เมื่อพลังวิญญาณสูญสลายหายไป ร่างกายของหวางเชียนก็แข็งแกร่งขึ้นอีกระดับแล้ว
แม้เขายังไม่ได้สติ แต่ทุกคนต่างทราบดีว่าอีกฝ่ายพ้นขีดอันตรายไปแล้ว
“นี่เขา…เขาเลื่อนระดับชั้นได้ทั้งๆที่หมดสติ? ไฉนเรื่องดีๆเช่นนี้ไม่เกิดขึ้นกับข้าบ้าง?”
“เจ้าทึ่ม! ทั้งหมดต้องขอบคุณโอสถวิเศษของท่านปรมาจารย์เย่! โอสถชำระไขกระดูกสวรรค์ทำให้เด็กนั้นละทิ้งตัวตนและร่างกายเก่า ยามนี้เสมือนเกิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง!”
“ช่างเป็นโอสถที่ท้าทายสวรรค์โดยแท้! ไม่เพียงรักษาพิษน่ากลัวนั้นได้ แต่ยังช่วยให้เขาเลื่อนระดับชั้นได้โดยตรง! แค่ผลึกปราณเทวะห้าสิบล้านก้อนนับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!”
…
ในเวลานั้นเองหวางเชียนก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
“ลุงสอง? ข้า…ข้าเป็นอะไรไปรึ?”
หวางเชียนเอ่ยถามพร้อมท่าทางมึนงง
หวางห่าวหลานคลี่ยิ้มกว้างกล่าวตอบว่า
“เชียนเอ๋อ เจ้ารีบตรวจสอบร่างกายของเจ้าก่อนเสียว่ายังมีอันใดผิดปกติหรือไม่?”
หวางเชียนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร แต่ก็ยังปฏิบัติตามที่เอ่ยกล่าวไป ก่อนขมวดคิ้วแน่น
“นี่…นี่ไม่ถูกต้อง!”
สีหน้าการแสดงออกของหวางห่าวหลานเปลี่ยนไปทันที พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ฟังหวางเชียนกล่าวเช่นนั้น คนที่เหลือโดยรอบต่างเริ่มครุ่นกังวลเช่นกัน
“ข้า…ข้ารู้สึกราวกับเกิดใหม่อีกครั้ง! ทั้งความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณยังเร็วกว่าแต่ก่อนโดยสิ้นเชิง! ไม่สิ…ราวกับข้าได้รับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะพลังที่สูงขึ้น! นี่เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่ท่านลุงสอง?”
จู่หวางเชียนพลันเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“…”
ทุกคนต่างพูดไม่ออก อย่างนี้หรือเรียกว่าไม่ถูกต้อง?
ผัวะ!
หวางห่าวหลานเขกกระบาลหวางเชียนไปทีหนึ่ง ก่อนจะคำรามดุขึ้นว่า
“เจ้าบ้านี่! ทำให้ข้าตกใจแทบหน้าเสีย! ข้าขอให้เจ้าตรวจสอบร่างกายว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ พรสวรรค์การบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้น บ้านเจ้าหรือเรียกว่าผิดปกติ?!”
แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหวางเชียนจะไล่ตามหวางห่าวหลานเกือบทันแล้ว แต่ต่อหน้าหวางห่าวหลาน อีกฝ่ายยังคงเป็นหลานที่เขายังต้องดูแลอยู่เสมอ
หวางเชียนยิ้มแห้งกล่าวว่า
“ก็มันผิดปกติจริงๆ! ไฉนพรสวรรค์ของข้าถึงทะยานขึ้นกลายเป็นแพรพรรณลายคราม(แพรพรรณลายครามนับเป็นของมีค่าอย่างหาประเมินไม่)เช่นนี้?”
หวางห่าวหลานรู้สึกมึนงงอยู่พักใหญ่ สิ่งที่หวางเชียนกล่าวไปก็มีเหตุผลเช่นกัน
ทั้งๆที่เพิ่งฟื้นตัวขึ้นจากอาการป่วย ไฉนพรสวรรค์การบ่มเพาะพลังของหลานชายถึงเพิ่มทวีขึ้นอย่างไร้สาเหตุ?
หวางห่าวหลานเหลือเชื่อจนแทบไม่อยากเชื่อสายตา เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า โอสถชำระไขกระดูกสวรรค์เพียงเม็ดเดียวจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากมายปานนี้!
นี่ราวกับว่าหลานชายของเขาเกิดใหม่ชัดๆ!
โอสถเม็ดนี้ไม่เพียงสามารถล้างพิษออกไปได้ แต่ยังช่วยปรับปรุงพรสวรรค์ให้สูงขึ้นอีกด้วย
ราคาแค่ห้าสิบล้านผลึกปราณเทวะนับว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
เว้นเสียแต่…ผลลัพธ์เช่นนี้ ทางด้านปรมาจารย์อู๋เฟินคงไม่ปลื้มแน่นอน
หวางห่าวหลานเองก็รู้สึกขมขื่นใจมิใช่น้อยพลางคิดถึงเรื่องนี้ แต่สุดท้ายไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี
เหล่าฝูงชนที่เฝ้ามองอยู่โดยรอบต่างจับจ้องภาพฉากนี้ด้วยความอิจฉายิ่ง ชายหนุ่มคนนี้จะต้องโชคดีปานใดถึงได้พบกับปรมาจารย์เย่ นี่คือโชคลาภที่เหล่าบรรพชนเก็บสั่งสมไว้หลายชั่วอายุคนอย่างแท้จริง
สำหรับติงซ่งและคนอื่นๆที่มาหาเรื่อง ยามนี้ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียดถึงขีดสุด
เย่หยวนปฏิบัติต่อหวางเชียนเช่นนี้ เท่ากับประกาศกับสาธารณชนว่า ปัญหาที่ทุกฝักฝ่ายนำพาในวันนี้ประสบความล้มเหลว!
ในที่สุด พวกเขาก็ประจักษ์ชัดถึงความแข็งแกร่งของเย่หยวน ชายหนุ่มผู้นี้คือสัตว์ประหลาดผู้กวาดล้างเขตเมืองทางตอนใต้ทั้งหมด ด้วยฝ่ามือของเขาเพียงลำพัง
พวกเขามาที่นี่เพื่อหาเรื่องสร้างปัญหาให้มิใช่รึ? แล้วไฉนเป็นเช่นนี้ไปได้?
กลับกลายเป็นว่าพวกเขาสร้างชื่อเสียงให้แก่ร้านขายโอสถสารพัดรับจ้างเสียแทน!
ทุกคนล้วนคาดเดาได้ทันทีว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ช่าวของเย่หยวนที่เข้าปราบปรามกลุ่มอิทธิพลทั้งห้าอย่างอยู่หมัดจะแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเขตเมืองทางตอนใต้ หรือแม้แต่เขตเมืองชั้นนอกทั้งหมด!
ร้านขายโอสถสารพัดรับจ้างจะกลายมาเป็นร้านค้าโอสถที่ร้อนแรงที่สุดแห่งเมืองทางตอนใต้!
“เจ้าเด็กคนนี้ ไฉนเจ้ายังไม่รีบขอบคุณท่านปรมาจารย์เย่อีก! หากมิใช่เพราะเขาอย่าว่าแต่พรสวรรค์ของเจ้าเลย แม้แต่ชีวีติยังเอาไม่รอด! เจ้าถูกพิษโบราณกัดกร่อนร่างกายจนเน่า ต่อให้เป็นจอมเทพโอสถสี่ดาวยังไม่มีปัญญารักษาเจ้าได้! แต่ท่านปรมาจารย์เย่กลับสามารถทำได้!”
แม้ว่าหวางห่าวหลานจะกล่าวดุหวางเชียน แต่ความสุขบนใบหน้าของเขากลับมิอาจปกปิดได้เลย
!!!
เมื่อคำกล่าวนี้ของหวางห่าวหลานออกจากปากดังออกมา ทุกคนต่างตกสู่ความโกลาหลในทันใด!
“แม้แต่ท่านปรมาจารย์อู๋เฟิงที่เชิญจอมเทพโดอสถสี่ดาวมารักษา ยังไม่สามารถทำอะไรได้!”
“ไม่คิดเลยว่า โรคภัยที่แม้แต่จอมเทพโอสถสี่ดาวรักษาไม่ได้ แต่ท่านปรมาจารย์เย่กลับสามารถรักษาได้จริงๆ!”
“ยิ่งไปกว่านั้นหวางเชียนที่ประสบเคราะห์ร้าย ไม่เพียงรักษาหายกลับมาเป็นปกติ แต่พรสวรรค์ในการบ่มเพาะพลังยังเพิ่มสูงขึ้นอีก! น่ามันอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”
“ข้า…ข้ารู้สึกว่า…ราคาเพียงห้าสิบล้านก้อนกลับถูกเกินไป! ท่านปรมาจารย์เย่ที่คิดราคาแค่นี้นับว่าใจกว้างไพศาลยิ่งแล้ว!”
…
ก่อเกิดความวุ่นวายขึ้นกลางหน้าร้านขายโอสถรับจ้างสารพัดทันที เนื่องจากพวกเขาเพิ่งรู้ว่าหวางเชียนเคยได้รับการรักษาจากจอมเทพโอสถสี่ดาวมาก่อนแล้ว
นั้นเป็ถึงจอมเทพโอสถสี่ดาว!
เฉกเช่นเดียวกับอาณาจักรพลังของนักสู้ ความแตกต่างระหว่างจอมเทพโอสถสี่ดาวและจอมเทพโอสถสามดาวกลับยิ่งใหญ่เกินทดแทน เสมือนกับการเปรียบเทียบระหว่างเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า และยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม เย่หยวนกลับสามารถทำภารกิจที่จอมเทพโอสถสี่ดาวทำล้มเหลวให้สำเร็จได้อย่างสวยงาม!
สิ่งนี้จะไม่ทำให้พวกเขาประหลาดใจได้อย่างไร?
สายตาที่จับจ้องของหนิงซื่ออวี๋ไม่เคยละออกจากเย่หยวนเลย ตั้งแต่ต้นจวบจนบัดนี้
คนอื่นย่อมไม่ทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว พิษกร่อนไขกระดูกม่วงมันน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน แต่นางกลับทราบดี!
พิษชนิดนี้ไม่มีใครสามารถรักษาได้ตั้งแต่โบราณกาลแล้ว!
แต่เย่หยวนกลับรักษาได้!
ชายคนนี้ประสบความสำเร็จในเส้นทางแห่งโอสถสูงส่งปานใดแล้วกันแน่?
“เอ๋? ท่านปรมาจารย์เย่?”
หวางเชียนหันมองเย่หยวนด้วยความประหลาดใจ ปรากฏว่าเป็นเด็กหนุ่มคนนี้ที่ช่วยรักษาเขา
โดยปกติทั่วไปแล้ว เขาไม่เคยกังขาสงสัยใดๆในคำกล่าวของลุงสอง ดังนั้นจึงเร่งก้มหัวลงทันทีพร้อมกล่าวว่า
“หวางเชียนขอบพระคุณท่านปรมาจารย์เย่ที่ช่วยชีวิต!”
แปะ!
แปะ!
แปะ!
ทันใดนั้นเอง เสียงปรบมือดังชัดกึกก้องพลันลั่นสนั่นออกมา ทันทีทันใดแรงกดดันอันทรงพลังขุมใหญ่เขาปกคลุมทั่วทั้งบริเวณร้านขายโอสถสารพัดรับจ้างทันที ราวกับต้องการบดขยี้ทุกคนจนแทบหายใจหายคอไม่ออก
“ขุมพลังอาณาจักรราชันพระเจ้า!”
ใครบางคนร้องอุทานขึ้น
รัศมีแรงกดดันที่แกร่งกร้าวปานนี้มีเฉพาะยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าเท่านั้นที่ทำได้!
เสี่ยวยื่อเยว่เดินแหวกกลางฝูงชนตรงเข้ามาอย่างแช่มช้า
รัศมีแรงกดดันนี้ราวกับสามารถสยบทุกสรรพสิ่งใต้สวรรค์ได้ในอึดใจ!
“ส-เสี่ยวยื่อเยว่! เจ้า…เจ้าทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วงั้นรึ?!”
เมื่อหัวหน้าห้าเห็นร่างอันแสนคุ้นเคยนั้น ใบหน้าของเขาพลันซีดขาวลงทันทีราวกับแผ่นกระดาษ จับจ้องอีกฝ่ายค้างแข็งด้วยความไม่เชื่อ
ก่อนหน้านี้เล่ากล่าวกันตลอดมาว่า เสี่ยวยื่อเยว่ปลีกวิเวกเก็บตัวอย่างสงบเพื่อทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้า แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อว่า เขาจะสามารถเลื่อนระดับชั้นขึ้นกลายเป็นยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าได้จริงๆ
ซึ่งตอนนี้เขาก็ทำได้แล้วอย่างไม่น่าเชื่อ!
นี่นับเป็นข่าวร้ายยิ่งสำหรับกลุ่มอัสนีคำรน!
“หึ!”
เสี่ยวยื่อเยว่ก่นเสียงเย็นเค้นดังออกมาเล็กน้อย ก่อนส่งร่างของหัวหน้าห้าซัดกระเด็นออกไปโดยตรง
“กล่าวเรียกข้าผู้นี้ด้วยชื่อห้วนๆงั้นรึ?”
เสี่ยวยื่อเยว่กล่าวน้ำเสียงชืดชาพร้อมท่าทีสุดดหยิ่งผยองยิ่ง
การโจมตีครั้งนี้ของเสี่ยวยื่อเยว่รุนแรงกว่าตอนหลัวอวี้มาก เพียงหนึ่งกระบวนทำเอาหัวหน้าห้าบาดเจ็บสาหัสได้ในทันที
เขาหันไปมองเย่หยวนพร้อมยิ้มกล่าวว่า
“ท่านปรมาจารย์เย่ช่างน่าประทับใจจริงๆ พิษที่แม้แต่จอมเทพโอสถสี่ดาวก็ยังรักษาไม่ได้ แต่ท่านกลับสามารถทำได้จริงๆ!”
เย่หยวนขมวดคิ้วและกล่าวว่า
“เจ้าทำคนของข้าได้รับบาดเจ็บทั้งยังต่อหน้าข้า ไม่หน้าด้านเกินไปหน่อยรึ?”
เสี่ยวยื่ออเยว่พลันสะดุ้งตกใจเช่นกัน ก่อนจะหัวเราะพลางกล่าวขึ้นว่า
“ฮ่าๆ แค่มดปลวกคตัวเดียวกลับเป็นเรื่องใหญ่อันใด?”
จากน้ำเสียงของเสี่ยวยื่อเยว่ ทำให้เย่ยวนสรุปได้ทันทีว่าจุดประสงค์การมาครั้งนี้ของอีกฝ่ายคืออะไร?
ชายคนนี้มาเพื่ออาละวาดโดยแท้
หรือคิดว่าตนเองไร้เทียมทานเพียงเพราะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้? แค่นั้น?
“เจ้าเพิ่งกลายร่างมาจากมดปลวกเช่นกัน แต่กลับกล้าอวดดีเพื่ออันใด? อาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วอย่างไร? ก็แค่มดปลวกที่ตัวใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย!”
เย่หยวนยกสองมือไขว้หลังยืนตระหง่านกล่าวโต้สวนออกไป
…………………………………