Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 149 ขุดหลุมศพของบรรพชน?

บทที่ 149 ขุดหลุมศพของบรรพชน?

สายลมเบาๆและแสงแดดที่อบอุ่น

ทางเดินเล็กๆ มวลดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง

เฉินตงที่นอนพักไปสองชั่วโมง ได้มาฝึกฝนวิชาปีศาจกับคุนหลุนแต่เช้า

ไม่ใช่เพราะเขาไม่ง่วง

แต่เขานั้นเข้าใจว่าตัวเองยังห่างจากผู้เก่งกาจเหล่านั้นของตระกูลเฉิน อยากจะชนะ นอกจากทุ่มเทเต็มร้อย เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกเลย

นี่คือคติประจำใจที่เขาใช้มาตั้งแต่เล็กจนโต

เงยหน้ามองภูเขา ก้มหน้าเดิน พยายามให้เต็มที่ นอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่สวรรค์

เมื่อฝึกฝนเสร็จ เขาที่เหงื่อท่วมตัวก็นั่งหมดแรงอยู่ตรงเก้าอี้สวนสวนสาธารณะ หายใจหอบ

การฝึกปีศาจหนึ่งรอบลงมา ทำให้เขาใช้พลังเกือบหมดตัว

แต่นี่คือจุดประสงค์ในการฝึกของเขา มีเพียงแต่ขั้นตอนการฝึกที่ใช้พลังมากในครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายถึงจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

คุนหลุนก็เหงื่อท่วมตัวเหมือนกัน เพียงแต่ท่าทางนั้นดีกว่าเฉินตงมาก

ร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่า กล้ามเนื้อที่เหมือนดั่งทองสัมฤทธิ์ ถูกส่องด้วยแสงอาทิตย์ เหมือนมันกำลังเปล่งประกาย

“คุณชาย……..” จู่ๆคุนหลุนก็เอ่ยปากขึ้น

เฉินตงเลิกคิ้ว มองไปที่คุนหลุน

คุนหลุนลังเลไปหลายวินาที แล้วกล่าว “ผมอยากจะช่วยฟ่านลู่”

จู่ๆเฉินตงก็ยิ้มขึ้นมา

คุนหลุนก็ส่ายหัว “ไม่ ผมหมายความว่า ผมอยากจะให้ครอบครัวกับเธอ ครอบครัวที่ไม่มีญาติมาเป็นตัวถ่วง”

ตัดขาดจากครอบครัว?

เฉินตงขมวดคิ้วขึ้นมา เรื่องนี้ “ฟ่านลู่ว่ายังไงบ้าง?”

เขาไม่มีเคยเจอเรื่องแบบฟ่านลู่ และก็ไม่เคยรู้สึกว่าถูกญาติพี่น้องถ่วงความเจริญ

แต่เมื่อรู้อดีตของฟ่านลู่แล้ว ก็ไม่มีความสงสัยเลย ฟ่านลู่นั้นถูกพ่อที่ใจร้ายของเธอถ่วงความเจริญของเธอจริงๆ

ตามหลักแล้ว หากฟ่านลู่นั้นตัดขาดจากพ่อที่ใจร้าย มันเป็นวิธีการปกป้องฟ่านลู่ที่ดีที่สุด

แต่มันเกี่ยวพันกับครอบครัว มันไม่ใช่สิ่งที่เหตุผลจะชี้ขาดได้?

เธอได้ตัดสินใจแล้ว

คุนหลุนกล่าวด้วยแววตาที่แน่วแน่

“มีอะไรต้องการให้ฉันช่วยมั้ย?”

เฉินตงไม่มีความประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ถามอย่างตรงๆ

ไม่ว่ายังไง ในฐานะพ่อ เพื่อต้องการใช้หนี้ กลับมัดลูกสาวตัวเองไว้บนเตียง ให้เจ้าหนี้มาหาความสุข ความสัมพันธ์แบบนี้ ฟ่านลู่ตัดสินใจแบบนี้ ไม่มีอะไรน่าตำหนิ และก็ไม่น่าแปลกใจอะไร

“ตอนนี้ยังไม่มีครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ ควรจะต้องบอกคุณชายก่อน”

เฉินตงพยักหน้า “งั้นนายก็ไปช่วยฟ่านลู่จัดการละกัน มีอะไรที่ต้องให้ฉันช่วยเหลือ พูดออกมาได้เลย คนบ้านเดียวกันอย่าปิดบังกัน”

พักผ่อนพอประมาณแล้ว เฉินตงก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้าน

เหลือคุนหลุนไว้ ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิมด้วยความงุนงง บ่นพึมพำ “คนบ้านเดียว………….”

ภายใต้แสงแดด ใบหน้าของคุนหลุนปรากฏด้วยรอยยิ้มที่สดใส

จากนั้นก็ก้าวตามเฉินตงไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากทานอาหารเช้า เฉินตงก็ได้ไปที่บริษัทไท่ติ่ง

วันนี้ราคาบ้านของฝั่งตะวันตกขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ไท่ติ่งต้องทำรอให้มันสะสม หมักหมมได้ที่ก่อน ได้เวลาที่เหมาะสม ยกเลิกข้อ จำกัดในการซื้อ แล้วขายทั้งหมด

ดังนั้นงานในมือของเขาน้อยลงไปมาก

หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง ราคาบ้านฝั่งตะวันตกยังคงได้รับความเปลี่ยนแปลงและราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทชิงหยิ่นกับยี่เคอ กรุ๊ปเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเวลาเดียวกัน ทำให้คนในเมืองแทบคลั่ง

แม้ก่อนหน้านี้ราคาที่อยู่อาศัยจะทรงตัวและดิ่งลง แต่ก็ยังไม่แสดงสัญญาณของการลดลง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พนักงานทุกคนของไท่ติ่งทุกคน ท่ามกลางความวุ่นวายของราคาที่บ้านที่สูงขึ้นนี้ ทุกคนมีแรงจูงใจอย่างเต็มที่ มีขวัญกำลังใจในการทำงานอย่างสูง

ทุกวันเวลาเข้างาน สิ่งที่เพื่อนร่วมงานคุยกันมากที่สุด ก็คือราคาบ้านเพิ่มขึ้นมากี่เปอร์เซ็นต์!

ภายใต้การควบคุมโดยเจตนาของเฉินตง โครงการทั้งสี่โครงการยังคงขายได้ห้าสิบหลังต่อวัน

ทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่ามันเงียบสงบมาก คล่องตัวไปหมด

ในคืนนี้

หลังจากยุ่งมาทั้งวันเฉินตงก็กลับถึงบ้าน

สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ แม่ของเขานั้นไม่อยู่บ้าน

เวลานี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว แม่จะไปไหนได้นะ?

ถามท่านหลงกับฟ่านลู่แล้ว ก็ได้คำตอบที่ไม่รู้อะไรเลย

เฉินตงก็ไม่ได้สงสัยต่อ แม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจจะเพราะอารมณ์ดีก็เลยไปเดินเล่น ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร

เหมือนกับเรื่องของฟ่านลู่ เปอร์เซ็นต์จะเกิดในเขตวิลล่าเขาเทียนซาน เกิดขึ้นได้น้อยมาก

หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จ เฉินตงได้เรียกคุนหลุนขึ้นไปที่ดาดฟ้าพร้อมกัน

ลมโชยไปมา เฉินตงถามขึ้น “เรื่องของฟ่านลู่ จบหรือยัง?”

“ถือว่าจบแล้วมั้ง”

คุนหลุนรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ “ให้เงินพ่อเธอไปสองล้าน ตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง”

เฉินตงพยักหน้า ก็ไม่ได้ถามต่อ

สองล้านไม่ถือว่าเยอะ แต่สำหรับพ่อของฟ่านลู่แล้ว มันเป็นเหมือนเงินที่ช่วยชีวิต!

นักพนันที่ถูกเจ้าหนี้บีบบังคับจนหมดหนทาง ไม่สามารถคาดหวังว่าเขาจะยึดมั่นในคำพูด

เพียงแต่ น้ำเสียงที่ไม่ค่อยแน่ใจของเฉินตง ทำให้เฉินตงนั้นเข้าใจ ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวมันไม่สามารถที่จะตัดกันง่ายๆ

ทันใดนั้น

“พี่คุนหลุน!”

เสียงตะโกนเรียกของฟ่านลู่ ทำให้เฉินตงกับคุนหลุนหันหน้ากลับไปพร้อมกัน

ฟ่านลู่ที่แก้มแดง วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก จับแขนของคุนหลุนเอาไว้ “เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องกับพ่อฉันแล้ว!”

เฉินตงขมวดคิ้วเล็กน้อย

น้ำเสียงของเฉินตงกลับต่ำลง “เธอได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาแล้วไม่ใช่เหรอ? ต่อไปหากเขาติดหนี้อีก ก็จะไม่เกี่ยวกับเธอ”

คำพูดที่ตรงๆ นั้นกำลังเตือนสติฟ่านลู่

ภาพเมื่อสองสามวันก่อน ทำให้คุนหลุนโกรธอย่างบ้าคลั่ง

เขาไม่สงสัยเลย หากคืนนั้นไปช้าเพียงก้าวเดียว ชีวิตของฟ่านลู่ก็คงถูกเขียนรูปแบบใหม่

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”

ฟ่านลู่รู้สึกกังวลพร้อมกับน้ำตาคลอ “พ่อของฉันไม่เพียงแต่เสียเงินที่คุณให้ไปเท่านั้น แต่ยังติดหนี้เพิ่มอีกหนึ่งล้านกว่าหยวน ตอนนี้คนกลุ่มนี้มาทวงหนี้จากเขา พวกเขาต้องการบังคับให้ฉันไป จึงจะขุดหลุมศพของคุณปู่และคุณย่าของฉัน! “

โครม!

คำพูดที่เหมือนสายฟ้า

เวลานี้ แม้แต่สีหน้าของเฉินตงก็ยังมืดมนลง

ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ควรเหลือหนทางไว้ให้ตัวเองบ้าง อย่าให้มันเกินไป

คนพวกนั้นเพื่อต้องบีบให้คุนหลุนกับฟ่านลู่ปรากฏตัว ถึงขนาดไปขุดหลุมศพของบรรพชน?

นี่ไม่แม้แต่จะให้ความสงบสุขแก่บรรพชนเลยเหรอ?

“ไป!”

ขณะนี้คุนหลุนก็ได้จับมือของฟ่านลู่วิ่งลงบันไดไป

มองดูทั้งสองคนที่จากไป เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น บ่นพึมพำ “ คนพวกนี้ ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ขุดหลุมฝังศพของบรรพชนเป็นเรื่องขาดคุณธรรมอย่างมาก ครั้งที่แล้วพวกเขายังไม่เข็ดกับการสั่งสอนของคุนหลุนอีกเหรอ?”

ส่ายหัว เฉินตงก็ลุกขึ้นเดินลงไปด้านล่าง

เมื่อมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นแม่กลับมาพอดี

“แม่ครับ ดึกป่านนี้ไปไหนมาครับ?” เฉินตงยิ้มพร้อมกับถาม

เป็นเพียงคำพูดที่ห่วงใยธรรมดาคำพูดหนึ่ง แต่เมื่อเขานั้นเห็นท่าทีของแม่แล้ว หัวใจก็รู้สึกหน่วงๆ

สีหน้าของหลี่หลานนั้นแปลกมาก มีความหดหู่เล็กน้อย และเห็นได้ถึงความอ่อนเพลีย

เธอตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวแล้วยิ้มๆ “ออกไปเดินเล่นมา แม่กลับห้องไปนอนก่อนแล้วนะ ตงเอ๋อลูกก็พักผ่อนแต่หัวค่ำละ อย่าเหนื่อยมากนัก”

ขนาดที่พูด หลี่หลานก็เดินผ่านร่างของเฉินตงไปโดยตรง เดินขึ้นไปนอน

ไปเดินเล่นเท่านั้น?

เฉินตงขมวดคิ้วอยู่ที่เดิม กับแม่ที่พึ่งพากันมายี่สิบกว่าปี แม้อยู่ในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด แม่ก็จะยิ้มให้เขาเสมอ

แต่ท่าทีของตอนนี้ ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน!

ลังเลไปครู่หนึ่ง เฉินตงก็หันกายเดินไปห้องนอนของท่านหลง เพื่อให้ท่านหลงคอยสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของแม่แต่ตัวเอง

เมื่อกลับถึงห้อง เฉินตงก็เอียงกายนอนลงบนเตียง หัวสมองยังคงรอบล้อมไปด้วยท่าทีที่ประหลาดของแม่เมื่อกี้ คิดไปคิดมา

เวลานี้ โทรศัพท์จู่ๆก็ดังขึ้น

เป็นฟ่านลู่ที่โทรมา

หรือว่าจะเกิดเรื่อง?

เฉินตงคำนวณเวลา ตอนนี้เฉินตงกับฟ่านลู่น่าจะเพิ่งไปถึงหมู่บ้านหม่าเถียน

เพิ่งจะรับสาย

ในสายก็ดังขึ้นด้วยเสียงร้องไห้ที่หวาดกลัวของฟ่านลู่

“ฮืมๆ……..คุณ คุณเฉิน……พี่คุนหลุนถูกแทง!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset