได้ไหมขอรับ”

“อุ๊บ” ไรห์นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ก่อนจะพึมพำว่าคำขอนั้นช่างน้อยนิดเหลือเกิน แม้แต่ล็อตต์กับเฟลิเซียที่กำลังรู้สึกสับสนก็ยังยกมุมปากขึ้นอย่างขบขัน นี่ลูเซียนไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านวิกเตอร์ต้องการจะสื่อหรือไร

วิกเตอร์หัวเราะร่า ในสายตาเขา ลูเซียนกลายเป็นคนหนุ่มที่ซื่อตรงและง่ายๆ “เจ้าจะยืมพจนานุกรมภาษากลางไปเมื่อไหร่ก็ได้ เจ้ายังต้องการอะไรอีกหรือไม่”

ลูเซียนประหลาดใจกับปฏิกิริยาของไรห์น เฟลิเซีย และคนอื่นๆ อย่างมาก เขารู้สึกอับอายที่ต้องพูด รู้สึกว่าคำขอของเขามันมากเกินไป อย่างไรเสีย ไรห์นก็เป็นคนที่ปะติดปะต่อความคิดจนสมบูรณ์และปรับแก้ได้สำเร็จ

‘ฟู่ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าความรู้สึกขอบคุณของท่านวิกเตอร์นั้นมีค่าแค่ไหน’ ความคิดนั้นดังก้องในหัวแอนนี่ คอลิน และคนอื่นๆ พวกเขาต่างมองลูเซียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

วิกเตอร์ยิ้มอย่างเป็นมิตร “ไม่เป็นไร ลูเซียน ไม่ต้องอาย พูดออกมาเถอะ”

ลูเซียนพยักหน้าแล้วร้องขออย่างจริงใจ “ท่านวิกเตอร์ ข้าขอไม่จ่ายค่าเรียนได้ไหมขอรับ”

“ฮ่าๆๆ” จู่ๆ ไรห์นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ไม่สามารถรักษาภาพลักษณ์แสนสง่างามได้อีกต่อไป

————————————————

Throne of Magical Arcana

Throne of Magical Arcana

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’ ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset