Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 16 ข่าวสำคัญ พลิกสถานการณ์ให้กลับมามีชัย

บทที่ 16 ข่าวสำคัญ พลิกสถานการณ์ให้กลับมามีชัย

หวางหนันหนันกลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง ทั้งตัวเปียกไปหมด และกระอักกระอ่วนใจมาก

เมื่อเข้าบ้าน พ่อแม่และน้องชายหวางเห้าที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ลุกขึ้นยืน

“ในที่สุดคุณก็ยอมที่จะกลับมาซะมี?”จางซิ่วจือกล่าวอย่างเคร่งขรึม แค่ให้คุณไปนัดบอด คุณยังใส่อารมณ์อีก?”

ร่างกายของหวางหนันหนันสั่น มองไปที่จางซิ่วจือด้วยความประหลาดใจ “แม่ คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

“รู้สิ เสี่ยวเห้ากลับมาก็บอกกับฉันแล้ว”

จางซิ่วจือชี้ไปที่หวางเห้า ประโยคต่อมาทำให้หวางหนันหนันน้ำตาไหลอย่างห้ามไม่ได้ “แค่สัมผัสจะทำไม? ยังไงก็แค่ไปนัดบอด ถ้าคืนนี้คุณไม่กลับมา ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ถือว่านัดบอดสำเร็จ เราจะได้มีเงินค่าสินสอดสำหรับเสี่ยวเห้า ”

“แม่ คุณคิดว่าฉันเป็นสิ่งของเหรอ?” หวางหนันหนันร้องไห้

ใบหน้าของหวางเต๋อจมลง แล้วมองไปที่จางซิ่วจือ ต่อหน้าลูก คุณพูดเช่นนี้ทำไม?”

“ฉันเป็นคนให้กำเนิดเธอเอง ฉันจะพูดไม่ได้หรือไง?” สีหน้าจางซิ่วจือเปลี่ยน แล้วมือเท้าเอวพูด “เธอทำเรื่องนัดบอดเสียหมด แล้วเงินค่าสินสอดของเสี่ยวเห้าล่ะ?แค่ให้เธอช่วยน้องชายแค่นี้ยังทำไม่ได้ ยังจะไม่ให้ฉันพูดอีก?”

คำถามทั้งหมดนั้น ทำให้หวางเต๋อพูดอะไรไม่ออก

แต่หวางหนันหนันฟังออกว่า หวางเห้าต้องไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร หลังจากนั้นเธอวิ่งหนีไปแล้ว หวางเห้าต้องไปฟังคำพูดของหลี่ต้าเป่าที่พยายามหลีกเลี่ยงประเด็นที่สำคัญที่สุด

แอบหงุดหงิดอยู่คนเดียว หวางหนันหนันกำลังจะอธิบาย

“พี่สาว คุณจะช่วยผมไหมนิ?”

จู่ๆหวางเห้าก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมา “ผมเป็นน้องชายของพี่นะ ถ้าพี่ช่วยผมไม่ได้ ผมกับเสว่เอ๋อก็จะแต่งงานกันไม่ได้ แล้วผมยังมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ผมตายไปซะยังดีกว่า!”

“เสี่ยวเห้าตายไป งั้นไอ้แก่อย่างเราทั้งสองมีชีวิตไปก็ไม่มีความหมาย ตายๆไปด้วยกันซะยังจะดีกว่า!”จางซิ่วจือเห็นด้วยและเริ่มร้องไห้

วุ่นวายกันทั้งบ้าน

เมื่อเผชิญกับแม่และน้องชายที่กำลังอยากตาย หวางหนันหนันใจล่มสลาย ก้มศีรษะและนั่งยองๆบนพื้น แล้วร้องไห้เสียงดัง

“หนันหนัน พ่อขอพูดอะไรสักหน่อย ลูกดูสิแม่กับน้องชายทำถึงขนาดนี้แล้ว คนเป็นพี่สาวอย่างลูกก็กล้ำกลืนความลำบากนี้ช่วยน้องชายหน่อยเถอะ?”

หวางเต๋อกล่าวอย่างลึกซึ้งว่า:“ที่จริงลูกก็ไปนัดบอดกับหลี่ต้าเป่าแต่แรกอยู่แล้ว พ่อรู้ว่าลูกปฏิเสธเรื่องแบบนี้ แต่คนเขาอาจจะจับโดนมือโดยบังเอิญ แล้วลูกก็หนีแล้วสิ?”

“พ่อ……”หวางหนันหนันขมขื่นสุดๆ นั่นเป็นเพียงการสัมผัสจริงๆหรือ?

ถึงขนาดทำเหมือนฉันเป็นหญิงขายบริการแล้ว!

เธอก็รู้ดี ว่าเธอจะอธิบายอะไรตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เธอไม่สามารถโต้เสียงได้

ทันใดนั้น เธอนึกถึง วีแชทของเฉินตง และคิดซะว่าลองดูมันอาจจะดีก็ได้ ร้องไห้และพูดว่า” พ่อ เราไปซื้อบ้านให้เสี่ยวเห้าที่ภาคตะวันตกของเมืองดีไหม? บางทีราคาที่บ้านทางตะวันตกของเมืองสูงขึ้น จะได้มีเงินค่าสินสอดของเสี่ยวเห้าด้วย!”

สีหน้าของหวางเต๋อจมลง

จางซิ่วจือด่าทันที “ซื้อบ้านทางทิศตะวันตกของเมือง นี่แกซื่อบื้อหรือไง? ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองที่เก่าๆนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่มีแต่พวกแรงงานที่มาจากเมืองอื่น ราคาบ้านจะสูงขึ้นได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้! มีแต่คนโง่ที่จะซื้อบ้านที่นั่น!”

“พี่สาว พี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า? ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองที่สกปรกยุ่งเหยิงนั่น เสว่เอ๋อจะตกลงให้เราซื้อบ้านที่นั่นได้อย่างไร?” หวางเห้าเห็นด้วยตาม “ผมเป็นน้องชายแท้ๆของพี่นะ พี่ก็เป็นพี่สาวแท้ๆของผม ถ้าไม่อยากช่วยผม ก็อย่าทำร้ายผมสิ?”

ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหวางหนันหนัน ฟันขบริมฝีปากสีแดงของเธอแรงๆ แทบจะมีเลือดออกแล้ว

เธอรู้ดีว่าย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเป็นยังไง และยังสงสัยในความถูกต้องของข้อมูลวีแชทจากเฉินตง

แต่สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาความจำเป็นเร่งด่วน ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองราคาถูก และเงินที่เหลือหลังจากซื้อบ้านสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของเงินสินสอดได้

ไม่อย่างนั้น จะให้เธอทำไงล่ะ?

จะให้ไปขายตัวจริงๆหรือไง?

“พอแล้ว! สองแม่ลูกไม่จบไม่สิ้นแล้วหรือไง บ้านสงบอยู่ดีๆกลับกลายเป็นวุ่นวายทั้งบ้าน!”

หวางเต๋อไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป ตะโกนไปว่า “ไม่ได้จริงๆ เราลองคิดวิธีอื่นก็ได้แล้ว”

“นั้นคุณลองคิดมาวิธีนึงซิ? คุณก็แค่ครูสอนหนังสือ นั้นคุณควักธนบัตรจำนวนมากออกมาสิ ให้เสี่ยวเห้าของเราแต่งงานสิ? ไม่อย่างนั้น คุณจะอยากให้ไม่มีลูกหลานไว้สำหรับสืบตระกูลเลยหรือไง?”

จางซิ่วจือผลักดันหวางเต๋อ ประโยคเดียวทำให้หน้าของหวางเต๋อซีดไปเลย

หวางเต๋อเป็นครูสอนหนังสือ เชื่อในหลักเหตุผลที่ว่าความอกตัญญูมี 3 สิ่ง เรื่องไม่มีลูกหลานเป็นข้อสำคัญที่สุด การไร้สิ้นลูกหลานสำหรับสืบสกุลแบบนี้เป็นอะไรที่อึดอัดยิ่งกว่าฆ่าเขาอีก

หงุดหงิดจนดึงจับผมของเขาแรงๆ หวางเต๋อตบตัวเองแรงๆทีนึง “งั้นผม ก็กัดฟันหน้าด้านไปให้สุด ไปขอยืมกับพวกเพื่อนเก่า ยืมคนละนิดๆหน่อยๆมารวมกันยังจะไม่ครบยอดค่าสินสอดมันหรือไง?

“ยืมแล้วไม่ต้องคืนเหรอ?”จางซิ่วจือตะโกนพูดเสียงดัง

หวางหนันหนันดูซีดเซียว มองแม่ด้วยตาแดง ในขณะนี้จู่ๆเธอก็มึนๆ

ยืมมาต้องคืน?

งั้นก็ให้ลูกสาวตัวเองออกไปขายตัวงั้นเหรอ?

……

วันถัดไป หวางเต๋อออกไปยืมเงินตั้งแต่เช้า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เขาหัวเสียมาก คำพูดของจางซิ่วจือสะทกสะท้านโดดจุดที่เจ็บปวดของเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องหน้าด้านออกไปยืมเงิน

หวางหนันหนันไม่นอนทั้งคืน เพราะตาร้องไห้จนบวม เธอออกจากบ้านด้วยร่างกายที่เหนื่อยจนอ่อนแรง แล้วไปทำงาน

แต่งงานกับเฉินตงเป็นเวลาสามปี เธอไม่ได้กลายเป็นแม่บ้าน แต่ได้หางานแผนกต้อนรับส่วนหน้าของบริษัทเป็นงานที่สบายๆ ทำเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ได้3,000 หยวนต่อเดือน

ยังไงก็มีเฉินตงอยู่ดูแลทางบ้านแล้ว ค่าจ้างที่เธอได้รับล้วนเอามาเป็นค่าขนมสำหรับตนเอง

แต่ หลังจากหย่ากับเฉินตง เงินสามพันหยวนนี้เป็นรายได้ทั้งหมดของเธอแล้ว

หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน หวางหนันหนันที่เดินอยู่บนถนนยังคงใจลอย มองดูผู้คนที่เดินไปมา เธอที่สะอื้นทีนึง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโพสต์ในโซเชียลว่า ท้ายที่สุดก็ต้องเป็นฉันที่เป็นคนแบกรับทุกอย่าง

สักพัก โพสต์นี้ก็มีคนกดถูกใจและคอมเมนต์ มีคำปลอบใจต่างๆ

สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ของหวางหนันหนันสงบลงเล็กน้อย

แต่ในบริษัทไท่ติ่ง

เฉินตงเห็นที่หวางหนันหนันโพสต์ในโซเชียล ทันใดนั้นก็รู้สึกตลกเล็กน้อย

วางโทรศัพท์ลง เขามุ่งเน้นไปที่โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ในคืนนี้ก็จะปล่อยข่าวแล้ว เขาจะไม่ให้มีความผิดพลาดใด ๆ

แค่พริบตา ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว

หลังจากวันที่วุ่นวายทุกคนก็นั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น ดูข่าวท้องถิ่น พร้อมกับเป็นการผ่อนคลายและพักร่างกายที่เหนื่อยมาทั้งวัน

“ข่าวล่าสุดของยี่เคอกรุ๊ป กำลังเตรียมจะเข้ามาตั้งหลักปักฐานที่เมืองนี้ สร้างศูนย์การค้าพลาซ่าขนาดใหญ่ของเมือง การเลือกสถานที่เริ่มต้นที่เขตย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ประเด็นและนี่จะเป็นการส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง แล้วติดตามรอบๆย่านการค้าของเมือง ยี่เคอกรุ๊ปยังมีแผนรายละเอียดเพิ่มเติม อีกมากมาย สถานีนี้จะติดตามรายงานต่อไป”

ข่าวสั้น ๆนี้ กลับเป็นการปล่อยข่าวที่เป็นแก่นสำคัญๆออกมา

เหมือนลูกระเบิดขนาดใหญ่ ที่ทิ้งระเบิดทั้งเมือง

ยี่เคอกรุ๊ปนั้น ขึ้นชื่อว่าได้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ!

การจะเข้ามาตั้งหลักปักฐานของมัน ทุกคนรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง……ราคาจะเพิ่มสูงขึ้น!

ตามข่าวที่ปล่อย ทำให้MG Club นั้นต้องมีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเศร้าแน่

“แม่ง ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นแบบนี้ได้ไง? อ๊า……”

และในตระกูลหวาง

เมื่อหวางหนันหนันลากร่างกายที่อ่อนล้ากลับถึงบ้าน กลับพบว่าทั้งพ่อและแม่และหวางเห้า กำลังนั่งอยู่หน้าทีวี

ทั้งสามคนดูทีวีอย่างตั้งใจ ทั้งครอบครัวเงียบสงบ

“เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”หวางหนันหนันถาม

จู่ๆจางซิ่วจือก็กรีดร้องขึ้นมา “ยี่เคอกรุ๊ปจะมาสร้างพลาซ่าในเมืองของพวกเรา สถานที่รับเลือกแห่งแรกอยู่ที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ที่นั่น……ราคาบ้านที่นั่นต้องเพิ่มสูงขึ้นแน่!”

ยิ่งพูดยิ่งเครียด จางซิ่วจือหน้าเขียวไปหมด

หวางเต๋อถึงกับปิดใบหน้า ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ถ้าพวกเขาฟังคำพูดของหวางหนันหนันเมื่อคืน เช้าวันนี้เขาคงไม่ต้องไปหายืมเงินหรอก คงไปหาซื้อบ้านที่ภาคตะวันตกของเมืองแล้ว

งั้นตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาเห็นข่าวนี้แล้ว ก็จะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นอีกแบบนึงไปเลย

บูม!

ทันใดนั้นในสมองของหวางหนันหนันเกือบระเบิด สีหน้าเปลี่ยนไปมาก ยกมือปิดปากแทบกรี๊ดออกมา

เธอตื่นเต้นและรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดดูข้อความวีแชทของเฉินตง ทุกอักษรบนวีแชทล้วนเหมือนค้นที่ตอกลูกตาเธออย่างรุนแรง

จริงด้วย เป็นอย่างที่เขาพูดจริงด้วย? !

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset