เย่หยวนมองดูที่ชายชราตรงหน้านั้น ชายชราคนนี้มีผมสีขาวพร้อมด้วยสีหน้าแสนเย็นเยือกทำให้ผู้พบเห็นต้องรู้สึกราวกับได้ตกลงไปในทะเลลึก
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าดิน เป็นผู้ปกครองโลกหล้าอย่างแท้จริง
แม้ว่าตัวกงหยางเลี่ยเองนั้นก็จะเป็นนักยุทธผู้บ่มเพาะถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่สุดท้ายตัวเขาก็เป็นแค่คนรับใช้ของผู้อื่นและไม่มีท่าทางของจักรพรรดิอย่างแท้จริง ต่อหน้าเย่หยวนแล้วตัวเขาก็ย่อมจะไม่คิดปล่อยคลื่นพลังจากร่างออกมาตามปกติ
มีเพียงคนอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนนี้เท่านั้นที่จะนับได้ว่าเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างแท้จริง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาที่ราวกับมองทะลุโลกหล้าได้
คลื่นพลังที่ไหลออกมาจากร่างเขานั้นมันสุดแสนรุนแรงจนทำให้อสูรทั้งหลายที่อยู่ด้านล่างภายในเมืองหลายต่อหลายคนต้องคุกเข่าก้มลง
เพียงแค่ว่าเย่หยวนกลับยืนเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา
ฟุบ!
ภายในกลุ่มคนทั้งหลายจู่ ๆ มันก็เกิดมีเงาร่างหนึ่งคิดพุ่งตัวขึ้นบนท้องฟ้า
แต่นางนั้นยังพุ่งขึ้นไปได้ไม่ถึงเมตรก็ต้องกระเด้งตัวกลับมาราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างรั้งหลังไว้
“ลุงฉือ ท่านคิดทำอะไรกันเล่า?” หลงเสี่ยวฉุนร้องถามผู้อาวุโสเผ่ามังกรที่อยู่ข้าง ๆ กายนางนั้น
ชายชราคนนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เรื่องนี้มันมิใช่เรื่องราวที่เจ้าจะเข้าไปแส่ยุ่งด้วยได้!”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นยกกำปั้นขึ้นมาถามด้วยท่าทางไม่พอใจ “มันจะไม่ให้เข้าไปแส่ได้อย่างไร? เย่หยวนสังหารฉีเจิ้นนั้นมันก็เท่ากับว่าเขาช่วยล้างแค้นให้พี่เสี่ยวไห่ เขานั้นเป็นสหายของเผ่ามังกรเรา!”
หลงเสี่ยวไห่เองก็พูดเสริมขึ้นมา “ลุงฉือ ท่านลงมือช่วยพี่เย่สักครั้งเถอะ!”
หลงฉือเองก็ตอบกลับมาอย่างหนักแน่น “เดินทางออกมาครั้งนี้เฒ่าคนนี้มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพวกเจ้า แม้ข้าจะไม่กลัวเกรงเจ้าเช่าหยุนนั่น แต่ข้าก็ไม่อยากจะไปสร้างปัญหาอย่างไร กำลังของจักรพรรดิผู้นี้พวกเจ้าเองก็ทราบดีแก่ใจ หากเจ้ายังคิดจะก่อเรื่องอีกข้าคงต้องไปรายงานท่านแม่ของเจ้าแล้วว่าระหว่างทางเจ้าไปทำอะไรไว้บ้าง”
คำพูดสุดท้ายนั้นมันแฝงไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรงจนทำให้หลงเสี่ยวฉุนสั่นไปทั้งกายราวกับว่าได้ยินนามของมหาจักรพรรดิมารร้ายใด ๆ ตอนนี้ตัวของนางนั้นสั่นกลัวหน้าซีดเผือดไร้ซึ่งสีเลือดใด ๆ
เพียงแค่ว่าคำพูดของชายชราคนนี้มันแฝงความหมายมาว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ตรงหน้านี้!
เพราะแท้จริงแล้วหลงฉือคนนี้เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์เผ่ามังกรที่ปกปิดพลังบ่มเพาะไว้!
“ลุงฉือ ท่านไม่มีคุณธรรม!” หลงเสี่ยวฉุนได้แต่ทำแก้มป่องกล่าวว่าออกมาอย่างไม่พอใจ
หลงฉือเองก็ได้แต่ตอบกลับมาอย่างเสียไม่ได้ “หลงเสี่ยวฉุน ปัญหาที่เจ้าก่อไว้ระหว่างการเดินทางนี้หากลุงของเจ้าผู้นี้ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วเจ้าคงได้ทำให้ฟ้าดินพังทลายลง! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าใครที่คอยเช็ดตูดชำระเรื่องให้เจ้า? แล้วยังจะมีหน้ามาว่าลุงฉือไม่มีคุณธรรมใดอีก?”
ได้ยินคำพูดเหล่านั้นใบหน้างาม ๆ ของหลงเสี่ยวฉุนก็แดงขึ้นมาทันที “หึ! หยาบคาย! ไม่คุยกับท่านแล้ว!”
พูดจบหลงเสี่ยวฉุนก็เดินหันหน้ากลับไปแต่ดวงตาโต ๆ ของนางนั้นกลับสั่นไหวอย่างไม่มีหยุด
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมองเห็นโลกหล้าแจ่มชัด มีหรือที่เรื่องราวนี้มันจะพ้นสายตาของเช่าหยุนไปได้?
เรื่องที่หลงฉือว่าใด ๆ ออกมานั้นมันย่อมจะอยู่ในสายตาของเขามาตลอดตั้งแต่ต้นจนทำให้เขาตื่นตะลึงไม่น้อย
จักรพรรดิเทพสวรรค์เผ่ามังกร!
เหล่าคนทั้งหลายนี้มันคงไม่ออกมาหาเรื่องหรอกใช่หรือไม่?
เดิมทีเช่าหยุนนั้นมาถึงอย่างเหนือฟ้าแต่หากวันนี้เผ่ามังกรเข้ามาขัดขวางแล้วเขาคงเสียหน้ามหาศาลแน่
ต้องรีบจัดการเรื่องราวให้จบ ๆ ไป!
เช่าหยุนคิดไปถึงตรงนั้น ก็ตัดสินใจออกมาทันที
สายตาของเขานั้นหันไปมองยังความว่างเปล่าที่ด้านหลังก่อนจะถามขึ้น “กงหยางเลี่ย เย่หยวนสังหารฉีเจิ้นข้า จักรพรรดิผู้นี้จะพาตัวมันไปรับโทษ เจ้าคงไม่ขัดใช่หรือไม่?”
เหล่าอสูรทั้งหลายที่ได้ยินต่างตื่นตะลึงขึ้นมาในใจ เพราะแม้จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนจะมาด้วยท่าทางไม่คิดฟังผู้คน แต่เวลานี้เขากลับกำลังถามความคิดเห็นใครบางคนอยู่
ใครกันที่จะทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ต้องคิดถามความเห็นได้?
มันย่อมจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ด้วยกันแล้ว!
หรือว่าในที่แห่งนี้มันจะยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่อีก?
กงหยางเลี่ยค่อย ๆ ปรากฏร่างต่อสายตาของทุกผู้คนและหันไปบอกจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุน “ท่านรองมหาปราชญ์นั้นคิดสละตัวเพื่อช่วยเหลือเมืองอสูร แน่นอนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมจะไม่คิดขัดเขา”
“มันเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกท่านหนึ่ง!”
“นี่มันจักรพรรดิเทพสวรรค์ของเผ่าอสูรกลางเรา!”
…
เหล่าผู้คนทั้งหลายที่ด้านล่างต่างร่ำร้องแตกตื่น
ตัวตนของกงหยางเลี่ยนั้นมันเป็นที่รู้กันแค่ในหมู่เทพสวรรค์ระดับสูงทั้งหลายเท่านั้น แน่นอนว่าคนธรรมดาทั่วไปในเมืองย่อมจะไม่รู้ถึงตัวตนของเขา
กับการกระทำครั้งนี้ของเย่หยวน กงหยางเลี่ยเองก็ตื่นตะลึงอย่างมาก
เพราะเขานั้นคิดว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ยอมจนตายก็ไม่มีทางยอม ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มันกลับจะยื่นหัวออกมาให้ศัตรูตัดอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้
ส่วนเรื่องที่ว่าเย่หยวนจะหนีรอดไปได้หรือไม่นั้นตัวเขาย่อมจะไม่คิดถึงมัน
เทพถ่องแท้คนหนึ่งจะหนีรอดพ้นจากมือของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้?
เรื่องนั้นมันย่อมไม่มีทาง!
ที่เย่หยวนนั้นสังหารฉีเจิ้นลงได้ในวันนั้นมันก็เป็นเพราะว่าตัวเขาประมาทและยังเพราะว่าความแปลกประหลาดในวิชาของเย่หยวน
ใครจะไปคิดเล่าว่าเทพถ่องแท้จะใช้ลายพระเจ้าออกมาได้?
คิดมาได้ถึงตรงนี้สีหน้าของกงหยางเลี่ยก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
หากในวันนั้นเขากล้าจะลงมือกว่านี้หน่อยและจับกุมเย่หยวนด้วยมือตน เรื่องราวมันคงไม่บานปลายมาจนถึงเวลานี้
เพียงแค่ว่าโลกใบนี้มันไม่มีโอสถใดแก้อาการเสียใจภายหลังได้
เช่าหยุนที่ได้ยินก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวน “เย่หยวน จักรพรรดิผู้นี้ขอถาม เจ้ารู้ถึงความผิดของตนหรือไม่?”
เย่หยวนหัวเราะลั่นออกมาเมื่อได้ยิน “ความผิด? ฮ่า ๆ ๆ ข้านี่แหละผิดเอง! แน่นอนว่าเป็นข้าที่ผิด!”
เช่าหยุนที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะปล่อยคลื่นพลังออกมากดดันเย่หยวน
ตอนนี้มันมิใช่แค่พลังกดดันอาณาจักร แต่มันเป็นพลังจากความโกรธเคืองของเช่าหยุน
คลื่นพลังโลกของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นรุนแรงปานใด?
“ในเมื่อเจ้ารู้ถึงความผิดของตนแล้วเหตุใดยังไม่คุกเข่า?!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนร้องลั่นส่งคลื่นเสียงเย็นเยือกดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง
ทุกผู้คนต่างแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันทีก่อนจะหันไปมองทางเย่หยวนด้วยสีหน้าเมตตา
“น่าเสียดายจริง ๆ รองมหาปราชญ์นั้นโอหังอวดดีเกินไปจนทำให้วันนี้ต้องถูกเผ่ากิเลนเหยียบย่ำแล้ว”
“จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนมาเพื่อถามทวงแค้นให้ฉีเจิ้น กู้หน้ากลับให้เผ่ากิเลน! วันนั้นที่ท่านรองมหาปราชญ์ฆ่าสังหารฉีเจิ้นลงมันก็สะใจหรอก แต่หนี้ใดที่ก่อแล้วมันก็ย่อมจะต้องสะสาง”
“หึ! เรื่องราววันนี้ล้วนมีเขาเป็นต้นเหตุสิ้น แน่นอนว่าเขาต้องแบกรับผลที่ตามมาด้วยตนเอง! เผ่ากิเลนนั้นเก่งกาจปานใด? มีหรือที่จะยอมรับความอับอายเช่นนั้น?”
…
ตอนนี้หลายต่อหลายคนได้แต่คอยซ้ำเดิมความผิดพลาดของผู้คน พูดจาว่ากล่าวออกมาอย่างไม่คิดยั้งปาก
แต่ทว่าแม้จะผ่านไปหนึ่งอึดใจแล้วแต่เย่หยวนก็ยังยื่นนิ่งไม่ขยับเคลื่อนไหว
สองอึดใจ!
สามอึดใจ!
เย่หยวนนั้นยังคงยืนนิ่งไม่คิดที่จะคุกเข่าลงแม้สักน้อย
ตอนนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนจึงต้องมองภาพตรงหน้าอย่างมึนงง
เย่หยวนนั้นจ้องมองกลับไปที่เขาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ราวกับตัวเขานั้นเป็นแค่อากาศธาตุ
เมื่อทั้งเมืองตกสู่ห้วงความเงียบงัน ทุกผู้คนต่างมองดูเย่หยวนอย่างตื่นตะลึงไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มคนนี้ทำได้อย่างไร
เย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ ภายใต้คลื่นพลังบังคับของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้?
“จักรพรรดิผู้นี้สั่งให้เจ้าคุกเข่า! ไม่ได้ยินหรือ!?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนร้องลั่นออกมาอีกครั้งด้วยคลื่นพลังบังคับที่หนักหนากว่าเก่าคิดบดขยี้เข่าของเย่หยวนลง
ดูท่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนจะโกรธแค้นมากเกินทนแล้ว
คลื่นพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันไม่อาจทำอันตรายใด ๆ เทพถ่องแท้ได้ เรื่องนี้ได้ยินไปถึงไหนก็อับอายไปถึงนั่น!
เพราะฉะนั้นครั้งนี้เขาจึงไม่คิดออมมือเก็บพลังใด ๆ
“อ่อก!”
“อั่ก!”
“โอ่ก!”
…
ครั้งนี้แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะทนรับแรงกดดันนี้ไว้ได้จนต้องกระอักเลือดออกมาตาม ๆ กัน
นี่มันคือพลังที่แท้ของจักรพรรดิเทพสวรรค์!
แต่เย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนได้แต่ผงะหลังไปอย่างมึนงง เขาได้แต่มองดูเย่หยวนตรงหน้านี้อย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เป็นไปไม่ได้! เหตุใดเทพถ่องแท้คนหนึ่งถึงต้านพลังของจักรพรรดิผู้นี้ได้?”
“ฮ่า ๆ ๆ …เผ่ากิเลนเจ้านี่มันช่างเหนือล้ำจริง ๆ! เช่าหยุน ข้านั้นผิดไปแล้วจริง ๆ ! แต่ข้านั้นผิดที่ร่ำรวยจนเกินไป!”
ตูม!
เย่หยวนพลิกฝ่ามือของตนขึ้นมาก่อนจะแสดงให้เห็นถึงกระดูกจักรพรรดิกิเลนในมือพร้อมด้วยคลื่นพลังสายเลือดที่รุนแรงกดฟ้าดินจนทำให้ผู้คนไม่อาจหายใจ
…………………………