“หึ เจ้ารอง เจ้านี่มันช่างหลอกลวงคนได้เก่งกาจจริง มันออกมาอย่างสวยงามตามที่เจ้าคิดเลยนี่! ข้าที่เป็นพี่เจ้านี้ต้องขอยอมรับในความชั่วร้ายของเจ้าจริงๆ!” องค์ชายใหญ่นั้นยิ้มขึ้นมาด้วยใบหน้าเย็นชา
ส่วนทางด้านองค์ชายรองนั้นต้องยืนนิ่งอย่างไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่เขานั้นก็ตื่นเต้นอย่างมาก!
ก่อนที่เย่หยวนจะลงมือนั้นเขาแทบจะหยุดหายใจไปแล้ว กลัวว่าเย่หยวนจะพลาดพลั้งใดๆ ไป
ใครจะไปคาดคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับเหมือนมีพลังแห่งสวรรค์ช่วยเหลือ สามารถหลอมสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายได้อย่างสวยงาม!
“ท่านพี่ มันเป็นท่านเองแท้ๆ ที่เล่นต่ำแต่กลับจะมาโทษข้าหรือ! น้องของท่านนี้ต้องขอยอมรับในความหน้าด้านจริงๆ” องค์ชายรองก็ไม่น้อยหน้าตอกกลับไป
“หึ เจ้าอย่าได้ใจเร็วไปนัก! การหลอมสมุนไพรสวรรค์นั้นมันแค่ก้าวแรก! โอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันต้องใช้สมุนไพรสวรรค์มากมายผสานกัน ความซับซ้อนของมันนั้นมิใช่สิ่งที่จะเอาโอสถสวรรค์ปรับฐานมาเทียบได้!” องค์ชายใหญ่กว่าขึ้นมา
องค์ชายรองจึงได้ปั้นท่ามั่นใจตอบกลับไป “ท่านพี่ ท่านคิดมากไปแล้ว! เย่หยวนนั้นสร้างปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าครั้งนี้เขาจะไม่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีก?”
เวลานี้แม้แต่ตัวจักรพรรดิเฉียวไคหยวนเองก็ยังต้องนั่งตรงมองดูเรื่องราวอย่างไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
…
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบด้านแม้แต่น้อย
เพราะเขานั้นกำลังตั้งหน้ากับการหลอมโอสถอยู่
เย่หยวนนั้นมีความเข้าใจต่อวิชาโอสถที่แตกต่างจากคนทั้งหลายมาก
คนส่วนมากนั้นจะมองว่าต้องฝึกฝนโอสถระดับสูงๆ ไว้และทิ้งพื้นฐานไปสิ้น
พวกเขานั้นคิดว่าหากฝึกโอสถที่ยากกว่าได้ มันก็ย่อมจะทำให้พวกเขาเข้าใจและหลอมโอสถระดับต่ำๆ ได้ง่ายดาย
แต่มันมิใช่!
ความเข้าใจเช่นนั้นมันกลับด้าน!
ในความเข้าใจของเย่หยวนนั้น พื้นฐานต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุดกับโอสถทุกขั้นทุกระดับ
โอสถระดับหนึ่งเช่นกันนั้นต่อให้มันจะเป็นโอสถที่ซับซ้อนยุ่งยากแค่ไหนมันก็ต้องสร้างขึ้นมาจากพื้นฐานเดียวกันสิ้น
ตราบเท่าที่สามารถฝึกฝนพื้นฐานทั้งหมดได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโอสถที่หลอมได้ยากแค่ไหนมันก็สามารถทำได้ทั้งนั้น
ห้าปีมานี้เย่หยวนได้ใช้เวลาศึกษาโอสถสวรรค์พื้นฐานทั้งหลายและเข้าใจโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งอย่างดี
ปีที่ผ่านๆมานี้เย่หยวนได้ศึกษาโอสถสวรรค์พื้นฐานไปกว่ายี่สิบชนิด
แต่ละชนิดนั้นเขาก็ได้ฝึกฝนจนถึงระดับเก้าขั้นสุดทั้งสิ้น!
หากให้คนอื่นได้รู้เรื่องนี้มันคงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่มหาศาลขึ้นมาอีกครั้งแน่
แต่คนจะรู้หรือไม่มันไม่เกี่ยวกัน
เพราะฝีมือของเขานั้นมันจะแสดงออกมาเวลาที่เขาหลอมโอสถฟื้นฟูเทพนี้!
แน่นอนว่าการจะก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ในเวลาสั้นๆ แค่ห้าปีนั้น เขาย่อมจะไม่ได้ใช้แค่ความพยายาม เขานั้นต้องดึงเอาประสบการณ์ในวิชาโอสถนับพันๆ ปีออกมาใช้ทั้งยังต้องพึ่งพาพรสวรรค์ที่มหาศาลด้วย
ไม่มีสิ่งใดที่จะขาดไปได้!
เวลานี้เย่หยวนได้ฝึกฝนสัญชาตญาณขึ้นไปจนถึงระดับที่น่ากลัวยิ่ง
แม้ว่าเขานั้นจะไม่เคยสัมผัสเหล่าสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนี้มาก่อนแต่ด้วยสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งและความเข้ากันได้ถึงสี่แต้มนั้นมันทำให้เขาสามารถหลอมกลั่นได้ไม่ยากเย็น
ฟุบ!
เย่หยวนนั้นปล่อยปราณเทวะออกไปช้อนเอาสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายที่ถูกกลั่นแล้วเข้าสู่หม้อหลอมตามๆ กัน
การหลอมโอสถมันได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ในวินาทีนี้ เขาได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดลงในหม้อหลอมใบนี้!
แม้ว่ามันจะดูง่ายแต่แท้จริงการหลอมโอสถฟื้นฟูเทพนั้นก็ยังนับว่าเป็นความท้าทายต่อเย่หยวนไม่น้อย
ด้วยนิสัยของเย่หยวนนั้นเขาย่อมจะไม่มีทางเข้าสนามศึกที่ตัวเองไม่มั่นใจว่าจะชนะได้
เวลาหนึ่งเดือนก่อนนี้เย่หยวนได้ศึกษาส่วนประกอบของกล้วยไม้หยกจันทราและรากเขาแห่งฟูยูรวมไปถึงสมุนไพรสวรรค์อื่นๆ อย่างละเอียด
ส่วนตัวสูตรโอสถนั้น เขาได้วิเคราะห์มันไปนับครั้งไม่ถ้วน
แม้ว่ามันจะซับซ้อนจริงแต่มันก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับเย่หยวน
ทั้งยังเรื่องที่เขามีความเข้ากันได้ถึงสี่แต้ม มันช่วยให้เขาได้มองเห็นมากขึ้น
เย่หยวนนั้นมีการควบคุมไฟ ทักษะการหลอมในระดับปรมาจารย์ มันย่อมจะทำให้เกิดเสียงโห่ร้องอย่างตกตะลึงขึ้นรอบด้าน
สีหน้าของพวกหลินหลานทั้งหลายนั้นมันเหยเกจนถึงที่สุด
แม้แต่จักรพรรดิที่มองดูเรื่องราวอยู่เองก็ยังต้องลุกมามองที่ริมหน้าต่าง จ้องมองดูการหลอมโอสถของเย่หยวน
แต่ไม่นานเย่หยวนก็เริ่มแสดงท่าทีเหนื่อยอ่อนออกมา
โอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันซับซ้อนจนเกินไป!
เทียบกับโอสถสวรรค์ระดับพื้นฐานแล้ว มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ามาก
การใช้สมุนไพรสวรรค์หลายสิบชนิดไปพร้อมๆ กันนั้นมันย่อมจะทำให้ความยากเพิ่มพูนขึ้นไปอีกหลายต่อหลายเท่า
ความเข้ากันได้!
สุดท้ายมันก็กลับมาที่ความเข้ากันได้!
สี่แต้มนั้นมันแทบจะไม่พอทำอะไร!
เมื่อความยากเพิ่มพูนขึ้นนั้น เย่หยวนก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงช่องว่างของความเข้ากันได้อีกครั้ง
เย่หยวนนั้นเริ่มจะหอบหายใจถี่ขึ้น
เหงื่อบนหน้าผากของเขามันก็เริ่มผุดขึ้นมาให้เห็นชัด
รอยยิ้มค่อยๆ กลับมาปรากฏขึ้นบนหน้าของหลินหลานและเซี่ยหัวอีกครั้ง
“จบแล้ว! ในที่สุดมันก็จบ! ให้ตายสิ ทำข้ากลัวไปหมด! หึ ความเข้ากันได้แค่นี้มันก็คิดจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพหรือ โง่เง่าเสียจริง!” เซี่ยหัวกล่าวขึ้น
ก่อนหน้านี้ตัวเขานั้นได้แต่นั่งตัวเกร็ง
เวลานี้ในที่สุดเขาก็ต้องถอนใจยาวออกมา
หลินหลานหัวเราะขึ้นตาม “ความยากของโอสถฟื้นฟูเทพนั้นแม้แต่ความเข้ากันได้ของราชครูผู้นี้ยังขาด แค่ความเข้ากันได้น้อยนิดของมันนั้น มีหรือที่มันจะหลอมอะไรขึ้นมาได้?”
องค์ชายใหญ่นั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้เห็น “เจ้ารอง นี่หรือคือปาฏิหาริย์ที่เจ้าพูดถึง? ฮ่าๆๆ… ข้าเรียกมันว่าไม่ประเมินตัวเองนะ! โอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันยังหลอมได้ไม่ถึงหนึ่งในสามแต่ท่าทางของมันนั้นก็แทบไม่อาจฝืนต่อไหวแล้ว! ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าจะยังพลิกกลับมาได้อย่างไร!”
องค์ชายรองนั้นตอนแรกๆ ยังมีความหวังไม่น้อยแต่เวลานี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังต้องวิตกกังวล
เขานั้นสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยอ่อนของเย่หยวนได้ชัดเจน
แต่การหลอมนั้นมันยังทำไปได้ไม่ถึงหนึ่งในสามด้วยซ้ำ!
องค์จักรพรรดิหันมามองพร้อมส่ายหัวกล่าว “สถานการณ์มันคงเกินแก้ได้แล้ว!”
จากนั้นเขาก็เดินกลับมานั่งที่อีกครั้ง
เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านไป เย่หยวนนั้นยิ่งแสดงท่าทีเหนื่อยอ่อนออกมาชัดเจน
เวลานี้แม้แต่มือของเขาก็ยังสั่นจนไม่อาจห้าม!
ไม่ว่าจะเป็นพลังกาย พลังปราณหรือพลังวิญญาณดั่งเดิม เย่หยวนต้องใช้มันออกมาอย่างถึงที่สุด
เมื่อหลินหลานได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาเรื่อยๆ
“หึๆ พลังกายและวิญญาณดั่งเดิมยังพอรับได้แต่ปราณเทวะของมันนั้นไม่พอแล้ว! มันนั้นจะอย่างไรก็แค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลาง ปราณเทวะของมันจึงไม่พอที่จะใช้หลอมโอสถฟื้นฟูเทพเลย! หลังจากที่ปราณเทวะของมันหมดสิ้นลงแล้วราชครูผู้นี้อยากจะเห็นนักว่ามันจะยังเอาอะไรมาหลอมโอสถ!” หลินหลานกล่าวขึ้นมา
แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ยกเท้าขึ้นมากระทืบลงพื้น!
“จงมา!”
เย่หยวนร้องลั่นก่อนจะทำให้เกิดคลื่นพลังดูดกลืนมหาศาลดึงเอาพลังงานวิญญาณรอบๆ ไปหาตัวเอง
เย่หยวนนั้นไม่คิดหยุดมือลงและส่งพลังงานวิญญาณที่ได้มาเข้าสู่หม้อหลอมทันที
คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้าง!
แบบนี้ก็ทำได้หรือ?
“สร้างค่ายกลในพริบตา! ยืมพลังนั้นใช้หลอมโอสถ! เจ้าหมอนี่…” หลินหลานที่ยิ้มอยู่นั้นต้องผงะไปทันที
เย่หยวนนั้นเหมือนรอให้เขาพูดจบแล้วค่อยลงมือ
เขานั้นพูดยังไม่ทันขาดคำ เย่หยวนก็ตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง!
การยืมพลังของฟ้าดินมาหลอมโอสถนี้มันเป็นวิธีการที่สุดแสนจะลึกลับซับซ้อน
เวลาที่หลอมโอสถปกติแล้วมันย่อมจะไม่มีใครกล้าทำ
เพราะว่านี่มิใช่พลังของตัวพวกเขาเอง มันรู้เลยว่าต้องควบคุมและใช้งานมันอย่างไร
ต่อให้จะเป็นตัวเย่หยวนเอง เขาก็ไม่คิดจะใช้วิธีนี้ออกมาหากไม่จนมุมจริงๆ
“หลอม!”
เย่หยวนร้องขึ้นมาพร้อมเต๋าไฟและค่ายกลที่จางหายไปจากนั้นเขาก็ต้องทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นด้วยท่าทางสุดแสนเหนื่อยอ่อน
เขานั้นเหนื่อยมากจริงๆ!
โอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันทำให้เขาแทบหมดสติลง
“ให้ตายสิเจ้าความเข้ากันได้! แทบจะเอาชีวิตข้าไปแล้ว!” เย่หยวนบ่นออกมา
แต่เวลานั้นเองที่หลินหลานได้เดินมาถึงตัวเย่หยวนพร้อมกล่าว “ความเข้ากันได้สังหารเจ้าไม่ลง แต่ราชครูผู้นี้จะเอาชีวิตเจ้าไปเอง!”