“ขอคารวะท่านอาจารย์! ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยสั่งสอน คงถานจะใช้วิชาของท่านอย่างระมัดระวัง!”
คงถานนั้นก้มหัวลงคุกเข่าต่อหน้าบรรพบุรุษหวูเทียนทันที
คนทั้งหลายนั้นต่างหันไปมองหน้าเขาด้วยความอิจฉา
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยืนมือไพล่หลังอย่างไม่คิดสนใจ แม้ว่าเขานั้นจะเป็นแค่ร่างเงา แต่เขาก็ทำให้คนทั้งหลายต้องมองดูอย่างเคารพบูชา
แต่ว่าสายตาของเขานั้นมันกลับไม่ได้มองหน้าคงถานใดๆ แต่มองดูตรงไปยังเย่หยวน
“เย่หยวน เจ้าจะยอมกราบบรรพบุรุษผู้นี้เป็นอาจารย์หรือไม่?” หวูเทียนกล่าวขึ้นถาม
‘หืม?’
‘บรรพบุรุษหวูเทียนพูดเรื่องอะไร?’
ทุกคนที่ได้ยินนั้นต่างต้องผงะไปตามๆ กัน
คนที่สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นเลือกมันคือคงถานมิใช่หรือ?
ทำไมบรรพบุรุษหวูเทียนกลับไปถามเย่หยวน?
นี่มันผิดพลาดอะไรกันหรือไม่?
คงถานนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายอย่างไม่อาจเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้
“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? ทำไมบรรพบุรุษหวูเทียนท่านถึงไปถามเย่หยวนเล่า?”
“เขามันก็แค่ขยะคนหนึ่งมิใช่หรือ? มันมีอะไรผิดพลาดกันหรือไม่? คนตั้งมากมายต่อให้จะไม่เลือกคงถานมันก็คงไม่ถึงขั้นต้องไปเลือกเย่หยวนมั้ง?”
“หรือว่าบรรพบุรุษหวูเทียนท่านจะตายลงไปนานแล้วทำให้จิตที่เหลือเริ่มเลอะเลือนไป?”
…
หลังจากผงะไปพักหนึ่งมันก็ย่อมจะตามมาด้วยความแตกตื่น
คนทั้งหลายนั้นหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่อาจเข้าใจได้ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนที่ไม่อาจจะพัฒนาตัวเองได้กลับกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนอีกครั้ง
แม้แต่พวกบรรพบุรุษหวู่หยาเองก็ยังทำหน้ามึนงงออกมา
“เจ้าเฒ่านี้มันเสียสติไปแล้วจริง? ยอดอัจฉริยะมากมายมันกลับโยนทิ้งแล้วไปเลือกขยะคนหนึ่งขึ้นมาเป็นผู้สืบทอด?”
“หากคิดเลือกเย่หยวน แล้วคำพูดก่อนหน้าก็เป็นดั่งการผายลมหรือ?” เจ้าโลกเฟิ่นเถียนกล่าวขึ้นตาม
หยุนหนีนั้นมองดูเย่หยวนและก็พบว่าตัวเย่หยวนนั้นเองก็กำลังทำหน้างงอยู่เหมือนกัน ได้เห็นเช่นนั้นนางถึงค่อยโล่งใจ
ที่แท้เจ้าบ้านี่มันก็ยังเจอเรื่องไม่คาดฝันได้!
เพราะตลอดเวลาที่นางรู้จักเย่หยวนมานั้นมันเหมือนว่าเขารู้ทุกอย่างเข้าใจทุกเรื่อง ไม่มีสิ่งใดที่เหนือจากความคาดหมายของเขาไปได้
เขานั้นอ่อนแอกว่าใครๆ เสมอแต่กลับสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างสูงสุดในทุกเรื่อง
ในความคิดของนาง สหายคนนี้นางย่อมจะไม่คิดว่าเขาเป็นแค่เด็กรุ่นหลังอีก
เพราะต่อให้จะเป็นวินาทีก่อนนี้เย่หยวนเองก็ยังทำหน้าพร้อมรับเหตุไม่คาดฝันอยู่เช่นกัน
แต่ตอนนี้เขากลับต้องผงะ!
‘อืม ค่อยยังชั่ว’
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดว่าบรรพบุรุษหวูเทียนจะถามเช่นนี้ขึ้นมา
แต่ไม่นานเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น
เพราะนี่มันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีอย่างมาก
“เจ้าจะลงมือแล้ว?” เย่หยวนถามกลับไป
หวูเทียนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามันฉลาดจริงๆ!”
“เช่นนั้นตอนนี้เจ้าตายไปแล้วหรือยังอยู่?” เย่หยวนถามอีกครั้ง
“จะว่าตายก็ตาย จะว่าอยู่ก็ยังอยู่” หวูเทียนตอบกลับมาสั้นๆ
เย่หยวนขมวดคิ้วถามอีกครั้ง “ข้าสงสัยมากนัก เจ้าเอาวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้มาไว้ในคงคานิรันดร์ได้อย่างไร?”
“เจ้ากลับสัมผัสมันได้!” ครั้งนี้เป็นฝ่ายหวูเทียนบ้างที่ต้องผงะไป
เย่หยวนพยักหน้ารับ “สัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาแล้ว”
หวูเทียนยิ้มตอบกลับไป “ข้ามองเจ้าไม่ผิดไปจริงๆ! เจ้านั้นอาจจะก้าวขึ้นมาถึงระดับของข้าได้ในวันหน้า!”
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ข้านั้นเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต”
หวูเทียนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “บ่มเพาะนอกรีตแล้วทำไม? ในยุคสมัยของข้านั้นมีใครบ้างเล่าที่ไม่บ่มเพาะอย่างท้าทาย? ว่ากันว่าไม่เคยมีใครรอดชีวิตในคงคานิรันดร์ได้แต่ข้าก็รอดมามิใช่หรือ? เป็นผู้สืบทอดของข้านั้นมันจะกลายเป็นหนึ่งในสวรรค์! หากไม่ได้เรียนรู้จากคนอื่นแล้วเจ้าคิดว่าตัวเองต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะปกครองสวรรค์ได้?”
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องทำหน้าตาตื่นตะลึงขึ้น
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายกลับไม่คิดรังเกียจเขาที่เป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นแตกต่างจากคนอื่นจริง
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของเขา
ความสูงส่งที่ดูถูกโลกหล้านั้นมันไม่คิดจะไว้หน้าแม้แต่สวรรค์
แต่ก็คงเพราะเช่นนี้เขาถึงกล้าจะใช้กำลังของค่ายสำนักเดียวคิดปกครองทุกสวรรค์
แม้ว่าจะพ่ายลงในที่สุด แต่มันก็พ่ายแพ้อย่างยิ่งใหญ่!
เย่หยวนและหวูเทียนนั้นพูดกันอย่างไม่มีใครคนอื่นเข้าใจได้ ไม่มีใครรู้เลยว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่
ยอดฝีมือจากทุกสวรรค์นั้นต่างเหมือนเป็นแค่คนโง่เง่า
ราวกับว่าคนที่สติดีนั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนและบรรพบุรุษหวูเทียน
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นเป็นคนฉลาดที่ก่อเรื่องครั้งนี้ขึ้นมา แต่เย่หยวนนั้นมีดีอะไร?
แต่พวกเขาก็พอฟังออกมาบ้างและได้รู้ว่าที่แห่งนี้มันอยู่ในคงคานิรันดร์!
มิติแห่งนี้มันกลับตั้งอยู่กลางคงคานิรันดร์?
เรื่องนั้นมันย่อมจะทำให้ทุกผู้คนแตกตื่นไป!
“นี่เรากลับอยู่ในคงคานิรันดร์หรือ?”
“บ้าน่า! มันจะมีโลกทั้งใบซ่อนอยู่ในคงคานิรันดร์ได้อย่างไร?”
“บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นเก่งกาจมากความสามารถ หากบอกว่าเขารอดในคงคานิรันดร์ได้ก็ยังพอรับแต่เขาเอาวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทั้งมิตินี้มาซ่อนไว้ในคงคานิรันดร์ด้วย?”
“เจ้าบ้านี่มันวางแผนอะไรไว้กันแน่?”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาอย่างแตกตื่น
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยิ้มขึ้นที่มุมปาก ‘เหอะ พวกโง่!’
‘ข้าคนนี้ยิ่งใหญ่ล้ำฟ้าปานใด?’
‘ต่อให้ข้าจะตายข้าก็จะยังคิดส่งมอบวิชาให้แก่คนอื่นด้วยหรือ?’
ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้เขารู้เหมือนมันอยู่บนฝ่ามือตนเอง และทั้งโลกก็มัวเมาไปกับภาพหลอนตรงหน้า
มีแค่เย่หยวนที่ตื่น!
เพราะเขานั้นไม่เคยจะเชื่อถึงเรื่องสมบัติสืบทอดใดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
เขานั้นมาเพื่อชิงเอาผลประโยชน์กลับไป
เมื่อตอนที่ยอดเจ้าโลกและเจ้าโลกล้ำสวรรค์ทั้งสามต่อสู้กันแย่งชิงสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นมันมีแค่เย่หยวนที่ไม่คิดสนใจ
นอกจากนั้นเจ้าเด็กคนนี้ยังมีโชคที่น่าเหลือเชื่อ เขากลับไปเจอสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มาถึงสี่คัมภีร์!
สุดท้ายแล้วผู้ชนะมันก็คือเย่หยวน!
“อ…อาจารย์ ท่านบอกว่าตราบเท่าที่ข้าได้รับการยอมรับจากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นข้าจะได้รับสืบทอดจากท่านมิใช่หรือ?” คงถานถามขึ้น
หวูเทียนหันกลับมามองคงถานและกล่าว “ข้านั้นคือใคร? ทำไมคนอย่างข้าต้องหาศิษย์ด้วย? สืบทอดพลังของข้า? ฮ่าๆ เจ้าจะหลงตัวเองเกินไปแล้ว!”
“แต่…แต่เย่หยวนเล่า?” คงถานถามขึ้นอย่างไม่อยากยอมรับ
ตอนนี้ต่อให้จะดื้อด้านแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์แล้ว!
เพราะสุดท้ายเขานั้นก็เป็นได้แค่ตัวตลกในสายตาคน!
หวูเทียนตอบกลับไป “เขาไม่เหมือนเจ้า!”
เวลาเดียวกันนั้นหูเกาชานก็เดินออกมาจากกลุ่มคนมุ่งหน้ามาหาเย่หยวน
เพียงแค่ว่าหูเกาชานในตอนนี้มันมีท่าทีที่เปลี่ยนไปสิ้นเชิง!
เย่หยวนมองหน้าหูเกาชานที่เดินเข้ามาหาและอดรู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจไม่ได้
หยุนหนีที่ยืนอยู่ไม่ไกลนั้นต้องเดินเข้ามาขวางทางไว้ด้วยคลื่นพลังยอดเจ้าโลก เหมือนตัวนางนั้นได้เจอศัตรูร้าย!
หูเกาชานนั้นเดินมาหยุดตรงหน้าและยิ้มขึ้นกล่าว “นักบุญสวรรค์เย่ ท่านส่งสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มาให้ข้าเก็บไว้จะดีกว่าหรือไม่?”
เขานั้นมองหน้าเย่หยวนและรอคำตอบเช่นนี้ไม่คิดสนใจหยุนหนีใดๆ ราวกับว่านางนั้นเป็นแค่อากาศธาตุ
เย่หยวนเบิกตากว้างเพราะมีแค่เขากับหยางชิงเท่านั้นที่รู้ว่าสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์คืออะไร
หากมีคนอื่นอีกมันก็คงเป็นแค่ตัวหวูเทียน!
แต่หูเกาชานคนนี้กลับรู้ด้วย!
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะจ้องมองหูเกาชานกลับไป เขาพอเดาได้แล้วว่าคนผู้นี้แท้จริงคือใคร!
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าโลกหลุนฮวยผู้ยิ่งใหญ่นั้นกลับจะมาซ่อนตัวอยู่ข้างกายข้าเช่นนี้!” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก
“หือ? จ…เจ้าโลกหลุนฮวย?”
“เย่หยวนเสียสติไปแล้วหรือ? เจ้าโลกหลุนฮวยนั้นเป็นตัวตนที่ลึกล้ำและเหนือล้ำคาดเดา มีหรือที่เขาจะปรากฏตัวออกมาต่อหน้าคนได้?”
“เจ้าหมอนี่มันแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ชัดๆ มองอย่างไรถึงเป็นเจ้าโลกหลุนฮวยกัน?”
“ไม่สิ เดี๋ยวนะ สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มันอยู่บนฟ้ามิใช่หรือ? ทำไมถึงบอกว่ามันอยู่กับเย่หยวนเล่า?”
…
ความสงสัยมากมายเกิดขึ้นหลังจบคำของคนทั้งสอง!
เพราะในเวลาแค่สิบห้านาทีนี้มันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าเล่นเอาคนทั้งหลายแทบคิดตามไม่ทัน
หูเกาชานนั้นยิ้มมองหน้าเย่หยวนก่อนจะตอบกลับไป “เฒ่าหวูเทียนมันพูดถูกจริงๆ เจ้านี่ฉลาดนัก!”