“นี่… สถานการณ์เช่นนี้เรามีแต่ต้องรอความตายอย่างนั้นหรือ?” เต๋าบรรพกาลไฟนั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเหยเก
หลินเฉาเถียนจึงกล่าวตอบไป “ไม่แน่หรอก! ไม่ว่ามันจะมากพรสวรรค์สักเท่าใดการจะก้าวผ่านโซ่ตรวนนี้ไปมันก็ยังมิใช่เรื่องง่ายๆ! กำลังของพวกเรานั้นเองก็พัฒนาขึ้นมามากมายในช่วงหลายปีนี้ หากมันคิดอยากจัดการกับเราจริงๆ แล้วมันคงยังไม่แข็งแกร่งพอ! เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือนี้เราต้องใช้มันเพื่อเพิ่มพลังของตนขึ้นให้มากที่สุด!”
เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายต่างได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาตามๆ กัน พวกเขานั้นคือเต๋าบรรพกาลตัวตนที่ไปไหนมาไหนไม่เคยต้องเกรงกลัวใคร
แต่เวลานี้กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เพราะคนแค่คนเดียว!
แต่คนทั้งเก้าเองก็ไม่กล้าจะนิ่งเฉย เวลาที่เหลือนั้นพวกเขาได้ใช้มันศึกษาเต๋าสวรรค์เพิ่มพลังให้ตัวเองอย่างมากล้ำ
…
สี่ปีต่อมาในวันที่ดวงอาทิตย์สว่างจ้ามันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับฟ้าดินขึ้น
ลมรุนแรงพัดกระหน่ำภูเขาร่ำร้องแม่น้ำเดือดดาลมีลมพายุพัดหมุนขึ้นมาท่ามกลางแดดจ้า
มันราวกับว่าจุดจบของมหาพิภพถงเทียนได้มาเยือน
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างสั่นกลัวอย่างไม่อาจห้าม
เพราะนี่มันคือพลังของสวรรค์ พลังที่พวกเขาไม่เคยจะได้สัมผัสถึงมาก่อน
บนเขาแห่งถงเทียนนั้นมันมีหลายเงาร่างถูกดีดออกมาภายนอกติดๆ กัน
พวกเขานั้นถูกเขาแห่งถงเทียนนั้นดีดออกมา!
“เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมเขาแห่งถงเทียนจึงไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปบ่มเพาะแล้วเล่า?”
“การกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์! มันต้องเป็นการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์แน่! ไม่นึกเลยว่ามันจะมาถึงรวดเร็วปานนี้!”
“นี่มัน… จะทำอย่างไรดี? หากการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์เริ่มขึ้นแล้วพลังแห่งกฎในมือของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายก็จะถูกเต๋าสวรรค์ดึงกลับไป เช่นนี้เราจะยังเอาอะไรมาต้านเผ่าเทวาได้?”
…
บนเขาแห่งถงเทียนนั้นมันเป็นแหล่งที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นที่สุด
แต่เวลานี้มันกลับมีคลื่นพลังหนาแน่นดันทุกผู้คนออกมาภายนอก
เวลานี้บนเขาแห่งถงเทียนนั้นมันได้กลายเป็นดินแดนต้องห้าม มีคนถูกโยนออกมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง
คนที่ถูกดีดออกมาในตอนแรกๆ ย่อมจะเป็นพวกนักยุทธระดับต่ำที่อ่อนแอ
แต่จากนั้นเหล่าพวกที่แข็งแกร่งก็ค่อยๆ ถูกโยนออกมาเรื่อยๆ
จนถึงสุดท้ายแล้วมันก็มีเจ้าฟ้าดินหลายต่อหลายคนถูกดีดออกมาจากเขาแห่งถงเทียนด้วย
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เงาร่างของผู้คนมากมายปลิวลิ่วออกมาจากเขาแห่งถงเทียนอย่างต่อเนื่อง
แต่เมื่อคนทั้งหลายนั้นปรากฏต่อสายตาของผู้คน มันก็ทำให้เกิดความแตกตื่นไม่น้อย
“นั่นมันเต๋าบรรพกาลทั้งเก้า! พวกนั้นก็ยังถูกดีดออกมาด้วย!”
“คลื่นพลังของพวกเขานั้นดูจะยุ่งเหยิงไม่น้อย หรือว่าพลังแห่งกฎนั้นจะถูกดึงกลับไปแล้ว?”
“แต่ข้านั้นกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันอ่อนแอลงมากมายเลย!”
“หึ พวกเจ้าไม่รู้หรือว่ากลุ่มคนทั้งหลายนี้มันแย่งชิงเอาสมบัติจากนักบุญฟ้าครามไป? ข้าว่าครั้งนี้พวกมันคงได้พัฒนากันไปมาก! แต่ในเรื่องความหน้าด้านนี้ ข้าต้องขอยอมแพ้พวกมันจริงๆ!”
…
ได้เห็นการปรากฏตัวของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นมิย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่น แต่ในความแตกตื่นนั้นมันกลับแฝงมาด้วยคำด่าไม่ยั้ง
ตอนที่เย่หยวนปล่อยคลื่นพลังจากเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมานั้น คนทั้งโลกต่างก็ได้รู้ความจริงกันสิ้น
เต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นอ้างชื่อของเผ่าพันธุ์และความถูกต้องเพื่อแย่งชิงสมบัติขับไล่นักบุญฟ้าครามไป
เรื่องนี้คนทั้งโลกย่อมจะเกลียดชังสุดหัวใจ!
นักบุญฟ้าครามนั้นเหนื่อยกายเหนื่อยใจเพื่อปกป้องความสุขสงบของหลากเผ่าพันธุ์
แต่สุดท้ายเขานั้นกลับต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงรู้สึกเจ็บแค้นอยู่ในใจ!
นักบุญฟ้าครามนั้นต่อสู้อยู่แนวหน้าแต่กลับถูกเต๋าบรรพกาลแทงหลัง
ทำเรื่องเช่นนี้ต่อให้จะเคยชอบบูชาอย่างไรคนทั้งหลายก็หมดศรัทธาสิ้น
หากมิใช่เพราะพวกเขานั้นแข็งแกร่งเหนือใครแล้ว พวกเขาคงได้ถูกนักยุทธทั่วโลกหล้ารุมประชาทัณฑ์จนตายตกไปนานแสนนาน
ตู้ม!
วินาทีต่อมามันก็เกิดพลังไฟรุนแรงย้อมท้องฟ้าจนเป็นสีแดงฉาน
ยอดฝีมือมากมายต้องตายลงไปเพราะไฟนี้!
“ใครยังคิดปากมากอีกเตรียมตัวตายได้!” เต๋าบรรพกาลไฟกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
มีหรือที่พวกเขาจะไม่ได้ยินคำด่าว่าของคนทั้งหลาย?
เต๋าบรรพกาลไฟนั้นเป็นคนที่อารมณ์ร้อนที่สุดในกลุ่ม ตัวเขาย่อมจะเป็นคนแรกที่ลงมือฆ่าสังหาร!
วินาทีที่เขาตวาดขึ้นมานั้นมันย่อมจะไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ อีก
เว้นเสียแต่ว่าเหล่ายอดฝีมือนั้นยังคงจ้องมาด้วยตาที่เคียดแค้นหนัก
กล้าจะแค้นแต่ไม่กล้าพูดว่า!
ตอนที่รับมือเผ่าเทวาพวกเขานั้นไม่เคยจะเห็นเต๋าบรรพกาลทั้งหลายลงมือทำอะไร
แต่พอเป็นกับคนฝั่งเดียวกันเองแล้วคนทั้งหลายนี้เบ่งอำนาจกดหัวเอาๆ!
พริบตาเดียวนั้นมันก็มีคนตายไปกว่าพัน!
แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าสำหรับเต๋าบรรพกาลทั้งหลายแล้ว นอกจากตัวพวกเขาเองทุกสิ่งอย่างในโลกหล้ามันไม่ค่าใด
หลินเฉาเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดกล่าวใดๆ ออกมา
เพราะไม่นานก่อนหน้านี้เต๋าสวรรค์ได้ดึงเอาพลังกฎของพวกเขากลับไป
เวลานี้พวกเขาทั้งเก้ามิใช่เต๋าบรรพกาลอีกต่อไป!
แต่ด้วยเขาน้อยแห่งถงเทียนที่ได้มานั้น พวกเขาทั้งเก้าจึงพัฒนาพลังฝีมือไปได้ไม่น้อย เวลานี้จึงไม่ได้อ่อนแอกว่าตอนที่ยังมีพลังแห่งกฎมากมาย
สิบปีมานี้พวกเขาทั้งเก้าพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของวรยุทธการบ่มเพาะที่พวกเขาทั้งหลายนั้นได้พัฒนาเสริมจุดด้อยจนแข็งแกร่งกันขึ้นไปมาก
ในเวลานี้คงเรียกพวกเขาได้ว่าเป็นสุดยอดของที่สุดเท่าที่มนุษย์จะก้าวถึงได้!
เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่อาจจะหาทางหลุดพ้น!
เพราะฉะนั้นต่อให้เต๋าสวรรค์จะดึงพลังกลับไปใดๆ พวกเขานั้นก็ไม่ได้อ่อนแอลงมากมายนัก
“ฮ่าๆๆ… เต๋าบรรพกาลพวกนี้มันเก่งเสียจริง! โจมตีคนของตัวเองเป็นว่าเล่นไม่คิดเมตตาปรานี!” ในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดเสียงหัวเราะดังก้องฟ้าดินขึ้นมา
ฟุบ!
ฟุบ!
ฟุบ!
หลายต่อหลายเงาร่างนั้นได้ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าด้วยคลื่นพลังที่สุดแสนแข็งแกร่งรุนแรง
สีหน้าของเหล่านักยุทธทั้งหลายที่ได้เห็นหน้าซีดขาวลง เพราะคลื่นพลังของคนทั้งหลายนี้มันกดดันพวกเขาจนแทบไม่อาจหายใจได้
“เผ่าเทวา! มันเป็นเผ่าเทวา!”
“ช-ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก! ห-หรือว่าพวกมันนี้จะเป็นเหล่าบรรพบุรุษในตำนาน?”
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! นี่วันสิ้นสุดยุคสมัยของมนุษย์ได้มาถึงแล้วหรือ?”
…
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่มานั้นมันย่อมจะเป็นชาวเผ่าเทวาแล้ว!
และคนที่กล่าวทักขึ้นมาก็ย่อมจะเป็นเทียนชิง!
สีหน้าของเหล่ายอดฝีมือฝั่งมนุษย์นั้นต่างเปลี่ยนสีไปตามๆ กันเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของเหล่าบรรพบุรุษเผ่าเทวาทั้งหลาย
มันเป็นพลังที่กดดันเหนือล้ำหัว แค่พลังของเทียนชิงคนเดียวนั้นมันก็ทำให้คนทั้งหลายไม่กล้าจะมองตรงๆ แล้ว
ด้วยพลังของแปดบรรพบุรุษนั้นมันย่อมจะปกคลุมทั้งโลกหล้าไว้สิ้น
วินาทีที่พวกเขาปรากฏขึ้นมานั้น คนทั้งบริเวณต่างต้องสั่นสะท้าน!
หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับไปด้วยหน้าเจื่อน “กล้ามาลบหลู่เต๋าบรรพกาล พวกมันสมควรตายหรือไม่?”
เทียนชิงนั้นหัวเราะกลับมา “ไม่ต้องมาวางท่า! เจ้าคิดว่าบรรพบุรุษผู้นี้ไม่รู้หรือว่าบนมหาพิภพถงเทียนมันเกิดอะไรกันขึ้นบ้าง? หึๆ บรรพบุรุษผู้นี้ต้องขอบคุณพวกเจ้าทั้งหลายจริงๆ ที่ช่วยขับไล่เย่หยวนไปให้!”
หลินเฉาเถียนนั้นมองกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด อีกฝ่ายนี้มันมีฝีปากไม่น้อย!
ซ้ำแผลได้ถูกจุด!
หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับไป “ทำไมเล่า? หรือว่าบรรพบุรุษเทียนชิงนั้นจะคิดว่าแค่เต๋าสวรรค์ดึงพลังกฎของพวกเรากลับไปแล้วพวกเจ้าจะสามารถเอาชนะได้ง่ายๆ? หึๆ ถ้าคิดเช่นนั้นก็เข้ามา!”
แต่เทียนชิงนั้นกลับไม่คิดลงมือเองใดๆ เขานั้นยืนนิ่งด้วยความมั่นใจ “บรรพบุรุษผู้นี้รู้ดีว่าพวกเจ้านั้นแย่งเอาสมบัติล้ำค่ามาจากเย่หยวนมัน! แต่ดูแล้วพวกเจ้าก็ยังไม่อาจจะหลุดพ้นใดๆ ได้นี่! น่าเสียดายจริงๆ! เจ้าคิดว่าแค่ได้สมบัติล้ำค่ามาแล้วจะหยุดยั้งบรรพบุรุษคนนี้ได้หรือ?”
หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับมาด้วยความหนักแน่น “แม้ว่าบรรพกาลผู้นี้จะไม่บรรลุหลุดพ้นแต่… ข้าก็ไม่เกรงกลัวเจ้า!”
เทียนชิงนั้นยังคงตอบกลับมาด้วยความนิ่งพร้อมมือไพล่หลัง “เช่นนั้นหรือ? เฮอะๆ ลี่เอ๋อ เจ้าลองให้มันได้เห็นพลังที่แท้จริงของเผ่าเทวาเราเสียหน่อยเถอะ!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวมันก็ปรากฏร่างของสาวงามผู้หนึ่งขึ้น
นางงามผู้นั้นสวยงามจนแทบล้มอาณาจักรได้ สวยงามจนแม้แต่จันทรายังต้องหลบแสงนาง!
แล้วมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเยวี่ยเมิ่งลี่?
เพียงแค่ว่าสภาพเยวี่ยเมิ่งลี่ในตอนนี้มันแตกต่างจากตอนที่เย่หยวนไปพบนางมากมาย!
เพราะว่าเวลานี้คลื่นพลังของตัวนางนั้นมันกลับไม่ได้ด้อยไปกว่าเทียนชิงเลย!
จะอย่างไรเสียในหมู่บรรพบุรุษทั้งแปดตระกูลนั้นตัวเทียนชิงก็เหนือล้ำกว่าที่จะเอาบรรพบุรุษตระกูลอื่นๆ มาเทียบเคียงได้
แต่เวลานี้คลื่นพลังจากกายของเยวี่ยเมิ่งลี่มันกลับไม่ได้ด้อยไปกว่าเทียนชิง!
หลินเฉาเถียนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกมองดูนางอย่างตกตะลึง
เวลานี้สิ่งที่เรียกว่าความสิ้นหวังมันได้ก่อตัวขึ้นในจิตใจของทุกผู้คน!
………………………..