บทที่ 22 คำขอโทษแบบที่จะฆ่าคุณหากคุณไม่ยกโทษให้?
บทที่ 22 คำขอโทษแบบที่จะฆ่าคุณหากคุณไม่ยกโทษให้?
เฉินซีซีเงยหน้าขึ้นจากหนังสือการ์ตูนและทำหน้าไร้เดียงสา “พี่สาว ฉันยังไม่ได้จัดเตียงเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกสบายมากแล้วนะ”
เธอไม่นอนบนผ้าปูที่นอนงั้นเหรอ?
ซูโย่วอี๋ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เฉินซีซีดูเหมือนเด็กที่ไม่รู้อะไรเลย เธอจึงตะโกนเบา ๆ ว่า “ลงมา ฉันจะสอนเธอจัดที่นอน”
“ไม่ต้องหรอกพี่สาว เดี๋ยวป้าก็มาจัดที่นอนให้ หนูให้ป้ามาดูแลชีวิตหนูแล้ว ไม่ไหวเลยจริง ๆ ทั้งที่หนูจะจ่ายให้สามเท่าของเงินเดือนแท้ ๆ”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเฉินซีซีไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักนิด ซูโย่วอี๋ปวดหัว “งั้นลงมา เดี๋ยวฉันจะปูให้ก่อน”
เธอเคยเป็นแม่บ้านและเป็นคนจัดเตียง
เฉินซีซีไม่สนใจ “ฉันไม่อยากขยับตัวตอนนี้ ฉันอยากอ่านการ์ตูน พี่อย่าสนใจฉันเลย”
หลังจากนั้น เธอก็อ่านการ์ตูนต่ออย่างเพลิดเพลินและปล่อยซูโย่วอี๋ไว้แบบนั้น
ในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง
ซูโย่วอี๋รู้สึกอยากตีอีกฝ่ายด้วยกำปั้น
ตึ๊ง!
[ภารกิจ: โปรดสอนเฉินซีซีจัดเตียงภายในสามวัน]
ซูโย่วอี๋ผู้ได้ยินภารกิจนี้ ก็มองหญิงสาวที่หมกมุ่นอยู่กับการ์ตูนตรงหน้า ในหัวก็คิดถึงแผนต่าง ๆ นานาว่าจะทำให้เฉินซีซีเชื่อฟังยังไง อย่างไรก็ตามก็ยังเหลือเวลาอีกตั้งสามวัน
เอาไว้ก่อน ๆ
ซูโย่วอี๋พักผ่อนและไปอาบน้ำสระผม
แต่ในขณะที่พวกเธอนอนหรือออกกำลังกาย คนที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้รับความสนใจก็ออกไปที่พื้นที่สาธารณะเพื่อให้กล้องถ่าย
ส่วนแฟน ๆ ของทั้งสองคน ก็ได้ค้นหาพื้นสาธารณะในห้องถ่ายทอดสดทั้งหมดและไม่พบใครเลย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องออกจากห้องถ่ายทอดสดอย่างผิดหวัง
เวลาหกโมงเย็น ก็มีเสียงประกาศว่า “กรุณามารับประทานอาหารเย็นในโรงอาหาร”
เฉินซีซีตาเป็นประกาย เธอโยนหนังสือการ์ตูนทิ้งและกระโดดลงจากเตียงแล้วพูดว่า “พี่สาว ไปกินข้าวเย็นกัน”
ซูโย่วอี๋ตอบเธอเสียงเบาว่า “อืม”
…
ตอนนี้ยังไม่มืด และในโรงอาหารก็ยังสว่างอยู่ เหล่าหญิงสาวรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อกินข้าว พวกเขาทั้งหมดแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีเดียวกัน ซูโย่วอี๋ลองนับดูได้ห้าสี มีสีแดง ส้ม เหลือง เขียวและน้ำเงิน ซึ่งตรงกับชั้นเรียนทั้งห้าคลาส
สีแดงมีน้อยที่สุด เห็นได้ชัดว่าสีแดงหมายถึงคลาส A
ตั้งแต่ซูโย่วอี๋ปรากฏตัวที่ประตู สายตาคู่หนึ่งก็จับจ้องเธอทันที ราวกับจะแทงทะลุหลังของเธอ
ซูโย่วอี๋เผลอกวาดตาไปทั่วโรงอาหาร และพบว่าฉูรั่วฮวนกำลังจ้องมาที่เธออยู่
ถัดจากเธอคืออวี๋ชิงจ้าวซึ่งกำลังรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน ราวกับว่าไม่สนสิ่งรอบตัว
เมื่อซูโย่วอี๋เดินเข้าไปข้างใน ทีมงานที่เพิ่งพาพวกเขาขึ้นมาบนเขาวิ่งมา “คุณไม่ได้ยินฉันบอกเหรอว่าเมื่อเข้าไปในหอพัก จะมีชุดฝึกอยู่ที่ตู้ด้านบนของแต่ละหอพัก และพวกคุณต้องสวมชุดฝึกซ้อมระหว่างการถ่ายทำรายการวาไรตี้ คุณรู้ไหม”
เฉินซีซีพยักหน้า “ฉันรู้”
ซูโย่วอี๋เดินเล่นรอบโรงอาหาร แต่ก็เห็นว่าไม่มีอะไรทำ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นโรงอาหารชั่วคราว ไม่มีหน้าต่าง กลับมีจานชามวางอยู่ตรงข้ามประตูแทน มีอาหารเนื้อสามอย่าง ผักสามอย่าง และซุปหนึ่งอย่าง พร้อมด้วยคุณป้าทำอาหารสองคนที่สวมหน้ากาก
เฉินซีซีรีบวิ่งไปด้านหน้าและตักอาหารใส่จานและนั่งลงใกล้ ๆ
ด้านซูโย่วอี๋ก็ถามคำถามในใจว่าเธอสามารถกินอาหารทั้งหมดนี่ได้หรือเปล่า?
สุนัขจิ้งจอกปฏิเสธทันที
[ซู่จู่ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในการถ่ายทำของคุณแล้ว เวลาและอาหารของทั้งสามมื้อสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม แต่ระดับน้ำตาลและไขมันต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ร่างกายต้องการ อาหารเหล่านี้เกินมาตรฐาน คุณไม่สามารถรับประทานได้ ไม่งั้นโดนทำโทษแน่]
อะไรกัน
นี่ฉันต้องทำอาหารเองหรือยังไง?
ในหอพักนี้มีห้องครัวขนาดเล็กอยู่ แต่เธอไม่รู้ว่าสามารถใช้มันได้ไหม
อาจจะต้องขอผักจากคุณป้าในโรงอาหารก่อน
คุณป้าประจำโรงอาหารชื่อว่าต้าฟาน เธอพูดภาษาจีนกลางได้ “ฉันให้เธอไม่ได้ ต้องไปถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น ว่าเขาจะอนุญาตหรือไม่”
ซูโย่วอี๋ขมวดคิ้ว
ด้านทีมงานรายการที่ได้ยินคำขอของเธอ ก็ทำหน้าแปลกใจ “เธออยากทำอาหารเองเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
ตอนนี้ในใจของทีมงานกำลังคิดว่าเธอกำลังพยายามหาวิธีใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม “ไปหยิบมาเลย แล้วบอกแม่ครัวว่าฉันอนุญาต”
ซูโย่วอี๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันว่าจะทำอาหารเองในอนาคตค่ะ ให้คนไปส่งวัตถุดิบที่ห้องสระน้ำทิศเหนือได้ไหม แค่ไข่กับแตงกวาก็ได้”
“ทำทุกวัน?”
หลังจากได้รับคำตอบยืนยันของซูโย่วอี๋ เห็นได้ชัดว่าทีมงานไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด
คนที่เข้าร่วมรายการวาไรตี้ต่างเร่งรีบที่จะเดบิวต์ การหาเวลาทำอาหารเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งลำบากแถมใช้เวลานานมาก ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย
แต่ทีมงานก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และสัญญาว่าจะไปส่งวัตถุดิบให้เธอที่หอพักทุกวัน พวกเขาได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้เข้าแข่งขัน ตราบเท่าที่ไม่มีการบาดเจ็บล้มตายและอุบัติเหตุร้ายแรง
หลังจากที่ซูโย่วอี๋กล่าวขอบคุณ เธอไปที่ห้องครัวเพื่อหยิบผักและเนื้อสัตว์ แล้วถือถุงพลาสติกผ่านผู้คนที่กำลังรับประทานอาหารออกไป ด้านเฉินซีซีที่มีข้าวอยู่ในปาก เมื่อเห็นว่าเธอกำลังออกไป เธอรีบตะโกนว่า “พี่สาว ไม่กินข้าวเหรอ”
ก่อนที่ซูโย่วอี๋จะตอบ ฉูรั่วฮวนก็เย้ยหยันว่า “ทำไม กระต่ายขาวตัวน้อย พี่สาวของเธอไม่ได้บอกเหรอว่าเธอต้องการเปิดครัวเล็ก ๆ”
“ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนโง่เขลาที่ไม่มีใครสนใจนะ”
เฉินซีซีย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจ “คุณกำลังพูดถึงอะไรกัน?”
ผู้หญิงหลายคนที่นั่งกับฉูรั่วฮวนก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจเช่นกัน “ใช่ ไม่ว่าใครก็ต้องกินข้าวในโรงอาหาร แล้วเธอจะพิเศษกว่าคนอื่นได้ยังไง”
“ดูจากน้ำหนัก เธอคงจะกินแต่อาหารขยะสินะ ตอนนี้ทำมาดัดจริตกินแทบนับเมล็ด”
“ใครจะรู้ว่าจริงหรือไม่จริง”
ซูโย่วอี๋รู้สึกเบื่อ ทำไมฉูรั่วฮวนถึงจิกกัดเธอขนาดนี้ ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นของรายการ เธอก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับการลิปซิงก์และตอนนี้ยังเป็นผู้นำในการเยาะเย้ยเธออีก
“ฉันแค่กำลังพยายามลดน้ำหนัก ฉันพูดในการสัมภาษณ์ไปแล้วว่าฉันเดิมพันจะลดน้ำหนักให้เหลือห้าสิบกิโลกรัม เธอจำไม่ได้หรือไง?”
ใครจะรู้ แทนที่จะทำให้สถานการณ์สงบ แต่กลับทำให้ฉูรั่วฮวน โกรธยิ่งขึ้น “เดิมพัน? เธอเข้าร่วมโปรแกรมด้วยการเดิมพัน เธอรู้ไหมว่าเขาเรียกพฤติกรรมนี้ว่าอะไร อวดดีไงล่ะ สิ้นเปลืองทรัพยากร และแย่งโอกาสของคนอื่นที่แข่งขันกันอย่างยุติธรรม พูดง่าย ๆ ก็คือ เธอมันแมลงดูดเลือด”
“เธอมีคุณสมบัติพอที่จะยืนอยู่ที่นี่จริงเหรอ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูโย่วอี๋สังเกตเห็นบางอย่าง “นี่ฉันไปทำให้พี่สาวของเธอตกรอบหรือยังไง?”
ฉูรั่วฮวนหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ
ในตอนแรกเธอเข้าร่วมการสัมภาษณ์พร้อมกับพี่สาวฝาแฝดของเธอซึ่งเพิ่งอยู่ในอันดับที่ 50 แต่เนื่องจากซูโย่วอี๋จู่ ๆ ก็โผล่มา พี่สาวของเธอจึงพลาดโอกาสในการถ่ายวาไรตี้
ซูโย่วอี๋ไม่รู้สึกเสียใจเลย “ฉันขอโทษนะคุณฉู แต่เธอคิดว่าฉันไม่มีความสามารถเหรอ?”
หลายคนในฝั่งตรงข้ามพูดอะไรไม่ออก ท้ายที่สุดแล้ว ทักษะในการร้องเพลงของซูโย่วอี๋ก็เป็นของจริง แม้ว่าเธอการจัดอันดับตามความสามารถของพวกเธอจะสูง แต่ความสามารถของซูโย่วอี๋ก็ไม่ได้ด้อยไว้กว่าพวกเธอเลย
“ในเมื่อพวกคุณคิดว่าฉันมีความสามารถพอ แค่ผ่านรอบการสัมภาษณ์มา ทำไมคุณถึงไม่ยอมรับมันอีก”
ฉูรั่วฮวนมองไปที่ซูโย่วอี๋อย่างขบขัน “ไม่จำเป็นต้องหยิ่งผยองขนาดนั้น อย่าลืมสิว่าเธอเป็นเพียงเกรด B ส่วนฉันคือเกรด A”
[เกิดอะไรขึ้น? ทำไมบรรยากาศดูตึงเครียดอย่างนั้น]
[มันไกลเกินไป ได้ยินไม่ชัดเลย]
[หมายเลข 15 และหมายเลข 23 ทะเลาะกันตั้งแต่อยู่บนเวทีแสดงความสามารถแล้ว พวกเขาสองคนต้องมีเรื่องบาดหมางกันแน่]
[ฉูรั่วฮวนขอโทษเธอแล้วไม่ใช่เหรอ?]
[ขอโทษแบบที่จะฆ่าคุณหากคุณไม่ยกโทษให้น่ะเหรอ?]
ซูโย่วอี๋อารมณ์ไม่ดีเมื่อเธอถูกหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผล