“ที่นี่?”
เย่หยวนมองดูสองเกาะที่อยู่ด้านหน้านั้นอย่างไม่อาจทราบได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
ระหว่างเกาะทั้งสองนั้นมันเหมือนมีรอยแยกของฟ้าดินเกิดขึ้น
ดูสภาพแล้วมันคงเกิดขึ้นมาจากพลังดาบของใครสักคนที่ผ่าเกาะนี้ออกเป็นสอง!
เวลานี้เย่หยวนนั้นอยู่ห่างจากเกาะนี้อย่างมากแต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังปราณดาบที่ทำให้จิตใจต้องสั่นระรัว
ข้างกายของเย่หยวนนั้นมีชายผู้มีหัวเป็นมังกรและร่างเป็นมนุษย์ยืนอยู่ มันจะเป็นใครไปได้นอกจากราชามังกรน้ำดำ?
เวลานี้มันผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้วหลังจากที่เย่หยวนเดินทางไปยังแดนมังกรหลับ
เย่หยวนนั้นไม่ได้ไปจากทะเลหนามใต้ในทันทีและคอยอยู่ดูแลจัดการเรื่องราวให้สงบเข้าที่เข้าทางในทะเลหนามใต้
ราชามังกรน้ำดำนั้นย่อมจะเกลียดชังเย่หยวนจนถึงกระดูกดำแต่เขานั้นก็ไม่อาจจะตำหนิการกระทำนี้ของเย่หยวนได้ เพราะเวลานี้ตัวเขานั้นเป็นได้แค่คนพิการที่ไม่มีพลังใดๆ ต่อต้านผู้คน
หลังจากอยู่ต่อมาอีกนับปีเย่หยวนก็ย่อมจะเข้าใจถึงเรื่องราวของเผ่าทะเลต่างๆ ได้มากขึ้น
ไม่นานก่อนหน้านี้เย่หยวนได้ฟังจากคำเล่าของฉลามดำว่าหลายหมื่นปีก่อนนั้นมันได้มียอดฝีมือชาวมนุษย์บุกลงเจ็ดทะเลเพื่อจะเดินทางไปยังทิศใต้
ในตอนนั้นมันย่อมจะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในเจ็ดทะเลอย่างมาก
เจ็ดทะเลในตอนนั้นมันไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นเจ็ดราชวงศ์อย่างในตอนนี้ พวกเขาทั้งหลายนั้นอยู่ใต้การปกครองของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนสามคนด้วยกัน
การปรากฏตัวขึ้นของยอดฝีมือชาวมนุษย์นั้นมันทำให้ยอดฝีมือทั้งสามนั้นคิดร่วมมือกันจัดการภัยร้าย
ผลสุดท้ายมันจึงทำให้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนทั้งสี่นั้นได้ปะทะกันที่เกาะตรงหน้าเย่หยวนนี้
ยอดฝีมือชาวมนุษย์คนนั้นจัดการสังหารยอดฝีมือชาวทะเลทั้งสามคนลงด้วยดาบเดียวบนเกาะแห่งนี้
ที่เกาะมันแยกออกเป็นสองซีกนั้นเองก็เพราะว่าดาบเดียวของยอดฝีมือชาวมนุษย์คนนั้น!
ตั้งแต่นั้นมาเจ็ดทะเลมันก็ตกสู่ห้วงความโกลาหล
จนถึงตอนที่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งเจ็ดนั้นก้าวขึ้นมามันจึงทำให้เจ็ดทะเลเริ่มมีความสงบและการปกครองที่เป็นระบบระเบียบขึ้นอย่างทุกวันนี้
“ใช่แล้ว ที่นี่แหละ! คือที่เกิดเหตุยิ่งใหญ่สะท้านเจ็ดทะเลในคราวนั้น ตอนที่เกิดเรื่องข้าเองก็ยังมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นต้นและโชคดีที่ได้เห็นมันจากระยะไกล ยอดฝีมือชาวมนุษย์คนนั้นมันแข็งแกร่งจนบ้าคลั่ง!”
เมื่อพูดถึงคนผู้นั้นราชามังกรน้ำดำก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม
เพราะจะอย่างไรเสียเผ่าทะเลนั้นย่อมจะได้เปรียบมนุษย์ในการต่อสู้กลางทะเล
แต่คนผู้นั้นกลับเอาชนะสามยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนชาวทะเลได้ด้วยตัวคนเดียว
นี่มันคือพลังที่ทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุกสั่น
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหรี่ตาลงนึกย้อนถึงตำนานของคนผู้หนึ่งทันที
โฉปู้ฉุน!
เมื่อคำนวนถึงช่วงเวลาแล้วมันก็น่าจะเป็นช่วงการหายตัวไปของโฉปู้ฉุนพอดี
ตำนานว่ากันไว้ว่าโฉปู้ฉุนนั้นเดินทางลงใต้ไป เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายเองก็ไม่มีใครพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้ได้
แต่ดูสภาพตรงหน้านี้แล้วมันคงเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน
เย่หยวนนั้นไม่อาจจะนึกได้เลยว่ามันมีใครในทวีปพิรุณใสนี้นอกจากตัวโฉปู้ฉุนที่สามารถจะเอาชนะยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเผ่าทะเลถึงสามคนได้ด้วยตัวคนเดียวอีก!
แต่จู่ๆ เย่หยวนนั้นก็ก้าวเดินเข้าไปยังเกาะนั้น
ราชามังกรน้ำดำที่ได้เห็นนั้นต้องกล่าวห้ามขึ้นทันที “เจ้าเข้าไปไม่ได้! ปราณดาบในที่แห่งนี้มันแฝงไปด้วยพลังของยอดเต๋า มันอยู่ติดกับเกาะนี้มานานนับหมื่นๆ ปีและยังไม่จางหายไปไหนแม้แต่น้อย! ต่อให้จะเป็นเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวอย่างพวกข้าเองก็ยังไม่อาจจะเข้าไปถึงจุดที่ดาบถูกฟันได้เลย! หากเจ้าเข้าไปเจ้านั้นจะได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่!”
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและยังคงเดินต่อไป
ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่พลังของปราณดาบอันเย็นเยือกมันก็รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ฟุบ!
ใบหน้าของเย่หยวนถูกปราณดาบนั้นเฉือนเข้าจนเกิดเป็นแผลยาว
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจและเดินต่อไป
พร้อมๆ กันนั้นปราณดาบของตัวเขามันก็ถูกปลดปล่อยออกมาสู่ กลายร่างเป็นต้นไม้น้อยๆ ในมือ
เมื่อราชามังกรน้ำดำได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ได้แต่ต้องด่าแช่งออกมา “ไม่ฟังคำผู้ใหญ่ ระวังจะได้เจอความฉิบหาย! พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันมิใช่สิ่งที่เจ้าจะเอาตัวไปเทียบได้ ขอให้โดนปราณดาบนั้นสับจนเละเป็นชิ้นๆ ไปเถอะ!”
ราชามังกรน้ำดำนั้นมีความรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจกับเรื่องของเย่หยวน
เขานั้นอยากจะให้เย่หยวนตายไปให้พ้นๆ จริง
แต่สภาพของทะเลหนามใต้ตอนนี้มันก็ยังขาดเขาไปไม่ได้
ในความคิดของเขานั้นการกระทำของเย่หยวนมันไม่ได้ต่างจากการรนหาที่ตาย
ต่อให้เย่หยวนจะควบคุมสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกจนเอาชนะเขาลงได้แต่ปราณดาบนี้มันแตกต่างกับพลังของราชามังกรน้ำดำสิ้นเชิง
หมี่เทียนเองก็กล่าวขึ้นมาจากภายในทะเลจิตของเย่หยวน “ช่างเป็นปราณดาบที่รุนแรงนัก เจ้าเข้าไปไม่ได้แน่”
ดูท่าเขาเองก็คงจะสัมผัสได้ถึงปราณดาบรุนแรงนี้จนต้องตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล
“ข้ารู้” เย่หยวนตอบกลับไป
“เข้าไปเช่นนี้เจ้าจะตาย” หมี่เทียนกล่าว
“ข้าไม่ตายหรอก ข้าแค่อยากจะรู้ว่าตัวเองเข้าไปได้ใกล้แค่ไหน” เย่หยวนตอบ
เย่หยวนนั้นขาดความมั่นใจในตัวเองแต่เขานั้นก็ไม่ได้หลงตัวเองจนถึงขั้นเชื่อว่าตัวเขาจะเทียบกับโฉปู้ฉุนในตำนานนั้นได้
แต่ตัวตนในตำนานเช่นนั้นมันเก่งกาจแค่ไหน เขาเองก็อยากจะลองสัมผัสมันสักครั้ง
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งใกล้ขึ้นเย่หยวนก็ยิ่งมั่นใจว่าคนที่ลงดาบนี้ไว้มันคงเป็นโฉปู้ฉุนจริงๆ แล้ว
เพราะว่าปราณดาบนี้มันดูคล้ายปราณดาบของหลัวหยุนชิงมาก
คนที่หลัวหยุนชิงยึดถือเป็นแบบอย่างในชีวิตนั้นคือโฉปู้ฉุน
เขานั้นได้เดินตามรอยของโฉปู้ฉุนด้วย
เพียงแค่ว่าปราณดาบของหลัวหยุนชิงนั้นมันช่างอ่อนแอหากเทียบกับโฉปู้ฉุน
ปราณดาบนั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และหนาแน่นขึ้นจนไม่อาจเดินเข้าเลี่ยงได้อีก
รอยแผลบนร่างของเย่หยวนมันจึงเริ่มปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้เขานั้นปล่อยตัวให้ไหลไปกับปราณดาบอันรุนแรงไร้ต้านทานนี้
เย่หยวนนั้นรู้สึกตื่นเต้นสุดใจ!
โฉปู้ฉุนนั้นสมชื่อว่าเป็นตัวตนที่สามารถปกครองทวีปพิรุณใสได้จริงๆ
แข็งแกร่งจนเกินไป!
ปราณดาบของเย่หยวนนั้นมันเป็นเหมือนเพียงแค่หิ่งห้อยหากเทียบกับปราณดาบตรงหน้านี้ที่เจิดจ้าเหมือนดวงเดือน!
ปราณดาบนี้มันทั้งบริสุทธิ์และรุนแรงล้ำ!
แข็งแกร่ง!
กำลังเช่นนี้มันคงไม่อาจจะหาใครเทียบเคียงได้!
ไม่ว่าจะมีวิชาที่เหนือล้ำแค่ไหน ดาบนี้ก็จะทำลายมันลงได้สิ้น!
แม้เวลาจะผ่านไปกว่าหมื่นปีแล้วแต่ปราณดาบนี้มันก็ยังคงหนักแน่นไม่เสื่อมหายไปไหน แค่นี้ก็มากพอจะเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าดาบนี้มันรุนแรงเพียงใด
ยิ่งใกล้เข้าไปเรื่อยๆ พลังที่กดดันมันก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นตาม
ปราณดาบนั้นมันเป็นเพียงแค่พลังรอง สิ่งที่เย่หยวนสัมผัสได้มากที่สุดนั้นมันคือเจตจำนงแห่งดาบ
นี่คือรากฐานพลังของโฉปู้ฉุน!
แต่ว่าสิ่งนั้นมันก็ทำให้เย่หยวนไม่คิดยอมแพ้!
ในเวลานี้เย่หยวนเข้าสู่สภาวะไร้ตัวตนและใช้ทุกส่วนในการสัมผัสถึงพลังของปราณดาบนี้
คลื่นพลังจากรอยดาบนั้นมันส่งปราณดาบออกมาทั่วทั้งเกาะด้วยสภาพที่ดูดุร้ายรุนแรงไร้ทิศทาง
แต่เย่หยวนผู้เข้าใจเต๋าดาบอย่างแท้จริงนั้นย่อมจะสัมผัสได้ถึงกฎจากภายในความยุ่งเหยิงนี้
นี่มันคือเต๋าดาบ นี่มันคือโลกแห่งดาบ มีหรือที่มันจะไร้แบบแผนไปได้?
ใบดาบทั้งแปดของเขานั้นถูกเรียกใช้งานออกมาในทันที
พวกมันนั้นปรากฏขึ้นมาเพื่อรับมือกับปราณดาบของโฉปู้ฉุน
และในมือของเย่หยวนเองก็ได้ถือลำต้นของต้นไม้ไว้
นี่คือดาบที่เก้า!
ในเวลานี้เย่หยวนได้ใช้งานเต๋าดาบของตนออกมาอย่างถึงที่สุด
เขานั้นเหมือนราวกับได้เข้าต่อสู้กับศัตรูที่ไร้ตัวตน ต่อสู้อย่างดุเดือดเสี่ยงชีวิต
ไกลออกไปตัวราชามังกรน้ำดำนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างมองดูเรื่องราว
เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะแข็งแกร่งได้ด้วยตัวเองถึงปานนี้
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังก้าวเดินเข้าไปได้ใกล้กว่าเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกคนใดเสียด้วยซ้ำ
ที่แห่งนี้มันคือสถานที่ในตำนานของเจ็ดทะเล
แน่นอนว่าทุกๆ ปีมันย่อมจะมีคนกล้าที่เข้ามาท้าทายปราณดาบรุนแรงนี้
แต่คนที่รอดกลับไปมันมีเพียงแค่หยิบมือ
หมื่นกว่าปีที่ผ่านมานี้มันมียอดอัจฉริยะมากมายเกิดขึ้นมาในเผ่าทะเลทั้งหลาย
ครั้งหนึ่งมันเคยมียอดอัจฉริยะที่ถูกตั้งความหวังไว้ว่าจะก้าวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ ตอนที่เขาขึ้นถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดเขาจึงได้เข้ามาท้าทายที่แห่งนี้
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องทิ้งร่างไว้โดยที่ยังก้าวไปไม่ถึงระยะหนึ่งหมื่นก้าวจากตัวเกาะ
บนเกาะและตรงส่วนรอยแยกของเกาะนั้นคือจุดที่ปราณดาบรุนแรงที่สุด
และเวลานี้เย่หยวนอยู่ห่างจากเกาะไปเพียงแค่ราวหนึ่งหมื่นห้าพันก้าว!
ภาพนี้หากเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกคนอื่นๆ มาเห็นพวกเขาคงต้องเอาหน้ามุดดินหนีด้วยความอับอาย