“ง่าย? เจ้ากำลังบอกว่าโอสถฤทัยปราณสวรรค์ง่าย? ฮะ-ฮ่า! ช่างขี้โม้ได้อย่างไร้ยางอายนัก!”
หนิงซื่ออวี๋ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นางไม่ทราบจริงๆว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน?
โอสถฤทัยปราณสวรรค์เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามขั้นกลาง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะหลอมกลั่นได้
ซึ่งพรสวรรค์ของหนิงซื่ออวี๋เองก็สูงมาก ไม่ควรมองว่านางเป็นหญิงสาวเอาแต่ใจ แท้ที่จริงนางเป็นถึงจอมเทพโอสถสามดาวชั้นกลาง!
โอสถฤทัยปราณสวรรค์ เป็นโอสถภที่นางหลอมกลั่นล้มเหลวมาโดยตลอด
ความยากในการหลอมกลั่นของมันซับซ้อนเกินบรรยาย แม้จะเป็นอาจารย์ของหนิงซื่ออวี๋ลงมือเอง แต่เขาก็ยังหลอมกลั่นได้เพียงขั้นสูงเท่านั้น
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ อาจารย์ของนางเป็นถึงจอมเทพโอสถสี่ดาว!
แล้วเด็กอวดดีคนนี้ยังกล้าหยิ่งผยองต่อหน้านางอีก
เย่หยวนเหลือบมองหนิงซื่ออวี๋เล็กน้อยพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“โอสถฤทัยปราณสวรรค์มีค่าหลอมกลั่นอยู่ที่สองล้านผลึกปราณเทวะ! เจ้ามีปัญญาจ่ายหรือไม่?”
หนิงซื่ออวี๋โพล่งสวนกลับไปทันทีด้วยความโกรธจัด
“อย่ามาดูถูกกันเช่นนี้! แค่ผลึกปราณเทวะสองล้านก้อนเองมิใช่รึ? ไอ้เด็กเหลือขอ คิดว่าข้าไม่มีพอหรืออย่างไร!?”
เย่หยวนหัวรำลางกล่าวตอบว่า
“เช่นนั้น รอสักครู่”
เมื่อกล่าวจบเย่หยวนก็หมุนตัวเดินกลับไปพร้อมเข้าห้องหลอมกลั่นทันที
แม้ตอนนี้ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยามแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสักคนจากไปไหนทั้งสิ้น ในทางตรงข้ามฝูงชนยามนี้มีแต่จะเพิ่มทวีกันมากขึ้นเรื่อยๆ
“รับจ้างสารพัด” กลยุทธ์นี้ค่อนข้างได้ผลดี
ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นยิ่งว่า นักหลอมโอสถหนุ่มผู้ขี้โม้คนนี้จะมีฝีมือจริงๆหรือแค่พูดจาส่งเดช
แต่ทุกคนโดยส่วนใหญ่ล้วนมองเย่หยวนในแง่ที่ไม่ดีนัก แม้เขาจะเป็นจอมเทพโอสถสามดาว แต่ก็ไม่มีทางมีฝีมือเลิศล้ำปานนั้นแน่นอน
เนื่องจากยั่วโมโหหนิงซื่ออวี๋เต็มๆ สูตรโอสถที่นางหยิบออกมาท้าทายหาใช่โอสถธรรมดาทั่วไปแน่นอน
นักหลอมโอสถทั่วไปย่อมไม่มีทางหลอมกลั่นมันออกมาได้แน่
แต่ทันใดนั้นเองเย่หยวนก็ค่อยๆย่างเท้าก้าวออกมาจากห้องหลอมกลั่น
เมื่อเห็นเย่หยวนออกมาไวขนาดนี้ ทั่วใบหน้าของหนิงซื่ออวี๋ก็เผยรอยยิ้มแสนพึงพอใจยิ่ง
“ไอ้เด็กเหลือขอหลอมกลั่นล้มเหลวกระมัง? เจ้า…ทำสมุนไพรวิญญาณของข้าเสียหายทั้งหมดหรือไม่? เหอะ โอสถฤทัยปราณสวรรค์หาใช่โอสถทั่วไปที่ใครก็ได้จะหลอมกลั่น แล้วเด็กน้อยอย่างเจ้าจะไปทำสำเร็จได้อย่างไร?”
หนิงซื่ออวี๋ยามนี้ลดเสียงค่อยลงพร้อมเอ่ยกล่าวอย่างใจเย็น
โอสถฤทัยปราณสวรรค์ชนิดนี้ แม้แต่ท่านอาจารย์ของเขายังต้องใช้เวลาหลอมกลั่นกว่าครึ่งวันเช่นกัน
ดังนั้นแล้วเย่หยวนจะไปหลอมกลั่นสำเร็จภายในหนึ่งชั่วยามได้อย่างไร?
หนิงซื่ออวี๋ไม่คิดว่านี่จะเป็นไปได้เลย!
“เด็กคนนี้มันแค่พวกขี้โม้! รับจ้างสารพัดงั้นรึ? น่าขันสิ้นดี!”
“มันก็อยู่แล้วมิใช่รึ? ไม่รู้กลุ่มล่ามังกรไปเอาเด็กคนนี้มาจากไหน มันก็แค่ไอ้ปัญญาอ่อนมิใช่รึ?”
“โอสถฤทัยปราณสวรรค์ข้าเคยได้ยินอยู่บ้าง เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะหลอมกลั่น แล้วมีหรือที่เด็กน้อยยังไม่โตนี่จะหลอมกลั่นได้สำเร็จ?”
“มาเถอะ! ไปทุบป้ายร้านมันกัน! นี่หาใช่เรื่องสนุกสำหรับพวกเรารึ?”
…
หนิงซื่ออวี๋ได้ฟังผู้คนรอบข้างดังนั้น พลันยิ้มกล่าวว่า
“ตอนนี้เจ้าคงไม่มีอะไรคัดค้านแล้วกระมัง? ข้าจะออกไปทุบป้ายเดี๋ยวนี้แหละ! อ่อใช่ เจ้าต้องชดใช้ค่าสมุนไพรวิญญาณที่ทำไหม้ไปด้วย ทั้งหมดห้าแสนผลึกปราณเทวะ!”
ขณะที่นางกล่าว หนิงซื่ออวี๋ก็กำลังจะพุ่งออกไปทุบป้าย
ร่างของหนิงซื่ออวี๋เพิ่งทะยานออกไปได้ไม่นาน กลับมือเย่หยวนกระชากคอเสื้อลงมาอีกครั้ง นางล้มก้นจำเบ้าด้วยความโกรธจัดตวาดลั่นว่า
“ไอ้เด็กเหลือขอ หาเรื่องตายรึ?”
แต่เย่หยวนกลับไม่สนใจนางแม้สักนิด พร้อมยื่นมือออกมากล่าวว่า
“เอามา”
หนิงซื่ออวี๋แข็งค้างไปชั่วขณะ
“เอาอะไร?”
เย่หยวนกล่าวตอบว่า
“ศิลาปราณเทวะสองล้านก้อน!”
หนิงซื่ออวี๋ลุกขึ้นพรวดด้วยความโกรธจัดเป็นฟืนเป็นไฟพร้อมร้องลั่นว่า
“เจ้าหลอมกลั่นโอสถไม่สำเร็จ ทั้งยังทำสมุนไพรวิญญาณของข้าเสียหาย ตอนนี้ยังกล้าเรียกร้องค่าหลอมกลั่นอีกงั้นรึ?! เจ้า…เจ้าคงมิใช่พวกต้มตุ๋นจริงๆใช่ไหม?”
เย่หยวนกล่าวตอบว่า
“ใครบอกว่าข้าหลอมกลั่นไม่สำเร็จ?”
หนิงซื่ออวี๋หัวเราะเยาะดังลั่น
“พล่ามขยะออกมารึไง! แค่หนึ่งชั่วยามหรือจะหลอมกลั่นโอสถฤทัยปราณสวรรค์ได้? แค่จุดเต๋ายังไม่เสร็จเลยกระมัง?”
เย่หยวนหยิบกล่องหยกขึ้นมา เมื่อเปิดออกพลันปรากฏกลิ่นโอสถหอม ผู้ใดสูดดมต่างชื่นจิตชื่นใจยิ่ง
รอยยิ้มของหนิงซื่ออวี๋แข็งค้างในทันที นางจ้องโอสถเม็ดสีแดงทับทิมเขม็งด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นี่…นี่…นี่เป็นไปไม่ได้! ขั้นเทวะ…โอสถฤทัยปราณสวรรค์ขั้นเทวะ!! เจ้า…เจ้าไปเอามาจากไหน?”
หนิงซื่ออวี๋ยามนี้ยิ่งกว่ากระต่ายน้อยตื่นตูมจนหลงทิศ
กระทั่งท่านอาจารย์ของนางยังไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถฤทัยปราณสวรรค์ขั้นสวรรค์ได้เลย แล้วจะนับประสาอะไรกับขั้นเทวะ
แต่เด็กคนนี้สามารถหลอมกลั่นขั้นเทวะออกมาได้จริงๆ!
“นี่…นี่มันโอสถขั้นเทวะ!”
“ตาข้ามิได้ฟาดไปใช่ไหม? จอมเทพโอสถสามดาวหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามได้ขั้นเทวะ?”
“โอสถฤทัยปราณสวรรค์หาใช่โอสถธรรมดาทั่วไป! เขาสามารถกหลอมกลั่นได้ขั้นเทวะจริงๆ! นี่…นี่เขากำลังหลอกเรารึเปล่า?”
…
เหล่าฝูงชนโดยรอยต่างตื่นตกใจยิ่ง โอสถขั้นเทวะหาได้ยากมากและหาใช่สิ่งที่พวกเขาจะมีกำลังทรัพย์จ่ายได้ไหว
แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มกลับสามารถหยิบโอสถขั้นเทวะออกมาได้จริงๆ!
หนิงซื่ออวี๋กำลังจะออกมือออกไปหยิบราวกับต้องการจะกินมัน ทว่าเย่หยวนกลับชักมือกลับโดยไวทำให้นางคว้าอากาศไป
“อยากกได้ก็จงจ่ายเงินมา!”
เย่หยวนกล่าวเสียงเย็นดุใส่
หนิงซื่ออวี๋เม้มปากนุ่มนิ่มของนางเล็กน้อย ก่อนโยนแหวนบรรจุผลึกปราณเทวะไปให้และคว้ากล่องหยกมาไว้กับตัวทันที
“รับไป! เจ้านี่มันหน้าาเงินชะมัด! หึ!”
เมื่อพินิจสังเกตใกล้ๆ นี่คือโอสถขั้นเทวะของจริงเสียงจริง!
โอสถเม็ดนี้ยังอุ่นอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งออกจากหม้อหลอมกลั่นจริงๆ
นี่…โอสถเม็ดนี้ถูกไอ้เด็กเหลือขอนั้นหลอมกลั่นจริงๆงั้นรึ?
คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่จิตใจอย่างรุนแรง ความยากในการหลอมกลั่นโอสถชนิดนี้นางชัดแจ้งดีเกินไป!
นางพยายามหลอมกลั่นโอสถชนิดนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน!
แต่เด็กน้อยคนนี้กลับทำได้ในหนึ่งชั่วยาม!
นี่…ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย!
“ข้าไม่เชื่อ! เจ้า…เจ้าต้องโกงแน่นอน!”
หนิงซื่ออวี๋กล่าวขึ้น
ฮ้วนน้อยเร่งตรงเข้ามาหาด้วยความร้อนใจ ความเอาแต่ใจของหนิงซื่ออวี๋ที่ไร้ขอบเขตนี้ กระทั่งนางยังรู้สึกเพลียใจ
“นายน้อย…”
“หุบปาก!”
หนิงซื่ออวี๋ตะโกนใส่หน้าฮ้วนน้อย ก่อนจะหันควันคำรามใส่เย่หยวนอีกคำโต
“ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้าต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่า เจ้าจะสามารถหลอมกลั่นโอสถฤทัยปราณสวรรค์ขั้นเทวะได้จริงๆ!”
เย่หยวนยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแสและกล่าวว่า
“จะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้า แต่ตอนนี้ธุรกรรมระหว่างเราเป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว”
โกรธ!
โกรธมาก!
ไอ้เด็กเหลือขอนี่มันไม่อวดดีเกินไปหน่อยรึ?
“ไอ้เด็กเหลือขอ ข้าอยากจะให้เจ้าหลอมกลั่นโอสถอีกชนิดหนึ่ง! หากหลอมกลั่นได้ข้าจะเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถจริงๆ แต่หากไม่…ข้าจะทำลายป้ายนั้นทิ้งไปซะ!”
หนิงซื่ออวี๋กล่าว
เย่หยวนรู้สึกขบขันไม่น้อยภายในใจพลางกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า
“ตราบใดที่มีงานมาให้ทำ ข้าย่อมไม่ปฏิเสธ”
รอยยิ้มสีเย็นฉีกกว้างบนมุมปากของหนิงซื่ออวี๋ทันที
“นี่คือสูตรโอสถประตูศิลาวายุ และนี่คือสมุนไพรวิญญาณที่จำเป็นทั้งหมด หากเจ้าหลอมกลั่นได้ ข้าจะไสหัวไปทันที!”
“ฟู่ว…โอสถประตูศิลาวายุ! เด็กคนนี้มีภูมิหลังอย่างไรกันแน่? ไฉนถึงมีสูตรโอสถวิเศษเช่นนี้ด้วย!”
“โอสถประตูศิลาวายุกล่าวขานกันว่า เป็นโอสถที่ช่วยให้เซียนทำความเข้าใจต่อแนวคิดแห่งวายุได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นหลายทวีเท่า โอสถเม็ดนี้ไม่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด!”
“โอสถชนิดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความยากในการหลอมกลั่นยิ่ง ฟังว่าแม้แต่จอมเทพโอสถสี่ดาวยังเหงื่อตกเช่นกันหากหลอมกลั่น”
“เจ้าหนุ่มคนนี้…กำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว!”
…
เย่หยวนรับสูตรโอสถและเปิดดูทันที รอยยิ้มคลี่กระตุกเป็นนัยแฝงบนมุมปาก เขากล่าวว่า
“น่าสนใจไม่น้อย!”
หนิงซื่ออวี๋ยิ้มเยาะกล่าวขึ้นว่า
“เจ้ากล้ารับงานนี้ไหม?”
เย่หยวนกล่าวตอบทันที
“ทำไมจะไม่กล้า! แต่ค่าหลอมกลั่นโอสถนี้มิได้ถูก!”
หนิงซื่ออวี๋เอ่ยตอบเสียงเยียบเย็นว่า
“หากเจ้าสามารถหลอมกลั่นได้ ค่าตอบแทนย่อมไม่ถูก!”
เย่หยวนพยักหน้าตอบว่า
“ถูกต้องแล้ว ผลึกปราณเทวะแปดล้านก้อน!”
…………………………………