“นี่มัน… มันแค่เล่นกับเหยื่อชัดๆ!”
“จุนเถียนผู้นั้นมันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ! เต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นกลับกลายเป็นดั่งแค่มดปลวกไปเลย”
“เขานั้นคิดจะหยอกล้อทรมานเต๋าบรรพกาลทั้งหลายเล่น ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงสามารถสังหารเต๋าบรรพกาลลงได้ด้วยนิ้วเดียว!”
…
เบื้องหน้าของจุนเถียนนั้นเต๋าบรรพกาลใดๆ มันก็ไร้ค่าสิ้น
คลื่นพลังรุนแรงเปลี่ยนฟ้าดินนั้นมันไม่อาจจะนับถือว่าเป็นพลังใดๆ ต่อหน้าจุนเถียนได้เลย
เขานั้นเดินหลบไปมาพร้อมขยับแขนเสื้อหนึ่งทีก็สามารถทำร้ายผู้คนมากมายให้ปาดเจ็บสาหัสได้
เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครคิดยอมแพ้
หลังจากที่ลุก พวกเขาก็ลุกขึ้นมาต่อทันที
ล้มลุกคลุกคลานอยู่อย่างนั้น
เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วพวกเขาทั้งหลายต่างเตรียมตัวที่จะตายมากันสิ้น
แสงจันทร์ไร้สุด จุติอนันต์!
เยวี่ยเมิ่งลี่ยกแขนขึ้นส่งวิชาลวงตานั้นเข้าโจมตีจุนเถียนสุดตัว
แต่จุนเถียนนั้นกลับยิ้มตอบกลับมา “หึๆ เป็นวิชาลวงที่ดี น่าเสียดาย… เพราะเต๋าทั้งหมดของพวกเจ้ามันเป็นข้าที่สั่งสอนไว้ คิดจะใช้วิชานั้นมาจัดการข้ามันจะไม่โง่ไปหรือ?”
จุนเถียนนั้นหันมามองเยวี่ยเมิ่งลี่จนทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นสัมผัสได้ถึงรสหวานๆ ในลำคอ จิตศักดิ์สิทธิ์ของนางนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักจนต้องกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง
เพียงแค่การจ้องมองนี้มันก็รุนแรงพอจะทำลายวิชาลวงที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาพิภพถงเทียนลงได้
“ระวัง!”
วินาทีเดียวกันนั้นมันก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่
แต่ก่อนที่นางจะทันได้เงยหน้ามองดูเรื่องราวตัวนางก็ถูกกระแทกจอยลอยลิ่วไปไกลเสียแล้ว
“ท-ท่านเทียนชิง!” เยวี่ยเมิ่งลี่ได้เห็นว่าผู้ที่กระแทกตัวนางจนลอยลิ่วออกมานั้นมันมิใช่ใครนอกจากตัวเทียนชิง
ในวินาทีก่อนนั้นเทียนชิงที่เห็นการโจมตีจากจุนเถียนพุ่งเข้าใส่เยวี่ยเมิ่งลี่ได้เข้ามากระแทกร่างของนางหลบการโจมตีนั้นไป
เวลานี้ร่างของเทียนชิงนั้นมันมีรูกว้างไม่เหลือสภาพของคนเป็นอีกต่อไป
เขานั้นรับดัชนีของจุนเถียนไว้จนทำให้พลังชีวิตใดๆ ของเขาเหือดแห้งลงสิ้น
เทียนชิงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ลี่เอ๋อ ค-ครั้งนี้ ถือเสียว่าข้าชดใช้เรื่องที่เคยทำไว้กับเจ้า! ข-ข้าต้องขอโทษจริงๆ!”
พลังชีวิตของเขานั้นค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็วไม่มีหวังจะฟื้นคืนใดๆ อีก
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความขมขื่น นางนั้นส่ายหัวออกมาอย่างรุนแรง “ไม่ ท่านนั้นไม่ได้ทำผิดใดต่อข้าเลย! ท-ท่านนั้นเป็นผู้อาวุโสที่ดีต่อข้ามาก!”
เทียนชิงนั้นตอบกลับมาด้วยลมหายใจอ่อนแผ่ว “บาปนี้… ที่ข้าทำไว้มันหนักหนาเหลือเกิน ต่อให้ต้องตายไปเป็นหมื่นครั้งมันก็คงไม่พอจะชดใช้! ฮ่าๆ เสียดายแค่ว่า… ข้านั้นมีเพียงแค่ชีวิตเดียว! ข้า… เกลียดตัวเองเหลือเกิน!”
เทียนชิงนั้นใช้ลมหายใจสุดท้ายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ากว้าง
จากนั้นเขาก็เลือกจะหลับตาลงและจากไปจากโลก
เวลานี้พลังชีวิตของเขามันหมดสิ้นลงไป ไม่เหลือร่องรอยของผู้มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว
“ท่านเทียนชิง!” เยวี่ยเมิ่งลี่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกภายในได้
นางนั้นย่อมจะเกลียดชังเทียนชิงที่จับตัวนางไปล้างสมอง
เพียงแค่ว่านางนั้นแยกออกว่าอันใดถูกหรือผิด
ในเผ่าเทวานั้นเทียนชิงคอยดูแลสั่งสอนนางอย่างสุดกำลังกายและใจทำให้นางพัฒนาขึ้นได้อย่างเหนือล้ำ
ความอ่อนโยนราวผู้เป็นพ่อของเขานั้น เยวี่ยเมิ่งลี่รับรู้ถึงมันอย่างดี
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเป็นคนมีเหตุผล นางย่อมเข้าใจดีว่าคนที่ผิดอย่างแท้จริงมันมิใช่เทียนชิงเลย
แม้แต่เย่หยวนยังให้อภัยเทียนชิง มีหรือที่นางจะยังถือแค้นโกรธเคืองใดๆ ได้?
เวลานี้เทียนชิงได้ตายลงเพื่อช่วยเหลือนาง มีหรือที่นางจะไม่รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจเลย?
“จุนเถียน ข้าจะสู้กับเจ้าให้มันตายกันไปข้าง!” เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้นมาลั่นฟ้าดินก่อนจะพุ่งร่างเข้าไปอย่างไม่สนใจป้องกันใดๆ อีก
แต่อีกด้านตัวจุนเถียนนั้นกลับยกมือขึ้นฟาดเบาๆ ส่งร่างของผางเจิ้นที่อยู่ใกล้ๆ จนร่างเขาจมลงดินลึก
ผางเจิ้นนั้นพยายามขยับตัวอย่างสุดแรงแต่ก็ไม่อาจจะหยุดจากหลุมดินนี้ได้
เยวี่ยเมิ่งลี่ใช้วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ออกมาก่อนจะเข้าปะทะกับจุนเถียนอย่างไม่คิดชีวิต
มุมปากของจุนเถียนกระตุกขึ้นมา “หึๆ มดปลวกโอหัง! ความโกรธแค้นเช่นนี้มันไม่มีค่าใด อ่า… แม้ว่าเจ้านั้นจะเป็นมดแต่เจ้านั้นมีรูปงามไม่น้อย วันหน้าจงไปติดตามข้า! หลังข้าสังหารพวกมันจนหมดแล้วข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่ต่ำตมเช่นนี้เอง”
พูดจบแล้วเขาก็ชี้นิ้วใส่เยวี่ยเมิ่งลี่จนนางสิ้นสติลง
ปัง!
ปัง!
ปัง!
จุนเถียนนั้นตบทุกคนที่อยู่รอบๆ จนลงไปนอนกองกับพื้นด้วยมือข้างเดียว
“เอาล่ะ ข้าเบื่อจะเล่นด้วยแล้ว ถึงเวลาส่งพวกเจ้าไปเสียที ที่รกร้างเช่นนี้แค่อากาศก็ยังแย่เลย มันทำให้ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!” จุนเถียนนั้นกล่าวขึ้นอย่างขยะแขยงก่อนจะเดินเข้าไปหาเยวี่ยเมิ่งลี่ที่นอนกองอยู่บนพื้น
แต่ในเวลานั้นเองที่สีหน้าของจุนเถียนมันก็ต้องเปลี่ยนสีไปก่อนจะหันไปมองทางเย่หยวนอย่างตกตะลึง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่เย่หยวนนั้นกลับลุกขึ้นมายืน
สายตาของเขานั้นจ้องมองดูจุนเถียนพร้อมด้วยคลื่นพลังบนร่างกายที่พุ่งทะยานอย่างรุนแรง
ตูม!
วินาทีเดียวกันนั้นเองเขาแห่งถงเทียนมันก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น
คลื่นพลังงานฟ้าดินต่างๆ นั้นไหลรั่วออกมาราวกับว่าสวรรค์มีรอยร้าว
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏอีกเงาร่างหนึ่งขึ้นมาข้างกายเย่หยวน
ชุดขาว!
ตาขุ่น!
นี่มันคือเย่หยวนตาขุ่นผู้เยือกเย็นนั่นเอง!
จากนั้นเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมา “จากวันนี้ไปเจ้าคือเต๋าสวรรค์! แปลง! เต๋า!”
เย่หยวนชี้นิ้วขึ้นมาทำให้ร่างของเย่หยวนตาขุ่นนั้นแตกสลายลงไปทันที
ร่างของเขานั้นแตกสลายลงเป็นจุดแสงนับหมื่นๆ ล้านจุดก่อนจะค่อยๆ ซึมกลับเข้าไปในร่างของเย่หยวน
วินาทีเดียวกันนั้นเองที่โลกใบน้อยของเย่หยวนมันได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน!
โลกที่ไร้ชีวิตนั้นมันกลายเป็นโลกที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตทันที
หญ้าเขียวค่อยๆ หยั่งรากลงผุดขึ้นจากดิน ต้นไม้งอกเงยเผยให้เห็นใบเขียวงาม
เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิต!
ตะวัน จันทราต่างหมุนวนอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง
ภูเขาแม่น้ำและทะเลนั้นต่างเริ่มมีแรงไหลซัดไปมา!
ทุกสิ่งอย่างนั้นมันเริ่มทำงานขึ้นมาภายใต้กฎบางอย่าง
เย่หยวนในเวลานี้ลอยตัวสูงอยู่บนท้องฟ้า ราวกับว่าเป็นพระเจ้าที่ก้มลงมองโลกมนุษย์
เขานั้นรู้สึกราวกับว่าตนได้กลายเป็นสวรรค์!
พลังงานชีวิตมากมายพุ่งพล่านขึ้นมาในโลกใบน้อยทำให้เขาเริ่มจะหว่านชีวิตของสัตว์น้อยใหญ่ขึ้น
จุนเถียนนั้นเบิกตากว้างขึ้นสีหน้าเฉยชาดูถูกโลกของเขานั้นมันค่อยๆ จางหายลงไป
เขานั้นได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้น “นี่มัน… นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? มดตัวหนึ่งจะเข้าใจหลักการของการแปลงเต๋าได้อย่างไร? ในที่รกร้างเช่นนี้มันกลับยังมีคนที่… สามารถบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้?”
ดวงตาของเย่หยวนนั้นไม่เคยละไปจากตัวจุนเถียนแม้แต่ครั้งเดียว
“เต๋าสวรรค์นั้นเลือดเย็น! เฮอะ ช่างเป็นเต๋าสวรรค์ที่เลือดเย็นอย่างแท้จริง! จุนเถียน ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ! หากไม่ได้เจ้าช่วยเตือนแล้วมันคงไม่ง่ายหากข้าคิดจะบรรลุขึ้นมาเช่นกัน!” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
จุนเถียนนั้นผงะหลังไปทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดก่อนหน้าของตน
เต๋าสวรรค์นั้นเลือดเย็น!
เขานั้นตกตะลึงอย่างสุดใจ เจ้าหมอนี่มันกลับหาทางบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้จากคำพูดสั้นๆ แค่นั้น?
คำพูดสั้นๆ ของนักปราชญ์มันอาจจะมีความหมายอย่างมากมายต่อผู้ตั้งใจฟัง
จุนเถียนนั้นไม่นึกฝันว่าคำพูดที่ไม่ได้คิดอะไรของเขานั้นมันกลับจะสร้างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมา!
เจ้าหมอนี่มันมีพรสวรรค์จนเกินจินตนาการ!
เพราะแท้จริงตัวเย่หยวนนั้นได้คิดหาทางที่จะบรรลุจุดนี้มานานแสนนาน
เขานั้นรู้สึกเสมอว่าโลกใบน้อยของตนมันยังขาดอะไรไปบางอย่าง
เขานั้นเคยคิดถึงเต๋าสวรรค์แต่ตัวเขาไม่อาจจะเข้าใจวิธีการสร้างเต๋าสวรรค์ได้เลย
เต๋าสวรรค์นั้นมันเป็นสิ่งที่สูงล้ำเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้สิ้น
ไม่มีใครเข้าใจได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
แต่ในร่างของเย่หยวนนั้นมันมีตัวตนที่เลือดเย็นอยู่!
เจ้าหมอนั่นไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น
ตั้งแต่ที่เย่หยวนเริ่มพัฒนาโลกของตนมา ตัวตนนี้มันก็ได้ปรากฏขึ้นตั้งแต่อาณาจักรเม็ดต้นกำเนิด
ไม่นานก่อนหน้านี้เย่หยวนยังคงคิดสงสัยว่าตัวของเขานั้นเลือกสร้างวรุยทธบ่มเพาะขึ้นมาได้อย่างถูกต้องจริงหรือไม่
เพียงแค่ว่าหลังๆ มานี้ตัวเย่หยวนยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความมั่นใจในตัวเองของเขาเพิ่มพูนและมองข้ามปัญหานี้ไปในที่สุด
จนสุดท้ายเย่หยวนนั้นมีกำลังมากพอที่จะกดตัวเย่หยวนตาขุ่นนั้นไว้อย่างสิ้นเชิงเขาจึงไม่ต้องกังวลใดๆ อีก
เมื่อไม่กังวลถึง เขาก็ย่อมจะมองข้ามไป
แต่คำพูด ‘เลือดเย็น’ ของจุนเถียนนั้นมันทำให้เย่หยวนได้สติขึ้นมาทันที เห็นชัดเจนว่าเรื่องราวมันติดปัญหาที่ตรงใด!
ที่แท้แล้วเย่หยวนตาขุ่นผู้นั้นไม่ได้แค่เกิดมาเพราะความผิดพลาดของวรยุทธบ่มเพาะ
เขานั้นคือเต๋าสวรรค์!
จุดสำคัญที่สุดในการบรรลุสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์มันอยู่ที่ตัวเขานั้นเอง!