หมี่เทียนนั้นมองดูหน้าผู้มาถึงและยิ้มตอบกลับไป
เขาไม่แปลกใจที่หมี่เจิ้นจะออกมาจากการเก็บตัว
หมี่เจิ้นนั้นเป็นคนเลือดเย็นไร้ศีลธรรมแต่ความต้องการที่อยากจะพัฒนาเผ่ามังกรฟ้าของเขานั้นเองมันก็มิใช่ของปลอมใดๆ
แม้ว่าการกระทำก่อนหน้าของเขาจะทำให้คนทั้งเผ่ารังเกียจเขาไปแต่เป้าหมายของเขานั้นก็ทำเพื่อเผ่ามังกรจริงๆ
เขานั้นถูกเฉียเอ้อรีดเลือดไปทำให้รากฐานเต๋าของเขานั้นเสียหายและคงไม่อาจจะพัฒนาฝีมือไปได้ตลอดชีวิตนี้
แต่ได้ยินเรื่องที่หมี่เทียนอยากจะย้ายถิ่นฐานเผ่ามังกรฟ้านั้นเขาก็อดปรากฏตัวขึ้นไม่ได้
“บรรพบุรุษท่านแม้ว่าข้าจะเกลียดชังหมี่เจิ้นมากมายแต่ข้าก็เห็นด้วยกับเขา! เผ่ามังกรเรานั้นจะย้ายถิ่นไปที่อื่นไม่ได้!” หลงเจี้ยนกล่าวขึ้นมาอย่างไม่มีปิดบัง
การเจรจาครั้งนี้มันดูเหมือนจะล้มเหลวสิ้นเชิง
แต่ว่าหมี่เทียนกลับไม่ได้แสดงท่าทีกังวลใดๆ และยิ้มตอบกลับไปแทน
“ฮ่าๆ ต้องยอมรับเลยว่าเย่หยวนมันคาดเดาเรื่องราวได้แม่นยำนัก ก่อนที่จะมามันจึงได้มอบสิ่งนี้ให้ข้ามาด้วย!”
พูดจบคนทั้งหลายก็รู้สึกหน้ามืดไปพริบตาก่อนจะพบว่าทุกสิ่งอย่างตรงหน้ามันหายไป
พวกเขานั้นเห็นเกาะมังกรสวรรค์จากเบื้องบนจากในมุมมองเหมือนเป็นเทพเจ้า!
คัมภีร์สวรรค์!
มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษนัก
“ที่นี่ที่ไหนกัน? ข้ารู้สึกเหมือนรูขุมขนทั่วร่างมันพร้อมเปิดรับพลัง!”
“พระเจ้าช่วย ข้ากลายเป็นเต๋าสวรรค์ไปหรือ? ข้ารู้สึกเหมือนทุกสิ่งอย่างบนโลกหล้านั้นมันอยู่ใต้การควบคุมของข้าสิ้น!”
“ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดนัก! ช่างเป็นประสบการณ์ที่เหนือล้ำนัก! บรรพบุรุษหมี่เทียน ท่าน…ท่านทำอะไรกับพวกเรากัน?”
“ท่านพี่ ข้านั้นมีหวังที่จะคืนกำลังอย่างสมบูรณ์แล้ว! หรือ…หรือว่านี่มันคือคัมภีร์สวรรค์จากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์?”
หมี่เจิ้นนั้นย่อมจะมีความรู้มากกว่ายอดเจ้าโลกคนใด
ความรู้สึกเช่นนี้มันทำให้เขาคิดถึงชื่อของคัมภีร์สวรรค์ขึ้นมาทันที!
แต่ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา!
“นี่มันกลับเป็นคัมภีร์สวรรค์! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบรรพบุรุษหวูเทียนนั้นถึงได้ผงาดล้ำกลายเป็นยอดคนระดับนั้นไป หากมีของสิ่งนี้อยู่ด้วยแล้วข้าย่อมจะไม่ด้อยไปกว่าเขาแน่นอน!”
“สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์! บรรพบุรุษหมี่เทียน ท่านไปเอาของเช่นนี้มาจากไหนกัน? ปล่อยให้ข้าได้ศึกษามันต่อไปได้หรือไม่? ข้าพร้อมที่จะจ่ายทุกสิ่งอย่าง!”
“ข้าเช่นกัน!”
“พี่ข้า หรือว่าท่านจะเปลี่ยนใจให้ข้าได้ศึกษาคัมภีร์สวรรค์นี้เพื่อรักษาตัว? ข้า…ข้าจะกลับตัวกลับใจชดใช้ความผิดแต่เก่าก่อนให้แน่นอน!” หมี่เจิ้นนั้นกล่าวขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า
ฟุบ!
พริบตาต่อมาคนทั้งหลายก็กลับมานั่งกันในห้องประชุมอีกครั้ง
พวกเขาหันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ประสบการณ์เช่นนี้มันวิเศษจนเกินไป
มาถึงระดับฝีมือของพวกเขาแล้วนั้นแม้แต่การพัฒนาเพียงน้อยนิดมันก็ถือเป็นเรื่องยากยิ่ง
แต่ด้วยคัมภีร์สวรรค์นี้พวกเขามั่นใจเลยว่าตัวเองจะบรรลุล้ำสวรรค์ได้แน่นอน!
หมี่เทียนมองหน้าคนทั้งหลายด้วยความสนใจ ได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาชนะแล้ว!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะทนความเย้ายวนของคัมภีร์สวรรค์ได้เลย!
“บรรพบุรุษหมี่เทียน ทำไมเราถึงกลับมากัน? นี่…มันสั้นเกินไปนะท่าน!” ไป๋จือนั้นเป็นคนแรกที่ร้องขึ้นมา
ดูท่าแล้วเขาคงติดใจกับความรู้สึกแสนวิเศษนั้นมาก
“ใช่แล้ว บรรพบุรุษท่านอย่าได้มาล่อพวกเราเช่นนี้เลย! ให้เวลาเราอีกหน่อยข้ารู้สึกได้เลยว่าข้านั้นจะบรรลุล้ำสวรรค์ได้แน่นอน!” หลวนชิงเหอกล่าวขึ้นตามด้วยความร้อนใจ
“พี่ข้า ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! ข้าขอร้องท่านเถอะ ให้ข้าได้ศึกษามันอีกหน่อย! แม้ว่าข้าอาจจะบรรลุอะไรไม่ได้แต่มันคงช่วยรักษาพลังบ่มเพาะของข้าให้กลับเป็นดั่งเดิมได้!”
คนที่ร้อนใจที่สุดนั้นมันคือหมี่เจิ้น
เพราะรากฐานเต๋าของเขานั้นเสียหายหนักหน่วงมันทำให้ตอนนี้เขามีพลังเทียบเคียงได้กับเจ้าโลกที่เพิ่งบรรลุขึ้นมาใหม่ๆ
หากให้พูดแล้วเขาเป็นได้แค่ขยะ
คนที่เคยอยู่สูงล้ำหัวใครๆ อย่างเขากลับต้องมาอยู่ในสภาพนี้มันย่อมจะขมขื่นอย่างมาก!
แต่หมี่เทียนกลับยักไหล่ตอบกลับไป “ขอโทษทีแล้วกัน เย่หยวนมันใส่ปราณเทวะโกลาหลในคัมภีร์สวรรค์มาให้แค่นี้ ผลของคัมภีร์สวรรค์มันจึงใช้งานได้แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างกัดฟันแน่นเข้าใจความหมายของหมี่เทียนในทันที
ไอ้เด็กนั่นมันวางแผนไว้ก่อนแล้ว!
เจ้าเฒ่านี่เองก็เจ้าเล่ห์นัก โยนเหยื่อออกมาในวินาทีที่คนอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อพลิกสถานการณ์อย่างเฉียบขาด
ฝันไปเถอะ!
แต่ความรู้สึกที่พวกเขาสัมผัสได้นั้นมันก็น่าเย้ายวนจนเกินปล่อยผ่านไป!
อาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่คนทั้งหลายเฝ้าฝันถึง
แต่ว่าการจะไปถึงนั้นมันยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์!
แต่ด้วยคัมภีร์สวรรค์นี้ พวกเขาย่อมจะสามารถขึ้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดายแล้ว!
พวกเขานั้นต่างเป็นยอดคนอัจฉริยะจากทุกเผ่า
ตราบเท่าที่พวกเขาได้มีเวลาศึกษาความรู้สึกก่อนหน้านั้นอีกหน่อย พวกเขาย่อมจะสามารถหาทางบรรลุได้แน่นอน!
“บรรพบุรุษหมี่เทียน เรื่องอื่นนั้นยังพอว่าแต่จะให้อพยพนั้นมันเกินไปจริงๆ! นอกจากเรื่องอพยพแล้วเราพร้อมจะทำทุกอย่างที่ท่านต้องการเลย หากท่านให้เราได้ศึกษาคัมภีร์สวรรค์แล้วข้ามั่นใจเลยว่าตัวข้านี้จะบรรลุล้ำสวรรค์ได้ในไม่ช้า ถึงตอนนั้นข้าจะคืนมันให้แก่ท่านแน่นอน!” ไป๋จือกล่าวขึ้น
หมี่เทียนยังคงยิ้มและส่ายหัวตอบกลับไป “ต่อให้ข้าจะเอาคัมภีร์สวรรค์ให้เจ้ายืมมันก็คงยากกว่าเจ้าจะบรรลุล้ำสวรรค์ได้! สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นมันใช้งานด้วยปราณเทวะโกลาหล มีเพียงแค่ปราณเทวะโกลาหลเท่านั้นที่จะเปิดใช้งานมันได้เต็มที่! ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่ายอดอัจฉริยะในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมันมีตั้งเท่าไหร่ ทำไมมันถึงมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์แค่สิบสองคน?”
เมื่อได้ยินหมี่เทียนกล่าวเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไป
แต่ไป๋จือนั้นยังคงไม่อยากเชื่อและตอบสวนมา “บรรพบุรุษหมี่เทียน หากท่านไม่ให้ยืมก็ไม่ให้สิ จะพูดหลอกล่อพวกเราทำไมกัน?”
หมี่เทียนยิ้มและโยนคัมภีร์สวรรค์ให้ไป๋จือ
ไป๋จือผงะไปเล็กน้อยก่อนจะลองอัดปราณเทวะของตัวเองเข้าไป
ฟุบ!
แน่นอนว่าภาพเบื้องหน้าของเขามันเปลี่ยนแปลงไป
แต่เทียบกับความรู้สึกก่อนหน้าแล้ว ความรู้สึกในตอนนี้ของเขามันช่างขุ่นมัว
ความรู้สึกก่อนหน้านั้นมันเหมือนเขามองลงมาจากท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง
แต่ตอนนี้มันเหมือนมีเมฆหนามาบังไว้สิ้น
เมื่อเคยได้สัมผัสความรู้ก่อนหน้าแล้ว ความรู้สึกในตอนนี้มันดูไร้ค่าไปทันที
เขานั้นมิใช่เด็กน้อยและย่อมจะเข้าใจทันทีว่าหมี่เทียนนั้นไม่ได้พูดหลอกลวงใดๆ แล้ว
หากพลังบ่มเพาะของเขานั้นยังต่ำอยู่คัมภีร์นี้มันย่อมจะเป็นสมบัติของเขาไม่ว่าอย่างไร
แต่เมื่อบ่มเพาะมาจนถึงระดับของเขาแล้วความรู้สึกอันขุ่นมัวนี้มันย่อมจะไม่อาจช่วยให้เขาไปถึงล้ำสวรรค์ได้
ไม่เช่นนั้นมันคงมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์เกลื่อนฟ้าดินไปแล้ว
เมื่อกลับมาสู่ความเป็นจริงไป๋จือก็ต้องทำหน้าเครียดบ่มพึมพำขึ้นมา “นี่มัน…ทำไมมันเป็นเช่นนี้?”
เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นหน้าไป๋จือนั้นพวกเขาก็เข้าใจได้ทันที
ชั่วร้ายนัก!
หมี่เทียนและเย่หยวน จิ้งจอกหนุ่มและจิ้งจอกเฒ่าคู่นี้มันช่างร้ายกาจนัก!
หากแค่เอาคัมภีร์สวรรค์ออกมาล่อพวกเขาก็คงไม่อยากได้มันมากมาย
แต่ความรู้สึกที่คนทั้งหลายสัมผัสได้ก่อนหน้ามันเหมือนเป็นสิ่งเสพติด ต่อให้ไม่อยากจะได้แต่ก็ไม่อาจห้ามตัวเอง!
ความเย้ายวนของอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันเกินกว่าจะปล่อยผ่านไป!
ยอดเจ้าโลกและเจ้าโลกล้ำสวรรค์นั้นแม้จะเป็นเจ้าโลกเช่นกันแต่มันก็แตกต่างกันสิ้นเชิง
หมี่เทียนที่ได้เห็นคนทั้งหลายนั้นทำหน้าเหมือนคันหัวใจแต่ยากจะเกานั้นก็ยิ้มขึ้น “เย่หยวนบอกว่าบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเขาสามารถเปิดใช้งานคัมภีร์สวรรค์ได้อย่างไม่มีจำกัด! เขานั้นจะเอาปราณเทวะโกลาหลใส่ไว้ภายในอย่างเพียงพอเพื่อช่วยให้ทุกคนได้พัฒนาฝีมือขึ้นไป คัมภีร์สวรรค์นั้นมันเป็นเหมือนกรอบของสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด หากได้มันแล้วด้วยพรสวรรค์ของพวกเจ้า พวกเจ้าคงก้าวถึงล้ำสวรรค์ได้จริงๆ แต่หากไม่มีปราณเทวะโกลาหลแล้วมันก็คงเป็นเรื่องยากยิ่งที่พวกเจ้าจะบรรลุล้ำสวรรค์ไป พวกเจ้าเองก็รู้ดีว่าตอนนี้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นกำลังเตรียมตัวรับมือสงครามครั้งใหญ่ เย่หยวนไม่มีเวลาจะเดินทางไปมาระหว่างสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเพื่อช่วยให้พวกเจ้าได้ศึกษาคัมภีร์หรอก!”
พูดจบหมี่เทียนก็ลุกขึ้นมองดูคนรอบโต๊ะประชุมด้วยรอยยิ้ม รอคอยการตัดสินใจของพวกเขาทั้งหลาย