Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 289 ประชาชนชี้หน้าด่าทอ ผู้คนรังเกียจเดียดฉันท์!

ปฏิกิริยาของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้เฉินตงทั้งรู้สึกซาบซึ้ง ทั้งรู้สึกละอายใจไปในเวลาเดียวกัน

เขามองตามเงาร่างอันโดดเดี่ยว ที่รีบเดินจ้ำอ้าวขึ้นชั้นบนไป

เฉินตงกำหมัดแน่น รู้สึกโกรธเกรี้ยวเกินทน

เฉินหยู่เฟย!

มีความเกลียดชังในแววตาของเขา

ในเวลานั้นเอง ทั้งท่านหลง คุนหลุน กูหลังและฟ่านลู่ต่างก็เดินเข้ามา

“พี่เสี่ยวลู่ รบกวนพี่ช่วยขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวหยิ่งหน่อยนะ”

เฉินตงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ฝืนระงับความโกรธในใจอย่างสุดความสามารถ

กู้ชิงหยิ่งในเวลานี้ ต้องการใครสักคนไปอยู่เป็นเพื่อนจริง ๆ

แต่ในระหว่างนี้ ก่อนที่เขาจะได้อธิบายอะไรให้มันชัดเจน เห็นได้ว่ากู้ชิงหยิ่งจะไม่มีทางยอมให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนเธออย่างแน่นอน

หลังจากที่ฟ่านลู่ขึ้นไปชั้นบนแล้ว

จู่ ๆ กูหลังก็คุกเข่าลงกับพื้น: “คุณเฉิน ผมขอโทษนะครับ เรื่องเมื่อคืนเป็นความผิดของผมเอง”

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาย เดิมทีมันเป็นเพราะฉันประมาทเอง”

เฉินตงโบกมือ หันไปมองท่านหลงอย่างเคร่งขรึม: “เรื่องที่ให้ปิดข่าวเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

สีหน้าท่านหลงเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ฝืนยิ้มอย่างจนใจ

“ทางเราไม่สามารถทำได้เลยครับ ความคิดเห็นของสาธารณชนบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นกระแสที่ลุกลามใหญ่โตไปแล้ว ทันทีที่เราใช้วิธีปิดข่าวเบี่ยงเบน เราก็ถูกก่นด่าสาปแช่งแบบมืดฟ้ามัวดินเลย นอกจากนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ยังถูกคนขุดออกไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตด้วยครับ”

เสียงนั้นหนักอึ้งจมดิ่ง เต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นไร้เรี่ยวแรง

ด้วยนิสัยของท่านหลงที่สงบราบเรียบพอ ๆ กับน้ำนิ่ง เรื่องที่จะสามารถทำให้เขาแสดงอาการอ่อนล้าอิดโรยได้ขนาดนี้ มันต้องเป็นสถานการณ์ที่ดำเนินไปจนถึงจุดที่สิ้นหวังแล้วจริง ๆ เท่านั้น

“เฉินหยู่เฟยคิดจะใช้วิธีดึงคนหมู่มาก มารุมชี้หน้าประณาม เพื่อจะได้ตบฉันลงขุมนรกได้ด้วยมือข้างเดียวอย่างนั้นสินะ?”

ดวงตาของเฉินตงจมดิ่งมืดหม่น ในใจรู้สึกเสียใจอย่างสุดแสน แทบอดใจไม่ไหวอยากตบหน้าตัวเองสักฉาด

ถ้าเมื่อวานนี้สติสัมปชัญญะของเขาแน่วแน่เพียงพอ จะไม่มีทางที่หายนะร้ายแรงขนาดนี้ มันจะเกิดขึ้นกับเขาได้แน่

แต่เพราะเฉินหยู่เฟยใช้คนรอบตัวของเขา มาเป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่ เขาจึงไม่อาจไม่ทำตาม

“ตอนนี้ ความคิดเห็นของสาธารณชนกำลังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ต่างก็ชี้ปลายดาบมาที่คุณชายกับบริษัทไท่ติ่งทั้งหมด แม้แต่เรื่องที่เกี่ยวกับคุณชาย ก็พลอยได้รับผลกระทบอย่างมากไปด้วย ทันทีที่ตลาดเปิดในเช้าวันนี้ ราคาหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงก็ดิ่งลงจุดต่ำสุดตรง ๆ ภายในระยะเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นครับ”

“ฉู่เจียนเจียจากเมืองหลวงก็ส่งข่าวมาว่า งานของเขาถูกระงับ เป็นเพราะถูกผลกระทบจากคอมเม้นท์จากสาธารณชนไปด้วยน่ะครับ”

“ยังมีทางฉินเย่อีก กิจการของบริษัทการเงินถูกระงับเป็นการชั่วคราวไปแล้ว ตอนนี้ฉินเย่กับฉินเสี่ยวเชียนกำลังเดินทางมาที่นี่ครับ พวกเขาน่าจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้แล้ว”

น้ำสียงแผ่วต่ำอ่อนระโหยของท่านหลง เป็นเหมือนสายฟ้าที่ผ่าตอนกลางวันแสก ๆ เข้าใส่ไม่ยั้ง

มันทำให้เฉินตงรู้สึกว่า ทุกอย่างตรงหน้าเขาล้วนมืดสนิท ถึงขั้นรู้สึกสิ้นหวังเหมือนพลั้งตกลงไปสู่ขุมนรกที่ไร้ทางออก

นี่คือ…พลังแห่งความคิดเห็นของผู้คนบนโซเชียลอย่างนั้นรึ!

เฉินหยู่เฟยไม่ลังเลเลย ที่จะใช้ชื่อเสียงของเธอในการระดมแฟน ๆ ทั้งหมด มาเล็งปลายดาบเล่นงานเขา เรื่องนี้ช่างทำให้เขารู้สึกคับข้องใจ ทั้งไร้แรงจะต่อต้านอย่างถึงที่สุดจริง ๆ

แนวโน้มจากคอมเม้นท์ในโลกโซเชียล ได้ทะยานสูงจนใหญ่โตยากจะควบคุมไปแล้ว

ถึงขั้นทำให้เฉินตงรู้สึกหวาดกลัวในคำกล่าวที่ว่า อาคารสูงภูเขาใหญ่แค่ไหนก็ถล่มลงมาได้เพราะน้ำมือคนจริง ๆ เข้าแล้ว

“หรือไม่ เราไปขอให้คุณท่านใหญ่ช่วยออกหน้า เรียกเฉินหยู่เฟยมาคุยด้วยดีไหมครับ? ถ้าเธอเป็นฝ่ายออกมาชี้แจงเรื่องนี้เองได้ เรื่องนี้มันก็จะได้จบลงสักที ” จู่ๆ คุนหลุนก็เสนอขึ้นมา

เฉินตงกับท่านหลงหันมามองหน้ากัน แล้วยกยิ้มอย่างฝืดฝืนขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

“เธอไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าจะทำลายชื่อเสียงตัวเอง แต่ก็จะขอเล่นงานฉันให้ได้ เธอกอดความคิดที่ว่า ไม่ใช่ฉันตายก็เป็นเธอที่รอดเอาไว้เต็มหัว เธอไม่มีทางออกมาชี้แจงความจริงเรื่องนี้แน่” เฉินตงถูหน้าแรงๆ

ท่านหลงก็พูดอย่างจนใจว่า: “ถ้าตอนนี้เฉินหยู่เฟยก้าวออกมาชี้แจงความจริง นั่นก็เท่ากับว่าเธอขุดหลุมฝังตัวเองแล้วน่ะสิ มันเท่ากับทำให้แผนการที่เธอวางไว้พังทลาย ไม่เพียงแต่เธอจะจัดการกับคุณชายไม่ได้ แต่ยังจะทำให้ชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบในวงการบันเทิงของเธอต้องพังทลายไปด้วย!”

ในห้องนั่งเล่น บังเกิดความเงียบงันจนน่าอึดอัด

ทุกคนต่างตกอยู่ในอาการซึมเศร้า อากาศรอบตัวช่างกดดัน จนแต่ละคนแทบจะหายใจไม่ออกกันอยู่แล้ว

“งั้นก็แปลว่า เรามาอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแล้วอย่างนั้นเหรอ?” คุนหลุนพูดอย่างท้อแท้

เฉินตงพยักหน้า: “จะว่ายังงั้นก็ได้”

ติ๊งหน่อง ๆ……

เสียงกริ่งที่ประตูดัง.

กูหลังรีบกระวีกระวาดไปเปิดประตู

ฉินเย่กับฉินเสี่ยวเชียน เดินเข้ามาด้วยสีหน้าดำคล้ำเคร่งเครียด

เมื่อเห็นเฉินตง ฉินเย่ยักไหล่ แสร้งทำเป็นผ่อนคลาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ ว่า “พี่ตง พี่เล่นสนุกไปหน่อยล่ะสิ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนดีจริง ๆ นะเนี่ย”

“อย่ามาทำหน้าระรื่น สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ ต้องหาวิธีหยุดกระแสโซเชียลที่มันพุ่งสูงไม่หยุดนี่ให้ได้ซะก่อน” เฉินตงหน้านิ่วคิ้วขมวด

“หยุดไม่ได้แล้วล่ะ!”

ฉินเย่แบมือหรา แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างเฉินตง หยิบแท็บเล็ตในกระเป๋าออกมา แล้วยื่นให้เฉินตง: “ดูสถานการณ์ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตสิ”

เฉินตงขมวดคิ้ว รับแท็บเล็ตมาดู

เขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น บนอินเทอร์เน็ตได้แบบคร่าว ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นครั้งแรกที่เห็นข่าวนี้เด้งขึ้นมา เขาจึงไม่ได้คลิกเข้าไปอ่านดู

แต่ในเมื่อตอนนี้ฉินเย่ให้เขาดู เข้าก็ควรจะดูให้รู้กระจ่างสักที

พาดหัวข่าวที่ใช้อักษรใหญ่และเป็นตัวหนา ยังเหมือนกับพาดหัวข่าวก่อนหน้านี้ทุกประการ

แต่เมื่อเฉินตงคลิกเข้าไป มีภาพชุดหนึ่งที่ปรากฏสู่สายตาอย่างชัดเจน กระตุ้นปลุกเร้าราวกับมีเข็มแหลม ๆ เล่มแล้วเล่มเล่า กระหน่ำทิ่มแทงเข้าไปกระตุ้นทุกเส้นประสาทในสมองของเขาให้มันเจ็บจี้ด ๆ ไม่หยุด

รูปที่อยู่ในพาดหัวข่าว เป็นรูปที่เห็นเฉินตงยืนอยู่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในขณะที่เฉินหยู่เฟยกำลังนั่งอยู่บนพื้น ในรูปนั้นเห็นชัดมาก ว่ามีรอยฝ่ามือแดงเถือกบนใบหน้าอันงดงามของเธอด้วย

“นี่มัน……”

ในสมองของเฉินตงมีเสียงอื้ออึงไม่หยุด มันดังเซ็งแซ่ จนเหมือนหัวสมองจะแตกออกจากกันให้ได้ : “นี่เป็นรูปถ่ายครั้งแรกที่ฉันได้เจอเธอนี่!”

เพิ่งสิ้นเสียง

คุนหลุนกับกูหลังก็รีบเข้ามาดูด้วยเช่นกัน

ทันทีที่พวกเขาเห็นรูปนั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก

“ผมจำได้ นี่เป็นตอนที่คุณชายตบเฉินหยู่เฟย แล้วเตือนเธอเมื่อตอนนั้น” คุนหลุนตกตะลึง

สีหน้าของเฉินตงดำคล้ำมืดมนอย่างถึงที่สุด

เขารีบสไลด์รูปลงไปเพื่อดูต่ออย่างรวดเร็ว

ยิ่งเขาดูรูปมากเท่าไหร่ รูม่านตาก็ยิ่งหดเล็กลงเรื่อยๆ ความหดหู่บนใบหน้าก็หนักขึ้นทุกที ๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นสีหน้าที่พร้อมจะฆ่าคนได้!

แต่ละรูปที่ผ่านเข้ามา มีทั้งในห้องพักโรงแรมที่ครั้งแรกได้เจอเฉินหยู่เฟย ในรูปนั้น เขาดูช่างเย่อหยิ่งอวดดี สีหน้าดูเผด็จการบ้าอำนาจอย่างยิ่ง

แต่ฝ่ายเฉินหยู่เฟยกลับทรุดล้มอยู่บนพื้น เผยสีหน้าสิ้นหวังช่วยตัวเองไม่ได้ ดูน่าสงสารเหลือจะเอ่ย

เป็นท่าทางที่แสดงถึงคนที่ถูกใช้กำลังบังคับอย่างรุนแรง เป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอที่ทำอะไรไม่ถูก

ส่วนรูปถ่ายอีกจำนวนหนึ่ง เป็นรูปถ่ายที่มาเป็นเซตหลัง ๆ

น่าแปลกมาก ที่มันเป็นรูปที่ถูกถ่ายในห้องพักของโรงแรมไท่ซาน

แค่แสงในภาพดูมืดสลัวไปหน่อย อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องก็วุ่นวายเละเทะมากอีกด้วย

เฉินตงกำลังนอนคร่อมทับอยู่บนตัวของเฉินหยู่เฟย ในขณะที่เฉินหยู่เฟยร้องไห้จนน้ำตานองหน้าราวดอกสาลี่ต้องสายฝน สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

นอกจากนี้ ยังมีรูปถ่ายของเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาด ซึ่งตกอยู่ในห้องนั้นจริง ๆ อีกด้วย!

ด้วยรูปถ่ายแต่ละรูป ๆ ประกอบกับคำอธิบายในข้อความ ก็ทำให้เรื่องนี้ถึงจุดที่คนและสวรรค์ต้องเคืองแค้นสาปแช่งได้แล้ว

เฉินตงรู้เลยว่า ภาพเซตหลัง ๆ เป็นช่วงเวลาระหว่างที่เขาอยู่ในสภาวะสลบไสลไม่ได้สติ แล้วถูกเฉินหยู่เฟยถ่ายไว้นั่นเอง

แต่ที่น่าสิ้นหวังที่สุดคือ แม้ว่าตอนนี้เขาจะกระโดดลงแม่น้ำฮวงโห ก็ไม่อาจล้างความผิดนี้ได้ไปโดยปริยายแล้ว!

เจอกันสองครั้ง รูปถ่ายคนละเหตุการณ์ แล้วเอามาตัดต่อเชื่อมกันให้เป็นเรื่องเดียว ก็สามารถทำให้เรื่องนี้ผลักเขาไปสู่หนทางตายได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!

“นี่ฉันโดนโคลนสีเหลืองตกใส่เป้า ต่อให้ไม่ได้ฉี่รดกางเกง ใคร ๆ ก็ต้องเชื่อว่าฉี่รดกางเกงไปแล้วสินะ”

เฉินตงวางแท็บเล็ตลง เอนตัวพิงบนโซฟาอย่างกลัดกลุ้ม

ชั่วขณะนั้น เขารู้สึกราวกับว่าหน้าอกของเขา ถูกก้อนหินขนาดยักษ์ยัดใส่เข้าไปจนเต็ม กดทับเขาจนหนักหนาสาหัสจนแทบจะหายใจต่อไม่ไหว

มีแม้กระทั่งความรู้สึกโกรธจนแทบอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ เลยทีเดียว

“ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ”

ฉินเย่ถอนหายใจหนักๆ: “รูปถ่ายพวกนี้ มันมากพอที่จะสร้างกระแสที่ใหญ่มาก ๆในวงการบันเทิงได้แล้วล่ะ เพื่อที่จะจัดการกับคุณ เธอยังถึงกับกล้าขายชื่อเสียงและพรหมจรรย์ของตัวเองเลยเชียวนะ เธองัด “หลักฐานจริง” พวกนี้มาใช้ตรง ๆ เพื่อไม่ให้คุณมีโอกาสโต้กลับได้เลยแม้แต่น้อย!”

พูดพลาง เขาก็ชี้ไปที่แท็บเล็ตอีกครั้ง: “ตอนนี้บรรดาช่องทางโซเชียลสื่อหลัก ๆ ในโลกออนไลน์ทุกช่องทาง ขอแค่คุณคลิกเข้าไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อหาข่าวตามที่คุณเพิ่งเห็นนั่นล่ะ คนทั่วโลกกำลังรุมด่ารุมประณามคุณอยู่!”

ประชาชนล้วนชี้หน้าด่าทอ?

ผู้คนต่างรังเกียจเดียดฉันท์?

ดวงตาของเฉินตง เริ่มเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าเลื่อนลอยไปแล้ว

ความรู้สึกสิ้นไร้เรี่ยวแรงที่ซัดเข้าใส่ เหมือนคนตกน้ำที่ค่อย ๆ หมดแรง แล้วจมดิ่งลงไปในก้นบึ้งของสายน้ำทีละน้อยๆ

หดหู่ซึมเศร้า หายใจไม่ออก ตื่นตระหนก ความร้อนรนพลุ่งพล่าน พากันจู่โจมเข้ามาไม่หยุด

หรือว่า…ครั้งนี้จะไม่มีหนทางแก้ไขได้แล้วจริง ๆ รึนี่?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset