‘ปัง!’
เมื่อคลื่นพลังอันน่าเกรงขามนี้ถูกส่งออกมาร่างกายของเย่หยวนถึงขั้นกับทนทานไม่ไหวจนถูกซัดกระเด็นออกมา
เงานั้นค่อยๆ ก่อร่างสร้างขึ้นมาเป็นรูปร่างที่กลางโถง
“จอมเทพนิรันดร์!” เย่หยวนเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง จดจำรูปร่างนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ว่าคลื่นพลังที่เงาร่างนี้ปล่อยออกมามันแตกต่างจากที่เคยเห็นที่ด้านนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ฝั่งจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเองก็ไม่คิดจะทำอะไรเพียงแค่ยืนรออยู่นิ่งๆ
ท่าทางนี้ของเขามันเหมือนกับว่าทุกสิ่งอย่างนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
กับจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว มันคงไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พวกเขาตื่นตะลึงได้อีก
แม้จะเป็นเทพสวรรค์ที่มีชีวิตยังทำไม่ได้ มีหรือที่เทพสวรรค์ที่ตายไปแล้วจะทำอะไรให้เขาตื่นตกใจได้?
จอมเทพนิรันดร์นั้นไม่คิดมองดูเย่หยวน สายตาของเขานั้นจับจ้องมองไปยังจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชาง
“เจี่ยวชาง เจ้ามาจริงๆ!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางยิ้มออกมา “เจ้าสร้างเรื่องราวใหญ่โตก็เพื่อล่อข้ามามิใช่หรือ? ตอนนี้ข้ามาแล้ว เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
สำหรับตัวเขาแล้วจอมเทพนิรันดร์นั้นเป็นได้แค่เศษฝุ่นผง มันไม่มีทางเลยที่เขาจะกลัวคนตายไปได้
จอมเทพนิรันดร์ยิ้มตอบกลับไป “เรอะ? เช่นนั้นแล้ว… ลองหน่อยจะเสียหายอะไร?! วันนี้ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้าจะต้องมาถึงจุดจบ!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางตอบกลับไป “แค่เสี้ยวของวิญญาณ กลับกล้าพูดจาโอ้อวดปานนี้ ข้าล่ะไม่เข้าใจความคิดของเจ้าจริงๆ! ศิลาจารึกบัลลังก์พิภพข้าขอรับมันไปก่อนล่ะ”
พูดจบจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางก็เดินออกมาด้านหน้าพร้อมด้วยคลื่นพลังที่แสนรุนแรงจนมิติรอบๆ เกิดความบิดเบี้ยวขึ้น
ไม่ไกลไปนักเย่หยวนได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าซีดเซียว
ภายใต้คลื่นพลังอันมหาศาลเช่นนี้ เขานั้นไม่อาจแม้แต่จะขยับปลายนิ้วได้!
“นี่มัน…นี่หรือคือพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์? แข็งแกร่ง!”
แม้ว่าเย่หยวนจะคิดว่าเทพสวรรค์นั้นน่ากลัวแล้ว แต่เมื่อเขาได้เห็นเฉียวหยวนและพวกลงมือก่อนหน้าเขาก็ยังพอจะเข้าใจและเห็นถึงขีดจำกัดของคนเหล่านั้นได้
แต่ตอนนี้เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงมือ แค่ได้สัมผัสได้คลื่นพลังจากร่างของเขาโลกทั้งใบก็สั่นสะเทือน
พลังเช่นนี้มันเหนือล้ำกว่าความเข้าใจไปมาก
ด้านในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนหวู่เฉินกล่าวขึ้น “ยอดฝีมือจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นคือตัวตนที่ก้าวข้ามวัฏสงสารไปได้แล้วไม่ยึดติดอยู่กับธาตุทั้งห้าอีก! แน่นอนว่าพลังของพวกเขานั้นมันย่อมเหนือล้ำกว่าที่ผู้คนจะเข้าใจ นี่เป็นแค่พลังกดดันน้อยๆ จากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชาง เขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา ไม่เช่นนั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้คงแตกสลายไม่เหลือซากแล้ว”
นั้นทำให้ใบหน้าของเย่หยวนดำคล้ำขึ้นมาทันที เรื่องราวทั้งหลายในครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้
ตลอดมาเย่หยวนนั้นจะพยายามวางแผนก่อนค่อยลงมือทำ
แต่ตอนนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันเหนือกว่าแผนการใดๆ ที่เขามี
ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในวังสวรรค์นิรันดร์ต่อให้เอาไปเทียบกับระดับของมหาพิภพถงเทียนมันก็ยังนับได้ว่าเป็นยอดของยอดฝีมือ
แน่นอนว่าเต๋าสวรรค์ของโลกใบน้อยนี้มันไม่เพียงพอที่จะรองรับพลังอันเหนือล้นของพวกเขา
ตราบเท่าที่คนทั้งสองนี้ลงมือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมันคงจบสิ้นอย่างไม่เหลือซากแน่
“จอมเทพนิรันดร์ ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่? นี่คือโลกใบน้อยที่ท่านสร้างขึ้นมาเองกับมือนะ! หรือท่านจะบอกว่าท่านมองดูมันแหลกสลายไปต่อหน้าอย่างไม่รู้สึกอะไรได้?” เย่หยวนร้องออกมาด้วยพลังทั้งหมดที่ร่างกายของเขาจะมี ตะโกนต่อว่าจอมเทพนิรันดร์อย่างโกรธแค้น
นั่นทำให้จอมเทพนิรันดร์นิ่งไปก่อนจะหันหน้ากลับมาดู
“ทำอะไร? ก็ต้องล้างแค้นแน่อยู่แล้ว! ข้าคือเทพสวรรค์ที่เดินทางทั่วฟ้าดิน ห่างอีกเพียงนิดก็จะขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วแต่กลับต้องมาจบสิ้นลงด้วยน้ำมือของเจ้าคนชั่วร้ายนี้! ความแค้นนี้หากไม่สะสางวิญญาณข้าก็ไม่มีทางสู่สุคติได้!” จอมเทพนิรันดร์ร้องตอบกลับมาด้วยความแค้น
เย่หยวนได้แต่กัดฟันร้องถาม “ทำไม? ทำไมกัน! ความแค้นของท่านนั้นข้าจะต้องช่วยท่านสะสางสักวันแน่! ทำไมท่านถึงต้องเรียกเขาผู้นี้เข้ามายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย?”
สภาพของเย่หยวนตอนนี้เองก็เปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธแค้น
จะบอกว่าความสำเร็จทั้งหลายที่เขามีมาจนถึงวันนี้มันล้วนแล้วแต่เป็นเพราะจอมเทพนิรันดร์มันก็ไม่ผิดนัก
ตราบเท่าที่เขามีพลังมากพอ เขาย่อมจะตอบแทนสะสางความแค้นที่ผู้มีบุญคุณอย่างจอมเทพนิรันดร์มีไว้แน่
แต่ตอนนี้เรื่องราวทั้งหลายมันกลับพลิกผันเช่นนี้
จอมเทพนิรันดร์มองดูเย่หยวนด้วยสายตาสื่อความหมายก่อนจะว่ากล่าว “เด็กน้อย เจ้าอาจจะได้รับสืบทอดหลายสิ่งอย่างจากข้าไป แต่พลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมิใช่สิ่งที่เจ้าจะคาดการณ์ได้! ห้าล้านปีก่อน ข้าได้จัดเตรียมทุกอย่างมากไว้เพื่อวันนี้ วันนี้แหละที่ข้าจะตัดสินกับมัน!”
ดูท่าแล้วเขาคงรู้ตั้งแต่แรกเห็นว่าเย่หยวนนั้นคือผู้สืบทอดของตน
เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่คิดสนใจ แผนการที่เขาวางไว้กว่าห้าล้านปีมันก็เพื่อวันนี้เท่านั้น
“เฮ้อ…”
เสียงหายใจยาวดังขึ้นพร้อมการปรากฏร่างของหวู่เฉิน
นั่นทำให้จอมเทพนิรันดร์ที่มีแต่ไฟแค้นอย่างมั่นคงเกิดท่าทางสั่นไหวขึ้นมาทันที
“หวู่เฉิน! เจ้าตื่นแล้ว!”
หวู่เฉินมองดูจอมเทพนิรันดร์พร้อมถอนหายใจยาวอีกครั้ง “เดิมทีข้าคิดว่าการตกสู่ห้วงนิทราของข้าและการตายของเจี้ยงหุนมันเกิดมาจากการต่อสู้ของเจ้ากับเจี่ยวชาง แต่ดูท่าแล้วมันคงมิใช่!”
จอมเทพนิรันดร์เบิกตากว้างพร้อมด้วยใบหน้าที่สั่นกระตุก
“ข้า… ข้าไม่เกี่ยวด้วย! หากไม่ล้างแค้นนี้ มีหรือที่ข้าจะตายตาหลับได้?! เทียบกันแล้วเจ้าโลกใบน้อยนี้มันจะมีค่าใด? สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์มันจะมีประโยชน์ใด?”
แต่หวู่เฉินกลับยิ้มออกมา “ข้าไม่ได้คิดที่จะมาต่อว่าที่เจ้าทำเช่นนั้นลงไป เจี้ยงหุนและข้านั้นต่างเกิดขึ้นมาได้เพราะเจ้า เพียงแค่ว่าในครั้งนี้เจ้าคิดผิดไปจริงๆ! เย่หยวนคนนี้มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำเสียยิ่งกว่าที่ตัวเจ้าคาดคิด!”
นั่นทำให้จอมเทพนิรันดร์หรี่ตาลงหันมามองเย่หยวนอีกครั้ง
เขานั้นได้จัดการเรื่องราวทั้งหลายมากว่าห้าล้านปีเพื่อเรื่องในวันนี้ แต่เวลาห้าล้านปีนี้โลกมันก็ได้หมุนเปลี่ยน สิ่งต่างๆ ที่มันเปลี่ยนจากเหนือคาดของเขาไปมันก็มีมากมาย
เขานั้นไม่เคยคิดว่าผู้สืบทอดของเขานั้นจะสามารถเหนือล้ำกว่าอาจารย์ได้ และแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ได้คาดคิดว่าผู้สืบทอดของเขาจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ในวันแห่งโชคชะตาด้วย
ตอนนี้คลื่นอารมณ์ต่างๆ ก็กำลังปะทุขึ้นในจิตใจของเย่หยวน
เจี้ยงหุนที่หวู่เฉินพูดมานี้มันน่าจะหมายถึงวิญญาณประจำศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ!
เย่หยวนนั้นสงสัยมาตลอดว่าทำไมไข่มุกสยบวิญญาณมีวิญญาณอยู่ภายใน แต่ศิลาจารึกบัลลังก์พิภพกลับไม่มี
เมื่อลองคิดกลับไปดู แท้จริงแล้ววิญญาณประจำศิลาจารึกบัลลังก์พิภพนั้นได้ตายลงแล้ว!
ที่สำคัญการตายของเจี้ยงหุนนั้นยังเป็นฝีมือของจอมเทพนิรันดร์โดยตรงด้วย!
ตลอดมานี้เย่หยวนคิดเสมอว่าการหลับใหลของหวู่เฉินเองก็น่าจะเป็นฝีมือของเจี่ยวชาง
แต่ลองคิดดูตอนนี้ มันคงเป็นเพราะว่าจอมเทพนิรันดร์นั้นดึงพลังของสองสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดนี้มาใช้
หากไม่ได้พบเจอเขา หวู่เฉินก็อาจจะต้องอยู่ในห้วงนิทราตลอดไป
“หึๆ ข้าและเจ้าเองก็อยู่ร่วมกันมานานแสนนาน เจ้าน่าจะรู้จักข้าดี! ข้าเป็นผู้ที่เชื่อแค่ในตัวเองเท่านั้น!” จอมเทพนิรันดร์ร้องบอกพร้อมเสียงหัวเราะ
ก่อนที่เขาจะหันกลับมาหาเย่หยวนและพูดขึ้น “เด็กน้อย เจ้าไม่ควรเดินทางมาในครั้งนี้เลย!”
เย่หยวนนั้นมีใบหน้าที่ดำมืดพร้อมตะโกนร้องกลับไปอย่างรุนแรง “ข้าเกิดที่นี่ ข้าโตที่นี่ พ่อแม่ข้าอยู่ที่นี่ มิตรสหายข้าอยู่ที่นี่! แต่ตอนนี้ท่านกลับคิดจะทำลายดินแดนแห่งนี้ลง มีหรือที่ข้า…จะไม่มาได้?”
“หึๆ เด็กน้อย เจ้านั้นช่างอ่อนโลก! เส้นทางของผู้บ่มเพาะนั้นคือเส้นทางอันแสนโดดเดี่ยว! เจ้าจะมีพ่อแม่แล้วทำไม? สุดท้ายหากพวกเขาไม่อาจบ่มเพาะได้จนถึงจุดสูงสุด สักวันพวกเขาก็จะตายลง! มีเพียงแค่ตัวเจ้าเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์!” จอมเทพนิรันดร์หัวเราะลั่น
‘แกรก! แกรก! แกรก!’
ตอนนี้มิติภายในวังสวรรค์นิรันดร์นี้มันเริ่มปริแตกออก
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางปล่อยคลื่นพลังที่เหนือล้นมากกว่าเก่าออกมาเรื่อยๆ
“หึ นิรันดร์ ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าได้เตรียมอะไรไว้ให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นี้ถึงต้องใช้เวลาตั้งห้าล้านปี!” เจี่ยวชางหัวเราะ
จอมเทพนิรันดร์กลับมามีสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม “ศรที่ลั่นจากคันไม่มีวันหวนคืน! เด็กน้อย ขอให้เจ้าโชคดี!”
…………………………