แดนวิญญาณอมตะ แดนวิญญาณกลาง!
เหล่าคนที่เหลือรอดจากศึกครั้งนี้ต่างได้แต่ต้องนั่งทำหน้าเครียดไปตามๆ กัน
เหล่าเจ้าโลกระดับสูงทั้งหลายนั้นต่างนั่งลงพักด้วยร่างวิญญาณที่เบาบางเรากับคนใกล้ตาย
เพื่อที่จะหนีออกมานี้พวกเขาเองก็ต้องเสียหายไปหนักหน่วงเช่นกัน
เจ้าแดนวิญญาณเหนือ เจ้าโลกหวู่เหวินสละตัวเองถ่วงเวลาสามเจ้าโลกไว้ด้วยตัวเองถ่วงเวลาให้พวกเขาหนีจนสุดท้ายตายลงต่อหน้าต่อตาคนทั้งหลาย!
ตอนนี้สภาพจิตใจของคนในแดนวิญญาณกลางนั้นมันจึงหนักหน่วงจนเกินบรรยาย
“ผีเฒ่ายู่เทียนยังไม่กลับมาจนถึงป่านนี้ ดูท่ามันคงมีโอกาสรอดน้อยนิดแล้ว!” เจ้าแดนวิญญาณใต้ เจ้าโลกจือเจินกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางหนักใจ
“เฮ้อ ผีเฒ่าหวู่เหวิน…กลับมาตายไปง่ายๆ เช่นนี้! ผีเฒ่ายู่เทียนและท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเองก็ไม่รู้ว่าเป็นตายอย่างไร ตระกูลวิญญาณนิพพานของเรานั้นมันตกสู่ห้วงวิกฤตใหญ่แล้วจริงๆ! หากผีเฒ่ายู่เทียนเองก็ตายตกลงไปด้วยแล้วพวกเราทั้งสามคงไม่อาจจะต่อต้านพวกมันได้ด้วยตัวเองแน่!” เจ้าแดนวิญญาณตะวันตก เจ้าโลกซีเหมินกล่าวขึ้นมาอย่างหมดหวัง
ส่วนเจ้าโลกว่างหนิงนั้นไม่ได้กล่าวอะไรออกมา ได้แต่นั่งทำหน้าเครียดไป
แต่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นสะเทือนก่อนส่งร่างหนึ่งร่วงกระแทกลงมา!
“ผีเฒ่ายู่เทียน!” คนทั้งสามที่ได้เห็นหน้าผู้มาถึงนั้นต้องอดยิ้มขึ้นอย่างโล่งใจไม่ได้
ร่างนั้นมันคือเจ้าโลกยู่เทียนที่กลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บสาหัส!
สภาพของเจ้าโลกยู่เทียนตอนนี้เหมือนทหารที่ผ่านศึกหนักมา
ร่างวิญญาณของเขาขาดหายเรียกว่าเป็นแค่เสี้ยววิญญาณก็คงไม่ผิดนัก
“ผีเฒ่ายู่เทียน เป็นอะไรมากหรือไม่?” เจ้าโลกจือเจินถามขึ้นมาอย่างกังวล
แต่ว่าตัวเจ้าโลกยู่เทียนนั้นกลับไม่ได้ทำหน้าตาเครียดใดๆ และตอนนี้กำลังยิ้มกว้างอยู่
จือเจินและพวกนั้นต่างต้องหันไปมองหน้ากันอย่างมึนงง ได้แต่คิดสงสัยว่าเจ้าเฒ่านี้บาดเจ็บจนเสียสติไปแล้ว?
สภาพเป็นอย่างนี้แล้วคนสติดีๆ ที่ไหนจะยังมายิ้มกว้างได้เช่นนี้?
“ข้าไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ถึงตาย! ฮ่าๆๆ…สะใจจริงๆ!” ยู่เทียนหัวเราะลั่นขึ้นมาตอบ
คนทั้งสามนั้นยิ่งต้องผงะเมื่อได้ยิน ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังดีใจเรื่องอะไรกันแน่
ผีเฒ่าหวู่เหวินนั้นตายไปแล้ว พวกเราเองก็ยังบาดเจ็บกันสาหัส เจ้ายังมีหน้ามายิ้มหัวเราะ?
“ผีเฒ่ายู่เทียน เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? ตระกูลวิญญาณนิพพานของเราเสียหายมากมายอย่างใหญ่หลวงเป็นประวัติการณ์เช่นนี้เจ้ากลับมีหน้ามาหัวเราะ?” ซีเหมินกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ยู่เทียนนั้นยิ้มตอบกลับไป “พ่อเจ้าจะหัวเราะไม่ได้หรือ? เฉียชาง จุนยี่พวกนั้นวางแผนกันอย่างสุดตัวคิดหลอกพวกเราเข้าไปสังหารลงให้สิ้น! สุดท้ายแล้วกลับเป็นพวกมันที่เสียหายหนักหน่วงเอง พวกมันตายมากกว่าเราเสียด้วยซ้ำ! เจ้าตอบมาหน่อยเถอะว่าจะไม่ให้พ่อเจ้านั้นหัวเราะได้อย่างไร? พวกมันทั้งสามฝ่ายนั้นไม่รู้วางแผนกันมานานเท่าไหร่
สูญเสียอะไรไปบ้างเพื่อวางกับดักครั้งนี้ แต่ตอนนี้มันกลับไร้ค่าใด! เจ้าตอบมาหน่อยเถอะว่าจะไม่ให้ข้าหัวเราะได้อย่างไร ฮ่าๆๆ…”
คนทั้งสามนั้นได้แต่ต้องหันมามองหน้ากันอย่างมึนงงอีกครั้ง
ดูท่าเจ้าหมอนี่จะเสียสติไปแล้วจริงๆ!
“หยุด! เลิกหัวเราะก่อน! ผีเฒ่าหวู่เหวินตายแล้ว เจ้าเอาตาที่ไหนมามองว่าพวกมันเสียหายหนักกว่าเรากัน?” ซีเหมินกล่าวขึ้นแทรก
ยู่เทียนหัวเราะตอบกลับไป “เราเสียเจ้าโลกระดับสูงไป แต่พวกมันก็เสียไปคนหนึ่งเช่นกัน! แต่ว่าพวกเจ้าโลกทั้งสองที่ตามล่าเย่หยวนและหยุนหนีไปนั้นกลับตายลงด้วย! เจ้าบอกข้าสิว่ามันถือเป็นความเสียหายใหญ่หรือไม่?”
ผลของศึกครั้งนี้มันทำให้ยู่เทียนต้องตกตะลึงอย่างมาก
สามกองกำลังยิ่งใหญ่ร่วมมือกันวางแผนจัดการตระกูลวิญญาณนิพพาน
มันก็เป็นอะไรที่ลึกลับชั่วร้ายจนทำให้ยู่เทียนต้องกัดฟันแน่นเมื่อคิดถึง
แต่ตอนที่เขาพุ่งตัวหนีผ่านจุดที่หวู่เจียและหลูตายนั้นเขาเองก็สัมผัสได้!
แต่เพียงแค่ว่าในเวลานั้นเฉียชางนั้นยังตามติดเขามาไม่ห่าง เขาจึงไม่มีเวลาจะหยุดลงตรวจสอบดู
แต่ในตอนนั้นความคับแค้นใดๆ ของเขามันเหมือนได้ถูกสะสางลงไปสิ้น!
ตอนนี้เมื่อรอดชีวิตออกมาได้เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นขึ้น
แต่เมื่อพวกซีเหมินได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ได้แต่ต้องทำหน้าสงสัยไม่อยากเชื่อ
“เจ้าแน่ใจว่าพวกมันทั้งสองตายลง?” ว่างหนิงกล่าวขึ้นถามด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
เขาเองก็คิดว่ายู่เทียนอาจจะเสียสติไปแล้วจริงๆ
มีหรือที่เด็กน้อยสองคนจะสังหารสองเจ้าโลกลงได้?
ยู่เทียนนั้นร้องลั่นตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าคิดว่าพ่อเจ้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร? ความตายของเจ้าโลกนั้นชัดเจนแค่ไหนพ่อเจ้าจะแยกไม่ออกเลยหรือ? พวกมันทั้งสองนั้นตายลงแล้วจริงๆ! เฮอะ หากมิใช่เพราะเฉียชางมันหยุดลงตรวจสอบเรื่องราวแล้วพ่อเจ้าเองก็อาจจะไม่รอดกลับมาก็ได้!”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งสามก็ต้องผงะไป
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?” ว่างหนิงกล่าวขึ้น
ยู่เทียนนั้นหัวเราะตอบกลับไป “แม้ว่าข้าเองก็จะไม่รู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ความตายของมันทั้งสองนั้นเป็นของจริงแน่นอน! นอกจากนั้นแล้วเมื่อนับรวมสองเจ้าโลกที่ตายลงด้วยมือเรา พวกมันก็เสียเจ้าโลกไปถึงสี่คนในศึกนี้!
ในศึกครั้งนี้มันเป็นฝ่ายเราที่ได้เปรียบแทน! เจ้าโลกตายลงไปถึงสองคนเรื่องมันคงไม่อาจจะปกปิดได้ อีกไม่นานเราคงได้ยินข่าวกันแน่นอน! ถึงตอนนั้นพวกเจ้าก็จะได้เชื่อเอง!”
ว่างหนิงและพวกเขาทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องยืนนิ่ง
เพราะว่าการลอบวางกับดักปิดล้อมนี้มันกลับเป็นฝ่ายพวกเขาที่ได้เปรียบแทน?
หากมันเป็นอย่างที่ยู่เทียนกล่าวจริงๆ แล้วพวกเขานั้นคงต้องหัวเราะลั่นขึ้นมาจริงๆ
ไม่นานจากนั้นมันก็มีข่าวใหญ่กระจายไปทั่วทั้งสวรรค์โมฆะเกินดุล!
สามเผ่านั้นร่วมมือกันเพื่อจัดการกับดินแดนวิญญาณอมตะ!
มันเป็นข่าวที่ใหญ่ยิ่งสะท้านแผ่นดิน!
แต่ว่าสิ่งที่คนทั้งหลายตกตะลึงกันมากกว่านั้นคือผลลัพธ์ของการการล้อมโจมตีตระกูลวิญญาณนิพพานครั้งนี้
ฝ่ายที่วางกับดักกลับเป็นฝ่ายที่เสียหายหนักกว่าตระกูลวิญญาณนิพพาน!
เวลานี้ทั้งสวรรค์โมฆะเกินดุลมันต่างแตกตื่นกันไปทั่ว
…
“ถึงแล้ว คลื่นพลังหมอกหุ้มนั้นมันหายลงไปในบึงนี้ หากข้าเดาไม่ผิดบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านนั้นคงเข้าบึงนี้ไปแน่”
เย่หยวนชี้ไปยังบึงน้ำตรงหน้า
เขาและหยุนหนีนั้นแกะรอยคลื่นพลังมาตลอดทางจนในที่สุดก็มาถึงบึงน้อยนี้หลังจากผ่านไปได้ราวหนึ่งเดือน
บึงนี้มันตั้งอยู่ในชายแดนในอาณาเขตของตระกูลวิญญาณฉี เป็นบึงที่ดูแสนธรรมดา
หยุนหนีนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “เจ้าแน่ใจ? เจ้าไม่ได้หลอกข้า? มันไม่มีคลื่นพลังร่องรอยการต่อสู้ใดๆ เลยนะ?!”
สำหรับเจ้าโลกแล้ว ยิ่งเป็นยอดเจ้าโลกพวกเขาย่อมจะยิ่งต่อสู้กันรุนแรงทิ้งร่องรอยไว้มาก
หากเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นอยู่ที่นี่จริงมันก็ย่อมจะมีคลื่นพลังให้นางสัมผัสได้บ้าง
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ร่างวิญญาณฝันเมฆาของเจ้านั้นแข็งแกร่งจริงแต่ว่าคนที่วางค่ายกลปิดร่องรอยนี้เองก็มีเต๋าค่ายกลที่สูงส่งล้ำนัก! ไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะมองไม่ออก”
หยุนหนีนั้นได้แต่ต้องกัดฟันหันมามองเย่หยวน
เจ้าเด็กนี่มันเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แต่กลับมีท่าทางโอหังช่างน่าขัดใจ!
แต่นางนั้นก็มองไม่ออกจริงๆ ว่ามันมีการปกปิดอะไรไว้ที่นี่
“เจ้าบอกว่ามันมีคนเฝ้าที่นี่อยู่หรือ?” หยุนหนีถามขึ้น
เย่หยวนพยักหน้ารับ “แค่คนเดียว! แต่แค่คนเดียวนี้มันก็คงสามารถรับมือคนนับร้อยๆ ได้ด้วยตัวเองเป็นแน่
ไม่นึกเลยว่าเจ้าโลกชาวมนุษย์กลับจะมาร่วมมือกับเรื่องครั้งนี้ด้วย!”
แม้ว่าหยุนหนีนั้นจะไม่คิดเช่นนั้นแต่นางก็ยังต้องทำใจเชื่อไปก่อน
ตอนนี้ตัวเองที่ไม่อาจจะสัมผัสรับรู้อะไรได้นั้น มันมีแต่ต้องเชื่อเย่หยวนเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นแล้วหากเกิดหายนะใดขึ้นมาชีวิตน้อยๆ ทั้งสองนี้คงดับสิ้นแน่
“เช่นนั้นแล้วเราจะทำอย่างไรกันดี?” หยุนหนีถามขึ้นมา
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากพวกเราร่วมมือกันแล้วต่อให้จะเป็นเจ้าโลกแล้วมันจะทำไม? เจ้าใช้ห้วงความฝันออกมาปิดบึงนี้ไว้แล้วข้าจะนำทางเราเข้าไปเอง!”
ไม่นานนักห้วงความฝันมันก็ตกลงคลุมทั้งบึงเอาไว้ปล่อยให้คนทั้งสองได้เดินเข้าไปอย่างไม่มีใครเห็น
หยุนหนีนั้นพบว่าการเดินนำของเย่หยวนนั้นมันช่างแสนแปลกประหลาด
บางทีมันก็จะไปด้านหน้า บางครั้งมันก็จะถอยกลับหลังบางทีวนไปมาเหมือนกำลังเล่นอยู่ในเขาวงกต
แต่จู่ๆ หยุนหนีก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น!
เพราะตอนนี้นางได้เห็นว่ามันมีชายแก่คนหนึ่งกำลังนั่งหลับตานิ่งอยู่บนผิวน้ำของบึงนี้
เจ้าโลก!
ก่อนหน้านี้นางไม่อาจสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เลย!
หยุนหนีได้แต่ต้องยอมรับคำพูดของเย่หยวนในที่สุด!
ในสถานที่แสนธรรมดาเช่นนี้มันกลับมีเจ้าโลกมานั่งซ่อนตัวอยู่ มันย่อมจะมิใช่เรื่องปกติธรรมดาแล้ว!