‘ปัง!’
ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นไม่คิดลังเลแม้แต่น้อย เขาใช้เงาผีอนันต์ออกมาฟาดฟันดาบลงในทันที
หนึ่งดาบนี้มันกลับฟาดฟันร่างของจ่าวมินจนปลิวลอยไป
‘อั้ก!’
จ่าวมินที่ถูกดาบนี้เข้าไปต้องรับบาดเจ็บอย่างสาหัส ได้แต่ไอกระอักเลือดออกมา
เงาผีอนันต์ของผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นมันรุนแรงจนแม้แต่เฉียวหยวนและอายเมิงร่วมมือกันยังรับไว้ไม่ได้ แล้วมีหรือที่จ่าวมินคนเดียวนี้จะสามารถรับมันไว้ได้?
“ฮ่าๆ! จ่าวมินเจ้าสมองเพี้ยนไปแล้วหรือ? ไม่มองดูสถานการณ์ตรงหน้าแต่เจ้ากลับกล้าคิดท้าทายเย่หยวน?” เมื่อเฉียวหยวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นขึ้นมา
พวกเขาทั้งสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจนี้ยังไม่กล้าที่จะร่วมมือกันจัดการผีเทพสวรรค์ขวังต้าวลง
ตอนนี้จ่าวมินที่ตัวคนเดียวไม่มีใครคอยช่วยเหลือกลับคิดใช้ชื่อยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างมาข่มขู่เย่หยวน เขาคิดจริงๆ หรือว่าเย่หยวนจะเป็นคนหัวอ่อนยอมใครง่ายๆ เช่นนั้น?
เมื่อเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตกใจราวกับว่าหัวใจจะเต้นหลุดออกจากปาก
นี่คือยอดฝีมือเทพสวรรค์ แต่เย่หยวนกลับสามารถซัดร่างของเขาจนลอยปลิวได้ด้วยดาบเดียว
และที่มันจบแค่นี้ก็เป็นเพียงแค่เพราะมิติมันไม่เสถียรพอ ไม่เช่นนั้นเย่หยวนคงได้ฆ่าสังหารผู้คนไปแล้ว
แต่แค่การโจมตีนี้มันก็ได้สร้างความบาดเจ็บให้แก่จ่าวมินอย่างสาหัส
จ่าวมินนั้นพยายามลุกคลานขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดำมืดเป็นก้นหม้อ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บหรือเพราะความอับอายที่เขาได้รับ
“ใครที่มาที่นี่ต่างคิดหมายจะครอบครองสมบัติแต่เจ้ากลับเอาชื่อยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างมาข่มขู่ข้า? ข้าว่าเจ้าคงลืมสมองไว้ที่บ้านเสียแล้วกระมัง?” เย่หยวนเย้ย
“จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี!” จ่าวมินได้แต่กัดฟันพูดไป
ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ผู้ที่กุมอำนาจเหนือล้นนั้นมิใช่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเป็นแต่เย่หยวน นักยุทธ์นภาสวรรค์สามดาวคนนี้!
เรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นมีพลังเหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์คนอื่นๆ อย่างมาก
และผีเทพสวรรค์ขวังต้าวคนนี้ก็รับคำสั่งของเย่หยวนอย่างไม่คิดบิดพลิ้ว!
จ่าวมิน หนึ่งในยอดฝีมือจากยอดค่ายสำนักนี้แสดงท่าทางโอหังเช่นนั้นออกมาเพราะมันเป็นท่าทางที่เขาแสดงออกมาอยู่ทุกวัน
เพราะเรื่องที่เย่หยวนมีกับจีคังและฉูชิง เขาเองก็ได้เห็นและคิดว่ามันคือการลบหลู่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างไม่น้อย ทำให้สุดท้ายเขาพูดกล่าวคำข่มขู่เหล่านั้นออกมา
เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่คาดฝันว่าเย่หยวนจะลงมือคิดสังหารออกมาในทันทีที่เกิดการถกเถียงขึ้น
คำพูดและการกระทำของเย่หยวนนี้มันไม่ได้เหมือนผู้น้อยหนุ่มสาวเลย มันเป็นท่าทางที่ยอดคนผู้ปกครองดินแดนจะแสดงออกมา
“หึ ในเมื่อเจ้าสองขี้ขลาดนี้ปรากฏตัวออกมาแล้ว เราก็คงพูดจาเรื่องการเข้าวังสวรรค์นิรันดร์กันต่อแล้วได้ใช่ไหม?”
คำพูดเหล่านี้เฉียวหยวนบอกแก่เย่หยวน
เพราะตอนนี้เย่หยวนเป็นคนที่ถือสิทธิ์ในการพูดมากที่สุด
เย่หยวนตอบกลับไปง่ายๆ “เจ้าจะทำอะไรก็เรื่องของเจ้า หากเจ้ามีปัญญาก็เข้าไปเอาสมบัติเสีย หากไม่มีปัญญาก็รอคอยอยู่ด้านนอกไป! ผู้อาวุโสขวังต้าว ไปกัน!”
พูดจบเย่หยวนก็พาผีเทพสวรรค์ขวังต้าวเดินเข้าไปในค่ายกลปิดกั้น
นั่นทำให้เฉียวหยวนต้องเบิกตากว้าง เด็กคนนี้มันช่างกล้าถึงกับคิดเดินเข้าไปง่ายๆ เช่นนั้น มันไม่กลัวตายบ้างหรือ?
“หึ! เจ้าโง่เง่า!” เมื่อจ่าวมินเห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะว่าด่าออกมา
ในขณะเดียวกันในหัวใจของเขาก็ได้แต่สวดภาวนาให้เย่หยวนถูกพลังปิดกั้นนั้นทำลายให้แหลกเป็นชิ้นๆ ไป
แต่ทว่าเขากลับคิดผิด
เพราะหลังจากเย่หยวนเดินไปถึงขอบของพลังปิดกั้น พลังปิดกั้นนั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แสดงออกมาเลย!
เขาแค่ขยับตัวนิดหน่อยมันก็เดินเข้าไปถึงประตูหน้าวังได้ทันที
‘เอี้ยด’
ประตูนั้นถูกเย่หยวนเปิดออก
นั่นทำให้เฉียวหยวนต้องร้องตะโกนออกมาราวกับคนคลั่ง “ที่แท้เจ้าเด็กคนนี้มันรู้จุดของพลังปิดกั้น! ให้ตาย!”
“จะปล่อยมันเข้าไปไม่ได้! ไม่เช่นนั้นแล้วสมบัติภายในคงถูกมันกวาดไปจนเกลี้ยงแน่!” จ่าวมินร้องขึ้นตาม
เย่หยวนหันกลับมายิ้มให้ทุกผู้คน “พวกเจ้าตามสบายเถอะ ไม่ต้องรีบ ข้าจะขอเข้าไปดูเส้นทางข้างในก่อน”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในวังสวรรค์นิรันดร์ทันที
“นี่มัน… จะทำอย่างไรต่อดี? เฒ่าจอมเทพนิรันดร์มันวางเขตปิดกั้นไว้อย่างทรงพลัง ด้วยพลังฝีมือของพวกเราทั้งหลายการจะฝ่าเข้าไปมันคงไม่ง่ายแน่!” อายเมิงร้องบอก
คนอื่นๆ เองก็แสดงสีหน้าท่าทางสิ้นหวังออกมา ไม่คิดไม่ฝันว่าในวินาทีสุดท้ายพวกเขาทั้งหลายกลับถูกเย่หยวนแย่งชิงตัดหน้าไป
ในเวลาที่พวกเขาทั้งหลายต่างไม่รู้ต้องทำอย่างไร เย่หยวนกลับเดินผ่านเข้าไปหน้าตาเฉย
“ทุกท่าน ข้าคิดว่าข้าสามารถพาพวกท่านทั้งหลายเข้าไปได้” ระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังหมดหวังก็ได้ยินเสียงสวรรค์หนึ่งดังขึ้น
เมื่อมองไปทางต้นเสียงเขาก็พบว่าผู้พูดเป็นเด็กหนุ่มนภาสวรรค์คนหนึ่ง
“เจ้า? เจ้าแน่ใจว่าทำได้อย่างนั้นเหรอ?” จ่าวมินถามขึ้นด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับมา “ข้าไปให้ดูก่อนก็ได้”
ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากันและเป็นเฉียวหยวนก็กล่าวขึ้น “ได้! เจ้าลองไป!”
ชายหนุ่มคนนี้ค่อยๆ เดินออกไปด้านหน้าอย่างช้าเชื่องเหมือนกำลังออกมาเดินเล่นในสวน และสุดท้ายก็เดินไปกลับได้จริงๆ
เว้นเสียแต่ว่าความเร็วในการเดินของเขานั้นมันต่ำกว่าเย่หยวนอย่างเทียบกันไม่ติด
เมื่อทุกผู้คนเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้ากันทันที
ไม่มีใครคิดฝันว่าเด็กหนุ่มนภาสวรรค์คนหนึ่งกลับจะสามารถฝ่าพลังปิดกั้นอันลึกล้ำนี้เข้าไปได้
เฉียวหยวนเบิกตาขึ้นกว้างด้วยความพอใจ “เจ้ามีนามว่า?”
ชายหนุ่มตอบกลับ “ถังเหยียน”
แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนี้ย่อมไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือถังเหยียนนั่นเอง!
แม้แต่เย่หยวนก็คงยังไม่อาจคาดคิดถึงว่าในที่แห่งนี้จะยังมีคนที่สามารถผ่านเขตแดนพลังปิดกั้นนี้เข้าไปได้
“ฮ่าๆ สวรรค์มีตาเสียจริงๆ! เอาล่ะ รีบนำทางเข้าไป!” เฉียวหยวนบอกขึ้นด้วยท่าทางรีบร้อย
แต่ถังเหยียนกลับยิ้มออกมา “ผู้อาวุโสอย่าเพิ่งรีบร้อนไป ถังเหยียนคนนี้ไม่มีพลังฝีมืออื่นแต่พอรู้วิชาเขตแดนปิดกั้นอยู่บ้าง แต่ทว่าผู้น้อยคนนี้มีเรื่องจะขอ”
นั่นทำให้เฉียวหยวนหน้าเปลี่ยนสีไปทันที เขากลับไปสู่สภาวะปกติและถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ว่ามา!”
เพราะถึงเวลานี้แล้วหากถังเหยียนไม่ขออะไรเลยมันคงจะดูแปลกเสียมากกว่า
ถังเหยียนยิ้ม “ผู้อาวุโสต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องข้าให้พ้นภัยออกไปจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ พวกท่านทั้งหลายต้องสาบานต่อเต๋าสวรรค์ด้วย! อย่าใช้สายตาเช่นนั้นมองข้าเลย ด้วยความสามารถของจอมเทพสวรรค์นิรันดร์มันยังไม่แน่เลยว่าด้านหน้านี้จะมีอะไรรอเราอยู่อีก ข้านั้นแค่ต้องการความปลอดภัย เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายท่านไม่มีเสียมีแต่จะได้ แต่ตอนนี้ผู้น้อยนั้นมีความหวังแค่อย่างเดียวคืออยากกลับออกไปอย่างปลอดภัยก็เท่านั้น”
นั่นทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายหันมองหน้ากันก่อนจะยอมรับข้อเสนอของถังเหยียนอย่างรวดเร็ว
เพราะอย่างที่ถังเหยียนว่า เขตแดนพลังปิดกั้นของจอมเทพนิรันดร์นี้มันช่างแสนที่จะทรงพลัง
แถมที่แห่งนี้ยังเป็นรังของจอมเทพนิรันดร์ ภายในจะมีเขตแดนเช่นใดรออยู่อีกมันก็ไม่มีทางทราบได้เลย
แต่เมื่อมีถังเหยียนไปด้วย เรื่องราวมันก็อาจจะไม่เป็นทางตันเสียทีเดียว
หลังจากสาบานต่อเต่าสวรรค์แล้วถงเหยียนก็ได้พาทุกคนเข้าไปยังวังสวรรค์นิรันดร์
…
หลังจากเข้ามาภายในวังสวรรค์นิรันดร์ได้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “หึ เจ้าโง่พวกนั้นมันจะทราบได้อย่างไรว่านายน้อยคือผู้สืบทอดของท่านจอมเทพนิรันดร์? เท่านี้พวกมันก็คงได้แต่นั่งรออยู่ภายนอกแล้ว”
เย่หยวนยิ้มตอบ “อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น!”
ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวหน้าถอดสีและถามขึ้น “นายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”
เย่หยวนบอก “จอมเทพนิรันดร์นั้นได้วางเรื่องราวอย่างใหญ่โตเช่นนี้ มันก็เพื่อที่จะล่อคนทั้งหลายนี้มา ตอนนี้เมื่อพวกเขาทั้งหลายมาถึงหน้าประตูวังแล้วมีหรือที่จะถูกปิดประตูไล่ใส่หน้าได้?”
นั่นทำให้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวแสดงท่าทางคิดหนักออกมา “นี่มัน… ท่านจอมเทพนิรันดร์ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่?”
เย่หยวนหัวเราะขึ้น “เรื่องนั้นคงต้องไปถามเขาเอาเองแล้ว! ไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่! หืม?”
จู่ๆ เย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังหนึ่งออกมาจากโถงบัลลังก์ม่วง
แค่ชั่วพริบตานั้นเขาก็ได้เห็นตงน้อยที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมเจ้าหมูสมบัติในอ้อมอก
‘อู๊ดๆ’ เจ้าหมูสมบัติหันมาร้องใส่เย่หยวน
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยิ้มขึ้น “ได้ ข้าจะตามเจ้าไป!”
ตงน้อยเองจึงปล่อยมือ ปล่อยให้เจ้าหมูสมบัติได้วิ่งนำทางเข้าไปยังส่วนลึกของโถงอย่างรวดเร็ว
…………………………