“เยี่ยมยอดนัก เจ้ามันกล้า! เจ้าคิดจะเหยียบย่ำสวรรค์ใต้ฝ่าเท้า!” เมื่อหมี่เทียนได้ยินคำตอบของเย่หยวนนั้นเขาก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกทันที
เต๋าสวรรค์นั้นมีพลังไร้สุด ยิ่งเขาเก่งกาจเท่าไหร่เขานั้นก็ยิ่งเข้าใจดีว่าเต๋าสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน
แม้จะไม่ต้องมองเรื่องอื่นแต่แค่คงคานิรันดร์นี้มันก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเอาอะไรมาเทียบ
สิ่งที่คนทั้งหลายคิดทำนั้นมันอย่างมากสุดก็แค่การเปิดประตูชีวานิรันดร์และขึ้นอาณาจักรล้ำสวรรค์ไปเท่านั้น
แต่ต่อให้จะล้ำสวรรค์ไปแล้วพวกเขาก็ไม่มีใครกล้าจะพูดว่าจะย่ำสวรรค์ลงใต้เท้า!
แต่เย่หยวนกล้า!
“สวรรค์ต้องการทำลายข้าลง ทำไมข้าจะขึ้นไปเหยียบมันไม่ได้? เกิดขึ้นมาในโลกนี้ข้ามีคุณย่อมทดแทน
มีแค้นใดข้าก็ชำระเสมอ เต๋าสวรรค์นั้นมีความคิดและข้าก็จะย่ำมันลงใต้เท้าข้านี้ เต๋าสวรรค์นั้นไร้สุดแต่ข้าจะควบคุมมันไว้ในมือข้านี้!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
หมี่เทียนได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าหวังว่าเมื่อเจ้าขึ้นมาถึงระดับของข้าแล้วเจ้าจะยังกล้าพูดเช่นนั้นอยู่”
เย่หยวนยิ้มตอบไป “ผู้อาวุโสนั้นไม่ได้รู้เส้นทางการเติบโตขึ้นมาของข้าก่อนถึงสวรรค์ ท่านไม่เข้าใจหรอกว่าในใจข้าคิดอย่างไร ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใดมีพลังมากน้อยแค่ไหน เต๋าในใจของข้ามันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!”
ระหว่างที่คนทั้งสองคุยเรื่องวรยุทธบ่มเพาะนั้นมันก็เกิดคลื่นพายุรุนแรงขึ้นที่โลกภายนอก
คงคานิรันดร์นั้นมันค่อยๆ มีน้ำวนกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนแม้แต่เจ้าโลกทั้งหลายก็เริ่มทนไม่ไหว
การบ่มเพาะของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นมันถูกขัดโดยความวุ่นวายในคงคานิรันดร์นี้
เจ้าโลกเผ่ามังกรผู้หนึ่งร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“ไอ้ฉิบหาย! หลานเต่าตัวใดมันกล้ามาสร้างเรื่องในคงคานิรันดร์เช่นนี้? ข้าจะทำลายเจ้าทิ้งแล้ว!”
เจ้าโลกอีกคนร้องขึ้นตามอย่างตกตะลึง “นั่นมันเจ้าเด็กเย่หยวนนี่! มิใช่ว่ามันพิการไปแล้วหรือ? ทำไมมันกลับกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความวุ่นวายนี้ไป? หืม? มัน…มันกำลังดูดซับพลังโกลาหลอยู่!”
“เขาทำลายพลังบ่มเพาะตัวเองเพื่อจะดูดซับพลังโกลาหลเข้าไปแทน? ไอ้บ้า ไอ้เด็กนี่มันเสียสติไปแล้วหรือ?”
“พลังโกลาหลนั้นมันไม่อาจจะใช้งานได้ เจ้าเด็กนี่รนหาที่ตายแล้ว!”
“พ่อเจ้ากำลังจะเข้าใจแล้วแท้ๆ มันต้องเสียไปสิ้นเพราะไอ้เด็กเวรนี่! หากไม่เห็นว่ามันสร้างคุณใหญ่หลวงให้เผ่าพ่อเจ้านี้คงสังหารมันลงแล้ว!”
…
นอกเหนือจากความตกตะลึงนั้นเจ้าโลกทั้งหลายก็คับแค้นสุดใจ
‘เจ้าทำให้พ่อเจ้านั้นไม่อาจจะบ่มเพาะต่อได้ นี่มันเรียกว่าการเข้าส้วมแล้วไม่ถ่าย!’
แต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่ได้ตัวแตกไปตามที่คนทั้งหลายคิดและยังคงพัฒนาพลังบ่มเพาะไปได้เรื่อยๆ
จากอาณาจักรเลิศน้อยขั้นต้นไปอาณาจักรเลิศน้อยขั้นกลางขึ้นสู่อาณาจักรเลิศน้อยขั้นปลาย คลื่นพลังจากร่างของเย่หยวนนั้นมันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้นน้ำวนมันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเก่า
ตอนนี้รอบตัวเขานั้นมันเหมือนเป็นจักรวาลที่ดูสวยงามอย่างมาก
แน่นอนว่าความวุ่นวายในคงคานิรันดร์สายรองนี้มันก็รุนแรงขึ้นตามด้วย
เจ้าโลกเผ่ามังกรทั้งหลายต้องขึ้นจากน้ำมาสิ้น
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่พลังโกลาหลนั้นมันก็ซึมเข้าไปในหัวใจมังกรของหมี่เทียนเรื่อยๆ ด้วย
มังกรฟ้าโกลาหลคนนี้ค่อยๆ คืนชีพกลับขึ้นมาแล้ว!
เขานั้นเกิดมาจากคงคานิรันดร์นี้ แม่น้ำนี้มันจึงเป็นเหมือนแม่ของเขา
ตอนนี้ตัวเขารู้สึกเหมือนได้กลับมาเป็นทารกอยู่ในท้องของแม่
หัวใจมังกรค่อยๆ กลับมามีชีวิต
ครึ่งปีจากนั้นเย่หยวนก็ไปถึงอาณาจักรเลิศน้อยขั้นสุดและบรรลุขึ้นอาณาจักรเลิศใหญ่อย่างง่ายดาย
ตูม!
การบรรลุอาณาจักรนั้นมันทำให้ความรุนแรงของน้ำวนในคงคานิรันดร์นั้นกินพื้นที่ทั้งสายน้ำของสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปทันที
…
ณ เผ่าพยัคฆ์ขาว ตอนนี้มันมีเจ้าโลกกว่าสิบคนกำลังนั่งอยู่ในคงคานิรันดร์
แต่จู่ๆ มันก็เกิดคลื่นน้ำวนกลืนกินพวกเขาไป
“ไอ้ฉิบหายตายห่า อีกแค่นิดเดียวพ่อเจ้านี้ก็จะบรรลุเต๋าใหม่ได้แล้ว ไอ้เจ้าหมอนี่มันชั่วร้ายนัก!
นี่มันมาจากทางเผ่ามังกร! หลงเจี้ยน ไอ้พวกหลานเต่าทั้งหลาย เจ้าคิดว่าปู่เสือเจ้านี้กลัวพวกเจ้ามากหรือ?”
ฟุบ!
ยอดเจ้าโลกคนหนึ่งพุ่งตัวไปยังเผ่ามังกรฟ้าอย่างสุดแรงเกิด
…
ณ เผ่าหงส์แดง หงส์เพลิง หงส์ทอง ไก่ฟ้าและตระกูลรองต่างๆ ในเผ่านั้นต่างเดือดดาลขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“เฮอะ! เผ่ามังกรมันคิดทำอะไรของมัน? คงคานิรันดร์นั้นปั่นป่วนไปหมดแล้ว! พี่ ไปถามหาคำตอบจากพวกมันกันเถอะ!”
ภายใต้การชักชวนของยอดเจ้าโลกแห่งตระกูลไก่ฟ้าเจ้าโลกอีกนับสิบกว่าคนก็เดินทางมุ่งหน้าไปยังเผ่ามังกรฟ้า
…
ณ เผ่าเต่าดำนั้นแม้ว่าผู้นำของเผ่าจะเป็นคนง่ายๆ ไม่ชอบมีเรื่องกับใครแต่ตอนนี้เขาเองก็คับแค้นสุดใจเช่นกันและพาเจ้าโลกมากมายเดินทางมุ่งหน้าไปยังเผ่ามังกรฟ้า
นอกจากสามเผ่าใหญ่แล้วเจ้าโลกจากเผ่าภูตแท้เล็กๆ ทั้งหลายเองก็ต่างออกเดินทางไปยังเผ่ามังกรฟ้ากันสิ้น
เรียกได้ว่าทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นวุ่นวายไปหมด
“ท่านหลงเจี้ยน เรื่องใหญ่แล้ว! เจ้าโลกไป๋จือแห่งเผ่าพยัคฆ์ขาวนั้นได้พาเจ้าโลกจากเผ่าพยัคฆ์ขาวมากกว่าสิบคนเดินทางมาถามหาคนรับผิดชอบ!” หลงหมินนั้นพุ่งตัวเข้าคงคานิรันดร์และรายงานเรื่องให้แก่เจ้าโลกทั้งหลายฟัง
หลงเจี้ยนที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “จะกลัวอะไร? ให้พวกมันรอไป แค่เผ่าพยัคฆ์ขาวมันจะทำอะไรเราได้?”
เผ่ามังกรฟ้านั้นยิ่งใหญ่อย่างไม่เป็นรองใคร!
พวกเขานั้นมีเจ้าโลกมากที่สุดและยังแข็งแกร่งที่สุด!
เจ้าโลกสิบกว่าคนมาคิดถามหาคนรับผิดชอบ หากเป็นที่อื่นนั้นมันคงเป็นเรื่องใหญ่โตสะท้านฟ้าดินแน่
แต่ในดินแดนเผ่ามังกรนั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่
หลงเจี้ยนนั้นสนใจแค่เรื่องของเย่หยวนในตอนนี้ เขาอยากจะเห็นว่าเย่หยวนจะพัฒนาไปได้แค่ไหน
‘เจ้าบ้านี่คงไม่บ่มเพาะกลับมาถึงระดับเดิมได้ทันทีหรอกนะ?’
เพราะหากทำได้จริงๆ มันคงจะเป็นเรื่องสุดยอดมาก!
คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าพลังโกลาหลในคงคานิรันดร์นั้นเป็นของดีที่ทรงพลังแต่มันไม่อาจจะเอาออกมาใช้งานได้!
หลงเจี้ยนนั้นอยากรู้ว่าเย่หยวนนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นไปแค่ไหน
เพราะฉะนั้นเผ่ามังกรฟ้าจึงได้ทิ้งให้เผ่าพยัคฆ์ขาวนั่งรอต่อไป
หลายวันต่อมาหลงหมินก็เข้ามารายงานด้วยหน้าซีดขาวอีกครั้ง “ท่านหลงเจี้ยน คราวนี้เรื่องใหญ่จริงๆ แล้ว!
เผ่าพยัคฆ์ขาวนั้นยังไม่ทันไปไหน แต่ตอนนี้หลวนชิงเหอแห่งเผ่าหงส์แดงและเฉียนไท่ชิงแห่งเผ่าเต่าดำเองก็พาเจ้าโลกกว่ายี่สิบคนมากันด้วย!”
หลงเจี้ยนที่ได้ยินก็ต้องหันไปมองหน้าหลงหมินอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “มันเรื่องใหญ่ปานนั้น?”
หลงหมินได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ใหญ่เกินไปเลย! การบ่มเพาะของเจ้าเด็กนี่มันทำให้คงคานิรันดร์ที่ไหลผ่านทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างปั่นป่วน! ตอนนี้ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างมันตกสู่ห้วงหายนะมิใช่แค่เรื่องของเจ้าโลกเท่านั้นแล้ว เมื่อสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างปั่นป่วนขนาดนี้มันย่อมจะเกิดผลร้ายตามมาแน่นอน!”
หลงเจี้ยนต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวนอีกครั้ง “เจ้าเด็กนี่มันสร้างปัญหาได้ไม่รู้จบจริงๆ นี่มันเพิ่งบรรลุอาณาจักรเลิศใหญ่มาได้ หากมันบ่มเพาะกลับมาถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์
ทุกสวรรค์จะไม่ปั่นป่วนพังพินาศกันหมดหรือ?”
คงคานิรันดร์นั้นคือต้นกำเนิดของโลกหล้าเมื่อคงคานิรันดร์เกิดความปั่นป่วนแน่นอนว่าสวรรค์เองก็ย่อมจะตกสู่ความวุ่นวาย
แต่ว่าสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมีเจ้าโลกมากมาย
เมื่อเจ้าโลกจากสามเผ่าใหญ่มาเคาะถึงหน้าบ้านเช่นนี้ตัวหลงเจี้ยนเองก็อดเหงื่อตกไม่ได้!
“ไป ข้าจะออกไปดูเอง! มีบรรพบุรุษหมี่เจิ้นท่านเผ่าดูอยู่พวกมันเองก็คงไม่กล้าทำอะไรบ้าบิ่นแน่! หึ!”
หลงเจี้ยนเดินออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
เผ่ามังกรนั้นมียอดฝีมือล้ำสวรรค์คอยปกปักรักษา
มีบรรพบุรุษท่านอยู่ด้วยแล้วยังต้องกลัวอะไรอีก?
แต่เมื่อหลงเจี้ยนปรากฏตัวขึ้นมาเจ้าโลกไป๋จือก็ร้องด่าขึ้นมาสุดเสียง
เขานั้นต้องรออยู่นานถึงแปดวันและไม่เคยได้เห็นหน้าหลงเจี้ยน แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่พอใจ
แต่เผ่ามังกรฟ้านั้นมันก็ทรงพลังมีอำนาจมากจริงๆ เขาจึงไม่กล้าจะลงมือทำอะไรผลีผลาม
แต่ว่าตอนนี้เมื่อมีหลวนชิงเหอและเฉียนไท่ชิงอยู่ด้วยแล้ว เขาจึงมีความมั่นใจสูงกว่าเก่ามาก
“หลงเจี้ยน ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เผ่ามังกรฟ้าเจ้ากำลังคิดจะทำอะไร? ทำให้ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างตกสู่ความโกลาหลเช่นนี้! หากวันนี้เจ้าไม่ให้เหตุผลที่ฟังขึ้นมาแล้วข้าจะขอทำลายเผ่ามังกรเจ้าลงแน่!”
ไป๋จือกล่าวขึ้น
หลงเจี้ยนหรี่ตาลงถามกลับไป “ไป๋จือ เจ้าอย่าได้มาพูดจาเหลวไหลกับข้า! หากเจ้ากล้าจริงก็ลองทำดูสิ!”
“เจ้า!” ไป๋จือแทบต้องสำลักขึ้นมา
ให้เขาทำนั้น เขาก็ไม่กล้า
“พี่หลงเจี้ยน ท่านเป็นคนผิดนะเรื่องนี้! แม้ว่าเผ่ามังกรฟ้าของท่านนั้นจะเป็นผู้นำของสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเราแต่ตอนนี้ทำให้คนต้องอยู่ในความปั่นป่วนเช่นนี้เผ่าหงส์แดงของเราก็จะไม่ขออยู่เฉยเช่นกัน!” หลวนชิงเหอกล่าวขึ้นมาด้วยเหตุและผล
“เผ่าเต่าดำของเราเองก็อยากจะขอฟังเหตุผลเช่นกัน!” เฉียนไท่ชิงกล่าวขึ้นตาม